ใบไม้ | จุดเริ่มต้นและจุดจบ 1

1442 Words
เด็กผู้หญิงมัธยมที่ใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนประจำ วงจรชีวิตไม่มีอะไรมาก นอกจากเรียน กินข้าว และนอน วนเวียนอยู่แบบนั้น จนกว่าจะถึงวันเสาร์อาทิตย์ ถึงจะได้กลับบ้าน กลับไปแล้วทำอะไร? หึ! ก็กลับไปอยู่กับพ่อแม่น้องชาย กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา กินกับคนที่ฉันเห็นพวกเขามาตั้งแต่เกิดวน ๆ อยู่แบบนั้น จนฉันขึ้นมหาลัย เออ ก็เหมือนเดิม! ชีวิตแม่งเหนื่อย ที่เหนื่อยเพราะฉันดันเป็นพี่สาวคนโตของบ้าน ฉันมีน้องชายฝาแฝดชื่อต้นไม้กับต้นกล้า ทุกครั้งที่ฉันกลับจากหอที่มหาลัยมา พวกมันก็รวมหัวกันแกล้งฉัน บ้าเอ๊ย! ทั้งจิ้ก ทั้งตุ๊กแก ถ้ามีขี้หมาแห้งมันคงเอามาโยนใส่ฉันแล้วล่ะ พ่อแม่จะทำไอ้สองตัวนั้นออกมาทำไมวะ เปลืองออกซิเจน เปลืองน้ำอสุจิเปล่า ๆ รำคาญ! บอกตามตรงฉันเบื่อที่จะปั้นหน้ายิ้มแล้ว นี่ดีนะที่ต้นกล้ามันไปเรียนต่ออเมริกา ฉันก็คิดว่าตัวเองจะโล่งและมีความสุขขึ้นที่พ่อแม่แยกแฝดนรกออกจากกัน แต่ไม่ใช่! ฉันถูกพ่อบังคับให้ย้ายไปเรียนวิศวะซอฟต์แวร์ เป็นคณะวิศวะที่แม่ง... ทั้งคณะมีแต่ผู้ชายถึกและปลวก! ฉันจึงชินที่จะอยู่เงียบ ๆ ก้มหน้าก้มตาเรียน อยู่กับหน้านิ่ง ๆ ที่ใคร ๆ ก็หาว่าฉันไม่เป็นมิตร และไม่อยากคบหาสมาคมด้วย ก็เรื่องของมึง กูก็ไม่อยากคบกับพวกมึงเหมือนกัน ถึงอย่างงั้นก็เถอะ ตอนนี้ฉันได้เป็นผู้บริหารบริษัทมาสเตอร์มอนเตอร์ บริษัทเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเอเชียตะวันออก ถึงการบริหารงานฉันจะแข็งทื่อและไม่เป็นมิตรกับใคร แต่ฉันสามารถสั่งงานพนักงานพวกผู้ชายได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง พูดถึงผู้ชาย เหอะ... นึกแล้วก็อนาถใจ ฉันเรียนจบมหาลัยมาได้ไงวะ จบมาแบบไม่มีผู้ชายหมายตามองสักคน! หรือเป็นเพราะฉันไม่เปิดรับใคร ไม่มองหน้า ไม่สบตาผู้ชายพวกนั้น? จนเกิดมาถึงบัดนี้ ผู้ชายที่ใกล้ ๆ ตัวฉัน ก็มีแค่พ่อและน้องชายสองคน ไม่สิ! มีเพื่อนน้องชาย ที่เป็นลูกเพื่อนพ่อคนนั้นด้วย เขาชื่อไคล์... ผู้ชายคนนี้ฉันเคยเห็นตั้งแต่เด็ก ๆ ฉันกับเขาเราไม่ได้สนิทกัน เพราะอย่างที่บอก ฉันเรียนโรงเรียนประจำ กลับบ้านเสาร์อาทิตย์ กลับมาก็มีบ้าง ที่เห็นไคล์มาหาต้นไม้ แต่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไร เพราะเขามักจะมุดหัวอยู่ในห้องต้นไม้ทั้งวัน จนพ่อแม่เขามารับกลับถึงออกมา ถึงไคล์จะหล่อที่สุด ในบรรดาผู้ชายที่ฉันเคยเห็น แต่ฉันไม่ได้สนใจอะไรเขาหรอก จนวันนั้นล่ะ วันที่ฉันเรียนจบ วันรับปริญญาของฉัน วันนั้นที่พ่อกับแม่ไม่มาสักที CALLING | DAD “พ่อ อีกชั่วโมงนึงหนูต้องถ่ายรูปหมู่และเข้าหอประชุม พ่อทำอะไรอยู่ อยู่ไหน?” (กำลังช่วยกรมทางหลวง ขีดเส้นถนนอยู่ลูก ฮ่า ๆ) พ่ออาจจะตลก แต่ฉันไม่! บัณฑิตคนอื่นเขาถ่ายรูปครอบครัว ได้ดอกไม้ แต่ฉันไม่มีอะไรในมือสักอย่าง! ทิชาเพื่อนที่รู้จักห่าง ๆ มันก็กลับคณะมันไปแล้ว บ้าเอ้ย! “ไม่ตลกค่ะ” (เอาน่า... พ่อกำลังไปใบไม้ รอก่อนนะ ไม่ทันก็ไม่เป็นไรนะลูก กลับมาถ่ายที่บ้านก็ได้ พ่อพึ่งประชุมเสร็จช้าหน่อยนะ) เสียงพ่อร่าเริงมาก แต่มือฉันที่จับโทรศัพท์แนบหู มันสั่นไปหมดแล้ว “ค่ะ” ฉันตอบท่านเบา ๆ และกดวางสายไป ก่อนจะเดินไปนั่งเงียบๆคนเดียวที่โต๊ะไม้ยาว มองคนอื่นที่ถ่ายรูป มองคนอื่นยิ้มแย้มกับครอบครัว มองคนอื่นที่ถ่ายรูปคู่แฟน บางคนถูกขอแต่งงานในวันสำเร็จการศึกษา ทุก ๆ คนถูกรายล้อมไปด้วยญาติ มองมาที่กูสิ ไม่มีใครสักคน รู้สึกแย่ฉิบ ตอนนี้ขอได้ไหม ขอใครสักคนที่มายืนข้าง ๆ ฉัน มันไม่ไหวว่ะ ฉันไม่เคยรู้สึกแย่จนอยากจะร้องไห้แบบนี้เลย ฉันรีบเงยหน้าขึ้น เพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมาเลอะเครื่องสำอาง พยายามกะพริบตาถี่ ๆ อยู่แบบนั้น จนก้มหน้าลงมา แทนที่จะเห็นผู้คนถ่ายรูปครอบครัวกัน แต่ตอนนี้ฉันเห็นตุ๊กตาควายสีดำ มีสายสะพาย Congratulations ตรงหน้า และคนที่ถือมันยื่นให้ฉัน คนนั้นก็คือไคล์ ไคล์เพื่อนน้องฉัน ไคล์ที่ฉันคุยกับเขานับคำได้ “ยินดีด้วยนะป้า ทำไมไม่ยิ้มเลยล่ะ? ได้ตั้งเกียรตินิยม หรือว่าซื้อใบจบมา” เรียกกูป้า... แก่สัส แต่เวลานี้ฉันไม่กล้าว่าเขาเรื่องสรรพนามหรอก เพราะนอกจากไคล์ ฉันมองซ้ายมองขวาก็ไม่มีวี่แววคนอื่นเลย เอาวะ ยังดีที่มีไคล์อยู่เป็นเพื่อน “ป้ามองหาใครครับ ไอ้ต้นไม้เหรอ? ไอ้นั่นมันติดเก็บชั่วโมงบินมาไม่ได้ แต่มันฝากของมาให้ป้าด้วยนะ เอ่อ... ช่วยรับตุ๊กตาควายผมไปก่อน” เขายื่นตุ๊กตาควายให้ฉัน แล้วล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบกล่องเล็ก ๆ ออกมา ตอนนี้คนอื่น ๆ ต่างพากันมองฉันกับไคล์ คงจะคิดว่าฉันกำลังถูกแฟนขอแต่งงาน แต่ไม่... เมื่อเขาเปิดกล่องของขวัญเล็ก ๆ คล้ายกล่องแหวนนั่นออกมา ในนั้นมันกลับเป็น จิ้งจกปลอมผูกโชว์สีชมพู! “อิเชี้ย!” ฉันรีบลุกจากเก้าอี้แทบเสียหลักล้มตึงไปข้างหลัง แต่โชคดีที่ไคล์เขารีบจับมือที่ไขว่คว้าเอาอากาศของฉันไว้ทัน มือใหญ่ที่นุ่ม ๆ นั้น ทำฉันตกใจยิ่งกว่าอิจิ้งจกเวรตะไลในมืออีกข้างเขาอีก เพราะมือนี้เป็นมือผู้ชายคนแรก ที่จับมือฉันจริงจัง แถมสายตาที่เขามองมา มันยังมีประกายวิบวับแปลก ๆ และริมฝีปากสวย ๆ นั่นที่พูดกับฉัน ก็เหมือนเขากำลังท่องคาถาพรมน้ำมันพรายร่ายมนต์ใส่ จงรักจงหลงเขา มองแค่เขา... แค่เขาเพียงคนเดียว ทำไมใจฉันเต้นแรงขนาดนี้ หรือนี่มันจะเป็นวันตายของฉัน ภาพทุกอย่างมันก็สโลโมชั่น และกล้องกำลังแพลนวนรอบ ๆ ฉันกับเขา... จนอยู่ ๆ ฉันก็คิดอะไรออกมาแปลก ๆ นางฟ้าคะ ฉันขอเปลี่ยนจิ้งจกตัวนั้นเป็นแหวนเพชร เปลี่ยนเสื้อเชิ้ตธรรมดา ๆ ของเขาเป็นชุดทักซิโด้ และเปลี่ยนชุดครุยฉัน เป็นชุดเจ้าสาวได้ไหม... ได้ไหม! “งานที่ภูเก็ต แกไม่ไปดิวเองเหรอใบไม้” เฮ้ย! ทุกอย่างหายวูบไปกับตา เมื่อฉันสะดุ้งตื่น แล้วเอามือทาบอกตัวเองก่อนที่จะปรับพนักเก้าที่เอนในห้องทำงานกลับมาปกติ ฉันฝันถึงวันนั้นอีกแล้ว... วันที่ฉันตกหลุมรักไคล์! “ใบไม้แกฟังฉันไหมเนี่ย บริษัทเยอรมันยักษ์ใหญ่เลยนะ ผู้บริหารควรไปเองรู้รึป่าว!” ฉันรีบตั้งสติ สูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเอนตัวพิงเก้าอี้มองหน้าพี่สาว คนนี้นี่เองที่ดึงฉันออกมาจากความฝันนั่น เจ๊แกชื่อปลายฟ้า เป็นลูกอาฉัน ที่พ่อเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด หน้าตาก็งั้น ๆ พอไปวัดไปวาได้ แต่ถ้าเดินข้าง ๆ ฉัน ผู้ชายมองเจ๊แกมากกว่า “เข้ามาไม่ให้สุ่มให้เสียงเจ๊ไปเถอะ ขี้เกียจคุย” เจ๊ปลายฟ้ามองฉันแล้วกลอกตาใส่ แต่ฉันไม่สนใจ พิงพนักเก้าอี้มองออกไปนอกหน้าต่างแทน ใจฉันยังไม่หยุดเต้นแรงเลย “ใบไม้ ถ้าแกไม่ฝึกประสานงานลูกค้า แกจะบริหารงานยังไง เป็นผู้บริหารต้องทำได้ทุกหน้าที่นะ แกจริงจังหน่อยสิ” ฉันพยักหน้า ทั้งที่ตายังมองออกไปนอกหน้าต่าง “งั้นเจ๊ก็เป็นสิ หนูไม่อยากเป็น” เจ๊ปลายฟ้าพึดฟัดใส่ฉันทันที “เออ ๆ ฉันไปก็ได้ ไปเที่ยวภูเก็ต เหอะ ๆ” ฉันไม่ตอบ นั่งฟังเสียงรองเท้าส้นสูงของเจ๊แก จนมันค่อย ๆ เงียบไป และเสียงประตูที่ปิดใส่ ก็ไม่ได้ทำฉันหันไปมองสักนิด เพราะฉันมัวแต่คิดถึงเขา ไคล์...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD