ด้านหลังที่เดินตามทั้งสามคนต่างก็ยิ้ม ไม่น่าเชื่อว่าหลายเดือนก่อนจะเป็นคนที่เคยมีปัญหาทะเลาะวิวาทกันจนถูกทำโทษมาแล้ว กลางดึกหน้าเรือนพัก หลีเหยียนฉือถือกระบี่ร่ายรำท่าทางที่อาจารย์หงสอนไม่ประติดประต่อเห็นได้ชัดว่าจำไม่ได้ “เจ้าลืมอีกแล้วสินะ” ฟ่านหงอี้ลุกขึ้น เดินไปใช้กิ่งไม้ไผ่แทนกระบี่ทำท่าทางให้เขาดูอย่างไม่รีบร้อน ส่วนเหวินปิงฉีค่อยกำกับอยู่ด้านข้างทำสองรอบ ทั้งสองก็กลับมานั่งบนม้าหินดูเขาทบทวนด้วยตนเอง “นั่นแหละ ถูกแล้ว” “ข้าจำได้แล้ว” “เจ้าทำแบบนี้อีกสักสิบรอบ เช้าจะได้ไม่ลืม” “ข้าหมดแรงแล้วนะ ท้องข้าก็ร้องแล้วด้วย” “โรงครัวปิดแล้ว นี่มันเวลาอะไร ทนเอาหน่อยสิเป็นลูกผู้ชายเสียเปล่า เอ้า สิบรอบเร็วเข้า” “เจ้าหวินปิงฉีใจร้าย” ฟ่านหงอี้หยิบเหยือกเงินด้านในมีนมแพะออกมาวางบนโต๊ะ รอจนหลีเหยียนฉือทบทวนครบสิบรอบ “ข้ามีนมแพะ เจ้าดื่มแก้หิวได้” “เจ้าเสกมาหรือไง ข้ารักเจ้าที่สุดเลยฟ