2

1525 Words
“พี่เมษ ทำ... ทำไมใจร้ายแบบนี้ค่ะ ฮึกๆ ฮือๆๆ” เธอร้องไห้ เขาจูบซับน้ำตาให้เธอ แช่กายนิ่งให้เธอปรับตัว เธอก็ตอดรัดเขาหนักขึ้น เมษบดจูบริมฝีปากช่างประท้วงนั้น ก่อนที่เขาจะเริ่มโยกกายเบาๆ เป็นจังหวะจะโคน เธอก็ร้องครางสลับกับร้องไห้ไม่ยอมหยุดหย่อน เขาก็ปลอบโยนแทรกกายเข้าหาบดเบียดแนบชิด กอดจูบเธออย่างทะนุถนอม ลดทอนความรุนแรงจนเหลือแต่ความอ่อนหวาน กันยาร้องครางไม่เป็นส่ำยามที่เขาโยกคลอนร่างกายเข้าหา เธอหลุดเสียงครวญครางออกมาไม่ขาดปากจนเขาเริ่มเร่งเร้าสะโพกสอบมากยิ่งขึ้น เสียดแทงเข้ามาพร้อมด้วยน้ำรักอุ่นร้อนที่ไหลซึมเข้ามาในเรือนกายสาวให้เธอดูดกลืนจนหมดสิ้น หญิงสาวพลิกร่างไปอีกด้านด้วยความอาย ดึงผ้าห่มมาคลุมเอาไว้จนถึงอก เมษมองร่างน้อยในอ้อมแขนด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป เขาไม่ได้รู้สึกดีที่ได้พรหมจรรย์ของเธอแต่เขารู้สึกว่ามองคนผิดไปจริงๆ พี่สาวของเธอชอบพูดจายุแยงว่าน้องสาวมีผู้ชายมาชอบพอมากมาย ใจแตกแต่เด็ก แต่สิ่งที่เขาได้รับรู้มันไม่ใช่เลย ในขณะที่คนพูดนั้นกลับไม่สามารถรักษาความสาวเอาไว้ให้ผู้ชายที่รักได้เลย “อาบน้ำไหม” เขาเอ่ยถาม วางมือที่ไหล่บอบบางของเธอ กันยาถึงกับสะดุ้ง “อะ... อาบได้เหรอคะ” คนหวาดกลัวเอ่ยถามอย่างเกรงใจ “อาบได้” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนลงมาก จนเธอสัมผัสได้ แต่ก็ไม่กล้าพลิกกายกลับไปมองสบตาเขา “ทั้งร้อนทั้งเหนียวตัว เราควรไปอาบน้ำพร้อมกัน” เขาจัดการอุ้มร่างของเธอขึ้นจากเตียง เธอร้องครางเสียงหลงในทันที เพราะอับอายที่ต้องมาแก้ผ้าต่อหน้าเขา เมษไม่ได้สนใจคำประท้วง เขาพาเธอไปอาบน้ำ เธอก็หันรีหันขวางเมื่อเขาวางให้เธอเหยียบยืนบนพื้นห้องน้ำ “อาบน้ำเถอะ ไม่ทำอะไรแล้ว ร้องไห้จนตาแดงหมดแล้ว ตอนนี้สภาพของเธอเหมือนผีมาสคาร่าเข้าไปแล้วรู้ไหม” เขาทำเสียงดุใส่ เธอก้มงุดๆ ขดตัวไปอีกด้านของอ่างอย่างอายๆ แล้วรีบล้างหน้าแปรงฟันอย่างรวดเร็ว กันยารู้สึกอายที่ต้องยืนแก้ผ้าต่อหน้าเขา แต่เธอก็ไม่กล้าขัดใจอะไรเขา “ฉันเห็นหมดทั้งตัวแล้ว ยังจะอายอีกเหรอ” เธอกัดปากเมื่อเขาพูดแบบนั้น เธอไม่ได้หน้าด้านเหมือนเขานะ จะได้ยืนแก้ผ้าด้วยกันแล้วไม่คิดอะไรเลย “อุ๊ย!” เธออุทานเมื่อเขาขยับมาแกะผมให้เธออย่างเบามือ “ทำไมเวลาผู้หญิงแต่งงานต้องทำผมแข็งๆ แบบนี้ด้วย ไม่รู้จะฉีดเข้าไปทำไมสเปรย์” เขาก็บ่นแต่ไม่จริงจังนัก แกะผมให้เธอจนเสร็จ ในขณะที่เธอยืนกอดอกปิดกลางลำตัวด้วยความอาย “อาบน้ำกันดีกว่า” เขาดึงเธอไปใต้ฝักตัว เธอประท้วงแต่ก็ต้องไอติดกันหลายครั้งเพราะเขาเปิดฝักบัวจนน้ำอุ่นราดรดมาบนตัวของเธอ “พี่เมษ แค่กๆๆ” “อย่าดิ้นสิ ถูสบู่แล้วก็สระผมด้วย จะได้นอนกอดกันตัวหอมๆ” เขาทำเสียงดุ เธอก็รีบลนลานทำตามอย่างว่าง่ายเพราะกลัวเขาโกรธเอาอีก เมษยิ้มในหน้าที่เห็นท่าทีของเธอ บางทีเธอก็ดูน่าแกล้งดีเหมือนกัน หลังจากอาบน้ำเสร็จสิ้นเขาก็ห่อเธอด้วยผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ พาออกมาจากห้องน้ำ เธอมองใบหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างเขินอาย ได้แต่ก้มงุดๆ ให้เขาเช็ดผมให้ “ง่วงหรือยัง” พอเขาถามแบบนั้น เธอก็รีบพยักหน้าโดยเร็ว ถ้าบอกว่าง่วง เขาอาจจะใจดีให้เธอสวมใส่ชุดนอนและได้นอนสบายมุมใดมุมหนึ่งของห้อง เธอกวาดตามอง จองโซฟาตัวยาวในห้องเอาไว้ คืนนี้เธอขอนอนตรงนั้นแล้วกัน “ทำอะไร” “อะ... อะไรคะ” เธอสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเขาเอ่ยถามแบบนั้น เพราะเมษมองตามสายตาของหญิงสาวไป เขาก็เห็นว่าเธอจ้องโซฟาตัวยาวในห้องเขาตาเป็นมัน “คืนนี้กันยาไปนอนที่โซฟาตัวนั้นนะคะ พี่เมษจะได้นอนสบายไม่อึดอัดน่ะค่ะ” เธอรีบเอ่ยบอกอย่างเกรงใจ ก้มหน้างุดๆ ไม่กล้ามองสบตาเขา “นอนตรงโซฟา!” น้ำเสียงที่แผดออกมาของเขาเหมือนโกรธ กันยาสะดุ้งสุดตัว รีบลนลานหนีเพราะไม่รู้ว่าพูดอะไรผิดไป แต่เขาจับแขนทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ ก่อนจะขยับใบหน้าเข้ามาหา “ใครจะให้เธอไปนอนตรงนั้น เป็นเมียก็ต้องนอนบนเตียงสิ ฉันจะนอนกอดใครล่ะ เมียหายไปนอนบนโซฟา” “นอนกอดหมอนข้างก็ได้ค่ะ” เธอตอบพาซื่อ ทำให้ได้เห็นดวงตาลุกวาบของเขา “นี่เธอประชดฉันเหรอ” “กัน... กันยาปล่อยนะคะ” กันยารีบตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกนะกัก เธอไม่ได้ประชดอะไรเขาเลยจริงๆ “ผมเธอแห้งแล้ว งั้นก็นอนได้แล้ว” “ว้าย! พี่เมษคะ กันยายังไม่ได้แต่งตัวเลยค่ะ ชุดนอนกันยาอยู่ในตู้” เธอรีบบอกด้วยใบหน้าเหลอหลา “จะใส่ทำไมเกะกะ เวลาฉันจะกระแทกเธอ ต้องคอยถอดอยู่อีกเหรอ” เขาเอ่ยถาม เป็นประโยคที่ทำให้เธอหน้าแดงก่ำลามไปถึงใบหู แล้วเขาก็ดึงเธอไปกอดรัด กอดรัดเต้านมอวบอิ่ม และใช้ขาพาดเกยร่างของเธอเอาไว้คล้ายจะแกล้ง กันยาหลับตาปี๋ เธอนอนตัวเกร็งอยู่ในอ้อมแขนของเขา ผู้ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอ “อื้อ... พี่เมษ” เธอร้องประท้วงเมื่อเขาแกล้งหอมแก้มเธอแรงๆ เมษเห็นอาการของหญิงสาวในอ้อมแขนแล้วมันเขี้ยว การแกล้งเธอเป็นความสุขเล็กๆ ของเขา หญิงสาวนอนเกร็งอยู่แบบนั้น แต่ความเหนื่อยเมื่อยล้าก็ทำให้เธอหลับไปในที่สุด หญิงสาวตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะมีอะไรมาลามเลียอยู่ตรงร่องสวาท “อ๊า... พะ... พี่เมษ ละ... เลียทำไมตรงนั้น อ๊ะ! กัน กันยาสะ... เสียวนะคะ” เธอพูดกระท่อนกระแท่นด้วยความเสียวซ่าน ร่างเกร็งเมื่อเขาตวัดลิ้นขึ้นลงหนักๆ “อ๊าย...” เธอร้องเสียงหลงเพราะความเสียวซ่านที่จู่โจมเข้ามาอย่างรุนแรงแบบที่ไม่เคยพานพบมาก่อน “ฉันปลุกเธอหลายรอบแล้ว เธอไม่ยอมตื่น ฉันก็เลยต้องปลุกเธอด้วยวิธีนี้ไง” เขาพูดจบก็ก้มลงไปลามเลียร่องเสียวของเธอหนักขึ้นไปอีก “พะ... พี่เมษ อ๊าย...” เธอร้องครางเสียงหลงที่ลิ้นสากร้อนของเขาตวัดเลียระรัวจนเธอดิ้นพล่าน “เมื่อคืนไม่ได้ทำแบบนี้เพราะไม่รู้ แต่ตอนนี้ฉันจะทำให้เธอเสียวที่สุดเลย” เขาลงลิ้นลามเลียกลีบกายสาวของเธอเพราะกลีบสวาทของเธอเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น ความบริสุทธิ์ผุดผ่องของเธอ ทำให้เขาอย่างแนบชิดไปทั่วสรรพางค์กายอันหอมกรุ่น “พี่เมษ อ๊ะ!” เธอหลุดเสียงครางออกมา กระตุกร่างยามที่เขาแทรกแซะลิ้นหนาหนักเข้ามาในเรือนกายสาวแบบรัวเร็ว แล้วปุ่มกระสันของเธอก็สั่นระริกตามแรงโบกโบยของลิ้นหนา เธอเสร็จคาปากของเขาอย่างรุนแรง รุนแรงจนเธอรู้สึกว่ารอบกายช่างพลิกคว่ำพลิกหงายไปหมด แล้วเธอก็หอบหายใจสะท้านอย่างรุนแรงที่ได้ถึงจุดสุดยอดเป็นครั้งแรก “ฉันจะปลุกเธอแบบนี้ทุกวันดีไหม” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ทำเอาคนใต้ร่างที่เพิ่งเสร็จสมอารมณ์หมายถึงกับหน้าแดงก่ำ ลามไปถึงใบหู กันยาส่ายหน้าไปมาจนผมยุ่งไปหมด “ทำไมเหรอ เธอไม่ชอบหรือไง” คนเอ่ยถามแยกขาของเธอออกจากกัน ก่อนที่จะค่อยๆ ลากไล้ส่วนปลายของความแข็งแกร่งกับปากถ้ำสวาท “อ๊า...” เธอครางเสียงสั่นเมื่อเขาเริ่มกดแทรกเข้าหา แล้วเนื้อกายของเธอกับเขาก็สอดประสานเข้าหากันอย่างลงล็อก “ถ้าเธอนอนขี้เซา ฉันจะปลุกเธอแบบนี้ทุกวัน” เขาสอดมือเข้าใต้สะโพกงอนงามของเธอ ก่อนจะเริ่มโยกคลอนสับจังหวะเข้าหาเป็นจังหวะระรัว เธอซี้ดปากด้วยความเสียวซ่าน จิกมือกับผ้าปูเตียงด้วยความรัญจวนใจ ยามที่เขาสอดแทรกกายเข้ามาหา และจับขาของเธอแยกออกจากกันเพื่อให้เขาชำแรกเข้าหาได้อย่างล้ำลึกมิดเม้น เขาทำให้เธออายโดยการจับศีรษะของเธอให้ผงกขึ้นมองกลางลำตัวที่เขากำลังสับสะโพกเข้าหาไม่ยอมล่าถอย หญิงสาวซี้ดปากเหมือนกินพริกเผ็ดๆ เข้าไปกำมือใหญ่ พร้อมด้วยหยาดน้ำรักที่ไหลซึมหยดย้อยไปตามเรียวขาด้วยความกระสันซ่านสุดใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD