ปัง!!
เสียงประตูห้องเรียนถูกเปิดออกด้วยแรงถีบของโอปอลและพวก เธอบุกมาหาส้มจี๊ดที่ห้องเรียนอย่างไม่เกรงกลัวใคร
"ปุ๊กกี่ไปลากตัวมันมา" หญิงร่างท้วมที่ชื่อปุ๊กกี่เดินมากระชากแขนส้มจี๊ดให้ลุกจากเก้าอี้อย่างแรงจนเก้าอี้ล้ม
"นี่พี่เป็นใคร? แล้วมีธุระอะไรกับส้มจี๊ดเหรอคะ!" เธอถามด้วยความตกใจและสงสัยคิดว่าตัวเองไม่ได้ไปทำข้าวของใครพังนี้ แล้วมีธุระอะไรกับเธอ
เพี๊ยะ!! โอปอลไม่พูดอะไรแต่บรรจงฟาดฝามือลงที่แก้มซ้ายของรุ่นน้องตรงหน้าอย่างแรงจนหน้าหันเป็นร้อยหานิ้ว
"อย่ามายุ่งกับเฮียเสือของฉัน!"
"เดี๋ยวนะเฮียเสืออะไรหนูไม่ได้ยุ่งกับพี่เขามายุ่งกับหนูเองนะ!"
"แกจะอวดว่าเฮียสนใจแกเหรอ! ปุ๊กกี่ลูกปลาตบ!"
"เฮ้ย ๆ ๆ !! ทำอะไรส้มจี๊ดยะชะนี! พูดกันดี ๆ สิทำไมต้องตีกันด้วย!!" ตาต้าเห็นคนมุงกันหน้าประตูห้องส่องเข้าไปเห็นเพื่อนสาวกำลังจะโดนรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายก็รีบเข้าไปช่วย เขายืนกั้นกลางระหว่างส้มจี๊ดกับพวกโอปอลมองเพื่อนที่ยืนมือกุมหน้าตัวเอง
"นังตาต้าหลบไป! เพื่อนแกมาอ่อยเฮียเสือฉันจะสั่งสอนมัน!!" ตาต้าเป็นรุ่นน้องที่บ้านอยู่ซอยเดียวกันโอปอล
"ตลกละพี่! ยัยเอ๋อนี่มันจะอ่อยใครเป็นสภาพนี้ใครจะเอามันแว่นก็หนาผมก็ปรกหน้านึกว่าจูออนเข้าใจผิดกันละ" โอปอลมองหน้าส้มจี๊ดก่อนจะคล้อยตามคิดว่าเสือจะเอาคนแบบนี้หรือ เด็ดกว่านี้สิบเท่าเขายังไม่แลเลย ตาต้าถามเพื่อนสาวไปยุ่งกับเสือทำไมเธอจึงเล่าเรื่องทำเสื้อของเขาเลอะจึงต้องชดใช้ค่าเสียหาย
"อย่าโกรธส้มจี๊ดเลยนะ ถ้าหนูไม่ทำแฟนพี่เขาตีหนูแน่ๆ เลย" ส้มจี๊ดทำหน้าตาหน้าสงสารจนทุกคนเชื่อ โอปอลล้วงกระเป๋าเอาเงินสดออกมานับได้หนึ่งหมื่นบาทก่อนจะยัดใส่มือเธอ
"เอาเงินนี่ไปจ่ายเฮียเสือแล้วห้ามบอกว่าเป็นเงินฉัน บอกเป็นเงินเก็บเธอแล้วเลิกยุ่งกับเขาซะถ้าไม่อยากเจ็บตัวแล้วหน้าเธอก็หัดเอาอะไรปิดรอยไว้ด้วยอย่าให้เขาเห็นรอยตบล่ะ"
"แต่ส้มจี๊ดไม่มีเงินมาจ่ายพี่นะ"
"คิดซะว่าฉันซื้อเสื้อตัวนั้นให้เฮียใส่แล้วกัน เศษเงินแค่นี้ฉันถือว่าทำทานให้คนไม่มีอันจะกิน" เธอมองส้มจี๊ดตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วประเมินว่าเธอจนชัวร์โดยไม่ต้องบอก
"พวกเธอด้วย! ใครพูดเรื่องที่ฉันมาตบยัยนี่คงรู้นะว่าจะเจออะไร" เธอสั่งทุกคนที่ออหน้าห้องก่อนจะเดินจากไป ตาต้าถอนหายใจก่อนดึงเพื่อนสาวมาสัมภาษณ์ทันทีโชคดีที่มาทันไม่งั้นเละแน่
"มีอะไรก็ไม่บอกนะยะเกือบไปแล้วไม่ล่ะ เห็นหน้าแล้วหงุดหงิดฉันตบแกแทนพี่โอปอลสักป้าบดีมะ" ตาต้าทำท่าจะตบคนตรงหน้าเธอหลับตาปี๋ด้วยความกลัว ก็เธอสู้กับใครเขาเป็นที่ไหนล่ะ
"สายไปสิบนาทีนะฉันโทรเรียกตั้งนานทำไมพึ่งมายัยส้มเปียก" เสือนั่งกระดิกเท้าเล่นเกมรอข้างโรงอาหารที่เดิม
"หนูชื่อส้มจี๊ดค่ะ"
"ยัยส้มเน่า" เฮ้อ... เมื่อไหร่ทุกคนจะเรียกชื่อเราดีๆ สักทีนะ
"วันนี้ฉันจะให้เธอไปทำความสะอาดห้องดนตรีตอนบ่ายมีเรียนมั้ย?"
"มีเลือกชมรมตอนบ่ายสองค่ะ"
"ถ้าเสร็จแล้วไปหาฉันที่ห้องดนตรี แล้วนี่เป็นบ้าอะไรร้อนจะตายห่ายังจะใส่เสื้อฮู้ดใส่ที่ปิดปากอีกทำไมไม่ใส่แว่นตาดำเลยล่ะจะได้เหมือนโจรโรคจิต"
"ไม่สบายค่ะ แค่ก แค่ก!!" เขาโบกมือช่างเธอเถอะก่อนจะไล่ไปไกลๆ แต่คนตัวเล็กยังยืนที่เดิมเธอเอาเงินที่โอปอลให้ออกมานับก่อนจะยื่นให้เสือที่มองดูการกระทำของเธอ
"เงินค่าเสื้อพี่หมื่นหนึ่งพอดีอีกสองร้อยส้มจี๊ดไม่เอาคืนถือว่าเป็นดอกละกัน" เขาไม่ถามว่าเธอได้เงินมาจากไหนแค่มีปัญญาใช้คืนเขาก็พอ
"ค่าเสื้อหายกันที่นี้เหลือแต่หนี้ป้าเธอแล้วล่ะ ทำงานให้ฉันจนกว่าจะพอใจแล้วฉันจะยืดการชำระหนี้ให้เข้าใจตรงกันนะ" เขาเอามือผลักหน้าผากจนเธอเกือบหงายหลังก่อนขอตัวไปเรียน การกระทำทุกอย่างอยู่ในสายตาของโอปอลที่ต้องการแน่ใจว่าส้มจี๊ดพูดจริงไม่ได้โกหกเธอ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
"ขี้ข้าส่วนตั้วส่วนตัวมึงมาละไอ้เสือ น้องเขาไม่สบายยังจะไปใช้เขาอีกมึงนี่ชั่วจริงๆ" แดนมองสาวแว่นตรงหน้าที่เปิดประตูเข้ามาก่อนจะมองดูรอบห้องเห็นรุ่นพี่ผู้ชายนั่งเล่นอยู่หลายคนอย่างประหม่า เสือนอนที่โซฟาเอาหนังสือปิดหน้าเพื่อบังแสงก่อนจะสั่งงานทั้งที่ยังนอนอยู่
"เก็บกวาดเช็ดถูห้องนี้ให้สะอาดเช็ดกระจกเอาขยะไปทิ้งด้วยทำเบาๆ ล่ะ ฉันจะนอน" ยังไม่ค่ำเลยไปอดนอนมาจากไหน?
"เฮ้ยเสืองั้นพวกกูไปเตะบอลก่อนนะเว้ยเชิญมึงเล่นพ่อแม่ลูกกับน้องเขาไปละกัน"
ปึง!!
เสือโยนหนังสือใส่แดนแต่โดนประตูแทนก่อนจะนอนต่อ พวกผู้ชายสามคนออกจากห้องไปแล้วเหลือแค่เขาสองคนกับส้มจี๊ดที่กำลังมองหาไม้กวาด
"พี่เสือไม้กวาดอยู่ไหนคะ"
"หลังกลองชุด" คนตัวเล็กนำไม้กวาดมาปัดกวาดขี้ฝุ่นซองขนมและเศษกระดาษที่กระจัดกระจายทั่วห้อง เธอโกยขยะใส่ถังที่มีถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วทิ้งอยู่
"อี้!"
"เป็นห่าอะไรอีก?" เสือชะโงกหน้าขึ้นมาดูอย่างหงุดหงิด
"เปล่าพี่นอนเถอะ" ส้มจี๊ดรีบทำหน้าที่ให้เสร็จเธออยากออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
"พี่เสือ..." เธอเขย่าคนตัวสูงเบาๆ
"อะไรอีกล่ะ"
"ผ้าขี้ริ้วล่ะ"
"เฮ้อ... เธอนี่มันตาถั่วอย่างที่น้องฉันด่าจริง ๆ อยู่หน้าต่างโน้น" เขาล้มตัวลงนอนอีกรอบปล่อยส้มจี๊ดทำงานต่อ
"พี่เสือ..."
"โว้ยย!! เรียกทำเหี้ยอะไรนักหนาวะรำคาญ!" เธอสะดุ้งเล็กน้อยยกไม้กวาดเตรียมป้องกันตัว
"แค่จะบอกว่าเสร็จแล้วหนูกลับได้ยัง" เสือมองไปรอบๆ ห้องที่เก็บกวาดเป็นระเบียบเรียบร้อยแม้กระทั้งหน้าต่างเธอก็เช็ดจนสะอาด พวกเครื่องดนตรีถูกจัดเก็บไว้เป็นที่เป็นทาง เขาไม่นึกว่าคุณหนูบ้านรวยอย่างเธอจะทำงานบ้านเป็นเขาจึงปล่อยเธอกลับบ้านโดยดี
ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสองทุ่มแล้วส้มจี๊ดรีบเดินออกจากมหาลัยที่เริ่มปิดไฟไปบางดวงแล้ว จะเหลือแต่พวกเรียนภาคค่ำและพวกทำกิจกรรมเล็กน้อย เธอเปิดโทรศัพท์มือถือเห็นเบอร์ของพ่อโทรเข้าหลายสาย ปกติเธอไม่เคยกลับบ้านค่ำมาก่อนจึงโทรหาพ่อทันทีบอกทำกิจกรรมอยู่ก่อนจะนั่งรอรถเมย์ที่ป้ายมองดูรถที่วิ่งบนถนนสวนไปมา เธอมองเห็นรถเข็นขายของข้างทางเข็นผ่านหน้าไปดูลุงคนขายร้องเพลงไปเข็นไปดูมีความสุขมากแล้วหันกลับมามองตัวเอง ในชีวิตนี้เธอชินเสียแล้วกับการทำตามคำสั่งของคนรอบข้าง เธออยู่ที่บ้านลุงกับป้ามาก็หลายปีเธอไม่เคยได้ทำอะไรตามใจเธอเลย เขาสั่งให้อะไรก็ต้องทำถ้าขัดขืนป้าเธอก็จะทุบตี เธอได้แต่คอยรองมือรองเท้าป้ากับพี่สาวจนมันกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วที่ใครจะทำอะไรกับเธอก็ได้ บางครั้งเธอก็นึกเกลียดตัวเองที่ยอมเขาทุกอย่างไม่ลุกขึ้นมาสู้กับเขาบ้าง ทำอย่างไรได้ก็เขามีบุญคุณกับเธอนี่ถึงตอนนี้จะทิ้งเธอไปแล้วก็ตามยังไงเธอก็ไม่ลืมคนให้ข้าวให้ที่อยู่อาศัยอยู่ดี ถ้าเปรียบเทียบแล้วคงจะเหมือนกับสุนัขที่มันซื้อสัตย์กับเจ้าของแม้มันจะโดนเจ้าของทำร้ายก็ตาม
"รถคันสุดท้ายแล้วนะครับเร็วๆ ครับ!!"
"รอด้วยค่ะ!" รถเมย์เล็กที่มีคนแน่นคันจอดรับผู้โดยสาร ส้มจี๊ดตื่นจากความคิดรีบวิ่งไปขึ้นรถแต่โดนแซงคิวแถมยังเบียดเธอจนล้มกองที่พื้นแล้วยังโดนเหยียบที่มืออีก รถเมย์เคลื่อนตัวออกจากป้ายอย่างรวดเร็วท่ามกลางเสียงเรียกของส้มจี๊ดที่ขึ้นรถไม่ทัน
"จะกลับยังไงละเนี่ย... จะบ้าตายยัยส้มจี๊ดทำไมต้องซุ่มซ่ามแบบนี้นะ" คนตัวเล็กจับมือตัวเองดูมันเจ็บแปลบอย่างบอกไม่ถูก เธอโบกเรียกแท็กซี่แทนแต่โดนปฏิเสธอีกหลายคันจนท้อใจ
"เดินกลับก็ได้ แค่เจ็ดกิโลเองเดินเร็วหน่อยสี่ทุ่มคงจะถึง" ส้มจี๊ดตัดสินใจเดินเท้ากลับที่พักอย่างช่วยไม่ได้ จากมหาลัยไปที่พักห่างกันประมาณเจ็ดกิโลได้ถึงจะเหนื่อยขนาดไหนก็ต้องทน วันนี้เป็นวันแรกที่เธอจะได้เข้าไปอยู่ห้องเช่าเล็กๆ ที่พ่อเธอเช่าไว้เพื่ออาศัยชั่วคราวเพราะไปที่ไหนก็มีแต่ห้องเต็มทั้งนั้น
"มองไรวะเสือพูดด้วยก็ไม่พูด?" ปาล์มมี่ถามเมื่อเสือเอาแต่นั่งจ้องไปทางถนนนานนับชั่วโมงแล้ว ถามคำตอบคำ
"กินๆ ไปเถอะฉันไปธุระก่อนเดี๋ยวมา"
"เป็นอะไรของมันอี๊ก... ไอ้ห่านี่เอาใจอยากว่ะ กูอยากรู้จริงพ่อแม่มันเลี้ยงมายังไง" แดนบ่นเพื่อนพึมพำที่ชอบทำตัวไม่เข้าพวก
เครง!!!
"ตีน!!" รองเท้าของเสือลอยลงโต๊ะเหล้าพอดีตรงหน้าแดนก่อนเพื่อนๆ จะพากันขำกระจาย แดนโยนรองเท้าคืนเสือกะให้โดนหัวแต่เขาหลบทันหยิบขึ้นมาใส่ เขาขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ออกไปด้วยความเร็วพลางมองหาคนตัวเล็กที่เดินอยู่ข้างทางไกลลิ้วก่อนจะบีบแตรใส่
ปิ้บ! ปิ้บ! ปิ้บ!!!
ส้มจี๊ดตกใจยกไม้ที่ถือมาเตรียมป้องกันตัวทันที พอเห็นเป็นเสือก็โล่งใจเอามือทาบอกตัวเองแล้วเดินหน้าต่อ เธอคิดว่าเขาคงอยากจะแกล้งเธอเล่นเหมือนคนอื่นเลยไม่สนใจ
"ขึ้นรถสิเดี๋ยวไปส่ง" ส้มจี๊ดทำหน้างง เสือแค่อยากรับผิดชอบที่ทำให้เธอกลับบ้านค่ำเท่านั้นเอง
"อย่าให้พูดซ้ำได้มั้ย" เธอมองหน้าเสือมองรถมอเตอร์ไซค์ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ
"ไม่เป็นไรค่ะส้มจี๊ดเดินไหว อีกห้ากิโลเอง"
"เล่นตัวเหรอฉันไม่เคยให้ใครนั่งซ้อนรถฉันนะเว้ย บุญก้นเธอขนาดไหนละที่ฉันจะไปส่ง"
"คือส้มจี๊ดไม่เคยนั่งมอไซค์ กลัวตก..." เสือเริ่มหงุดหงิดดึงคนตรงหน้าให้ก้าวขึ้นรถอย่างเก้ๆ กังๆ
"จับแน่นๆ ล่ะตกลงไปตายห่าไม่รู้ด้วยนะ" ส้มจี๊ดรีบกอดเอวเสืออย่างแน่นแต่โดนแกะมือออกทันที
"ใครอนุญาตให้เธอกอดเอวฉันยัยเตี้ย โน้นที่จับเธอ" ส้มจี๊ดรีบหาที่จับท้ายรถอย่างแน่นหนาก่อนที่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์จะกระชากตัวออกไปอย่างเร็ว
"กรี๊ดดด!!"
"หนวกหู!!"
นะโมพุทธโธสังโฆ ช่วยให้ลูกช้างอยู่รอดปลอดภัยด้วยเถอะหนูยังไม่อยากตายยย!!
เสือพาส้มจี๊ดซิ่งท้าลมจนคนตัวเล็กตัวสั่นด้วยความกลัว เธอกอดเอวเสือไว้อย่างแน่นเอาหน้าแนบแผ่นหลังหลับตาไม่มองทาง จนเสือถามบ้านเธออยู่ที่ไหนเธอจึงลืมตามองเห็นเป็นแถวที่พักใหม่จึงบอกให้เขาจอดก่อนจะลงจากรถแข้งขาสั่นหัวใจเต้นแรง เธอไม่เคยจะทำอะไรหวาดเสียวแบบนี้มาก่อนในชีวิต
"ส้มจี๊ดกลับแล้วเหรอลูก" เธอหันไปมองข้างหลังเห็นพ่อเธอยืนถือไม้กวาดรออยู่หน้าปากซอยทางเข้าห้องเช่าก็ดีใจจนยิ้มออก นายตุเป็นห่วงลูกสาวจึงออกมารอหน้าปากซอย เธอหันกลับจะขอบคุณเสือที่มาส่งแต่เขาได้หายไปแล้ว
"อ้าวยังไม่ได้ขอบคุณเลย"
"ใครเหรอลูกที่มาส่ง?"
"หนูตกรถพี่ที่มหาลัยสงสารเลยมาส่ง พ่อกินข้าวยังคะ"
"โอ้ย... พ่อรอหนูตั้งนานไม่มาเลยจับตุ๊กแกในห้องผัดกะเพรากินอิ่มไปแล้ว หนูจะได้ไม่ต้องนอนกลัวไงลูก" สองพ่อลูกเดินเข้าซอยพูดคุยกันสนุกสนานเป็นภาพที่ทุกคนเห็นแล้วต้องยิ้มตาม เสือยืนมองสองคนพ่อลูกด้วยความแปลกใจว่าเธอมาอยู่ในชุมชนนี้ได้อย่างไรในเมื่อป้าเธอหน้าจะมีเงินทองติดตัวบ้างล่ะ คนระดับนั้นญาติพี่น้องต้องไม่ใช้คนธรรมดาแน่นอน