แสงระวีแอบบุ้ยปากเมื่อเห็นรถเก๋งคันใหญ่แล่นเข้ามาจอดที่ท่าเรือและมองเห็นร่างสูงของผู้ชายที่ก้าวลงจากรถแต่ไกล มาแล้วหรือพ่อเทพบุตรสุดรักของคุณหญิงชนัดดา ถึงไม่เห็นหน้าตาชัด ๆ ก็รู้เลยว่าต้องเป็นผู้ชายเจ้าสำอางมากเรื่องและที่สำคัญยังปากจัดชอบดูถูกผู้หญิง
“สวัสดีครับคุณปราบ...ไปกันเลยไหมครับ?”
คนขับเรือเอ่ยถามเจ้าของร่างสูงที่เดินมาหยุดอยู่ใกล้ที่ที่แสงระวียืนอยู่ ทันทีที่หญิงสาวหันกลับไปมองเขา ริมฝีปากที่แอบบิดบุ้ยกลับเผยอออกเมื่อได้เห็นหน้าผู้ชายคนนั้นชัด ๆ
“เธอหรือ ชื่อแสงระวี?”
คำถามแรกที่หลุดออกมาจากปากเจ้าของใบหน้าคร้ามเข้มและเรือนร่างอันสูงสง่าดึงสติของหญิงสาวกลับคืนมา ริมฝีปากที่อ้าค้างหุบลงในทันใด เธอแสร้งทำหน้าเฉย ๆ และตอบ
“ค่ะ...ฉันชื่อแสงระวี เรียกฉันว่าเรย์ก็ได้ค่ะ”
ปราบมองหน้าคนที่มารดาของเขาต้องการให้ไปอยู่ช่วยดูแลงานบ้านและอาหารการกินในที่พักด้วยแววพินิจเล็ก ๆ เด็กจบใหม่ที่คุณหญิงชนัดดากล่าวถึงสวยน่ารักไม่ใช่เล่น แต่เขาก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจแถมชักสีหน้าบึ้งตึงใส่เสียอย่างนั้น
“แม่ฉันบอกว่าเธอพึ่งเรียนจบ คิดดีแล้วหรือที่จะไปอยู่บนเกาะห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่มากขนาดนั้น”
“ฉันอยู่ได้ค่ะ” แสงระวีตอบทั้งที่ขัดใจลึก ๆ
“ที่นั่นไม่สนุกหรอกนะ”
“ฉันอยู่ได้ค่ะ”
“และเธอก็จะไม่ได้เจอใครด้วย...ฉันหมายถึงผู้ชาย”
“ฉันอยู่ได้ค่ะ”
“พูดคำอื่นเป็นบ้างรึเปล่านี่ ที่ที่เธอจบมาสอนเธอมาแค่นี้รึไง! ”
ปราบชักหัวเสีย หน้าตาหล่อเหลาของเขาดุดันขึ้นเมื่อรู้สึกเหมือนแสงระวีกำลังยียวนกวนประสาทเขาอยู่ หญิงสาวไม่ได้โต้ตอบอะไรอีก แต่นึกสะใจที่ทำให้เขาออกอาการหงุดหงิดได้ในเช้านี้
“ลงเรือเถอะ ฉันเสียเวลามากมาพอแล้ว”
เขาพูดแล้วเดินจ้ำอ้าวไปยังท่าที่เรือจอดรออยู่ แสงระวีแลบลิ้นตามหลังออกมานิดหนึ่ง ผู้ชายอะไรเจ้าอารมณ์และดูเหมือนจะไร้เหตุผลเสียด้วย เธอจะไม่ยอมแพ้เขา หญิงสาวนึกก่อนจะเดินตามเขาลงเรือ
เรือลำใหญ่แล่นออกไปสู่ท้องทะเลกว้าง มันห่างจากฝั่งออกไปเรื่อย ๆ กระทั่งรอบตัวเห็นแต่เวิ้งน้ำสีน้ำเงินครามรายรอบ แสงอาทิตย์ที่แผดจ้าทำให้แสงระวีต้องหลบเข้าไปในนั่งอยู่ภายในเคบิน
บนเรือลำนั้นมีเพียงคนขับเรือที่อยู่หลังพังงาเรือ ตัวเธอและผู้ชายเจ้าอารมณ์ที่ยืนไม่กลัวแดดจัดที่หัวเรือ บ่อยครั้งที่แสงระวีเหลือบมองเขาอย่างอดใจไม่ได้ เธอค้นพบสิ่งหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังหน้าตาดุดันและอารมณ์ร้าย นั่นคือความหล่อเหลาและร่างกายอันบึกบึนเกินมาตรฐานชายไทยที่ทำให้เธอใจสั่นระรัว
ตั้งแต่เป็นสาวจนเรียนจบจากมหาวิทยาลัยก็แทบไม่มีผู้ชายเข้ามาวอแวเกาะแกะ เพราะเธอตั้งหน้าตั้งตาเรียนหนังสือและตั้งเป้าหมายว่าจะต้องเรียนจบให้ได้อย่างให้ครอบครัวต้องอายใคร ทั้งตั้งใจว่าจะออกหางานทำทันทีที่เรียนจบ แต่กลับได้รับโทรศัพท์จากยายของเธอว่าให้มาช่วยงานคุณหญิงชนัดดาผู้มีพระคุณสักพัก
เธอไม่ได้ถามว่าเป็นงานอะไร และคำว่าสักพักมันจะนานแค่ไหน กระทั่งวันนั้นที่แม่พร้อมให้เธอเข้าไปพบคุณหญิงแต่กลับได้ยินคำพูดของปราบเข้าไปเต็มสองรูหู
ถึงเขาจะหล่อเหลาแค่ไหน แต่ก็เป็นผู้ชายที่ดูเหมือนไม่ให้เกียรติผู้หญิงสักเท่าไหร่ ดุก็เท่านั้น ปากร้ายก็เท่านั้น แสงระวีเริ่มคิดแผนในใจ เธอก็อยากพิสูจน์อะไรบางอย่างอยู่เหมือนกัน
“ถึงแล้วครับ หนูแสงระวี”
เสียงนายโชติคนขับเรือทำให้ร่างแน่งน้อยที่หลับอยู่ในท่านั่งพิงอยู่กับกระเป๋าเดินทางภายในเคบินสะดุ้งตื่น แสงระวีขยี้ตาและมองไปรอบ ๆ ก็เห็นทัศนียภาพของเกาะมายาวีแสนสวยที่รายล้อมไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้าคราม เธอมองหาปราบก็ไม่เห็นว่าเขาอยู่ในเรือแล้ว และพอมองออกไปอีกทีก็เห็นเขาเดินลิ่ว ๆ ขึ้นไปบนเนินเขาซึ่งมีบ้านทรงบังกะโลอยู่ด้านบนนั้น
“ผมยกกระเป๋าให้ครับ...ดูโน่น คุณปราบเดินไปถึงบ้านของท่านแล้ว แหม...คนหนุ่มนี่อารมณ์ร้อนจริง ๆ นะครับ โดยเฉพาะคุณปราบนี่ แกทำอะไรแบบมาไวไปไวเสมอ”
นายโชติพูดยิ้ม ๆ แต่แสงระวีไม่นึกอย่างที่คนขับเรือพูด เจ้าอารมณ์ล่ะไม่ว่า ผู้ชายอะไรช่างแล้งน้ำใจแทนที่จะช่วยเธอขนกระเป๋า ถึงแม้เธอจะตามเขามาในฐานะของคนที่ต้องช่วยดูแลงานในบ้านก็เถอะเขาน่าจะแสดงน้ำใจบ้างสักเล็กน้อย
ฮึ! ช่างไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย
แสงระวีนึกไปพลางก็หยิบข้าวของของตัวเองเดินตามนายโชติไปยังบังกะโลบนเนินที่มองไปเห็นแนวหาดทรายขาวนวลตัดกับน้ำทะเลสีครามใส นี่หรือเกาะอันเป็นที่ตั้งของมายาวี รีสอร์ท เธอเห็นบังกะโลเล็ก ๆ ปลูกอยู่ห่างกันออกไปเพียงไม่กี่หลัง ดูกลมกลืนกับธรรมชาติที่ยังคงพิสุทธิ์บนเกาะแสนสวยซึ่งอยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ที่ต้องนั่งเรือออกมาไกลกว่าค่อนวัน
เมื่อขนกระเป๋ามาถึงบังกะโลของเจ้านาย นายโชติก็ปลีกตัวออกไปและพาเรือลำใหญ่ของเขาแล่นกลับอย่างรวดเร็ว หญิงสาวยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่กลางห้องรับแขกกระทั่งเจ้าของร่างสูงใหญ่ก้าวตามเข้ามา
“เธอต้องไปพักอยู่ที่บังกะโลอีกหลัง อยู่ใกล้ ๆ กันนี่แหละ”
ปราบกล่าวขึ้นขณะมายืนมือล้วงกระเป๋าอยู่ที่ประตู แสงระวีย่นคิ้วก่อนถาม
“บังกะโลอีกหลังหรือคะ...แล้วคุณไม่เอามันไว้ใช้รับแขกหรือคะคุณปราบ?”
“ช่วงนี้ยังไม่มีแขกเข้ามาพัก มันเป็นช่วงหน้ามรสุม นี่นับว่าโชคดีเท่าไหร่แล้วที่เธอมาตอนทะเลสงบ ถ้ามีคลื่นล่ะก็รับรองได้ว่าต้องร้องขอฉันกลับไปหานมพร้อมวันนี้แน่”