บทที่ 3
เมืองคนบาป 100%
แอริต้าเริ่มรู้สึกว่าเขาแปลกไปจากเดิม หลังกลับจากประเทศไทย เพราะอยู่ใกล้ๆ เขาจะหงุดหงิด และที่สำคัญอารมณ์เสียบ่อยมากๆ ดังนั้น เธอต้องรู้สาเหตุให้ได้แล้วล่ะ ว่ามันอาการเหล่านี้มันเกิดจากอะไร
“ค่ะ”
หลังจากจบศึกสวาทยกแรก การ์โลเน่แทบบ้า เมื่ออารมณ์จะพาไปถึงฝั่งฝันมันช่างไม่น่าภิรมย์เอาเสีย บอกตรงๆ เลยว่า มันไม่เหมือนทุกครั้ง ที่ผ่านมา จนแอริต้านั้นแปลกใจสุดๆ แต่ยังมิกล้าถาม ครั้นจะเริ่มบทรักต่อไป ก็พลันอารมณ์เสีย กระทั่งบอกคู่หมั้นสาวที่กำลังเริ่มสตาร์ทติดต้องขยับสะโพกลงจากเรือนกาย เรียกได้ว่าแปลกประหลาดที่คนเจนจัดในรสสวาทไม่สามารถรักใครได้ เพราะภายในใจและสมองมันมีแต่ภาพและชื่อของผู้หญิงอีกคนวนเวียนเข้ามา การ์โลเน่ลุกขึ้นมาสวมเสื้อผ้าแล้วกลับมานอนที่ The paradise และเจ้าพ่อหนุ่มก็รู้สึกว่าตนเองคิดผิดสุดๆ เพราะเวลาที่เหลือกว่าฟ้าจะสว่าง เขาแทบไม่เป็นหลับเป็นตื่น ทั้งความทรมานที่มันอัดอั้น ครั้นเรียกพวกหนูๆ ประจำอ่างนาบมาบริการ มันก็ไม่ต่างจากเดิม สรุปคือ ในเวลานี้เขาต้องการ แค่ลูกหนี้สาวคนสวยคนเดียว
เมื่อทนทรมานไม่ไหว เจ้าพ่อหนุ่มต้องลุกจากเตียงแต่เช้าตรู่ ด้วยการลุกมาเคลียร์งานที่คั่งค้างพร้อมกับสอบถามความคืบหน้าของเรื่องราวบางอย่างที่เขาสั่งเลขาหนุ่มไปจัดการ
“มีอะไรคืบหน้าหรือเปล่าโดเนส”
“ทางเรากำลังเร่งตรวจสอบครับนาย”
“อือ...แล้วเรื่องของแพรพิชาที่ฉันสั่งไปจัดการล่ะ”
“เรียบร้อยดีครับ ไม่มีปัญหา”
“แล้วไอ้เด็กแสบนั่นล่ะ”
“ตอนนี้ทำงานให้กับกลุ่มผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นครับ”
“กลุ่มไหนตามสืบด้วย แล้วก็จับตาไอ้เด็กแสบนี้เอาไว้ให้ดี”
“ครับนาย”
เมื่อสอบถามธุระที่สั่งให้ไปจัดการเรียบร้อย เจ้าพ่อหนุ่มก็อดประหวัดหาอีกคนมิได้ ในเมื่อล่องหลืบหัวใจเรียกร้องมา เขาจึงยินดีจัดให้
“แล้วคนใช้ฉันล่ะ เมื่อไรจะมา เริ่มทำงานวันนี้ไม่ใช่เหรอ” เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเยาะนิดๆ เพราะเขาคิดไว้แล้วว่าคนบอบบางร่างเล็กและดู เจ้าสำอางเช่นแม่คุณจะมาทำงานพวกนี้ไหวเหร๊อ! แล้วที่สำคัญยังอดดูถูกมิได้ เพราะว่าคนเอเชียส่วนใหญ่ มักจะเลทเวลาทำงาน แล้วลูกหนี้สาวของเขาก็มาจากฝั่งเอเชียเสียด้วย มีโอกาสที่เธอจะมาทำงานสายแน่ๆ ทว่าความคิดยอดแย่ ที่คาดการณ์ไปเองต้องดับพรึ่บ! เมื่อครั้นได้รับฟังคำรายงานจากเลขาหนุ่ม
“มิสมาถึงที่นี่ ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าแล้วครับ”
ได้ยินเช่นนั้นใบหน้าที่เยาะเย้ยนิดๆ ต้องแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมแล้วเอ่ยถามเสียงห้วน
“ทำไมฉันไม่เห็น” ก็เจ้านายเพิ่งตื่นจะไปเห็นได้ไงล่ะครับ ประโยคนี้โดเนสอยากตอบเหลือเกิน แต่มิกล้าพอ เขาจงได้เอ่ยประโยคที่สมควรออกไป
“มิสกำลังทำความสะอาดอยู่ที่ห้องสมุดน่ะครับ”
“เหรอ...บอกเธอยกกาแฟมาให้ฉันที่ห้องสิ”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดพรายบนใบหน้าหล่อเหลา เพราะอย่างไรแล้วเช้านี้ เขาต้องได้แตะนิดต้องหน่อยล่ะ ขอชื่นใจสักสิบนาทีก็ยังดี หึๆ
“ครับ”
หลังจากรับคำสั่ง เจ้าของร่างสูงชุดดำก็เดินออกไป ทิ้งให้เจ้าของห้องทำงานกว้างและหรูหรา นั่งกระดิกเท้าเป่าปากอย่างสบายอารมณ์
ที่ห้องสมุดบนชั้นส่วนตัวของเจ้าของ The paradise คนใช้สาว อย่างแพรพิชากำลังขะมักเขม้นกับการทำงาน และกำลังจัดหนังสือเข้าชั้น อย่างอารมณ์ดี ฮัมเพลงเบาๆ ตามประสา แม้นจะแปลกใจไปนิดว่าทำไม คนหน้าเครียดและเคร่งขรึมอย่างการ์โลเน่นี่แอบมีมุมหวานๆด้วย เจ้าพ่อผู้แสนโหดเถื่อนอ่านนวนิยายรักโรแมนติก พระเจ้า!
ร่างบอบบางวันนี้อยู่ในชุดแม่บ้านแสนจะสวยและแปลกตา เมื่อมันเป็นชุดที่แสนจะสั้นจู๋เลยเหนือเข่าขึ้นมา ก้มแต่ละทีสาวเจ้าต้องระมัดระวัง เป็นอย่างยิ่ง และยังแสนจะประหม่าเมื่อเรียวขาเสลาสัมผัสรับกับความเย็นของเครื่องปรับอากาศภายในห้อง ทำให้เธออดก่นด่าไอ้คนบงการจัดหาชุด มาให้เธอมิได้ และถ้าเธอจะฝืนคำบัญชาคงมิกล้าพอ เพราะเกรงว่าเขา จะไม่พอใจเอา ประเดี๋ยวยุ่งยากขึ้นมาอีกล่ะ เอาไว้คราวมีเงิน เธอจะไปหาซื้อเลกกิ้งไม่ก็ถุงน่องมาใส่ ขณะคิดอะไรเพลินๆ อยู่นั้น
แก๊ก! แก๊ก!
เสียงเก๊าะแก๊ะที่ดังอยู่บริเวณหัวมุมห้อง มิสามารถเรียกความสนใจจากหญิงสาวได้ เธอยังเพียรทำงานของตนต่ออย่างขะมักเขม้น ทำเอาคนที่เดินเข้ามาในห้องต้องจับสังเกต นัยน์ตาสีทองอร่ามแพรวพราว ครั้นเห็นสาวน้อยหุ่นเอ็กซ์ทางด้านหลัง สะโพกนี่น่าขยำเป็นบ้า คนมาเยือนห้องสมุดชั้นบน นึกในใจ ขณะนั้นเขายังจดจ้องแม่บ้านหุ่นเร้าใจ เพียงแค่เห็นด้านหลังก็แทบอยากจะกระโจนเข้าใส่
ส่วนแพรพิชาก้มๆ เงยๆ หยิบจับหนังสือ จวนทำให้คนถ้ำมองอดทนไม่ไหว วางเป้ใบขนาดพอเหมาะไว้บนโต๊ะ พร้อมนำเรือนกายแข็งแรงเลื่อนสัมผัสด้านหลังของหญิงสาว คนเพิ่งมาทำงานวันแรก ร้องวี้ดว้ายด้วยความ ตื่นตระหนกตกใจ
“ว้ายยย!! ปล่อยนะคะ ปล่อย!!” ดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดแกร่ง กระนั้นเจ้าของวงแขนแข็งแรงมิยอมปล่อย พ่อคุณกอดแนบแน่น พร้อมยังไซ้ปลายจมูกโด่งสันสูดดมหลังซอกคอเกลี้ยงเนียน แล้วพ่นลมหายใจร้อนเป่ารด แล้วจึงได้เอ่ยเสียงพร่า
“กลิ่นฮ้อมหอม…อยู่นิ่งๆ สิจ๊ะคนสวย”
แพรพิชาขยะแขยงยิ่งนัก เขาเป็นใครกัน? ทำไมกระทำอุกอาจเช่นนี้
“ปล่อยฉันนะคะ ปล่อย!” ร้องบอกให้เขาปล่อย กระนั้นเสือร้าย สุดหล่อยังไม่ยอมทำตาม พ่อคุณยังคงกอดรัดฟัดเหวี่ยง และพรมจูบ สะเปะสะปะเมื่อครั้นสาวเจ้าดีดดิ้น
“อย่าดื้อสิจ๊ะคนสวย” พูดจบ อดค่อนขอดถึงอีกคนมิได้
‘โลเน่นะโลเน่ มีของดีในมือนี่เองถึงหวงนักหวงหนาไอ้ชั้นส่วนตัวเนี่ย’
แพรพิชาหยุดดิ้น แล้วเปลี่ยนมาทำเป็นใจดีสู้เสือ เธอสูดลมหายใจ เข้าปอดลึกๆ แล้วเอ่ยถาม
“คุณเป็นใครคะ เข้ามาทำอะไรในนี้” ฟังจากสำเนียงที่พูดแล้ว ไม่น่าใช่คนอเมริกาแน่ๆ แต่ทว่าเขามิได้สน เพราะสิ่งที่เขาสนในเวลานี้ คือ ตัวเธอต่างหาก ผู้หญิงบ้าอะไรนุ่มนิ่มไปทั้งตัว กลิ่นก็ฮ้อมหอม...
“มาหาคนสวยไงจ๊ะ” พูดจบสอดมือหนาเข้าไปสัมผัสเรียวขาเสลา แพรพิชาสะดุ้งตกใจ พร้อมทั้งผลักไสคนตัวใหญ่ให้ออกห่าง
“ยะ อย่าค่ะ”
ได้ยินเสียงหวานเอ่ยห้ามแล้ว เพลย์บอยสุดหล่อยกมุมปากยิ้ม พร้อมยวนกลับไปว่า “อย่าช้าหรืออย่าหยุดล่ะจ๊ะ”
“เออ...” ไม่ทันจะเอ่ย คนยืนช้อนด้านหลัง ผลักหญิงสาวหลบเข้าไปในมุมอับของห้อง แพรพิชาร้องวี้ดว้ายตกใจกลัว และเธอก็ได้เห็นโฉมหน้าของจอมโจรตัวร้ายอย่างชัดเจน
“วะ ว้าย! หยุดนะคะ” หน้าตาตรงข้ามกับการกระทำสุดขั้ว หน้าหล่อเป๊ะ! ดุจเทพบุตรแต่ทำไมนิสัยพ่อเจ้าประคุณสุดแสนจะแบดบอย เอามากๆ
จังหวะนั้นมือหนาปล้ำถอดอาภรณ์บนตัวหญิงสาวอย่างเอาแต่ใจ ร่างแน่งน้อยเบี่ยงซ้ายหลบขวา ทว่าผู้ชายตรงหน้ามิได้หวั่น และไม่นาน ไอ้ชุดแม่บ้านเนื้อผ้าบางก็หลุดลุ่ย เหลือเพียงซับในสองชิ้นบนและล่าง นัยน์ตาฟ้าครามประจักษ์แล้วตาลุกวาว ขณะเรียวปากหยักสีกุหลาบสด พรั่งพ่นออกมาราวละเมอ
“นางฟ้าชัดๆ”
แพรพิชานัยน์ตาแดงก่ำ เธอหวาดกลัวเหลือเกิน กลัวว่าเธอจะโดนผู้ชายตรงหน้าขืนใจ ในขณะที่สาวเจ้าเฝ้าภาวนาถึงเจ้าของอาณาแห่งนี้ ภาวนาให้เขาขึ้นมาทีเถิด...
“ยะ อย่าทำอะไรแพรเลยนะคะ” ปัดมือหนาออกจากเนินอกอวบ ที่โผล่พ้นขอบบราเซียร์ พร้อมบ่ายหน้าเบี่ยงหนีเมื่อใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมา
‘คุณการ์โลเน่ ช่วยแพรด้วย แพรกลัว...’
ขณะที่เธอหวาดกลัวอยู่นั้นเพลย์บอยสุดหล่อก็เที่ยวชมเรือนร่างน่าฟัดน่าฟัน รำพึงรำพันออกมาไม่หยุดปาก
“สวย สวยจริงๆ”
“ปล่อยนะ ปล่อย!”
“อยู่นิ่งๆ สิจ๊ะคนสวย”
เมื่อรู้แล้วว่าตนเองจะไม่รอดพ้น จึงอ้าปากตะโกนให้คนเข้ามาช่วย
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยฉันด้วย!!!” พลังเสียงที่เธอเปล่งออกมา ไม่สามารถทำให้ใครได้ยิน เพราะทั้งชั้นไม่มีแม่บ้านคนใดได้ขึ้นมาประจำ จะมีก็แต่หัวหน้าฝ่ายควบคุมอิเล็คทรอนิกส์อย่างอีริคที่ประจำอยู่อีกสามห้องถัดไป
และพอดีที่อีริคกำลังจะแหมะก้นติดเก้าอี้ สายตาคมพลันไล้ดูหน้าจอมอนิเตอร์ที่ไล่เรียงกัน และเขาก็กวาดต้อนสายตาหาผู้หญิงที่นายสั่งเฝ้าดูแลอยู่ห่างๆ ภาพที่ปรากฏทำเอามือขวาของเจ้าพ่อหนุ่มสบถลั่น!
“เวรเอ๊ย”
สิ้นคำรีบก้าวดุ่มๆ เดินออกไปจากห้องทำงาน มุ่งฝีเท้าไปยังห้องสมุด ไม่กี่อึดใจเจ้าของร่างสูงภายใต้กรอบหน้านิ่งขรึมก็เอ่ยเสียงเรียบขึ้นว่า
“ขอโทษครับ พอดีว่านายบอกให้ผมขึ้นมาเรียนคุณเมเทียสไปพบ ที่ห้องทำงานครับ”
“ฉิบ!”
เห็นทางเลี่ยงมิได้เพลย์บอยสุดหล่อจึงยอมผละกายห่างจากร่างอรชรที่สั่นระริกๆ และทอดนัยน์ตาจ้องมองหญิงสาวอย่างแสนเสียดาย
ทางด้านแพรพิชาแสนจะโล่งใจสุดๆ และนึกขอบใจผู้ชายเจ้าของใบหน้าเรียบที่มาช่วยเธอเอาไว้ได้ทันเวลา ส่วนเมเทียสเกิดอาการกระฟัดกระเฟียดใจหนึ่งอยากไปคุยธุระกับเพื่อนให้มันเสร็จสิ้น แต่อีกใจอยากจัดการแม่บ้านสาวสวยหุ่นเอ็กซ์ให้รู้แล้วรู้รอด
“นายบอกว่ามีธุระด่วนจะคุยด้วยครับ” อีริคเอ่ยซ้ำอีกครั้ง ทำให้ เมเทียสทำหน้าเซ็งและถอนลมหายใจแรงๆ ติดกันสองครั้ง ก่อนจะเดินไปหยิบเอากระเป๋ามาสะพาย และก็ได้เดินกระแทกส้นเท้าออกไปด้วยความขัดใจ
ส่วนแพรพิชาเมื่อเธอรอดพ้นจากเงื้อมมือผู้ชายคนนั้นแล้ว หยดน้ำอุ่นร้อนพลันกลิ้งหล่นอาบร่องแก้มลงมาอย่างน่าสงสาร แต่สาวเจ้ากลับทำใจแข็ง เชิดหน้าแล้วเช็ดคราบน้ำตาออกจากกรอบหน้าสวยหวาน ในขณะเดียวกันนั้นมือบางก็คว้าชุดที่หลุดลุ่ยเมื่อครู่มาสวมใส่ อีริคมองดูแล้วนึกสงสารแต่ทำอะไรมากไม่ได้ เพราะเธอเป็นคนของเจ้านาย เขาไม่อยากยุ่ง!
อีริคหันหน้าหนีไปอีกทางเพื่อให้คนกำลังเสียขวัญได้มีเวลาแต่งตัว จวนผ่านไปหลายอึดใจ เขาจึงได้เอี้ยวร่างและหันหน้ากลับมาแล้วเอ่ยว่า
“เชิญมิสทำงานต่อได้เลยนะครับ”
“แต่” คนหวาดกลัวเอ่ยหมายจะค้าน ทว่ามือขวาหน้านิ่งอย่างอีริค ก็เอ่ยให้ความมั่นใจกับเธอไปว่า
“ไม่มีเหตุการณ์แบบเมื่อครู่เกิดขึ้นอีกแน่นอนครับ มิสสบายใจได้”
“ขอบคุณค่ะ” สิ้นเสียงหวานแผ่วแล้วจึงหันไปสนใจงานที่กองพะเนินตรงหน้า พร้อมกับหยดน้ำที่กลัดกลั้นเอาไม่อยู่ มันไหลเอ่อออกมา แต่แพรพิชาพยายามแข็งใจ และตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไปให้แล้วเสร็จ เพราะยังมีอีกหลายงานที่ต้องทำในวันนี้
ผ่านไปไม่ถึงห้านาที เสียงรองเท้ากระทบพื้น พร้อมเสียงทุ้ม ดังตามมาทำเอาคนกำลังอยู่ในสภาวะหวาดระแวงถึงกับสะดุ้งตื่นตกใจ
“มีอะไรหรือคะ” เสียงหวานหันไปเอ่ยถาม
“เจ้านายสั่งให้มิสยกกาแฟขึ้นไปให้บนห้องทำงานน่ะครับ” โดเนสเอ่ย ในขณะเดียวกันคนช่างสังเกตก็เห็นดวงตาคู่งามรื้นด้วยหยาดน้ำใสและคาดเดา ได้ไม่ยากว่าลูกหนี้ของเจ้านายเพิ่งผ่านการเสียหยาดน้ำตามาหมาดๆ
“ค่ะ เดี๋ยวฉันจะยกไปให้”
เมื่อได้รับคำสั่ง แพรพิชาต้องวางมือจากงานตรงหน้า แล้วรีบไปจัดการในสิ่งที่เจ้าหนี้อย่างเขาต้องการ
ผ่านไปสิบนาทีร่างบอบบางมาพร้อมกับกลิ่นหอมคั่วบดของกาแฟ อาราบิก้า ทำให้คนที่กำลังสนทนากันในห้องต้องหยุดชะงัก และหันมามอง คนที่เดินเข้ามาใหม่
แพรพิชาแทบทำถาดในมือร่วงหล่น ครั้นเลื่อนสายตาเจอผู้ชาย ที่จะปล้นสวาทเธอแต่ต้องแข็งใจ
ทางด้านการ์โลเน่เห็นเพื่อนสนิทมองลูกหนี้สาวของตนแล้วอดหมั่นไส้มิได้ ไม่รู้ว่ามันมองอะไรนักหนา ถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะควักลูกตามันให้หลุดกระเด็นออกมานัก
“เสร็จหน้าที่แล้วก็ออกไปซะ” เสียงเข้มเอ่ยสั่ง ทว่าเมเทียสได้ยินแล้วกลับยวนเพื่อนต่อไปว่า
“ไม่คิดจะแนะนำสักหน่อยหรือครับเจ้าพ่อ”
“ไม่จำเป็น” ตอบด้วยน้ำเสียงห้วนจัด
“แต่ว่าฉันอยากกินขนมหวานน่ะ”
“เดี๋ยวฉันสั่งเลขาเอาขึ้นมาให้” เจ้าพ่อหนุ่มรู้ทันว่าเพื่อนเขามันคิดอะไร แต่ฝันไปเถอะ! ผู้หญิงคนนี้เป็นของเขา มนุษย์ตัวผู้หน้าใดก็ไม่มีสิทธิ์ ไต่ตอมดอมดม และเขาก็กันเธอออกจากไอ้เพื่อนวายร้ายด้วยการสั่งให้ แพรพิชาไปทำงาน
“ออกไปได้แล้ว แพรพิชา...”
“ค่ะ”
ลูกหนี้สาวรับคำอย่างงงๆ ไม่รู้ว่าเจ้านายเธอตอนนี้เป็นอารมณ์ไหน เห็นหน้าเธอแล้วมันทำให้ชวนโมโหจนขนาดต้องตีหน้ายักษ์หน้ามาร ใส่ขนาดนั้นเชียวหรือ...
และอีกนัยหนึ่งก็คือ เธออดสงสัยไม่ได้ว่าไอ้โจรที่บุกกระทำอุกอาจ กับเธอเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา เป็นอะไรกับเจ้านายของเธอกันแน่ แต่ช่างเหอะ! เขาจะเป็นอะไรกันมันก็เรื่องของเขาไม่เกี่ยวกับเราหรอก! คิดได้เช่นนั้น แพรพิชาก็เดินกลับมาทำงานในส่วนของตน
ในขณะที่ห้องทำงานของเจ้าพ่อหนุ่ม ตอนนี้กำลังจะระเบิดลุกไหม้เป็นไฟ เมื่อเพื่อนสนิทอย่างเมเทียส คอยพูดก่อกวน เย้าแหย่ จนเจ้าของ ปลายสันคางบึนต้องสบถหลายต่อหลายครั้ง ซ้ำยังครางฮึมๆ ด้วยความโมโหระคนหึงหวง เมื่อตนได้ฟังเรื่องราวที่หลุดจากปากเพื่อนสนิท เขาแทบอยาก จะเอากำปั้นหนักๆ ประเคนใส่ปากมันให้แตกยับนัก! ที่บังอาจไปยุ่งกับผู้หญิงของเขา!
“ฉันสั่งห้ามว่าต่อไป นายอย่าไปยุ่งกับเธอ”
“ทำไมวะ จะหวงไว้กินเองหรือไงครับเพื่อน” เมเทียสแหย่เพื่อน ตามที่ได้ประจักษ์ เพราะสุดแท้แล้ว ‘เสือมันย่อมเห็นเสือ’ ดูแวบตาเดียวรู้เลยว่าเพื่อนเขามันเล่นซ่อนแอบอะไรสักอย่าง!
“มันเรื่องของฉัน” ตอบปัดด้วยท่าทีรำคาญ ซึ่งเพลย์บอยตัวแอ้ได้ยินแล้วแทบจะสำลักน้ำลาย แต่ยังมิวายกวนบาทาได้ต่อไปอีก
“อะไรครับ คู่หมั้นก็มีแล้ว จะหวงเอาไว้ทำไมนักหนาครับ แบ่งๆ กันบ้างสิเพื่อน” คนอย่างเมเทียสไม่จำเป็นต้องขอแบ่งนารีจากใคร เพราะลำพัง ก็มีสาวประเคยกายให้มิเคยขาด และที่เอ่ยออกไปเช่นนั้นก็เพื่อกระตุ้นอารมณ์เจ้าพ่อให้เดือดพล่านเล่นๆ
และมันก็ได้ผลดียิ่งซะด้วย เพราะการ์โลเน่นั้นเค้นคำรามเสียงห้วนรอดไรฟันออกมาอย่างสุดทน
“เธอเป็นคนของฉัน คนอื่นอย่างแกไม่มีสิทธิ์มายุ่ง เข้าใจไหม?”
“ฮึ!” ปฏิเสธพร้อมกับส่ายศีรษะ และเมื่อการ์โลเน่เห็นและได้ยินแล้ว โมโหถึงขนาดกล่าวว่า
“งั้นแกเตรียมกินลูกตะกั่วแทนข้าวได้เลย” ได้ยินเช่นนั้น สารวัตรเพลย์บอยทำท่าสะดุ้งกลัว พร้อมกับเอ่ยเสียงยียวนป่วนบาทา
“โหดซะด้วยโว้ย!” พอกวนอารมณ์คนมีคู่หมั้นพอหอมปากหอมคอ สารวัตรหนุ่มจึงเอ่ยเป็นจริงเป็นจัง เพราะแน่นอนว่าปัญหามันมีตามมาแน่นอน ถ้าเพื่อนของเขาไปมีพันธะกับแม่สาวหน้าหวานคนนั้น
“เดี๋ยวก็มีปัญหาตามมา ถ้าคู่หมั้นแกรู้ รับรอง! ไม่ตายก็คางเหลือง” ไม่ใช่ขู่ หากว่าเป็นความจริง เพราะแอริต้าเป็นประเภทขี้หึง บรรดาคู่ขาเก่าของการ์โลเน่แม่คุณจัดการเรียบ แล้วแม่สาวหน้าหวานพันธุ์เอเชียนี่ล่ะ เธอจะรอดเหรอ...
“ไม่ตายหรอก” คำตอบที่พ่นออกมาแฝงไปด้วยความลังเลใจ เมเทียสได้ยินแล้วได้แต่ส่ายหน้า จากนั้นจึงเอ่ยเตือนกับเพื่อนสนิทด้วยความเป็นห่วง
“แกน่ะไม่ตาย แต่ผู้หญิงคนนั้นน่ะไม่รู้โว้ย ก็แม่ริต้านั่นออกจะหึงโหด แถมยังตามราวีผู้หญิงทุกคนที่แกเคยควงด้วย” ข้อนี้การ์โลเน่รู้ดี แต่เขาไม่สน
ส่วนพ่อหนุ่มเมเทียส แม้นจะไม่ชอบคู่หมั้นเพื่อนอยู่นัยๆ แต่ใช่ว่าเขาอยากให้สองคนมีปัญหากัน และอีกอย่างมันที่เขาทำเช่นมันก็ไม่ใช่หาช่องทางให้ตนเองเพื่อจะได้ชิดใกล้กับแม่สาวหน้าหวานคนนั้น เพราะเขาถอนตัวตั้งแต่ รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงของเพื่อนแล้ว
ถึงจะสวยหยาดฟ้ามาดินเขย่าหัวใจแค่ไหน แต่คำว่า ‘เพื่อน’ มันทำให้เขาเลิกชอบและเลิกประทับใจได้ เพราะกฎสำหรับเขาคือ จะไม่แตะต้องของของเพื่อนเป็นอันขาด ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม
“ขอบใจสำหรับความปรารถนาดีแต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะพวกเขาต่างคนต่างอยู่”
“หึ!” แสยะยิ้มใส่ และเมื่อเห็นสีหน้าและแววตาเคร่งเครียดของเพื่อน ปากหยักจึงเอ่ยยวนกวนพระบาทตามนิสัย
“แล้วไม่คิดจะแนะนำให้รู้จักอย่างเป็นทางการหรือวะเพื่อน”
“ไม่!” คำปฏิเสธพ่นออกมาโดยเร็วพลัน แต่ครั้นอีกคนกลับไม่ยี่หระ ซ้ำยังยวนทับต่อไปอีก
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันมาใหม่ มาทำความรู้จักกับเธอเป็นการส่วนตัวก็ได้”
ได้ยินแล้วการ์โลเน่แทบจะกระชากเอามัจจุราชร้ายมากราดกระสุนใส่กบาลมันยิ่งนัก ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนและโตมาด้วยกัน เขาจัดการไปนานแล้ว แต่คนมาดขรึมและเข้มก็มิวายเลิกข่มขู่ “เดี๋ยวพ่อจะกุดหัวซะเลย”
“ฮ่าๆ” สารวัตรหนุ่มระเบิดเสียงหัวเราะอย่างถูกอกถูกใจ แล้วจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงใสซื่อจนคนได้ยินหมั่นไส้สุดๆ
“ฉันอยากรู้จักเธอจริงๆ นะ”
“หน้าตาแกนี่มันโคตรน่าเชื่อถือมากเลยว่ะ”
“ฉันอยากรู้จักเธอจริงๆ” ได้ยินไอ้เพื่อนเวรนรกเอ่ยซ้ำบ่อยครั้ง เจ้าพ่อหนุ่มจึงบอกปัดไปด้วยน้ำเสียงห้วนกระด้าง
“เอาไว้โอกาสเหมาะๆ แล้วกัน”
“หวงชะมัด”
การ์โลเน่ได้ยินเพื่อนเอ่ยแต่ไม่ได้ว่าอะไร เพราะต่อปากต่อคำ กับสารวัตรนิสัยประหลาดอย่างเมเทียสนี่คงไม่ได้หยุดง่ายๆ เห็นเช่นนั้น เจ้าพ่อหนุ่มจึงเบี่ยงประเด็นมาชวนคุยเรื่องงานแทน