บทที่ 1

2042 Words
กรณ์กลับมาที่บ้าน เขามองอาหารบนโต๊ะที่ถูกจัดวางไว้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมา เอือมระอาเหลือเกินกับภาพตรงหน้า หากว่าย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะไม่ยอมตกปากรับคำพ่อเรื่องที่พ่อบังคับให้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ “พี่กรณ์จะทานข้าวเลยหรืออาบน้ำก่อนดีคะ” หากกรณ์สังเกตสักนิดจะเห็นว่าวันนี้ริสาดูมีความสุขเป็นพิเศษ ดวงตาเจ้าหล่อนเปล่งประกาย ริมฝีปากอวบอิ่มก็ยิ้มไม่หุบ ทว่าอนิจจา เวลานี้มีเพียงเรื่องเดียวที่กรณ์สนใจ “นิดครับ พี่มีเรื่องจะคุยด้วย” “นิดเองก็มีเรื่องจะบอกพี่กรณ์เหมือนกันค่ะ” เธอรอให้ถึงช่วงเวลาที่ได้เอ่ยปากบอกข่าวดีกับกรณ์แทบไม่ไหว ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อจินตนาการถึงใบหน้าสามีเมื่อได้รู้ข่าวดีที่เธอตั้งใจจะเซอร์ไพรส์เขาในวันนี้ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดเธอ “แต่พี่กรณ์พูดเรื่องของพี่ก่อนดีกว่าค่ะ เรื่องนิดเอาไว้ทีหลัง” หญิงสาวดวงหน้าหวานเอ่ยกับสามีด้วยน้ำเสียงสดใส กรณ์มองภรรยาที่ร่วมเรียงเคียงหมอนกันมาเกือบสองปี เขาเม้มริมฝีปากเข้าหากัน รู้สึกสงสารริสาสุดหัวใจ แต่ก็ไม่อาจทนอยู่กับเธอในฐานะสามีได้อีกต่อไป เพราะหัวใจอยู่กับผู้หญิงอีกคน “นิด พี่อยากหย่า” ราวกับฟ้าถล่มดินทลายลงตรงหน้า ริสาชาดิกไปทั่วสรรพางค์ กว่าจะรวบรวมสติได้ก็นานหลายนาที เธอเงยหน้าขึ้นมองสามีทั้งน้ำตาที่ร่วงหล่นลงมาตอนไหนก็ไม่อาจรู้ได้ ริสาไม่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรผิดถึงขนาดที่กรณ์ต้องขอหย่า ทั้งที่ผ่านมาเราสองคนก็ไม่เคยทะเลาะกัน “ทำไมคะพี่กรณ์” มือบางวางแนบหน้าท้องที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอกับกรณ์อยู่ข้างใน ไม่รู้ว่าลูกจะได้ยินไหมว่าวันนี้พ่อของเขาขอยุติสถานะสามีภรรยากับแม่ แต่ที่แน่ๆ ลูกคงรับรู้ว่าเธอเสียใจมากแค่ไหน “เราสองคนต้องแต่งงานกันเพราะความจำยอม เพราะความต้องการของพ่อพี่กับพ่อนิด ไม่ใช่เพราะเรารักกัน ตอนนั้นพี่เข้าใจว่านิดยังเด็ก นิดไม่มีใคร แต่ตอนนี้นิดโตแล้ว นิดดูแลตัวเองได้โดยที่ไม่ต้องมีพี่คอยดูแล พี่ก็ควรจะปล่อยนิดไป ให้นิดได้ใช้ชีวิตแบบที่นิดต้องการ พี่จะให้เงินนิดสักก้อนให้นิดได้ไปตั้งตัว” เขาคือครอบครัวคนสุดท้ายที่ริสาเหลืออยู่ จารุเดชพ่อของเธอเสียชีวิตหลังจากเราแต่งงานกันได้เพียงสามเดือนด้วยโรคมะเร็งตับ เพราะในอดีตพ่อของริสาเคยช่วยชีวิตเจ้าสัวภพพ่อเขาไว้ พ่อเลยให้เขาแต่งงานเพื่อตอบแทนบุญคุณเพื่อนสนิท แต่งงานเพื่อให้จารุเดชหมดห่วงก่อนจากโลกนี้ไปว่าลูกสาวมีคนดูแล แต่ไม่มีใครถามเขาสักคำว่าเต็มใจไหม ทุกคนสนใจแค่ความต้องการของตัวเอง วันนี้เขาเองก็จะทำเช่นนั้นเหมือนกัน “ความต้องการของนิดคือนิดอยากอยู่กับพี่กรณ์ นิดอยากดูแลพี่กรณ์อย่างนี้ในฐานะภรรยา นิดรักพี่กรณ์นะคะ” หากว่าเป็นเพราะเหตุผลที่กรณ์พูดมาที่เขาบอกว่าเขาอยากหย่าก็เพราะอยากปล่อยให้เธอได้ไปใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ เธอก็ควรบอกกรณ์ว่าเธอต้องการอะไร เธอไม่อยากหย่า เธออยากอยู่กับเขา อยากให้เราอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าสามคนพ่อ แม่ และลูก “พี่กรณ์คะนิดท้อ..” “พี่ไม่ได้รักนิด พี่รักผู้หญิงคนอื่น พี่ต้องการหย่านิด พี่ต้องการเริ่มต้นใหม่กับเขา!” ยังไม่ทันที่ริสาจะพูดจบประโยค ยังไม่ทันที่เธอจะบอกสามีเรื่องลูกในท้อง กรณ์ก็สวนขึ้นมาก่อนว่าเขาต้องการหย่าเพื่อไปเริ่มต้นใหม่กับผู้หญิงอีกคน โดยไม่สนใจว่าคนตรงหน้าจะรู้สึกเช่นไร ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เองสินะ.. ยิ่งกว่าถูกหอกหลาวพุ่งปักกลางหัวใจ เธอเจ็บจนแทบหยัดยืนไม่ไหว พูดอะไรไม่ออกเมื่อเขาตะคอกใส่หน้าว่าทำไมถึงต้องการหย่า ทำได้เพียงยืนนิ่งปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา ไร้เรี่ยวแรงที่จะเอื้อนเอ่ยถ้อยคำใดๆ ออกไป “ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมานะนิด นิดเป็นเมียที่ดี เป็นผู้หญิงที่น่ารัก แต่พี่ไม่ได้รักนิด พี่มองนิดเหมือนน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น” รอยยิ้มหยันปรากฏบนใบหน้าที่ถูกอาบไว้ด้วยหยาดน้ำตาริสาเงยหน้าขึ้นสบตากับสามีที่พึ่งพูดออกมาเต็มปากว่ารักผู้หญิงคนอื่นและต้องการหย่ากับเธอเพื่อไปเริ่มต้นใหม่ เธอตัดสินใจเก็บงำเรื่องลูกในท้องเอาไว้ไม่ได้บอกออกไปให้กรณ์ได้รับรู้ รอเรื่องหย่าเรียบร้อยเมื่อไหร่ เธอจะหาจังหวะดีๆ บอกกับชายหนุ่ม เขาเป็นพ่อ เขาควรได้รู้ว่าตัวเองมีลูก ส่วนจะช่วยเลี้ยงดูหรือไม่ อันนั้นก็แล้วแต่จะกรุณา เพราะตอนนี้เธอไม่อยากคาดหวังอะไรจากผู้ชายตรงหน้าอีกแล้ว “แต่นิดไม่เคยมองพี่กรณ์เป็นพี่ชาย นิดมองพี่เป็นสามี นิดรักพี่กรณ์แบบที่ผู้หญิงคนหนึ่งรักผู้ชาย แต่ถ้าพี่กรณ์ไม่รักนิดก็ไม่เป็นไรค่ะ นิดจะหย่าให้” ที่ยังไม่บอกกรณ์เรื่องลูกเพราะเธอไม่อยากให้เขาลังเลกับเรื่องที่ตัดสินใจไปแล้ว หัวใจกรณ์ไม่ได้อยู่ที่เธอ หากสุดท้ายเขาไม่หย่าเพราะไม่อยากให้ลูกที่เกิดมามีปัญหา เธอก็คงอยู่แบบหวานอมขมกลืน รู้อยู่เต็มอกว่าผัวมีผู้หญิงอีกคน ส่วนเขาก็คงกลับบ้านมาทำหน้าที่พ่อและสามีด้วยความไม่เต็มใจ เธอไม่อยากให้ลูกโตมาแล้วเห็นพ่อแม่เฉยชาใส่กัน ไม่อยากให้ลูกต้องรับรู้ทีหลังว่าพ่อมีผู้หญิงคนอื่นนอกจากแม่ แม้ไม่ใช่ผู้หญิงที่เก่ง แต่เธอจะเป็นแม่ที่แกร่งเพื่อลูกให้ได้ ริสาใช้สองแขนปาดน้ำตาที่รินไหล สูดลมหายใจเข้าลึกเต็มปอดแล้วพ่นออกมา พยายามตั้งสติแล้วคิดว่าจะเดินหน้าต่อไปเช่นไรในวันที่เธอไม่ได้ตัวคนเดียวแต่มีอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องรับผิดชอบและดูแล “ได้วันหย่าเมื่อไหร่ พี่กรณ์บอกนิดได้เลยนะคะ ส่วนเรื่องเงินสักก้อนที่พี่จะให้นิด โอนเข้าบัญชีนิดได้เลยค่ะ นิดขอเวลาเก็บของหนึ่งวันแล้วนิดจะย้ายออกจากบ้านหลังนี้” “นิดจะย้ายไปอยู่ที่ไหน ไม่เห็นต้องรีบขนาดนี้เลยนี่นา พี่เองก็ไม่ได้เร่งอะไรนิดเลยซะหน่อย” บ้านหลังเดิมที่ริสาเคยอาศัยอยู่มาตั้งแต่เมื่อครั้งยังเยาว์ถูกเจ้าหนี้ยึดไปหลังจารุเดชเสียชีวิตเนื่องจากเลยกำหนดชำระหนี้จนเข้าเงื่อนระยะเวลาที่เจ้าหนี้สามารถยึดทรัพย์ได้แล้ว กรณ์เคยไปเจรจาขอซื้อคืน แต่ทางเจ้าหนี้ไม่ยอมขายเนื่องจากอยากได้ที่ดินผืนนั้นไปทำ รีสอร์ต บ้านหลังเดียวที่ริสามีอยู่ตอนนี้คือบ้านของพวกเราสองคน บ้านที่เป็นเรือนหอ แล้วเธอจะไปอยู่ไหน เท่าที่รู้ริสาไม่มีที่ไป เขาไม่ได้ใจร้ายถึงขนาดคิดไล่เธอออกจากบ้าน เขาตั้งใจจะยกบ้านหลังนี้ให้ หญิงสาวด้วยซ้ำ “ปีก่อนนิดซื้อคอนโดฯ มือสองมารีโนเวตไว้ค่ะ ห้องไม่ได้ใหญ่มาก แต่ระบบรักษาความปลอดภัยโอเค ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้โรงพยาบาล” ตั้งแต่แต่งงาน งานหลักของเธอคือเป็นแม่บ้านดูแลสามี เธอทุ่มเททำหน้าที่นี้เต็มที่เพราะเธอรักกรณ์ ทว่าเธอไม่เคยลืมเลยสักวินาทีว่าอีกคนที่เธอควรรักคือตัวเอง เธอพึงระลึกอยู่เสมอว่าไม่มีใครให้เราพึ่งพิงไปได้ตลอด เราต้องยืนด้วยลำแข้งตัวเองให้ได้ เผื่อว่าวันหนึ่งเสาหลักที่เรามีอยู่จะไม่ต้องการเราแล้ว แต่ก็ไม่เคยนึกเลยว่าวันนั้นจะมาถึงเร็วขนาดนี้ งานนอกบ้านไม่ได้ทำ ก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะอยู่เฉยรอรับเงินเดือนจากสามีอย่างเดียว หนึ่งสมองและสองมือ เธอมีเหมือนคนอื่นไม่แตกต่าง ไม่มีทางที่เธอจะอยู่เฉยๆ งอมืองอเท้าปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปโดยไม่คิดหาความมั่นคงให้ชีวิต เป็นผู้หญิงต้องทำงาน ไม่ว่างานลักษณะรูปแบบไหน ขอแค่ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดศีลธรรม และไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน หากงานนั้นนำมาซึ่งเงิน เธอก็ยินดีที่จะทำ “คอนโดฯ มือสอง?” เท่าที่รู้สินสอดที่พ่อเขาให้ริสา เธอนำเงินส่วนนั้นไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลจารุเดชหมดแล้วนี่ แล้วเธอเอาเงินที่ไหนไปซื้อคอนโดมิเนียม เงินรายเดือนที่เขาให้งั้นหรือ ทว่าหากเป็นคอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้า ใกล้โรงพยาบาล แม้จะเป็นมือสอง แต่ทำเลทองขนาดนั้น ยังไงเงินเดือนที่เขาให้ริสาไว้ใช้จ่ายก็ไม่มีทางพอซื้อเงินสดได้แน่ “ใช่ค่ะ คอนโดฯ มือสอง นิดซื้อต่อจากเพื่อนของเพื่อนอีกทีค่ะแล้วเอามารีโนเวตใหม่ ตอนนี้ห้องก็พร้อมอยู่พอดี แค่ให้แม่บ้านไปทำความสะอาดนิดๆ หน่อยๆ ก็เข้าอยู่ได้แล้วล่ะค่ะ พี่กรณ์ไม่ต้องห่วงนิดนะคะ นิดดูแลตัวเองได้ นิดโตแล้ว” กรณ์รู้สึกผิด แววตาเขาบอกกับเธอเช่นนั้น และมีอีกอย่างที่เธอมองเห็นผ่านนัยน์ตาสีดำเหมือนสีน้ำหมึกของเขา กรณ์แปลกใจกับเรื่องที่เธอบอกว่าเธอซื้อคอนโดมิเนียมมือสองมารีโนเวต คงเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อสำหรับคนที่มองเธอมาตลอดว่าเป็นผู้หญิงที่เอาแต่ขลุกอยู่ก้นครัว “นิดไม่จำเป็นต้องย้ายออกจากบ้านหลังนี้ พี่ตั้งใจจะยกเรือนหอของเราให้นิด” เขาเลิกคิดเรื่องที่มาของเงินที่ริสานำไปซื้อคอนโดมิเนียมแล้วกลับมาสนใจเรื่องที่สำคัญกว่า “ขอบคุณสำหรับความกรุณานะคะพี่กรณ์ แต่นิดอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอกค่ะ ทุกพื้นที่ในบ้านหลังนี้มีภาพความทรงจำของเราเต็มไปหมด ถ้านิดอยู่ที่นี่ต่อ มันก็ไม่ต่างจากการที่นิดขังตัวเองไว้กับเรื่องราวเดิมๆ และนิดคงก้าวไปไหนไม่ได้ถ้ายังติดอยู่กับภาพจำเก่าๆ” เราทั้งคู่แต่งงานกันเพราะความต้องการของผู้ใหญ่ แต่ก็ใช่ว่าไม่เคยมีช่วงเวลาหอมหวาน เธอไม่อยากทรมานเพราะภาพจำในวันวาน เธอต้องย้ายไปอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่เท่านั้นถึงจะเยียวยาหัวใจตัวเองได้ “นิด..” กรณ์คว้ามือน้อยของผู้หญิงที่คอยดูแลเขาเกือบสองปีมากุม “ถ้ามีเรื่องเดือดร้อนหรือต้องการให้พี่ช่วยอะไร นิดบอกพี่ได้ตลอดเลยนะ ถึงความเป็นผัวเมียเราจะจบลง แต่นิดจะยังเป็นน้องสาวพี่เสมอตลอดไป” เรียวปากอิ่มคลี่ยิ้มบางส่งให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี น้ำตาที่ แห้งเหือดไปซึมออกมาอีกครั้ง หัวใจดวงน้อยสั่นสะท้านราวกับมีแผ่นดินไหวอยู่ข้างใน เธอรักกรณ์สุดหัวใจ แต่ชายหนุ่มเอ่ยได้เต็มปากว่าเขาไม่ได้รักเธอ ความสุขของเขาไม่ใช่เธอ เธอไม่อาจเห็นแก่ตัว ฉุดรั้งเขาไว้ หากกรณ์ต้องการจะไป เธอก็จะตามใจเขา ขอเพียงอย่างเดียว.. “นิดขอให้พี่กรณ์มีความสุขกับสิ่งที่เลือกนะคะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD