บทที่ 5

1314 Words
คุณหมอสาวจัดการฉีดยาแก้ไข้และคอยดูแลเอมอรอยู่ตลอดทั้งวันอย่างเป็นห่วง ก่อนที่เธอจะปล่อยให้หน้าที่ดูแลเด็กสาวเป็นของป้าบัวแทนเพื่อที่จะลงมานั่งรอคอยการกลับมาของใครบางคนที่กว่าจะกลับมาถึงบ้านก็เย็นย่ำเข้าไปแล้ว รอยยิ้มที่ไม่ค่อยจะยอมส่งมันให้กับใครคนไหนได้ง่ายๆ มาก่อนของเมฆาระบายขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ามีใครบางคนกำลังยืนรออยู่ในตัวบ้าน ใครบางคนที่มีความสำคัญจนเขาให้สิทธิ์เธอเดินเข้าออกในไร่ตามสะดวก และยังให้ทุกคนเคารพเธอเช่นเดียวกัน “อ้าวนางมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วนี่กินอะไรมา…” ยังไม่ทันจะได้ถามจบฝ่ามือน้อยๆ ของคุณหมอก็ฟาดลงบนแก้มของคนที่เธอเรียกว่าเพื่อนเข้าเต็มแรงท่ามกลางความตกอกตกใจของเหล่าสาวใช้ภายในบ้านกับภาพที่เห็นเจ้านายถูกตบจนหน้าหัน “นี่มันอะไรกันนาง! ตบผมทำไม!” เมฆาย้อนถามเพื่อนรักสาวด้วยความไม่เข้าใจที่ถูกอีกฝ่ายตบหน้า ทั้งๆ ที่นงนางไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับเขามาก่อน นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตตั้งแต่รู้จักกันเลยก็ว่าได้ที่เขามีโอกาสได้เห็นความโกรธในตาของเธอ “นางสิที่ต้องเป็นฝ่ายถามว่าทำไมเมฆถึงได้ทำกับอรแบบนั้น! เด็กคนนั้นเป็นคนนะเมฆไม่ใช่สัตว์!” แม้ปากจะว่าออกไปแบบนั้นแต่สภาพของเอมอรที่ได้เห็นมันกลับทำเธอรู้สึกว่าเด็กสาวผู้น่าสงสารคนนี้ไม่ต่างอะไรจากสัตว์บาดเจ็บเลยสักนิด จริงอยู่ที่ว่าเอมอรอาจจะผิดจริงดั่งคำที่ใครต่อใครพากันเล่า แต่เธอเชื่อว่าเด็กท่าทีใสซื่อดูไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อใครคนนั้นจะต้องมีเหตุผลสำคัญที่ยังไม่ได้บอกให้ใครได้รู้แน่ ว่าทำไมเธอถึงยอมร่วมมือกับพี่สาวทรยศหักหลังเมฆาแทนที่จะปกป้องเขาเหมือนที่เคยแอบทำไม่ให้ใครได้เห็นมัน เอมอรต้องมีเหตุผลที่ดีพอแน่ๆ “หึ! นี่ใครไปฟ้องเข้าอีกล่ะ!!” คนถูกตบจนหน้าชาไปข้างเอ่ยถามพร้อมกัยยิ้มเยาะเย้ย สายตากวาดมองไปรอบๆ อย่างเอาความ ไม่ว่าจะเป็นใครหลังจากนี้คงต้องมีเรื่องคุยกับเขายาวเลยทีเดียวที่กล้าเอาเรื่องในบ้านไปพูดต่อกันแบบนี้ ถึงอีกฝ่ายจะเป็นเพื่อนสนิทของเขาก็เถอะ อย่างไรนี่ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำเพราะเขาไม่ได้สั่ง และไม่มีวันสั่ง เพราะนี่มันเรื่องส่วนตัวของเขา! “นางมีตาไม่ต้องมีใครฟ้องหรอก เมฆใจร้ายมากเลยรู้ตัวไหมที่ทำแบบนี้กับเด็กคนนั้น!” คุณหมอสาวยังคงไม่ยอมแพ้ แม้จะรู้ว่าเพื่อนรักของเธอดุดันและน่ากลัวมากแค่ไหนแต่เธอกลับไม่ได้หวั่นเกรงต่อสิ่งเหล่านั้นของเขาเลยแม้แต่น้อยเพราะรู้ดีว่าเมฆาจะไม่มีวันทำร้ายเธอ แต่สิ่งที่อยากจะรู้ไม่หายในตอนนี้คืออะไรทำให้เขาขาดสติได้ถึงขนาดข่มเหงรังแกคนไม่มีทางสู้แบบนั้นได้ ไม่อยากเชื่อเลยว่าคนอย่างเมฆาจะใจร้ายได้ถึงเพียงนี้ “แล้วสิ่งที่พวกมันทำกับผมล่ะ! หรือคุณคิดว่าผมควรจะปล่อยให้คนผิดลอยนวลทั้งที่พวกมันทำระยำกับผม!!” “นางไม่ได้จะห้ามเมฆให้ทำโทษคนผิด แต่การทำโทษด้วยวิธีแบบนี้นางไม่เห็นด้วยเลยสักนิด โดยเฉพาะการข่มขืนที่อีกฝ่ายไม่ได้เต็มใจยิ่งไม่สมควรทำ มันจะส่งผลต่อจิตใจคนถูกกระทำมากรู้ไหม นางเป็นหมอ นางยอมไม่ได้ที่เห็นเพื่อนนางทำแบบนี้กับคนอื่น” นงนางว่าตอบโดยให้เหตุผลในทางตัวเอง “แล้วนางจะเอายังไง จะแจ้งตำรวจมาจับผมรึไง!” เมฆาประชดขึ้น นึกคาดโทษแม่ตัวดีที่จนป่านนี้ก็ไม่รู้หายหัวไปไหน นี่คงจะบีบน้ำตาเรียกร้องความเห็นอกเห็นใจกับเพื่อนเขาเป็นแน่นงนางที่แสนน่ารักของเขาถึงได้ดูเป็นเดือดเป็นร้อนแทนได้ถึงขนาดนี้ ชายหนุ่มคิดเองว่าคงเป็นแบบนั้น เพราะคงไม่มีใครกล้าทำรอให้เขาจัดการตรงนี้ก่อนเถอะเธอจะเป็นรายต่อไป! “นางไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอกเมฆ แต่นางอยากจะขอร้องให้เมฆเลือกระหว่างความสัมพันธ์ฉันเพื่อนของเราสองคนที่ต้องยุติลง! หรือว่าเมฆจะรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำด้วยการแต่งงานกับเอมอร!” นงนางยื่นคำขาดเสียงแข็ง เธอจะไม่ยอมให้เรื่องนี้ผ่านเลยโดยที่ไม่ลองทำอะไรสักอย่างเพื่อความถูกต้อง อย่างน้อยเมฆาควรต้องรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองทำกับเอมอรไม่ว่าจะทางใดก็ทางหนึ่ง เขาควรต้องทำอะไรสักอย่าง! “นาง!!” “เมฆเลือกเอาเองก็แล้วกันนะ วันนี้นางคงขอตัวกลับก่อน หนูลากลับก่อนนะคะป้าบัว ฝากดูแลเอมอรด้วยนะคะ ถ้ามีอะไรโทรหาหนูได้ตลอดเวลาเลยนะคะ” หญิงสาวตัดบทโดยไม่รอฟังคำทัดท้านใดๆ จากเจ้าของบ้านก็รีบพาตัวเองเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้แต่เมฆาที่กวาดสายตามองทุกๆ คนอย่างเอาเรื่องก่อนจะตะเบ็งเสียงถามหาคนที่เขาอยากจะจัดการก่อนใครเพื่อนมากที่สุดออกไปท่ามกลางสายตาตื่นตระหนกของทุกๆ คน “เอมอรอยู่ไหน!!” “คุณเมฆคะ! ป้าขอล่ะคะอย่าทำอะไรนังอรมันอีกเลย แค่นี้มันก็บอบช้ำเจียนตายแล้วนะคะ” นางบัวเอ่ยขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ นางไม่กล้าบอกเจ้านายที่กำลังหัวเสียหนักว่าตอนนี้ร่างที่นอนไม่ได้สติมาทั้งวันของเอมอรถูกย้ายไปไว้ที่ไหน “ผมถามว่าเอมอรอยู่ที่ไหน!! ป้าบัวจะมาเข้าข้างคนผิดด้วยความสงสารแบบนี้ไม่ได้นะครับ! ป้าเลือกเอาเองก็แล้วกันว่าจะบอกผมดีๆ หรือว่าจะเก็บข้าวของแล้วย้ายออกไปจากที่นี่! ต่อให้จะเป็นคนเก่าคนแก่ผมก็ไม่ละเว้นหรอกนะครับ!” น้ำเสียงเหี้ยมเกรียมของชายหนุ่มไม่ได้ทำให้หญิงสาวชราหวาดกลัวแต่อย่างใด กลับกันนางกลับห่วงเอมอรเสียมากกว่าว่าถ้าหากขาดนางไปสักคนเด็กคนนั้นก็คงไม่แคล้วถูกใครต่อใครจ้องทำร้ายเข้าอีก หากต้องเลือกนางเลือกที่จะเปิดปากบอกเขาว่าเธออยู่ที่ไหนเพื่อที่ตัวเองจะได้อยู่ที่นี่ต่อเพื่อช่วยเด็กคนนั้น “ป้ากับคุณนางช่วยกันพามันไปนอนที่ห้องเดิมของมันแล้วค่ะ หมดสติไปทั้งวันป่านนี้ยังไม่ฟื้นเลย มันคงไม่มีแรงตื่นมาฟ้องอะไรใครได้หรอกค่ะ” เมฆาไม่ได้คิดใส่ใจต่อประโยคนั้นสักเท่าไหร่เพราะทันทีที่ได้รู้ว่าแม่ตัวดีตอนนี้อยู่ที่ไหนเขาก็เดินตรงไปยังเรือนสาวใช้พร้อมกับอารมณ์ที่พร้อมระเบิดได้ตลอดเวลาทันที กระทั่งมาถึงจุดหมายก็ไม่รีรอที่จะกระชากประตูเปิดเข้าไปพร้อมฉุดเอาคนที่กำลังหลับไม่ได้สติให้ลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากันอย่างรุนแรงจนร่างบอบบางของเอมอรสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจก่อนจะครางชื่อคนตรงหน้าเบาๆ เมื่อเห็นชัดเต็มสองตาว่าใครคือคนกระชากเธอ… “คะ…คุณเมฆ!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD