เมื่อชีคอัลซาร์เมตตา อาสามาส่งนางถึงที่บ้าน พระองค์ก็เห็นภาพถ่ายของฐิติรดา ทรงเผยความสนพระทัยให้เห็นอย่างเต็มที่ ซึ่งช่วยให้นางมองเห็นลู่ทางว่าจะหาเงินก้อนโตได้จากไหนกัน
ชีคอัลซาร์ตกลงใช้หนี้จำนวนห้าล้านให้กับนาง และจะให้เงินก้อนโตอีกก้อนหนึ่งไว้เป็นทุนรอนในการทำมาหากิน แต่มีข้อแม้ว่านางต้องกล่อมให้ฐิติรดาเดินทางไปยังประเทศอาคาเรีย เพื่อเข้าพิธีอภิเษกกับพระองค์ให้ได้ ซึ่งนางรีบตะครุบข้อเสนอนี้ในทันที
และก่อนชีคอัลซาร์จะเดินทางกลับประเทศ พระองค์บอกว่าจะโอนเงินค่าสินสอดจำนวนมหาศาลมาให้เธอในวันนี้ ทันทีที่มียอดเงินเข้าบัญชีธนาคาร นางจะออกคำสั่งให้ฐิติรดาเดินทางไปประเทศอาคาเรียทันที
“ฮึ! ไม่นึกเลยว่าแกจะเป็นตัวเงินตัวทองให้กับฉัน ขอบใจแกมากนะนังน้ำอิง ที่ช่วยทำให้ฉันมีเงินไปเข้าบ่อนอีกตั้งยี่สิบล้าน”
คุณธาวินีลอบมองลูกเลี้ยงผ่านบานประตูห้องนอนที่เปิดแง้มไว้นิดๆ จากนั้นก็กลับไปนั่งฝันหวานอยู่ภายในห้องนอนเล็กไม่ต่างกับรูหนู
ชีคอัลซาร์บอกว่าจะโอนเงินมาให้นางภายในเที่ยงคืนของวันนี้ และตอนนี้ก็เหลือเวลาอีกไม่ถึงชั่วโมงดี นางก็จะได้รับเงินก้อนโตแล้ว
ทางด้านของฐิติรดา พอมารดาเดินจากไปแล้ว ก็ยกมือลูบใบหน้าตัวเองด้วยความอ่อนล้า ระเบิดเวลาที่มารดาทิ้งไว้ให้เกี่ยวกับเงินสองหมื่น ทำให้เธอต้องปวดหัวอีกครา เธอจะไปหาเงินจากไหนมาให้มารดา ลำพังแค่เงินที่จะใช้ในทุกวันนี้เธอก็พยายามใช้จ่ายอย่างกระเบียดกระเสียร เพื่อให้มีเงินใช้แบบเดือนชนเดือน
“เงินตั้งสองหมื่น น้ำอิงจะหาจากไหนมาให้คุณแม่ได้ล่ะคะ”
ฐิติรดาพึมพำเบาๆ ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอลากสังขารกลับมาบ้านพร้อมกับความหิวซก คิดว่ามาถึงบ้านแล้วคงมีอาหารเลิศรสฝีมือมารดา ตั้งรออยู่บนโต๊ะอาหาร ทว่าสิ่งที่เธอได้รับกลับมีแต่เรื่องหนักใจทั้งสิ้น ความหิวที่ก่อตัวในก่อนหน้านี้จางหายไปเสียสิ้น คงเหลือแค่เรื่องหนักสมองหนักใจ กับเงินจำนวนสองหมื่นบาท ที่ต้องหามาให้ได้ตามคำสั่งของมารดา
“โทรไปยืมคุณติณภพดีไหมน้ำอิง”
เจ้าของนัยต์ตากลมโตไพล่คิดถึงเพื่อนชายคนสนิท ที่มักจะให้เธอหยิบยืมเงินเสมอ ในยามเธอหมุนเงินไม่ทัน ทว่าในการยืมแต่ละครั้ง เธอจะยืมไม่เกินหลักหมื่น เพราะเกรงใจอีกฝ่ายที่กำลังเก็บเงินไว้รอสู่ขอเธอในปลายปีนี้ อีกอย่างจำนวนเงินที่เธอยืมในครั้งผ่านๆ มา เธอก็ยังไม่มีไปคืนให้อีกฝ่ายเลย แล้วจู่ๆ จะให้ไปยืมใหม่ทบกับอันเดิมเข้าไปอีก เธอคงละลายใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
“ลองดัดนิสัยคุณแม่ดูสักครั้งก็แล้วกัน”
ในที่สุด ฐิติรดาก็ตัดสินใจลองใช้ไม้แข็งกับมารดาดูบ้าง คนหาเงินมีแค่คนเดียว แต่มีคนช่วยใช้ถึงสองคน แถมยังฟุ่มเฟือยในเรื่องไม่ใช่เหตุด้วย ต่อให้หามาได้มากมายเพียงใดก็คงไม่พอใช้แน่
เมื่อตัดสินใจเช่นนั้นแล้ว ร่างบางอรชรก็ค่อยๆ ผุดลุกขึ้นเดินโซเซ ไม่ต่างจากเจ้าสกุณาที่หมดเรี่ยวแรงโผบิน เดินไปในห้องนอนของตนเอง พอทิ้งตัวลงบนที่นอน ก็ล่วงเข้าสู่ห้วงนิทราทั้งๆ ที่ยังไม่ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยซ้ำไป
ในวันรุ่งขึ้น ฐิติรดาเดินออกมาจากห้องนอนด้วยชุดที่พร้อมสำหรับการออกไปทำงาน ขณะเดียวกันหญิงสาวก็เตรียมพร้อมรับอารมณ์โทสะของมารดา เมื่อรู้ว่าเธอไม่มีเงินจำนวนสองหมื่นบาทไปให้ท่านจับจ่ายใช้สอย แต่พอเดินมาเห็นสีหน้าของมารดา ซึ่งกำลังนั่งรอเธออยู่ในห้องนั่งเล่นก็ผิดคาดไปหมด นอกจากมารดาจะไม่ตีหน้าบึ้งตึงใส่แล้ว ยังแย้มยิ้มกว้างให้ ซึ่งหากจะเรียกว่าเป็นรอยยิ้มที่มารดายิ้มให้เธอเป็นครั้งแรกในรอบปีก็ไม่ผิด
“เอ่อ...คุณแม่ดีใจเรื่องอะไรหรือคะ ถึงยิ้มกว้างได้ตั้งแต่เช้าเลย”
“ฉันดีใจ ก็เพราะว่ากำลังจะได้ลูกเขยเป็นถึงท่านชีคปกครองประเทศอาคาเรีย ที่มากไปด้วยบ่อน้ำมัน ขุดมาขายกี่ปีกี่ชาติก็ไม่มีหมด”
คำตอบของผู้เป็นมารดาสร้างความสงสัยให้กับฐิติรดายิ่งนัก หญิงสาวทรุดกายลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับมารดา พลางเอ่ยถามด้วยความงุนงง
“คุณแม่หมายความว่ายังไงคะ ใครเป็นลูกเขยของคุณแม่ แล้วใครไปแต่งงานกับท่านชีคที่คุณแม่พูดถึงเมื่อสักครู่นี้”
คุณธาวินียิ้มเหยียดตรงมุมปาก ก่อนจะลั่นวาจาไม่ต่างจากคำประหัตประหาร ให้ผู้เป็นลูกสาวต้องอ้าปากค้าง เบิกตาโตเพราะความตกใจอย่างยิ่งยวด
“ถามมาได้นะนังน้ำอิง ว่าใครจะไปแต่งงานกับท่านชีคอัลซาร์ บ้านนี้มีลูกสาวกี่คนกัน ถ้าไม่ใช่แก! แก่ๆ หนังเหนียวเคี้ยวไม่ลงอย่างฉัน ท่านชีคอัลซาร์ไม่มีทางเอาไปทำพันธุ์หรอกยะ คนที่ต้องแต่งงานกับท่านชีคอัลซาร์ผู้ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งในโลก ก็คือแกนั่นแหละนังน้ำอิง”
“คุณแม่กำลังหมายถึงน้ำอิงยังงั้นหรือคะ”
ฐิติรดามั่นใจว่าตนเองถามออกไปด้วยน้ำเสียงค่อนข้างดัง ทว่าน้ำเสียงที่หลุดออกมาจากเรียวปากแดงระเรื่อกลับกลายเป็นเสียงครางแผ่วเบาด้วยความตกใจ
ผู้เป็นมารดายิ้มเยาะ ไม่ได้นึกสงสารลูกสาวแม้แต่น้อย ซึ่งตอนนี้ใบหน้างามหวาน ถอดสีซีดเผือดไร้สีเลือดไม่ต่างจากกระดาษขาว
“ถูกต้องนังน้ำอิง คนที่ต้องไปแต่งงานกับท่านชีคอัลซาร์ก็คือตัวแกนั่นแหละ”
“คุณแม่ทำแบบนี้ได้ยังไงค่ะ ทำไมไม่ถามน้ำอิงก่อน ว่าสมัครใจจะแต่งงานกับท่านชีคคนนี้หรือเปล่า อีกอย่างน้ำอิงก็เอ่อ...มีคนที่ชอบพออยู่แล้ว จะให้น้ำอิงไปแต่งงานกับคนอื่นได้ยังไงกันค่ะ”
ในตอนท้ายฐิติรดาค้านออกมาเบาๆ ยังพูดไม่ได้เต็มปากมากนักว่าเธอรักใคร่ชอบพอกับติณภพ เพราะตอนนี้เธอแค่คบหาดูใจกันเท่านั้น ไม่ถึงกับรักชายหนุ่มเลยเสียทีเดียว