Bad Rider - 04 - สมองกับหัวใจ

1261 Words
ฉันจมอยู่กับน้ำตาชั่วครู่แล้วฮึดขึ้นมามองออกไปนอกห้องทำงานของฉัน ทุกอย่างดูเป็นปกติ มีเพียงแค่ฉันที่เป็นบ้าเป็นหลังไปเอง เปิดลิ้นชักที่โต๊ะทำงานหยิบเอากระจกขึ้นมาวางตั้งไว้บนโต๊ะ แล้วมองหน้าผู้หญิงที่อยู่ในกระจก เธอผ่านมันมาได้แล้วนะโรส และกว่าเธอจะผ่านมันมาได้เธอสาหัสมากเลยไม่ใช่หรือไง ฉันพูดกับตัวเองในกระจกแบบนั้น ขณะเดียวกันหัวใจของฉันก็บอกว่าฉันยังคงใจสั่นกับเขาอยู่เหมือนกับครั้งแรกที่ฉันได้เจอเขาในวันที่เขาเดินผ่านห้องของยายใบเฟิร์นเพื่อนของฉันเข้าไปเปิดประตูห้องของตัวเอง ในตอนนั้นแม้เรายังไม่เคยพูดกันเลยสักคำแต่ว่าเขาทำให้ฉันใจสั่นได้ตั้งแต่วินาทีนั้น คงจะเหมือนกับแฟนคลับที่คลั่งศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบล่ะมั้งต่อให้ไม่ได้พูดคุยแต่ถ้าเพียงแค่ได้เห็น ได้รู้ก็รู้สึกมีความสุข และใช้ความสุขหล่อเลี้ยงตัวเองเอาไว้ ฉันคิดว่า ฉันเป็นแบบนั้น ฉันยกมือขึ้นทาบไปที่ก้อนเนื้อฝั่งซ้าย ไม่ใช่ที่นมนะแต่เป็นหัวใจที่มันกำลังเต้นอย่างถี่รัว บอกกับฉันว่าหากปล่อยให้เขาไปในวันนี้ฉันอาจจะไม่มีโอกาสได้เจอกับเขาอีกแล้วก็ได้นะ ในตอนนั้นเองฉันตัดสินใจลุกขึ้นยืนแต่เหมือนกับว่าสมองของฉันกำลังใช้นิ้วชี้จิ้มมาที่ขมับแล้วด่าฉันอย่างสาดเสียเทเสีย สงครามระหว่างสมองกับหัวใจศึกนี้ฉันไม่รู้ว่าใครจะชนะ ขณะที่ฉันกำลังอยู่ในสภาพนี้ฉันก็ต้องนั่งลงเพราะสมองมันบอกกับฉันว่า 'อย่าโง่ อีควาย!' แต่หัวใจของฉันกลับพูดออกมาว่าฉันอาจจะเริ่มต้นใหม่กับเขาได้ ลองกับเขาดูอีกสักครั้ง เริ่มต้นอีกสักครั้งลองพูดออกไปหากเขาไม่เอาเธอ ก็ไม่เป็นไร เธอไม่เจ็บไปมากกว่านี้แล้ว เธอผ่านช่วงที่สาหัสมาแล้ว ฉันสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเรียกความมั่นใจกลับมาแล้วลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ฉันก้าวขาออกมาจากโต๊ะแต่สมองของฉันมันก็… 'รู้เขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก โง่กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว' มันด่าฉัน นังสมองตัวดี! "พี่น้ำปรุงคะ คุณหมอเขาเป็นอะไรเหรอคะ" "นั่นสิคะ พักพิงไม่เคยเห็นคุณหมอเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะคะ" "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็ฉันไปเข้าห้องน้ำเดินผ่านก็เห็นคุณหมอผุดลุกผุดนั่งแบบนี้แล้ว" "มัดมุกรู้แล้วค่ะ" ทั้งสองคนต่างก็มองหน้ามัดมุกราวกับว่าอยากจะรู้ด้วยว่าคุณหมอคนสวยของพวกเธอเป็นอะไร "คุณหมออาจจะเข้าวงการคุณเบเบ้อยู่ก็ได้ค่ะ เห็นว่าช่วงนี้อวบขึ้นต้องตื่นมาวิ่งทุกวัน" สีหน้าของผู้ช่วยอีกสองคนต่างก็แสดงออกมาว่าเห็นด้วย วงการเบเบ้เข้าแล้วออกยาก งั้นเอาเป็นว่าให้คุณหมอเข้าไปคุณเดียวแล้วกัน พวกเธอขอเข้าทางสายมู มูทะ มูย่าง มูจุ่ม ชาบู อะไรแบบนี้ "ฉันว่าฉันอยู่สายมูดีกว่า" "พักพิงก็สายมูค่ะ" "จริงเหรอ มูไหนละ" "มูกรอบค่ะ" น้ำปรุงคนที่โตที่สุดแต่ก็โตกว่าเด็ก ๆ ทั้งสองคนเพียงแค่สองสามปีเท่านั้นจิ๊ปากออกมาแล้วมองไปที่ผู้ปกครองน้องมาร์โค่ที่อยู่ ๆ ก็อยากจะฝากน้องอาบน้ำขึ้นมาแม้ต้องรอคิวถึงสองคิวเขาก็ยอมรอได้ พวกเธอเลือกไม่สนใจผู้ปกครองแล้วตรงไปทำงานของตัวเองกระทั่งมีคนไข้เข้ามาเพิ่มอีกจนได้ โรสลินยังเดินวนไปวนมาอยู่อย่างนั้นเพราะยังไม่มีฝ่ายที่ชนะเลยสักฝ่าย หากมีใครมาช่วยเธอสักคนเธอน่าจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เธอหันไปที่ประตูเห็นว่ามีผู้ช่วยพยาบาลคนหนึ่งเดินผ่าน และบังเอิญสบสายตาที่เหมือนกับว่าผู้ช่วยพยาบาลตั้งใจเหลือบมองมากกว่าในตอนที่เดินผ่าน เธอกวักมือเรียกให้พักพิงเข้ามาหา "มีอะไรให้พักพิงช่วงเหรอคะคุณหมอ" "พักพิง ฉันมีเรื่องจะถามน่ะ มันเป็นเรื่องของเพื่อนฉันนะ" "อ๋อ ค่ะ ถามได้เลยค่ะ" "คือเพื่อนฉันมันสงสัยว่า ถ้ามันกลับไปหาผู้ชายที่ใจร้าย เย็นชากับตัวเองมันจะเจ็บอีกมั้ยน่ะ" พักพิงทำท่าคิดสักครู่แล้วถามกลับมาว่า "เขาหล่อมั้ยคะ" "หล่อ สูงประมาณ 185 เป็นลูกครึ่งน่าจะอังกฤษ หรือเยอรมันนี่แหละ ตาสีเทา ผิวสีขาว รูปร่างกำยำ…" ที่คุณหมอพูดออกมาเหมือนเธอจะเคยเห็นผู้ชายคนนั้นที่ไหนนะ ทำไมคุ้น ๆ จัง "ผมสีน้ำตาลด้วยนะ หล่อแบบ เห็นก็สะดุดตั้งแต่ไกลเลยนะ" "หล่อกว่าคุณอชิอีกเหรอคะ" "คนละแบบสิ" ฉันรอคำตอบจากพักพิงอย่างใจจดใจจ่อจนฉันเริ่มท้อใจปล่อยสองมือจากไหล่เล็กของพักพิง "พักพิงว่า… ต่อให้หล่อแค่ไหน แต่ถ้ากลับไปก็โง่มากเลยนะคะ" จึ้ง! แทงฉันทำไมยะ "เจ็บแล้วจำเป็นคน เจ็บแล้วทนเป็น…" "คนอดทนเก่ง!" ฉันรีบสวนไปทันทีเพราะฉันรู้ว่าพักพิงจะพูดว่าอะไร "แต่!" พรวด! "อ่ะ ข ขอโทษค่ะ คุณหมอ" น้ำปรุงกับยายมัดมุกคงมาแอบฟังสินะ "เข้ามา ๆ เธอสองคนได้ยินหมดแล้วใช่มั้ย สรุปว่าฉันต้องให้คำปรึกษากับเพื่อนว่าอะไรเหรอ" "มัดมุกคิดว่า ถ้าเขาหล่อ แล้วทำให้เพื่อนของคุณหมอเจ็บขนาดนั้น แต่กลับมาเจอกันอีกอย่างนี้มัดมุกคิดว่า…" ยายนี่ต้องตอบว่าเป็นพรหมลิขิตแน่ ๆ เลย "คุณหมอหลอกฟันเขาไปเลยค่ะ เอาคืนไปเลย เอาความหล่อของเขามาใช้ให้เราสุขสมพอเราเบื่อก็ทิ้งเขาก่อน" เดี๋ยว! นี่ใช่เด็กที่ยื่นชานมไข่มุกให้ฉันเมื่อกี้แน่เหรอ "น้ำปรุงว่าอย่าไปยุ่งกับเขาเลยค่ะคุณหมอ เจ็บบ่อย ๆ มันไม่สนุกหรอกนะคะ" ที่น้ำปรุงพูดมามันก็น่าคิด "แต่พักพิงคิดเหมือนมัดมุกนะคะ หลอกฟันไปเลยแล้วชิงทิ้งก่อน" "แล้วถ้าคุณหมอเผลอเอาใจลงไปเล่นอีกล่ะ" น้ำปรุงเถียง เดี๋ยว! "เอ่อ… ทุกคนคะ มันเป็นเรื่องของเพื่อนฉันน่ะค่ะ ไม่ใช่เรื่องของฉัน" ฉันโป๊ะเหรอ ไม่หรอกมั้ง "พวกเราก็พูดถึงเพื่อนคุณหมอไงคะ" "เอาเป็นว่าขอบใจทุกคนเลยนะคะ เดี๋ยวฉันขออยู่คนเดียวแป๊บนึง จะคุยกับเพื่อนน่ะ" "ค่ะ" ทุกคนตอบก่อนจะแยกย้ายกันออกไปส่วนฉันก็เดินกลับมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม มองผู้หญิงในกระจกเหมือนเดิมพร้อมกับถามผู้หญิงในกระจกไปว่า… "อยากจะลองอีกมั้ย" สมองเหมือนจะสั่งการแต่หัวใจเอามืออุดปากสมองเอาไว้ ฉันคิดว่าน่าจะเป็นแบบนั้นน่ะนะ "ลองดูอีกสักทีมั้ย เริ่มต้นอีกสักครั้ง" ฉันว่า… ฉันเชื่อหัวใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วก้าวขาออกมาพร้อม ๆ กับเสียงของสมองที่พูดตามหลังฉันมาว่า "ง่าวแท้!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD