Chapter 3 ไร้ซึ่ง...รูสวาท
ดวงตาของนางนั้นน่าหลงใหลราวกับห้วงแห่งท้องฟ้า แค่เพียงมองสบตาก็ทำให้หัวใจถึงกับหวิวไหวแทบทรงตัวยืนไม่อยู่เลยทีเดียว
“พวกเจ้าไปรอตรงโน้น เดี๋ยวเสร็จแล้วข้าจะเรียก”
“ขอรับพี่ใหญ่”
น้องชายทั้งสองขานรับก่อนจะรีบเดินออกไป ปล่อยให้พี่คนโตได้ลิ้มชิมรสบุปผานารีผลแต่เพียงลำพัง
เมื่อลับสายตาของน้องชายแล้ว มังกรผู้พี่ก็จูบจ้วงไปยังริมฝีปาก แก้ม ลำคอ เคล้นคลึงทรวงอกอย่างหิวกระหาย ก่อนจะล้วงมือลงไปกอบกุมโหนกนูนเอาไว้เต็มมือ
บุปผานารีผลยังคงนอนนิ่งอย่างไม่เข้าใจสิ่งที่ผู้เป็นนายกำลังกระทำต่อตน อีกทั้งสัมผัสที่หยาบกระด้างทำให้นางรู้สึกไม่ค่อยชอบใจนักแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธหรือปัดป้อง
จึงทำเพียงนอนนิ่งไม่ต่างจากขอนไม้ตายซาก!
ทว่าสมองของนางกำลังประมวลผลจดจำ นี่คือสิ่งที่ผู้เป็นเจ้านายต้องการจากนาง การสัมผัสร่างกาย กอด จูบ คือสิ่งที่นางต้องมอบให้แก่ผู้เป็นนายเหนือหัว
“เฮ้ย!”
มังกรหนุ่มถึงกับร้องเสียงหลง เมื่อหมายจะสอดนิ้วเข้าไปในกลีบบุปผาทว่ากลับพบว่านางไม่มีรูสวาท เขาตกใจจนแทบสิ้นสติสมประดี รีบจับเรียวขานางยกขึ้นแล้วอ้าถ่างเพื่อแหวกขนอุยสีน้ำตาลออกจะได้มองอย่างถนัดถนี่
“มะ...ไม่มี!”
“ปะ...เป็นไปไม่ได้ หรือว่าต้นบุปผาเทียมฟ้าจะผลิตบุปผานารีผลออกมาผิดพลาด สร้างมาให้งดงามปานล่มสวรรค์แต่กลับไม่มีรูเสพสังวาส!”
ชายหนุ่มถึงกับทรุดตัวลงนั่งคล้ายหมดอาลัยตายอยาก เขากระทำการชั่วช้าเข่นฆ่าเหล่าเซียน อีกทั้งยังใช้กลโกงจนทำให้ผู้อื่นเกลียดชัง เพียงเพื่อจะได้ผลผลิตที่ไม่สมบูรณ์นี่นะหรือ
“ช่างน่าสมเพชเหลือเกิน!”
เสียงโวยวายทำให้น้องชายรีบวิ่งเข้ามาดู ต่างตกตะลึงเมื่อเห็นว่าบุปผานารีผลกำลังนอนอ้าถ่างขา โดยที่กลางแกนกายของนาง...
ไร้ซึ่งรูสวาท!
มังกรสามพี่น้องถึงกับมองหน้ากันเลิ่กลั่กอย่างไม่รู้จะจัดการกับปัญหาตรงหน้าอย่างไรดี ท้ายที่สุดน้องคนสุดท้องจึงเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบและความน่าอึดอัด
“ข้าคิดว่าพวกเราควรพานางกลับไปที่ถ้ำก่อน แล้วจึงค่อยคิดหาหนทางแก้ไข”
“ดีเหมือนกัน”
ผู้เป็นพี่พยักหน้าช้าๆ ราวกับเรียกสติตนเองกลับคืนมา แล้วหันไปอุ้มเรือนร่างเปลือยเปล่าเย้ายวนที่ทำให้แกนกายของเขาแข็งขึงชี้โด่จนแทบหุบไม่ลง กลืนน้ำลายลงคออย่างพยายามสะกดความอยากกระสันก่อนจะเหาะทะยานขึ้นไปบนน่านฟ้า
ทว่าจู่ๆ ท้องฟ้ากลับมืดมิด ด้วยปีกของนกยักษ์ที่สยายเต็มน่านฟ้าจนบดบังแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ไปหมดสิ้น มันส่งเสียงร้องคำรามก่อนจะพุ่งตรงมายังมังกรทั้งสาม
แคว้ก!
“แย่แล้ว นี่มันนกอาคม คงมีเซียนชั้นสูงส่งมันมา!”
น้องชายคนกลางเอี้ยวตัวหลบกรงเล็บแหลมคมได้อย่างฉิวเฉียด ปกติแล้วผู้เข้าร่วมการแย่งชิงบุปผานารีผลจะยอมรับในผลแพ้ชนะ ไม่เคยส่งคนมาลอบทำร้ายลับหลังเช่นนี้ ทว่าเป็นเพราะพวกตนเดินเกมด้วยเล่ห์กลก่อน จึงสร้างความโกรธแค้นให้เหล่าเซียนทั้งหลาย
แคว้ก!
ผลัวะ!
นกยักษ์หมุนตัวกลางอากาศแล้วสะบัดปีกใหญ่ฟาดไปที่มังกรทั้งสามตนอย่างแรง จนมังกรสามพี่น้องกระเด็นไปไกลออกจากเส้นทาง
“แย่แล้ว!”
มังกรผู้พี่ถูกปีกตบซ้ำอีกครั้งอย่างแรงจนเสียหลัก ส่งผลให้สาวงามในอ้อมแขนร่วงหลุดมือ เขารีบทะยานตามลงไปหมายจะรับร่างอรชรเอาไว้ ทว่านกยักษ์กลับบินโฉบตามลงมาแล้วใช้จะงอยปากแหลมคมจิกลงกลางลำตัวมังกรหนุ่มอย่างแรง
อ๊าก!
มังกรผู้พี่ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด เลือดสีแดงชาดไหลชุ่มแผ่นหลัง ผิวเนื้อถูกจิกเป็นรูน่าสยดสยอง
ทั้งสามต่อสู้กับนกยักษ์อาคมอยู่เกือบชั่วยาม จนในที่สุดอาคมแข็งกล้าก็ค่อยๆ เสื่อมถอยไปเอง ทว่ามังกรเจ้าเล่ห์ทั้งสามกลับสะบักสะบอม เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลจากรอยกรงเล็บและจะงอยแหลมราวกับคมดาบ
“รีบไปตามหาบุปผานารีผลกันเถอะท่านพี่”
“ผู้เป็นน้องชายร้อนใจ หมายจะเหาะลงไปยังผืนป่าเบื้องล่างเพื่อตามหาผลไม้แสนหวาน ทว่าผู้เป็นพี่กลับยื่นมือมาจับไหล่เอาไว้ นิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดก่อนจะกัดฟันกรอดแล้วส่ายหน้าเพื่อห้ามปราม
“เวลานี้เราผลัดเข้ามาในเขตที่อยู่อาศัยของท่านเทพภูเขา ขืนเจ้าบุ่มบ่ามเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต มีหวังคงได้ซวยยกตระกูล เจ้าก็รู้นี่ว่าท่านเทพภูเขาขี้หงุดหงิดและโมโหร้ายเพียงใด”
“ตำหนักซานกู่ของท่านเทพอาวุโสจ้าวฉงซานนะหรือ”
คนฟังถึงกับนิ่งอึ้ง จำได้ว่าเมื่อห้าสิบปีก่อนมีเซียนชั้นผู้น้อยคึกคะนองท้าพนันกับสหายร่วมสำนัก แอบก้าวล่วงเข้าไปในเขตอาศัยของท่านเทพภูเขาเพื่อขโมยผลท้อเลิศรส
ทว่าเวลาผ่านไปไม่กี่ชั่วยาม เซียนคึกคะนองผู้นั้นกลับออกมาด้วยสติไม่สมประดี ข่าวนี้จริงเท็จอย่างไรไม่มีใครทราบได้ แต่ข่าวได้แพร่สะพัดออกไปยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง ใส่สีตีไข่เข้าไปอีกเท่าทวีคูณ จนทำให้เซียนชั้นผู้น้อยต่างหวาดกลัว บางคนถึงกับไม่กล้าแม้แต่จะเหาะผ่านเขตอาศัยของท่านเทพอาวุโสจ้าวฉงซาน จำต้องอ้อมผ่านภูเขาอีกลูกเลยทีเดียว
“ทางที่ดีเรารีบกลับไปรักษาตัว ก่อนที่เซียนท่านอื่นๆ จะส่งสัตว์อาคมมาทำร้ายพวกเราอีกดีกว่า ส่วนเรื่องบุปผานารีผลพวกเราค่อยคิดอ่านหาวิธีกันทีหลังเถอะ นางเป็นผลผลิตที่บิดเบี้ยว ชายใดได้ไปก็คงหัวหมุน จึงไม่คู่ควรที่เราจะเอาชีวิตไปเสี่ยงตายในเขตแดนของท่านเทพอาวุโส”
เมื่อได้ยินดังนั้นน้องชายทั้งสองก็เหลียวมองไปรอบๆ กายอย่างหวาดหวั่น บาดเจ็บเพราะถูกนกยักษ์อาคมยังพอรักษาได้ แต่ถ้ากลายเป็นคนสติวิปลาสฟั่นเฟือนนี่สิไม่รู้จะรักษาอย่างไรให้หายขาด
“ขอรับพี่ใหญ่!”
บุปผานารีผลร่วงหล่นจากท้องฟ้า ทว่าไม่ทันที่ร่างบางจะร่วงหล่นกระแทกพื้นดินจนบาดเจ็บ หมู่มวลต้นไม้น้อยใหญ่บริเวณนั้นต่างพากันโน้มกิ่งก้านลงมาซ้อนทับเป็นเปลนุ่มรองรับร่างบางเอาไว้ได้อย่างพอดิบพอดี
“สนุกจัง”
ผลไม้สาวหัวเราะชอบใจเมื่อทิ้งตัวลงจากที่สูง แล้วหันไปสัมผัสเหล่าต้นไม้ก่อนจะก้มลงจุมพิตแผ่วเบา เพียงเท่านั้นเองต้นไม้ที่ถูกนางสัมผัสก็พากันผลิใบอ่อนขึ้นมาใหม่เต็มต้น บ้างก็ถึงกับผลิดอกบานสะพรั่ง