“หึ! ไม่ร้องแล้วนะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะปล่อยมือ เรามาคุยกันหน่อยนะ อลิส!”
“อื้อ!”
ใบหน้าสวยหวานพยักขึ้นลงช้าๆ ดวงตากลมโตหลุบลงต่ำอย่างรวดเร็ว เมื่อดวงตาสีดำฉายแววบางอย่าง ราวกับกำลังข่มขู่ให้เธอกลัว
แต่ขู่แล้วไง! กลัวแล้วยังไงล่ะ เธอจะต้องหนีไปให้ได้ ถ้าเขาปล่อยมือเมื่อไหร่ เธอจะรีบหนี สถานการณ์แบบนี้ใครมันจะยอมอยู่เฉยๆกันล่ะ
“หน้าตาไม่น่าไว้ใจ ไม่ปล่อยดีกว่า”
‘ไม่นะ!’
ลลิสากรีดร้องอยู่ในใจอย่างสิ้นหวัง ภูมินทร์ยกมุมปากขึ้นยิ้มเยาะ ยิ่งดวงตากลมโตฉายความผิดหวังมากเท่าไหร่ เขายิ่งยิ้มกว้างขึ้นเท่านั้น
ยอมรับว่าในวินาทีแรกที่เห็นเธอ เขารู้สึกไม่ดีเพราะเธอไม่สวยเหมือนรูปถ่ายที่แม่เธอเอาให้ดู แต่เมื่อได้มองดูใกล้ๆ เธอกลับดูสวยกว่าในรูปถ่ายซะอีก ดวงตากลมโตที่เห็นอยู่ตอนนี้ ฉายประกายที่ต่างกันออกไป บางครั้งฉายความโกรธ บางครั้งมีความเกลียดชังฉายออกมา บางครั้งก็ดูเหมือนอ่อนหวาน และบางครั้งก็ดูดื้อรั้นแบบสุดๆ
เป็นผู้หญิงที่ไม่ง่ายเลย แต่ไม่ง่ายแล้วยังไง ในเมื่อสุดท้ายเขาก็ต้องได้อยู่ดี
“ถ้าเธอว่าง่าย ฉันสัญญาว่าจะใจดีด้วย”
ลลิสาขนลุกไปทั้งตัว ใจดีกับเธอเรื่องอะไรก่อน เธอไม่ได้มาเพื่อขอความใจดีกับเขาสักหน่อย ริมฝีปากกระจับสวยพยายามง้างขึ้น ภูมินทร์คลายมือเล็กน้อย ด้วยเข้าใจว่าคนตัวเล็กมีอากาศในการหายใจไม่เพียงพอ
เมื่อฝ่ามือใหญ่ยอมคลายออกให้ ริมฝีปากหยักสวยก็รีบง้างกว้าง อ้าเอาเนื้อเข้าไปจากนั้นก็งับลงสุดแรง ภูมินทร์รีบดึงมือที่โดนกัดออกมา ความเจ็บปวดทำให้การ์ดป้องกันตัวต่ำลง ร่างกายโงนเงนตามแรงผลัก ดวงตาวาวโรจน์จ้องมองคนที่วิ่งหนีไปยังประตู
ปึ่ง! กึก! กึก!
“ไม่นะ! เปิดสิ ไม่! อึก!”
แผ่นหลังบอบบางถูกชนโดยแผ่นอก แรงกดจากด้านหลังมีมากแม้จะพยายามขืนไว้ และเพียงไม่นานเธอก็พ่ายแพ้ หน้าอกอวบใหญ่แนบสนิทกับประตูไม้จนรู้สึกเจ็บ ใบหน้าสวยเอี้ยวกลับไปมองคนด้านหลัง ตัวสั่นสะท้านเมื่อสบกับแววตาน่ากลัว
“เธอไม่ชอบความใจดีสินะ ได้!”
ภูมินทร์กัดฟันพูด สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆที่โชยมาจากเรือนร่างอรชรช้าๆ ความหงุดหงิดที่มีไม่ได้เบาบางลง แม้จะได้สูดดมกลิ่นหอมสดชื่นจากเรือนกาย
เขาไม่ชอบผู้หญิงดื้อ เกลียดที่สุด ก็คือผู้หญิงที่ไม่ยอมอยู่ในโอวาท
“คุณจะมาใจดีกับฉันเพื่ออะไร ฉันไม่ได้มาเพื่อร้องขอมันจากคุณสักหน่อย”
“งั้นเหรอ? เธอไม่รู้? หรือแกล้งไม่รู้ เพื่อเรียกร้องอะไรจากฉันเพิ่ม แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยนะ ว่าเธอไม่มีวันได้อะไรเพิ่มเติมหรอก เพราะเท่าที่ฉันเสียไป มันก็มากพอแล้ว”
“คุณพูดอะไรไม่เห็นรู้เรื่อง!”
“เหอะ! เธอยังจะทำเป็นไม่รู้เรื่องอีกงั้นเหรอ?”
ภูมินทร์กดริมฝีปากต่ำลง เมื่อสัมผัสกับผิวเนื้อบริเวณข้างลำคอ ก็อ้าปากกว้างงับผิวขาวเนียนเข้าไป แรงกัดมีมากพอให้ร่างเล็กในอ้อมกอดสะดุ้ง แต่ไม่มากพอให้รู้สึกเจ็บปวด
“อึก! อื้อ! มัน!”
เสียว! ลลิสากลืนคำสุดท้ายลงคอได้ทัน สัมผัสของเขาวาบหวามไปทั้งร่าง ส่งผลให้ร่างกายเธอไร้ซึ่งกำลัง คำว่าน่ากลัวผุดออกมาจากหัวตลอด เขาเป็นผู้ชายที่เธอไม่ควรเฉียดกายเข้าใกล้เลยสักมิลเดียว
“มัน? มันอะไร หืม?”
ภูมินทร์รู้สึกว่าตัวเองกำลังสนุก ที่ได้พูดจากลั่นแกล้งคนตัวเล็ก เอ่ยถามอีกครั้ง ในแบบที่ริมฝีปากชิดกับกลุ่มผมหอมกรุ่น พลางพ่นลมร้อนๆใส่หลังคอ จนลำคอขาวเนียนย่นหนี เมื่อลูกกวางเลิกพยศ ก็จับตัวเธอหมุนกลับมา
พรึ่บ!
“โอ้ย! เหี้ย!”
ภูมินทร์ร้องลั่น ล้มลงพลางใช้มือกุมเป้ากางกางไว้ ลลิสาหน้าซีดเผือด ไม่คิดว่าตัวเองจะแม่นขนาดนั้น เธอรอจังหวะอยู่ตลอด เมื่อเขาหมุนตัวเธอไป ก็รีบยกเข่ากระทุ้งเข้าจุดสำคัญ เข่าของเธอโดนส่วนนั้นของเขาเข้าเต็มๆ
“ฉัน…ไม่ได้ตั้งใจนะ”
อยากจะเข้าไปช่วยประคอง แต่ลลิสาเลือกที่จะถอยห่างจากร่างกำยำ ความผิดของเขาทั้งนั้นไหม ถ้าหากไม่สั่งให้คนตามไปลากตัวเธอมา เขาจะไม่โดนเธอทำแบบนี้เลย
“… มานี่!”
“ไม่! ไม่นะ!”
ลลิสาวิ่งหนีไปอีกด้าน เพราะประตูบานที่เปิดไปสู่ทางออก มันถูกล็อกไว้อย่างแน่นหนา เธอจึงต้องหาทางออกใหม่ ที่ไม่รู้เลยว่ามันจะมีหรือเปล่า วิ่งวนเข้าไปจนถึงอีกห้องที่อยู่ด้านใน หยุดฝีเท้าเมื่อเห็นภาพในห้องชัดเจน
สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือเตียงนอนสีขาวขนาดใหญ่ เธอยืนมองมันเพียงไม่นาน คนตัวโตก็เดินตามมา ภูมินทร์หยุดยืนอยู่หน้าห้อง มองใบหน้าสวยหวานพลางยิ้มเยาะ
“เป็นการรนหาที่ที่ดีมาก!”
“อย่า! อย่าเข้ามานะ!”
ลลิสาวิ่งไปอีกด้านของเตียง ภูมินทร์ก้าวตามไปช้าๆ ความโกรธมีมากพอๆกับความชอบใจ นานแค่ไหนแล้ว ที่เขาไม่โดนผู้หญิงพยศใส่ขนาดนี้
ผู้หญิงอื่นมีแต่วิ่งเข้าใส่ มีเธอคนแรกนี้แหละที่หนีขนาดนี้
“…”
พรึ่บ!
“ถะ ถ้าเข้ามาอีก คราวนี้จะไม่ใช่หมอน!”
ลลิสาตั้งใจขว้างหมอนไปขู่ เมื่อเห็นคนตัวสูงหุ่นกำยำชะงักเท้าแต่ก็ก้าวเดินเข้ามาอีก เธอก็รีบมองหาสิ่งของที่มันมีน้ำหนักมากกว่าหมอน และสิ่งที่เธอเห็นก็คือแจกันขนาดพอดีมือ ขยับตัวไปหยิบมาถือไว้เพื่อขู่คนตัวโต
“ถ้าฉันเจ็บ บอกได้เลยว่าเธอจะเจ็บกว่าหลายเท่า”
คำขู่ของเขาได้ผล คนที่ให้ความรู้สึกเหมือนลูกม้าพยศลดมือลง ใบหน้าสวยหวานเศร้าหมอง มองจ้องกลับมาราวกับจะขอความเห็นอกเห็นใจ ถ้าเธอไม่ดื้อใส่เขาตั้งแต่ทีแรก เขาจะรู้สึกเห็นใจเธอมากกว่านี้
“ปล่อยฉันไปเถอะค่ะ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมคุณต้องจับตัวฉันไว้”
ถึงจะไม่รู้รายละเอียดของเรื่องทั้งหมดที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่ แต่ลลิสาพอจะเดาออกว่าทำไม มันต้องเกี่ยวข้องกับน้าวรรณแน่ๆ คงไม่ใช่ว่า ผู้หญิงคนนั้นหลอกเธอมาขายให้เขาหรอกนะ จะใจร้ายกับเธอไปถึงไหน
พรึ่บ! ตุบ!
“อ๊ะ! ปล่อยนะ!”
ในจังหวะที่เธอเผลอคิดไปถึงแม่เลี้ยง คนที่เธอควรระวังก็พุ่งตัวเข้ามา เขารวบมือที่มีแจกันไปกำไว้ ยกขึ้นสูงและออกแรงบิด จนต้องปล่อยแจกันให้ร่วงหล่นลงพื้น แม้มันจะไม่แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ แต่นั่นคืออาวุธที่เธอไม่ควรปล่อยให้มันหลุดมือ
พรึ่บ!
“กรี๊ด! อึก!”
ร่างบอบบางลอยหวือขึ้นเหนือพื้น และตกลงบนเตียงใหญ่ แรงโยนจากคนร่างกำยำ ทำเอาลลิสาจุกจนร้องต่อไม่ออก งอร่างกายเพราะความเจ็บปวด ยังไม่หายจากอาการเจ็บ ก็ต้องเจ็บมากขึ้นเพราะร่างกายที่โถมทับลงมา