ตอนที่ 4.

1471 Words
ผู้คนที่เข้ามาชมมีหลากหลายเชื้อชาติ ส่วนหนึ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่มากับกรุ๊ปทัวร์ สังเกตจากธงในมือไกด์ที่คอยโบกเรียกให้ลูกทัวร์มานั่งในที่นั่งที่จองไว้ ช่างภาพหนุ่มลดกล้องลงเมื่อเห็นว่าได้ถ่ายภาพไปพอสมควรแล้ว เขามองหารุ่นน้องสาวก่อนจะส่ายหน้า เมื่อเห็นสิงหกัลยาโบกมือให้ในที่นั่งชั้นสอง เจ้าตัวแสบเลือกทำเลนั่งดูได้สบายเหลือเกิน ปล่อยให้เขาตากแดดทนร้อนอยู่ข้างล่างนี่ นภวินท์อยากเขกกระโหลกยายลิงนัก ชายหนุ่มมองเลยไปยังที่นั่งชั้นพิเศษ ดวงตาคมสะดุดกับร่างเล็กบางของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่นั่งอยู่ท่ามกลางวงล้อมของบอดี้การ์ดชุดดำ คิ้วดกหนายกขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าของเจ้าหล่อนชัดเจน ริมฝีปากหยักแย้มกว้างดวงตาพราวระยับด้วยความยินดี เขาขยับกายจะก้าวขึ้นไปหา แต่ชะงักค้างไว้ เมื่อนึกถึงปฏิกิริยาของเธอเมื่อวันก่อน กีรดารินทร์ไม่มีทีท่าว่าจำเขาได้เลย อุบัติเหตุเมื่อสองปีก่อนอาจทำให้เธอความจำเสื่อม เขาคาดเดาจากแววตา และคำพูดที่มองเขาเหมือนคนแปลกนั้น หากเขาปรากฏตัวต่อหน้าเธอและบอดี้การ์ดร่างยักษ์ฝูงนั้น ไม่ทันได้พูดอะไรกับเธอสักคำคงโดนสอยร่วงก่อนเป็นแน่ นภวินท์จึงต้องใช้ความคิดอย่างหนัก เขาต้องหาวิธีพบกับกีรดารินทร์สองต่อสองให้ได้! เหมือนสวรรค์ยังไม่ใจดำ เมื่อหญิงสาวลุกจากที่นั่งเหล่าบอดี้การ์ดขยับจะตามไป แต่ถูกยกมือห้ามเธออนุญาตให้สาวใช้เดินไปเป็นเพื่อน ร่างเพรียวบางเดินออกจากที่นั่งหายไปทางด้านหลังซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องน้ำ “คลาร่า หายไปไหนแล้วบอกให้ยืนรออยู่ตรงนี้นี่” ลีเดียที่ดินออกมาจากห้องน้ำ มองหาสาวใช้ประจำตัว ทันใดนั้นเอง! มือหนาของใครบางคนก็ยืนเข้ามาปิดปากเธอไว้ ท่อนแขนแข็งแรงรัดรอบเอวบางลากร่างน้อยให้เข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง บริเวณหน้าห้องน้ำยามนี้ปลอดผู้คนเพราะใกล้เวลาการแสดง ผู้คนต่างไม่ยอมลุกจากที่นั่งกลัวพลาดฉากสำคัญ เสียงทรัมเปตดังก้องขึ้นส่งสัญญาณการเริ่มต้นปล่อยวัวกระทิงสู่สนาม ผู้คนส่งเสียงฮือฮา เสียงร้องของคนที่ถูกลากตัวมายังห้องน้ำจึงไม่มีใครสนใจ “ปล่อย ปล่อยฉันนะ!” ร่างบางดิ้นรนจากการจับกุม ทั้งศอกทั้งเท้ากระทุ้งกระทืบเข้าใส่ร่างหนาไม่ยั้ง แต่ไม่ทำให้อีกฝ่ายสะดุ้งสะเทือนเปรียบเหมือนมดตัวเล็กไปทุบตีช้าง วิชาป้องกันตัวของหญิงสาวพัฒนาขึ้นกว่าแต่ก่อน เธออาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายปัดป้องหมุนกายจับข้อมือบิดคลายล็อคออก ทว่า... คู่ต่อสู้ไม่ใช่มือสมัครเล่น ชั้นเชิงของเขาไม่แพ้เธอเลย มือหนาแข็งแรงกระชากดึงแขนเรียวรั้งร่างบางกลับมาอยู่ในวงแขนได้ในไม่ถึงนาที หากคนฤทธิ์มากมีหรือจะยอมแพ้ง่ายๆ ปลายเล็บแหลมจิกเข้าที่แขนของเขาข่วนเต็มแรง จนได้เลือดซิบๆ “โอ๊ย ... เจ็บนะ ยายตัวแสบ ! ” เสียงร้องโอดโอย ทำให้เจ้าของเล็บได้ใจ เพิ่มแรงกดจิกบนท่อนแข็งกำยำนั้นอีก “ปล่อยฉันนะ ไอ้บ้า ! นี่แหนะ” ส้นเท้าน้อยๆยกขึ้น หมายกระทืบเท้าคนที่รัดร่าง หากอีกฝ่ายรู้ทันขยับหนี ทำให้พลาดเป้าอย่างน่าเสียดาย นภวินท์รู้สึกเหมือนวันเวลาเก่าๆย้อนคืนมาอีกครั้ง เมื่อเขาได้กอดหญิงสาวไว้แนบกายแบบนี้ รอยเล็บที่เจ้าตัวข่วนแขนเขายังแสบๆคันๆ ไม่ต่างจากครั้งโน้นที่เขาแกล้งเธอ ยิ่งเธอดิ้นเขายิ่งแกล้งรัดร่างนุ่มนิ่มแน่นเข้า จนอีกฝ่ายเริ่มอ่อนแรงหยุดทุบหยุดดิ้นนั่นแหละ เขาถึงได้คลายอ้อมแขน จับไหล่บางหมุนมาหา หญิงสาวเบิกตากว้างเมื่อเห็นหน้าคนที่บังอาจจับตัวเธอมาชัดๆ “ไอ้โรคจิต นี่แกเองเหรอ ! ” เธออุทานลั่น สีหน้าบึ้งตึงกว่าเดิม “เรียกผมว่าไอ้โรคจิตเลยหรือกี้ แหมไม่ได้เจอกันสองปี มาตั้งฉายาแบบนี้ให้กันได้ยังไง” เขายื่นหน้ามาใกล้ จ้องดวงตาคู่สวย ลีเดียเบือนหน้าหนี “อี๋ อย่ามาใกล้ฉันนะ ฉันไม่รู้จักแก” เธอเบ้ปากสีหน้ารังเกียจเขาเต็มที่ นภวินท์ชะงักงันกับคำพูดและกิริยาของหญิงสาว นอกจากเธอจำเขาไม่ได้แล้ว เธอยังแสดงท่าทีรังเกียจเขาอีก หัวใจไหววูบเจ็บแปลบแสบร้อนเหมือนถูกถ่านร้อนๆโยนเข้าใส่ ดวงตาสีเข้มกร้าวขึ้นขณะมองหน้าสวยหวานนั้น “เรารู้จักกันกี้ คุณเคยบอกว่าคุณรักผม” เขาเน้นเสียเสียงหนัก พยายามทวนความทรงจำให้เธอ “ฉันนี่นะ รักคนอย่างนาย เหอะ... ตลกแล้ว หน้าตาอย่างกับเต้าหู้ยี้แบบนายนี่นะ ที่ฉันไปหลงรัก” เธอผลักอกเขาแรงๆ ดวงตายาวเรียวหรี่มองใบหน้าคนพูด ก่อนจะมองกราดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แล้วส่ายหน้าไม่เชื่อ กิริยานั้นทำให้คนถูกมองร้อนวูบที่ใบหน้า ชาหนึบไปทั้งหัวใจ “ผู้ชายอย่างผมนี่แหละ ที่คุณรักจนหนีพ่อหนีคู่หมั้นตามผมไป !” นภวินท์บีบหัวไหล่บางแรงจนอีกฝ่ายนิ่วหน้า เขาไม่นำพาเมื่อหัวใจร้อนเร่าด้วยความเสียใจ “มองหน้าผมให้ดีๆกี้ จำให้ได้สิกี้ นี่ไง วินท์ของกี้” หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ ตื่นตระหนกกับท่าทางเหมือนคนสติแตกของชายหนุ่มเธอเริ่มกลัวเขาขึ้นมา หากยังเก็บอาการได้ดีอย่างคนควบคุมตัวเองเป็น “ฉันไม่รู้จักนาย อย่ามาตู่อะไรบ้าๆแบบนี้นะ นายรู้หรือเปล่าว่าฉันลูกใคร” เธอมองหาทางรอด เมื่อคิดว่าคนตรงหน้าเริ่มจะคลุ้มคลั่ง “ฉันชื่อลีเดีย เป็นลูกสาวของเฟอร์นันโด ราโดรเปรเรส รู้จักไหมตระกูลราโดรเปรเรสที่ยิ่งใหญ่” ใบหน้าขาวๆแดงกล่ำเมื่อได้ยินเธอประกาศตัวตน ดวงตาคมมองจ้องใบหน้าอ่อนใสที่เชิดขึ้นอย่างถือดีของหญิงสาว ด้วยแววตาเจ็บปวด ดวงตายาวเรียวคู่นั้นมองตอบเขาด้วยสายตาแข็งกร้าว เธอกำลังใช้สายตาพิฆาตเขาให้ตายดับลงตรงนี้ นภวินท์ร้าวไปทั้งใจเมื่อเห็นแววตานั้น ไม่มีอีกแล้ว... แววตาที่เคยมองเขาอย่างอ่อนหวาน... ไม่มีสายตาของหญิงสาว ที่เคยทอประกายด้วยความรักยามมองมา ... เหลือเพียง... สายตาของคนแปลกหน้า แววตาของคนที่ไม่รู้จักกัน.. “โธ่... กี้” เขาครางอย่างเจ็บปวด ร่างบางถูกดึงมาแนบอกกว้าง นภวินท์กอดรัดร่างน้อยแน่น ไม่นำพาต่ออาการแข็งขืนของเธอ ซุกซบใบหน้ากับซอกคอหอมกรุ่น สูดดมเส้นผมหอมนิ่มของเธอ “กี้ ผมรักคุณนะ ผมจะทำให้คุณจำผมให้ได้” เขาพึมพำบอกเธอด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า อ้อมกอดนั้น อบอุ่น... คุ้นเคย... จนทำให้คนที่โดนกอดรัดนิ่งงัน ลีเดียหยุดดิ้นรนเมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม หัวใจเต้นรัวแรงขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ มันไม่ได้เกิดจากความกลัว แต่มันเต้นเองความรู้สึกประหลาดล้ำ แผ่ซ่านเข้ามาครอบคลุม ภาพบางอย่างวาบผ่านมาในหัวก่อนจะเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นพยายามค้นหา หากพบเพียงความเลือนลาง เสียงทุ้มนุ่มยังคงกระซิบพรอดพร่ำอยู่ข้างหู “กี้ คุณรู้ไหม สองปีมานี้ผมทรมานมากแค่ไหน ผมเหมือนคนบ้าที่เอาแต่นั่งคิดถึงคุณ” เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ ยกมือประคองใบหน้างามไว้ ก่อนจะแนบหน้าผากเธอแนบชิดกับหน้าผากของเขา ตาสบตาในระยะใกล้ ลมหายใจร้อนผะผ่าวรินรดกัน “ขอบคุณที่คุณไม่จากผมไป ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งนะกี้” ดวงตาคู่นั้นจ้องมองเธอด้วยแววตาอบอุ่น สะกดให้ความคิดต่อต้านเลือนหายไป ลีเดียไม่รู้ตัวว่าเธอยอมให้เขากอด ยอมให้เขาใกล้ชิดสนิทแนบได้อย่างไร ไม่มีผู้ชายคนไหนทำกับเธอแบบนี้มาก่อน แม้แต่พี่ราฟพี่ชายต่างสายเลือดได้เพียงแค่โอบไหล่กอดหลวมๆเท่านั้น หัวใจของหญิงสาวเต้นแผ่วลงในจังหวะที่นุ่มนวลขึ้น เธอผ่อนคลายในอ้อมกอดของเขา วางใจให้เขาชิดใกล้ คล้ายกับไม่เป็นตัวของตัวเอง “ขอให้ผมได้รักคุณ ดูแลคุณด้วยหัวใจและชีวิตทั้งชีวิตของผม” เสียงกระซิบของเขา ดังแผ่วๆ ชิดริมฝีปากนุ่ม ทำให้หญิงสาวรู้สึกตัว “อย่า... อย่านะ อุ๊บ ! ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD