ตอนที่ 2 บังเอิญหรือโลกมันกลม
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา”
แค่ได้ยินเสียงหัวใจเจ้ากรรมก็เต้นแรงขึ้น คิดถึงไหมนะความรู้สึกแบบนี้ อันนาเปิดประตูเข้าไปอย่างตื่นเต้นราวกับสาววัยรุ่นตามจีบหมอดีกรีไม่ธรรมดาแต่เปล่าเธอมีประสบการณ์และอายุใกล้จะสามสิบแล้วด้วย
“ไอ้พี่หมอ...ภู” คนสวยยกมือปิดปากอยากเขกมะเหงกใส่หัวตัวเองนักเธอโพล่งออกไปแบบนั้นได้ยังไง
“ไม่ต้องมีพี่ก็ได้นะ”
“ไอ้หมอภู” กระพริบตาขึ้นลงสองครั้งถ้วน
“นี่เธอ!”
ศัลยแพทย์หนุ่มหล่อตวัดสายตาดุๆไปทางประตูห้องซึ่งมีแขกไม่ได้รับเชิญยืนยิ้มอยู่
“ก็พี่หมอบอกเอง” อันนาเถียง
“ประชด”
“อ้อเหรอคะ”
“มาทำไม”
“หัวใจสั่งให้มาค่ะ”
“น้ำเน่า”
“พี่หมอ!” อันนาหน้าเหวอไม่คิดว่าผู้ชายตรงหน้าจะปากร้ายขนาดนี้ ใช่แหละก็เขาเป็นหมอที่ปากร้ายจริงๆ ไม่เป็นไรถึงร้ายก็รักค่ะ
“ผมจะไปทำงานแล้ว”
“พี่หมอออกเวรเถอะ”
คุณหมอสุดหล่อเผลอเงยหน้าสบตานางแบบสาวนิดหน่อยแต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาเลือกที่จะโกหกเธอเพราะไม่อยากเจอคนตรงหน้าจริงๆ
“คุณกลับมาทำไมอีก ถ้าตอบว่าหัวใจสั่งให้มาผมจะโทรเรียกรปภ. เดี๋ยวนี้”
ริมฝีปากบางหยักสีชมพูค่อยๆหุบลงก็เขาเล่นพูดดักเธอขนาดนี้
“มาจีบไงคะ”
“ไร้สาระ”
“จริงใจนะขอบอก”
คุณหมอส่ายหน้าเก็บของต่ออีกเล็กน้อยก่อนจะเดินผ่านอีกคนไปหน้าตาเฉย
“แค่มาบอกให้รู้ ฉันจะจีบหมอภูจริงๆแล้วนะคะ!” อันนาตะโกนก้องจนคนที่กำลังจะเปิดประตูต้องชะงัก ค่อยๆเอี้ยวหน้าหันมามอง
“แล้วที่ผ่านมา?” ตาจ้องมองคนตรงหน้าคิ้วข้างหนึ่งก็เลิกขึ้นสูง
“ขำขำ”
“ยัยบ้า”
“แฮร่!” เธอยิ้มสวยเมื่อเจอเข้ากับสายตาพิฆาตที่มองมา เขายังไม่วายจิ๊ปากใส่เธออีกครั้งก่อนจะเปิดประตูออกไปเลย
เมื่อก่อนฉันแค่จีบหมอภูเล่นๆขำๆเหมือนคนที่ไม่อยากมีเวลาว่างแล้วมานึกได้ว่าการตามจีบเขามันก็สนุกดีเหมือนกันถามว่าชอบไหมก็ชอบยืนยันว่าชอบแต่เดิมทีก็ไม่คิดว่าเขาจะสนใจตัวเองหรอกเพราะถามๆมาแล้วคุณหมอคนนี้หิ้วผู้หญิงขึ้นเตียงทุกอาชีพนอกจากอาชีพที่เธอเป็นอยู่ เลยเผื่อใจไว้ห้าสิบห้าสิบสุดท้ายก็มีคนมาปาดหน้าเค้กคุณหมอไปนั่นก็คือรักแรกของเขา เจ็บนะอย่าว่าไม่เจ็บแต่ทำไงได้ก็เขาไม่เลือกนี่น่า
ลองดูอีกสักครั้งถ้าครั้งนี้มันล้มเหลวเธอขอออกจากวงการหมอที่คบมาทั้งชีวิต
เธอสาบาน!
อ่ะ ล้อเล่น
“พี่หมอรออันด้วย” นางแบบสาวรีบสับขาเข้ามาเดินเคียงคู่กับคุณหมอรูปหล่อ “ไปทานข้าวกันไหมคะ?”
“ไปครับ แต่ไม่ไปกับคุณ” อุตส่าห์ใจชื้นขึ้นมาแล้วแต่ก็ต้องหน้าบูดบึ้งลงอีกครั้ง
“คุณอันนาผมไม่มีทางชอบคุณ และเร็วๆนี้ผมต้องหมั้นแล้ว” ภูธาราหยุดเดินแล้วหันมาพูดกับคนที่ตามตัวเองมาติดๆ
“หมั้น?” ความจริงที่ได้รับรู้ทำเอาอันนานิ่งงันไปทันที เอาอีกแล้วเธอจะอกหักอีกแล้ว
“ครับ ผมต้องแต่งงานแล้ว”
“คนคนนั้นไม่ใช่อันสินะคะ” เธอตัดพ้อเสียงเศร้ารอบนี้พึ่งจะเริ่มเธอก็กินแห้วไปอีกลูก
“ครับ ผมไม่ชอบคุณรวมถึงอาชีพที่คุณทำด้วย” แม้ไม่รู้ว่าเขาจงเกลียดจงชังอาชีพเธอนักหนาเพราะอะไรแต่อันนาก็ก้มหน้ายอมรับ
“เข้าใจแล้วค่ะ” ภูธาราปลายตามองนางแบบสาวอีกครั้งพยักหน้าเบาๆก่อนจะสาวเท้าเดินออกไปทันที
สุดท้ายก็ต้องกลับมานั่งปาดน้ำตาที่ห้องเย็นนี้มีนัดกับครอบครัวซึ้งอันนาก็ตกลงที่จะไป ชุดและช่างแต่งหน้ามาถึงห้องแล้วไม่รู้ว่าแค่กินข้าวธรรมดาทำไมคุณแม่เธอถึงต้องนัดลูกๆไปพร้อมหน้ากันแต่ในตอนที่ว่างอันนาก็อยากไปเจอแม่บ้างเหมือนกัน ก็ดีจะได้ไม่ต้องคิดฟุ้งซ่านอะไรไปมากกว่านี้ถ้ายัยเดมรู้คงหัวเราะเยาะเธอแน่หลังจากถูกผู้ชายคนเดิมทิ้งไปสองครั้งถ้วนในเวลาไม่กี่เดือน
แต่งหน้าแต่งตัวเสร็จก็ปาไปเกือบถึงเวลานัดอันนารีบย้ายตัวออกจากห้องก่อนที่แม่จะโทรมาสวดให้ไม่อยากโดนบ่นนักวันนี้กะว่าจะเป็นลูกที่ดีสักหน่อยการที่แม่กำชับให้แต่งตัวดีๆ ห้ามเด็ดขาดคือแหวกตรงนู้นปาดตรงนี้ ชุดที่ได้มาคือแบรนด์ชื่อดังเป็นชุดเดรสดูเรียบๆแต่พอมาอยู่บนร่างกายอันเพอร์เฟ็กของเธอมันกลับดูไม่เรียบอีกต่อไป
ฉันเดินเข้ามาในร้านอาหารที่จองไว้นั่นก็คืออาหารแบบตั้งโต๊ะตัวใหญ่นี่แม่เธอจะเล่นงานใครในบรรดาลูกทั้งสามคนหรือเปล่าบ้านเรามีแค่ห้าชีวิตแต่โต๊ะที่จองไว้มันเกินไปมาก รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลแปลกๆ คงไม่ได้มาจับคู่ให้เธอเหมือนในหนังที่รับบทหรอกนะ
“มาแล้วเหรออันนาเข้ามาสิเอ็มม่ามาตั้งนานแล้ว”
คุณนายแพทย์เพชรรดากวักมือเรียกบุตรสาวคนโตซึ่งก็คือแฝดผู้พี่ส่วนแฝดผู้น้องคือ ‘เอ็มม่า’ รายนี้ก็ซุปเปอร์สตาร์เหมือนกันแต่เดินสายละครอย่างเดียวไม่รับงานเดินแบบเหมือนผู้พี่
“แม่จะทำอะไรบอกหนูมานะ” ด้วยความที่สนิทกับแม่มากๆอันนาเดินเข้าไปใกล้ปากก็เอ่ยถามสถานการณ์ในวันนี้มันดูแปลกแบบที่เธอไม่ได้คิดไปเอง
“พวกหนูต้องช่วยแม่นะ เข้าใจไหม” สองสาวขมวดคิ้วใจเต้นตุ้มๆต่อมๆแล้วตอนนี้ “แต่ให้ช่วยอะไรถึงเวลาแม่จะบอกเอง”
ผ่านไปเพียงสิบนาทีอันนาก็ถึงบางอ้อแม่กำลังจับคู่ให้พี่ชายของเธอนี่เอง แต่ทำไมไม่จับคู่ให้เธอนะเพราะผู้ชายที่นั่งฝั่งตรงข้ามเธอในตอนนี้คือพี่หมอภูนั่นเอง....
บังเอิญในบังเอิญไหมล่ะ พึ่งจะแยกกันเองนะ
อันเดรวถูกแม่จับให้ไปนั่งใกล้กับผู้หญิงใบหน้าสะสวยแต่ฉันรู้สึกคุ้นหน้าเหมือนเคยเจอแต่คิดไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหนแค่นี้ก็รู้แล้วว่าแม่ต้องการจับคู่ให้พี่กับผู้หญิงคนนั้นมองดูแล้วน่าจะรุ่นน้องเธออยู่
“โอเคมาครบกันแล้วใช่ไหม นี่คุณหญิงเพื่อนแพงเป็นเพื่อนรักแม่เอง” คุณหญิงเพชรรดาพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
บทโลกจะกลมมันก็กลมเกินไป๊!!
“สวัสดีค่ะ/ครับ” สามพี่น้องยกมือไหว้เพื่อนรักของแม่อย่างนอบน้อม
“ดีจ้ะลูกๆ หน้าตาดีกันทุกคนเลย โดยเฉพาะสอง
สาวแม่เห็นบ๊อยบ่อยในจอทีวี” คุณหญิงเพื่อนแพงมองมาที่ซุปเปอร์สตาร์ทั้งสองสายตาปลาบปลื้มอย่างหนัก ถ้าได้มาเป็นลูกสะใภ้สักคนคงจะดีไม่น้อย “มีใครมีสเปกเป็นคุณหมอไหม ลูกชายแม่เป็นหมอทั้งสองคนเลยนะ”
อันนาคิ้วกระตุกสเปกหมอไหมนั่นเธอไม่รู้รู้แต่ว่าตามจีบลูกชายคุณแม่มาแรมปีมากสุดลูกชายแม่ให้ได้แค่กอด...กอดทีเผลออ่ะนะ
ฉันเชื่อแล้วว่าความบังเอิญมันมีจริง เดิมทีครอบครัวฉันก็เป็นครอบครัวหมอแม่เป็นเจ้าของโรงพยาบาลและพี่ชายก็เป็นศัลยแพทย์มือดีหาตัวจับได้ยาก พ่อเลี้ยงก็เป็นเพื่อนที่เป็นหมอของแม่อีกทีแต่วันนี้ติดเคสแบบด่วนจี๋กำลังจะเดินเข้ามาในร้านอาหารก็ต้องวิ่งออกไป แต่ฉันไม่เคยรู้ว่าแม่เป็นเพื่อนกับเจ้าของโรงพยาบาลใกล้ๆกัน กินข้าวไปเล่าไปพอจับความได้ก็คือแม่และเพื่อนแม่เรียนด้านนี้มาด้วยกัน ครอบครัวฉันเปิดโรงพยาบาลมาตั้งแต่รุ่นตาเหมือนกับอีกครอบครัวที่เปิดโรงพยาบาลมาในเวลาไล่เลี่ยกัน และสัญญาบางอย่างก็ได้เกิดขึ้นในรุ่นนั้น
ปู่ของหมอภูและคุณตาของฉันเป็นเพื่อนรักกัน เคยสัญญาปากเปล่าว่าถ้าครอบครัวฉันมีแพทย์มือดีก็จะให้แต่งงานกับครอบครัวหมอภู ซึ่งควรจะเป็นแม่ฉันที่ต้องตกแต่งแต่แม่ดันไปแต่งงานชาวต่างชาติภาระหน้าที่นี้เลยตกมาอยู่ที่พี่ชายฉันซึ่งเป็นลูกชายคนโตของแม่
“น้องสวยไหมลูก” คุณหญิงเพชรรดาเอ่ยถามลูกชายหน้าบานกว่าจานดาวเทียมเสียอีกตอนนี้
ส่วนน้องสาวทั้งสองได้เพียงยิ้มเหยเพราะไปล่วงรู้ความลับมาอย่างของพี่ชายมา
ดูท่าผู้หญิงที่แม่จะให้แต่งด้วยนั่นก็คือ ‘คู่นอน’ ของพี่ชายฉันเอง พี่ชายไม่ได้ชอบคนนี้ค่ะแม่พี่ชายชอบเพื่อนคนนี้ต่างหาก
เฮ้อ....