SPACE BAR 9
ปวด ปวดหัวมาก
ฮื่อ! ไม่อยากขยับตัวเลย
ฉันนอนหลับตานิ่ง ๆ บนเตียง ความนุ่มและกลิ่นหอม ๆ ทำให้ฉันไม่อยากขยับตัวเลยสักนิดทำได้แค่นอนนิ่งแต่ไม่นานก็ลืมตาโพลงลุกนั่งบนเตียงด้วยความมึนงง ห้องนอนนี้หอมก็จริงแต่ไม่ใช่กลิ่นห้องฉัน
“อื้อ ไปไหน?”
“ฮะ?” เสียงงัวเงียที่ดังอยู่ใกล้ทำให้ฉันรีบหันมองซ้ายขวาแล้วก็ต้องตกเมื่อเห็นร่างของเกรฟนอนอยู่ข้าง ๆ ไม่พอ ท่อนแขนแข็งแรงของเขายังโอบรัดเอวฉันไว้อย่างแน่นหนา ตกใจก็ตกใจอยู่หรอกแต่ตอนนี้ฉันปวดฉี่มากกว่าแล้วนี่สิ
“เกรฟ เราอยากเข้าห้องน้ำ”
“อื้อ รีบออกมา” คนง่วงยอมปล่อยนั่นทำให้ฉันแทบจะวิ่งลงจากเตียงเข้าห้องน้ำทันที ตกใจก็ตกใจอยู่หรอกแต่ตอนนี้ฉันแฮงค์ขนาดนี้ไม่มีงอแงหรอกค่ะรีบทำธุระในห้องน้ำเสร็จก็ออกมาทิ้งตัวนอนบนเตียงต่อ ไม่ได้คิดอะไรเลยสักนิดนอกจากนอนพักให้หายแฮงค์
เอาไว้ตื่นอีกรอบเราค่อยมาคุยกันแล้วกันนะ ตอนนี้ฉันไม่ไหวแล้วจริง ๆ
เวลาเกือบเที่ยงตรงฉันรู้สึกตัวตื่นพร้อมกับอาการปวดศีรษะที่ทุเลาลงมากแล้ว และรอบนี้ฉันตื่นขึ้นมาคนเดียวบนเตียงนอนหลังใหญ่ เกรฟไม่ได้อยู่บนเตียงแล้วแต่เสียงสายน้ำที่ดังมาจากห้องน้ำนั้นฉันเดาว่าเขาคงจะอาบน้ำอยู่ พอมองรอบ ๆ ก็พบว่านี่ไม่ใช่ห้องพักหรือคอนโดฉันจริง ๆ ด้วย ที่นี่คล้ายกับห้องในบ้านมากกว่าจะเป็นคอนโด
“ตื่นแล้วเหรอ?” นั่งนิ่งบนเตียงนอนหลายสิบนาทีคนที่อยู่ในห้องน้ำก็เปิดประตูออกมาพร้อมกับเอ่ยถามฉันเสียงนุ่ม ฉันมองเกรฟเงียบ ๆ ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปกระทั่งเกรฟเดินเข้ามาใกล้ยกหลังมือทาบบนหน้าผากเบา ๆ ฉันถึงได้สติผละออกห่างจากเขา
“จำอะไรได้บ้างไหมเนี่ย” เกรฟหัวเราะเมื่อเห็นฉันทำหน้าทำตามึนงง
“มิ้งครับ”
“ภาพตัด” บอกสั้น ๆ และรู้สึกอายจนร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งหน้าเลยก็ว่าได้ จำได้แค่ว่าดื่มแล้วก็คุยเล่นกับเพื่อน แต่พอเห็นว่าหน้าจอโทรศัพท์มีข้อความส่งเข้ามาจากคนนั้นที่เคยพยายามติดต่อฉันมา ฉันบล็อกช่องทางติดต่อนั้นอีกครั้งจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้เลย รู้สึกตัวตื่นก็เมื่อเช้าที่เข้าห้องน้ำ
“ดื่มหนักมาก เราเองก็หวงมากเลยรู้ไหม ไปเต้นเซ็กซี่ ๆ แบบนั้นบนเวทีน่ะ”
“เต้นด้วยเหรอ?” ทวนถามด้วยความตกใจ ฉันเต้นจริง ๆ เหรอ? ฮื่อ ถ้าปกติอยู่กับเพื่อนก็จะเต้นจะดื่มแต่ไม่คิดว่าเมื่อคืนฉันจะเมาจนหลุดขนาดนั้น
“เราไม่ได้ทำอะไรน่าอายใช่ไหม?” ฉันเลียบ ๆ เคียง ๆ ถามเกรฟ
“ไม่มีหรอก แต่ไม่ให้ดื่มจนภาพตัดแบบนั้นแล้วนะ เป็นห่วง”
“อื้อ ไม่ดื่มหนักแล้ว” พยักหน้าตอบเกรฟ เกรฟเองเมื่อได้ยินประโยคที่ทำให้พึงพอใจก็พยักหน้ารับและบอกให้ไปอาบน้ำส่วนเขาจะหาชุดมาให้ใส่ไปก่อน
“เกรฟ ที่นี่คือ...”
“บ้านเราเอง บ้านที่เราอยู่กับพี่ ๆ” เกรฟยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องนอนหลังจากที่เขาสวมเสื้อและกางเกงต่อหน้าฉันอย่างไม่คิดอาย
“มิ้ง!” นานหลายสิบนาทีที่อาบน้ำและเกรฟหายออกไปจากห้อง เสียงเรียกตะโกนที่หน้าห้องน้ำทำให้รู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง เพราะแอบรู้สึกกดดันเมื่อต้องอยู่ห้องเขาคนเดียวแบบนี้
“มิ้งครับ”
“ค่า อาบน้ำเสร็จแล้ว”
“เปิดประตูมาเอาชุดก่อนเดี๋ยวไม่สบาย”
“แป๊บหนึ่ง”
เราตะโกนคุยกันผ่านบานประตูห้องน้ำ ในห้องน้ำไม่มีเสื้อคลุมอาบน้ำมีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ที่เกรฟเตรียมไว้ให้พร้อมกับแปรงสีฟัน นั่นแหละฉันใช้ผ้าเช็ดตัวพันรอบเรือนร่างก่อนจะแง้มประตูเปิดรับเสื้อจากเกรฟ ใช้เวลาไม่นานก็ออกจากห้องน้ำด้วยชุดที่สุภาพมากกว่าเดิม เกรฟนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงนอนโดยที่ผ้าม่านในห้องถูกเปิดรับแสงสว่างพร้อมกับกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ลอยคลุ้งห้องนอน
“หิวไหม?” ไม่ทันได้คิดอะไรเกรฟที่เงยหน้าสบตาฉันก็รีบเอ่ยถามทันทีราวกับว่ารอมานานมากกว่าฉันจะออกจากห้องน้ำ
"ไม่เลย แต่คือเราเกรงใจ...”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก พี่เราไม่อยู่บ้านวันหยุดคลุกอยู่กับแฟนหมดแล้ว มีแค่เรานี่แหละ ไปกินข้าวกันเถอะ” เกรฟหัวเราะน้อย ๆ พร้อมกับขยับลงจากเตียงเข้ามาจับมือแล้วเดินนำออกจากห้องนอน บ้านที่ถูกตกแต่งอย่างลงตัวตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในบ้านนอกจากเราสองคน บ้านหลังใหญ่มากคล้ายกับบ้านจัดสรรของคนรวยเลย
จากที่เดินออกจากห้องนอนมามีห้องบนชั้นสองอีกหลายห้อง ลงมาข้างล่างก็เจอกับโซนห้องรับแขกห้องครัวห้องอาหาร นี่มันบ้านคนรวยชัดๆ!!
“ทำหน้าตื่นอะไรขนาดนั้นกัน” เกรฟหันกลับมามองเมื่อเห็นฉันทำหน้าตกใจเมื่อเขาพาเดินลงมาจนถึงห้องอาหารของบ้านเขา
“คือเราตกใจ บ้านหลังใหญ่มาก”
“หึ บ้านพี่เราน่ะ บ้านเรายังไม่มีหรอก มีแค่คอนโดเป็นของตัวเอง” เกรฟอธิบายให้เข้าใจ
“มากินข้าวก่อน” เมื่อฉันยังนิ่งเกรฟถึงได้เอ่ยชวนอีกครั้งอย่างใจเย็น
“แต่...”
“พี่สะใภ้ทำไว้ให้เลยนะ จะไม่กินจริง ๆ เหรอ” เกรฟมองติดจะอ้อน ท้ายที่สุดก็กลายเป็นฉันที่ยอมใจอ่อน กินข้าวพร้อมกับเขา ระหว่างกินข้าวเกรฟยังคงชวนคุยไปเรื่อย ๆ จวบจนกินข้าวเสร็จฉันจึงอาสาทำความสะอาดจานชามให้เองเพราะรู้สึกเกรงใจเขามาก ๆ ทั้งเมาแล้วเขาดูแลไหนจะมีมื้อเช้าไว้ให้นี่อีก
“เกรฟ! ไปไหน?” เมื่อเราเดินออกจากบ้านเกรฟล็อกบ้านและพาเดินไปขึ้นรถ จู่ ๆ ก็มีเสียงตะโกนเรียกชื่อเกรฟไว้เสียก่อน หันไปมองต้นเสียงก็พบว่าเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่หน้าตาคล้ายกับพี่กราฟ เกรฟจับมือฉันไว้และพาเดินไปตามทางเดินที่ปูด้วยหินตกแต่งบ้านสีขาว ลองมองดีๆ มีบันไดเล็ก ๆ วางพาดที่ข้างกำแพงด้วยนะ
“จะไปคอนโดมิ้งครับ พี่เกรย์นี่มิ้ง มิ้งครับนี่พี่เกรย์พี่ชายเราเอง แฝดพี่กราฟเคยเจอกันแล้วไม่รู้จำได้ไหม” ก็ว่าทำไมหน้าเหมือนพี่กราฟมากขนาดนี้
“สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้พี่เกรย์ อีกฝ่ายรับไหว้พร้อมกับรอยยิ้มติดจะแซวที่ถูกส่งมาให้น้องชายเจ้าตัวอย่างเกรฟ
“น้องมิ้งนี่เอง พี่จำเราได้เคยเจอที่สตูดิโอไง แต่เผื่อจำพี่ไม่ได้ พี่ชื่อเกรย์นะเป็นพี่ชายของเกรฟ ว่าง ๆ ก็ให้เกรฟพามาที่บ้านนะ มากินข้าวด้วยกัน”
“ค่ะพี่”
“เย็นนี้กลับบ้านไหม?” พี่เกรย์ถามน้องชายตัวเองต่อ ฉันจึงถือวิสาสะลอบมองบ้านหลังที่พี่เกรย์ยืนอยู่ โซนด้านหลังถูกแต่งเป็นสวนอย่างสวยงามและดูร่มรื่นมาก และฝั่งบ้านที่เรายืนอยู่มีบันไดเล็ก ๆ ตั้งอยู่จริง ๆ ด้วยคล้ายกับใช้เป็นที่ปีนข้ามระหว่างกำแพง บ้านเกรฟเองก็มีมุมสวนเช่นเดียวกัน บ้านละแวกนี้หลังใหญ่มากฉันยังยืนยันคำเดิมว่านี่มันหมู่บ้านคนรวย!!
“บ้านสามหลังมีบันไดเล็ก ๆ ไว้ปีนข้ามกำแพงไปหากันน่ะ” เกรฟอธิบายให้ฟังระหว่างเดินจับมือฉันกลับมาที่รถ
“ทำไมล่ะ?”
“ก็บ้านหลังนี้เป็นของเราสามพี่น้อง หลังเมื่อกี้ของแฟนพี่เกรย์ ถัดไปหลังนั้นเป็นของภรรยาพี่กราฟ บ้านสามหลังติดกัน บางทีก็ขี้เกียจเดินผ่านหน้าบ้านเลยหาบันไดมาวางไว้เพื่อที่จะปีนไปหากันง่าย ๆ” ระหว่างที่เกรฟเล่า เขาดูมีความสุขมากยามได้เอ่ยถึงพี่ชายของเขา
“แปลกดี”
“เราก็ว่าแปลก” เกรฟหัวเราะอย่างพอใจ เมื่อเราขึ้นมานั่งบนรถเกรฟก็พาเดินทางออกจากบ้าน พร้อมกับชวนไปเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวที่จะถึง แต่ฉันก็ยังไม่ได้ให้คำตอบบอกแค่ว่าขอดูวันหยุดก่อน ระหว่างนั่งอยู่บนรถโทรศัพท์ฉันก็มีแจ้งเตือนเข้ามาเรื่อย ๆ พอก้มหน้าดูหน้าจอก็พบว่ามาจากเพื่อนสนิทของตัวเองและแอคเคาน์ที่ไม่รู้จักฉันเลือกที่จะตอบและถามไถ่เพื่อนเสร็จแล้วก็จัดการบล็อกช่องทางติดต่อของคนที่ไม่รู้จัก กี่ครั้งแล้วที่ฉันบล็อกเขาไป ไม่รู้จะหน้าทนเพิ่มเข้ามาอีกทำไม ไม่รู้จักความเกรงใจบ้างหรือไง
“อยากแวะซื้ออะไรก่อนกลับเข้าบ้านไหม?” เกรฟเอ่ยถามขณะที่รถกำลังติดไฟแดง
“อื้อ อยากแวะ”
“งั้นไปห้างกันดีกว่า”
“มื้อเย็นจะให้ทำให้ไหม หรือจะไปกินที่ร้าน เอ๊ะเมื่อกี้พี่เกรย์บอกให้กลับบ้านใช่ไหม งั้น...”
“จะกินมื้อเย็นด้วย เดี๋ยวซื้อไปทำที่ห้องได้ไหม บอกพี่แล้วว่าไม่กลับ” เกรฟยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะเลี้ยวรถไปยังลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโด
“ไม่กลับ?”
“ใช่ วันนี้จะนอนด้วย”