“ทำไรอยู่วะ” เรนเข้ามาในห้องของโซน เศษกระดาษลวดลายน่ารักกับเศษริบบิ้นเกลื่อนพื้นห้อง
“ห่อของขวัญ ทำไมห่อยากจังวะ กูห่อมาเป็นสิบรอบแล้วเนี่ย” โซนคร่ำเคร่งกับการห่อของขวัญมาร่วมสองชั่วโมง เริ่มหงุดหงิดเพราะทำออกมาไม่สวยดั่งใจ
“ทำไมมึงไม่ซื้อกล่องของขวัญแบบสำเร็จรูปล่ะ จะมานั่งห่อทำไม” เรนหย่อนตัวลงนั่งขัดสมาธิตรงข้ามกับโซน
“ก็กูอยากห่อเอง มันดูตั้งใจกว่าไง”
“ของขวัญอลิน?” พรุ่งนี้เป็นวันแรกสำหรับชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของอลิน นารา วรา และภิณ ทำให้เรนเดาได้ไม่ยากว่าโซนกำลังเตรียมของขวัญเนื่องในโอกาสอะไร และจะให้ใคร
“ของนารา ของอลินกูซื้อกำไลให้” โซนบุ้ยหน้าไปยังโต๊ะข้างหัวเตียง เรนมองตามเห็นถุงกระดาษสีส้ม บ่งบอกว่าเป็นแบรนด์เนมหรู
“แล้วมึงซื้ออะไรให้นารา” เรนไม่รอให้เพื่อนตอบ เขาคว้ากล่องที่โซนเพิ่งฉีกกระดาษห่อของขวัญออกมาเปิดดู
“ตุ๊กตาหมาหลับ” ตุ๊กตาลูกสุนัขสายพันธุ์ Golden Retriever นอนหลับอยู่บนเบาะ
“ไม่ใช่ตุ๊กตาหมาหลับธรรมดานะมึง หายใจได้ด้วย” โซนคว้าตุ๊กตามาเปิดสวิตซ์ แล้วแนบแก้มกับตัวตุ๊กตา ส้มผัสได้ถึงแรงหายใจที่สม่ำเสมอ ก่อนยื่นให้เรนได้ลองสัมผัสดูบ้าง
“มีชื่อด้วยนะมึง มีโซ” เรนส่งตุ๊กตาคืนเพื่อน โซนปิดสวิสซ์และเก็บเข้ากล่องตามเดิม
“นาราเป็นรอยยิ้มของมึงหรือไง” มีโซ ในภาษาเกาหลีแปลว่ารอยยิ้ม เรนถามด้วยความแปลกใจ สำหรับเขานีราคือรอยยิ้มของเขา แล้วทำไมนาราถึงเป็นรอยยิ้มของโซน ทั้งที่ควรจะเป็นอลิน
“นาราเป็นน้องสาวที่น่ารัก ทำให้กูยิ้มตลอดเลย บางครั้งเหนื่อยๆ จากงาน แต่นาราก็ทำให้กูยิ้มได้”
“แล้วอลินไม่ทำให้มึงยิ้มเหรอวะ”
“กับอลินแค่เห็นหน้ากูก็ยิ้มแล้ว แล้วอลินก็เป็นมากกว่ารอยยิ้ม อลินเป็นหัวใจของกู มึงก็รู้ว่าอลินเป็นรักแรกพบของกู เหมือนนีราของมึงนั่นแหละ”
“มึงพูดแบบนี้คือมั่นใจแล้วใช่ไหมว่าอลินก็รักมึง”
“กูโทรหาก็คุยกับกูตลอด บางทีก็คุยกันจนดึก”
“กับนารามึงก็คุยจนดึก”
“มันไม่เหมือนกัน นาราเป็นน้อง อลินเป็นคนที่กูรัก”
“กูถึงถามมึงไง ว่ามึงมั่นใจแล้วใช่ไหมว่าอลินรักมึง” ทุกครั้งที่ลูกหลานของแทนไทมาที่สนามแข่งรถ นาราคือคนแรกที่จะมาหาโซนพร้อมขวดน้ำดื่มเย็นๆ ส่วนอลินจะตรงไปดูการซ้อมของเทรย์ เป็นโซนทุกครั้งที่จะเดินไปหาอลินพร้อมเครื่องดื่มที่อลินชื่นชอบ
“กูไม่รู้ ที่ผ่านมาอลินยังเด็กไง อลินบอกยังไม่คิดเรื่องแฟน อยากโฟกัสแค่เรื่องเรียน” โซนก็ยังไม่รู้ว่าความรู้สึกที่อลินมีต่อตนนั้นเป็นแบบไหน จะรู้สึกเหมือนกันไหม แต่ก็คิดมาตลอดว่าอลินก็มีใจให้ เพราะเธอไม่เคยปฏิเสธ
“แต่อลินรู้ใช่ไหมว่ามึงรู้สึกยังไง”
“รู้ กูก็เคยบอกไปแล้วว่าชอบ ไม่ใช่ไม่เคยบอก ถึงตอนนี้อลินจะยังไม่รักกู แต่กูว่าความมั่นคงของกู จะทำให้อลินรักกูได้”
“อืม กูเป็นกำลังใจให้ความรักของมึงสมหวัง อย่าเป็นเหมือนกู”
“สักวันความรักของมึงกับนีราก็ต้องสมหวัง ถ้านีราเรียนจบ อาเดลก็ยอมให้มึงกับนีรารักกัน”
“กว่านีราจะจบด็อกเตอร์ก็อีกแปดปี แต่กูรอได้ จะกี่ปีกูก็รอได้”
“กูนับถือใจมึงกับนีราเลยว่ะ เป็นรักแท้ของกันและกัน”
“แล้วนี่มึงให้ของขวัญอลินกัับนารา มึงลืมไปหรือเปล่าว่าภิณกับวราก็เป็นเฟรชชี่เหมือนกัน”
“เออว่ะ วราน่ะไม่เท่าไร แต่ภิณมีงอนแน่ มึงว่าให้อะไรดีวะ”
“ตุ๊กตาเหมือนนาราก็ได้”
“ไม่อ่ะ มึงไปเลือกกับกู กูจะเอามีโซไปห่อของขวัญด้วย ความอดทนกูหมดละ ไปรถกูนี่แหละ” ว่าแล้วโซนก็ลุกไปหยิบกุญแจรถกับกระเป๋าสตางค์ ไม่ลืมกล่องตุ๊กตา ทั้งสองคนไปยังห้างสรรพสินค้า
วันต่อมา
“พี่โซน” ร่างสูงที่ยืนพิงรถซุปเปอร์คาร์หน้าคณะศิลปศาสตร์หันไปตามเสียงใสๆ ที่จดจำได้เป็นอย่างดีว่าคือใคร
“อือหือ” โซนถอดแว่นกันแดดออก มองหญิงสาวในชุดนักศึกษาทั้งสองคนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
”อือหืออะไร” นาราถามกลับ รู้ว่าอีกฝ่ายทำทะเล้นกลั่นแกล้ง
“อือหือ สาวสวยที่ไหนเนี่ย”
“นี่หนูภิณคนสวยเอง” ภิณชี้นิ้วเข้าหาตัวเองด้วยท่าทางน่ารักสดใส
“พี่โซนไม่ต้องแกล้งชมหรอก” นาราว่า
“พี่พูดจริงๆ พออยู่ในชุดนักศึกษานารากับภิณกลายเป็นสาวสวยเลย ลบภาพเด็กกะโปโลไปเลย”
“จะพยายามเชื่อนะคะ”
“แล้วทำไมมากันสองคนล่ะ”
“จะถามหาอลินก็บอกมาเถอะ” นาราพูดอย่างรู้ทัน
“เบื่อเด็กรู้ทัน เอาไปเลยของขวัญสำหรับเฟรชชี่” โซนเปิดประตูรถหยิบกล่องของขวัญใบใหญ่ออกมาให้นารา
“อลินกำลังมา ไม่เกินห้านาทีน่าจะถึง ที่บอกเนี่ยเพราะได้ของขวัญหรอกนะ ขอบคุณนะคะ แต่กล่องใหญ่เป็นภาระมาก” นาราบอกเรื่องของอลินที่โซนอยากรู้พร้อมรับกล่องของขวัญมาถือไว้ แกล้งว่าทั้งที่ใจปลาบปลื้มเป็นที่สุด
“ไม่เอาก็เอาคืนมา” โซนรู้ว่านาราเพียงแกล้งเย้าหยอกล้อเท่านั้น รับรู้ได้จากแววตาและริมฝีปากที่อมยิ้มนั้น
“ให้แล้วเอาคืนได้ไง ไม่ให้หรอก” นาราเบี่ยงกล่องของขวัญหลบไม่ให้โซนเอาคืน
“แล้วของภิณไม่มีเหรอคะ” ภิณถามหาของตนบ้าง ดีนะที่เรนทักท้วง ไม่งั้นคงรู้สึกผิดต่อเด็กสาวตรงหน้าที่เป็นเหมือนน้องสาวอีกคน
“มีสิ นี่ไง” โซนหยิบตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ใส่ชุดนักศึกษาให้กับภิณ
“ขอบคุณค่ะ น่ารักจักเลย ติดกิ๊บเหมือนภิณด้วย” ภิณรับมากอดด้วยความดีใจ
“มีของวราด้วยนะ” วราเป็นคนเดียวที่เรียนคณะบริหารธุรกิจ ซึ่งตึกเรียนอยู่ห่างจากตึกคณะศิลปศาสตร์ไกลพอสมควร
“ฝากนาราไปให้ก็ได้ หรือพี่โซนอยากเอาไปให้เอง”
“ถือไหวเหรอ”
“ไหวสิ แค่นี้เอง” นาราขยับกล่องของขวัญให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนเอื้อมมือไปคว้าถุงกระดาษที่บ่งบอกว่าเป็นสินค้าไอที
“เมื่อกี้ยังบอกเป็นภาระอยู่เลย อลิน…” โซนยิ้มกว้างเมื่อเห็นอลินในชุดนักศึกษาเดินตรงมาพร้อมรอยยิ้มหวาน
“นารา ภิณ สวัสดีค่ะพี่โซน” อลินทักทายลูกพี่ลูกน้องทั้งสอง และชายหนุ่มร่างสูง ความสวยของเธอทำให้โซนตกอยู่ในภวังค์
“พี่โซน” นารากับภิณเอ่ยเรียกสติ
“สวัสดีครับอลิน วันนี้สวยจนพี่ตะลึงเลย” วันนี้อลินแต่งหน้าอ่อนๆ สวยหวาน มีเสน่ห์เย้ายวนใจ ตามแบบฉบับของเธอ ผู้หญิงที่มีความคิดความอ่านเป็นของตัวเอง เชื่อมั่น และมั่นใจ เป็นผู้หญิงพร้อมสรรพทั้งรูปร่างหน้าตา และชาติตระกูล
“พี่โซนก็ปากหวานตลอด” อลินว่า ทุกครั้งที่เจอกันโซนจะต้องเอ่ยชมความงามของเธออยู่ร่ำไป
“ก็อลินสวยจริงๆ นี่น่า สวยขนาดนี้ดาวมหาลัยแน่นอน”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ คนสวยกว่าอลินเยอะแยะ”
“แต่สำหรับพี่อลินสวยที่สุด”
“ปากหวานอีกแล้วนะ เสียงประกาศเรียกแล้ว อลินต้องไปรายงานตัวแล้วค่ะ” อลินไม่ได้แสดงความเขินอายต่อคำชม ด้วยได้ยินจนเป็นความเคยชิน เพราะไม่ได้มีแค่โซนที่เอ่ยชม ยังมีผู้ชายมากหน้าหลายตาที่เข้ามาทำความรู้จักและอยากสานสัมพันธ์กับเธอ ล้วนต่างเอ่ยชมความงดงามของเธอ แต่เธอก็ไม่เคยหลงคารมใคร ไม่เคยให้ความสัมพันธ์ที่มากกว่าเพื่อนหรือพี่กับใครเช่นกัน และเสียงประกาศเรียกให้นักศึกษาปีหนึ่งรวมตัวก็ดังขึ้น
“ยินดีต้อนรับสู่รั้วมหาลัยครับ” โซนรีบให้ของขวัญที่เตรียมมากับอลิน ทั้งที่อยากมีเวลาพูดคุยกับเธอมากกว่านี้
“ขอบคุณค่ะ” อลินรับมาถือพร้อมเอ่ยคำขอบคุณตามมารยาท
“เย็นนี้ไปสนามแข่งไหม พี่มารับ”
“ไปค่ะวันนี้มีซ้อม อลินจำได้” อลินจดจำตารางซ้อมและการใช้สนามแข่งรถได้อย่างแม่นยำ
“นารากับภิณไปไหม”
“ไปค่ะ” สองสาวตอบอย่างไม่ต้องคิด
“ตั้งใจเรียน สนุกกับกิจกรรมนะ” โซนเอ่ยบอกทั้งสามคน อลิน นารา และภิณโบกมือให้ก่อนจะรีบวิ่งไปตามเสียงประกาศเรียกครั้งที่สอง