Chapter 2 ข้าเป็นผีความจำเสื่อม [2]

1193 Words
Chapter 2 ข้าเป็นผีความจำเสื่อม [2] “ท่านผู้เฒ่า! ให้ข้าเข้าไปเถอะนะ ข้าติดตามชายผู้นี้ เอ่อ...ขะ...เขาเป็นญาติของข้า” ผีสาวกระโดดขี่หลังกอดคอคุณชายรูปงามไว้แน่น แล้วรีบละล่ำละลักแก้ตัวเป็นพัลวัล หมั่นโถวลูกเดียวไม่อาจทำให้นางอิ่มท้อง ถ้าได้หมูเห็ดเป็ดไก่ชั้นดีจากโรงเตี๊ยมแห่งนี้คงจะดีไม่หยอก โถวตีกงผู้เถรตรงไม่สนใจคำพูดของผีสาว ปราดเข้าจะกระชากร่างนางหมายจะโยนออกไป แต่แล้วชายชรากลับชะงัก เหลียวมองคุณชายผู้มีผีสาวขี่หลังเพียงชั่วอึดใจก็อันตรธานหายไป ผีสาวมั่นใจว่าตนต้องโดนทำร้ายแน่จึงหลับหูหลับตาตัวสั่นงันงก แต่ทุกอย่างกลับนิ่งสงบนางจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นพบว่านอกจากตนเองจะไม่ถูกทำร้ายแล้ว นางยังอยู่ในโรงเตี๊ยมโดยที่บนโต๊ะอาหารทรงกลมเต็มไปด้วยหมูเห็ดเป็ดไก่มากมาย “โอ้โห!” อาหารละลานตาบนโต๊ะส่งกลิ่นหอมเย้ายวน ผีสาวกลืนน้ำลายลงคอ ผละจากการขี่หลังชายหนุ่มมานั่งเก้าอี้ตรงกันข้าม จ้องมองว่าเมื่อไหร่ชายหนุ่มจะทำอาหารตกนางจะได้คว้าเอามากิน ทว่าเขากลับไม่หยิบจับอาหารใดๆ เข้าปากเลย จิบเพียงน้ำชาแล้วนั่งนิ่งเฉยเสียอย่างนั้น ปั้ง! “อีตาบ้า! สั่งอาหารมาเยอะแยะแต่ไม่กิน เจ้าเป็นบ้าหรือยังไง” ผีสาวโมโหหิวกระแทกมือลงบนโต๊ะแล้วแผดเสียงดังลั่น แต่นั่นแหละนางเป็นผี ไม่ว่านางจะโวยวายสักเพียงใดก็ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครได้ยินสิ่งที่นางพูด “หน็อย! เจ้าแกล้งสั่งอาหารมาแกล้งข้าใช่หรือไม่ ไอ้คุณชายรูปหล่อเฮงซวย” ผีสาวคว้าหมับเข้าที่น่องไก่หมายจะโยนทุกสิ่งอย่างใส่ชายตรงหน้า ทว่าสติน้อยนิดที่ยังพอมีอยู่ทำให้นางชะงักด้วยความประหลาดใจ นางสัมผัสอาหารได้! ทั้งที่ไก่ตัวนี้วางอยู่บนโต๊ะและไม่ตกพื้น เป็นไปได้อย่างไร! ผีสาวกอดไก่ทิพย์ไว้แน่น “ไก่ที่รักของข้า ข้ารักเจ้าเหลือเกิน” นางก้มจูบไก่ก่อนจะกัดกินอย่างหิวกระหาย เหลือบมองไก่จริงที่ยังวางนิ่งบนโต๊ะด้วยน้ำตาคลอระรื่น ความสงสัยทำให้นางเดินไปยังโต๊ะอื่นๆ แล้วลองหยิบจับอาหารทว่าไม่สามารถหยิบจับให้อาหารเหล่านั้นเป็นทิพย์ได้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว นั่นเพราะของเหล่านั้นไม่ผ่านการจุดธูปบอกกล่าว ไม่ผ่านการอนุญาตจากผู้เป็นเจ้าของ แล้วเหตุอันใดอาหารทุกชนิดของคุณชายผู้นี้นางจึงสามารถหยิบจับขึ้นมากินได้เล่า “ช่างวิเศษเหลือเกิน นี่คงเป็นของขวัญจากเหล่าทวยเทพแน่ๆ คงเห็นว่าข้าอดอยากจึงได้ส่งคุณชายรูปงามท่านนี้มาให้ข้า” นางพร่ำพรรณนาน้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความซาบซึ้งใจ ขณะที่ริมฝีปากมันแผล็บจากการกินหมูไก่ทั้งตัว เมื่อกินจนอิ่มหนำสำราญ ผีสาวแสนสวยก็แบกท้องราวกับหญิงตั้งครรภ์ใกล้คลอดไปนั่งคุกเข่าลงข้างชายหนุ่มที่ยังคงจิบน้ำชา ราวกับมิได้รับรู้เลยว่ารอบกายเขากำลังถูกคุกคามด้วยดวงวิญญาณตะกละแสนหิวโหย นางใช้แขนเสื้อเช็ดปากมันแผล็บของตน ก่อนจะยิ้มกว้างให้มนุษย์หนุ่มจนเห็นฟันขาวเรียงตัวสวยราวกับเมล็ดข้าวโพด “ข้าขอขอบคุณท่านมาก บุญคุณนี้ข้าจะไม่มีวันลืม และข้าขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นผีรับใช้ของท่าน จะขอติดตามท่านไปชั่วชีวิต หากท่านมีสุขข้าจะร่วมเสพ หากท่านมีทุกข์ข้าก็จะร่วมต้าน ข้าจะไม่หนีท่านไปไหนเจ้าค่ะ” พูดจบนางก็โค้งคำนับจนหน้าผากจดพื้น ฝากฝังตัวเองเป็นผีติดตามโดยที่มนุษย์หนุ่มไม่รู้เรื่องและไม่ได้ยินยอมอนุญาตเลยสักนิด จากนั้นนางก็ขยับตัวเข้าไปใกล้ๆ ทิ้งตัวนั่งลงพับเพียบบนพื้นแล้วกอดแข้งกอดขาข้างหนึ่งของชายหนุ่มเอาไว้แนบแน่น “ท่านไม่ปฏิเสธข้า...” นางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แสนกลก่อนจะเอื้อนเอ่ยต่อไปว่า “นั่นก็แสดงว่าท่านรับข้าเป็นผีของท่านแล้ว ข้าขอขอบคุณในความมีเมตตาของท่านยิ่งนัก มหาสมุทรกว้างไกลยังไม่อาจเทียบเท่ากับความเมตตาของท่าน บุญคุณนี้ข้าจะไม่มีวันลืม” ผีสาวพูดเองเออเองเสร็จสรรพ ในเมื่อเขาไม่ปฏิเสธ(เพราะไม่ได้ยิน)นั่นก็แสดงว่านางเป็นผีของเขาโดยสมบูรณ์ชอบธรรมแล้ว “ต่อไปข้าจะเรียกท่านว่า ‘นายท่าน’ นะเจ้าคะ ส่วนข้าจะแทนตัวเองว่าบ่าวผู้ภักดี” ผีสาวยิ้มประจบพลางบีบนวดอย่างขยันขันแข็ง “ต้นขาของท่านแข็งแรงดีเหลือเกิน เต็มไปด้วยมัดกล้ามสมชายชาตรี” มือเล็กบีบนวดไม่หยุด ในขณะที่ริมฝีปากก็เจื้อยแจ้วช่างจำนรรจาไม่หยุดหย่อนราวกับนกแตกรังก็ไม่ปาน “คุณชายท่านนี้ไม่คุ้นหน้า คงเพิ่งเดินทางผ่านมา ข้ามีจิตไมตรีเลื่อมใสขอทราบชื่อแซ่ท่านจะได้หรือไม่” จู่ๆ หญิงสาวสองคนก็เดินมาที่โต๊ะของคุณชายรูปงาม อีกทั้งยังถือวิสาสะนั่งร่วมโต๊ะ ทั้งสองส่งยิ้มอ่อนหวานหวังให้ชายหนุ่มตกหลุมรักพวกนางทันทีแค่เพียงได้พบสบตา “แหม...แม่นางทั้งสองช่างอ่อยได้ไม่มีชั้นเชิงเอาเสียเลย” ผีสาวผุดลุกขึ้นยืนแล้วเบะปากอย่างไม่ชอบใจ ก้าวยาวเดินไปหยุดยืนอยู่ด้านหลังสาวงาม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองบุรุษเพียงหนึ่งที่ยังคงนั่งนิ่งราวกับคุ้นชินกับเหตุการณ์เช่นนี้เป็นอย่างดี “ให้ตายเถอะ! ข้ามัวแต่หิวจนไม่ได้สังเกตุเห็นว่าเจ้านายของข้าหล่อเหลาเอาการ เช่นนี้แล้วชีวิตของนายท่านคงไม่มีวันสงบสุขเพราะแม่ผู้หญิงไม่รักนวลสงวนตัวเหล่านี้เป็นแน่!” ผีสาวบ่นฮึดฮัดด้วยท่าทางไม่พอใจ กว่าชั่วยามที่ผ่านมานางมองเขาแค่เพียงผิวเผิน รู้เพียงว่าเขาเป็นคุณชายรูปงามเพียงเท่านั้น แต่เมื่อนางได้หยุดพิศมองเขาอย่างพิจารณา จึงเห็นว่าเขาหาใช่ชายรูปงามธรรมดา แต่เขามีใบหน้างดงามราวกับเทพเซียน วงหน้าเรียว คิ้วโก่งดังคันธนู ดวงตาเชิดรั้นราวกับดวงตามังกร จมูกเป็นสันรับกับริมฝีปาก ตระการตาราวกับภาพวาดของจิตรกรเอกในวังหลวง “หล่อจนผีอย่างข้ายังเคลิ้ม แล้วแม่นางสองคนนี้จะไม่หลงท่านได้อย่างไรกัน!” พูดพลางส่ายหน้าแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความคุ้นชิน ด้วยติดอาการถอนหายใจมาตั้งแต่ตอนยังมีชีวิตอยู่ “ข้าแซ่เฉิน นามว่าเทียนอี้” ชายหนุ่มค่อยๆ วางจอกน้ำชาลงแล้วเอ่ยแนะนำตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท แม้ความจริงแล้วเขาจะต้องการความสงบก็ตามที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD