หญิงสาวยศพันเอก

2929 Words
[ปกปิดเลเวล] ผมกล่าวคำสั่งในใจ ซึ่งมันเป็นการปกปิดเลเวลข้างใต้ชื่อของผมบนหัว ก่อนที่ร่างของผมจะถึงพื้น ซึ่งมันทำให้เหล่าทหารพากันตกใจ เพราะความเร็วหลังจากที่ผมกระโดดออกมาจากระเบียง ผมก็หายตัวลงไปสู่เบื้องล่างทันที “!!” พวกทหารถึงกับยกอาวุธขึ้นมาจ่อผมและตั้งท่าเตรียมพร้อม ส่วนผู้นำค่ายเขาเพียงแค่ยกมือลงไปจับปืนที่คาดเอวอยู่ข้างขวา “ผมเป็นแค่ประชาชนเองนะครับ” ผมกล่าวออกไปก่อนจะยกมือทั้งสองข้างขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นว่าผมไม่มีอาวุธ “เพราะฉะนั้นพวกคุณไม่มีสิทธิ์!!” ผมกล่าวอีกครั้งเมื่อพวกเขาไม่มีท่าทางว่าจะวางอาวุธลง ฟึบๆๆๆ ผมได้พุ่งเข้าไปปัดอาวุธลงจากมือของพวกเขาด้วยความรวดเร็วและกลับมายืนที่เดิม ซึ่งความไวของผมในเลเวล 25 ทำให้ผมมีแต้ม AGI เท่ากับ 25 เช่นกัน เนื่องจากผมจะเน้นไปที่ค่าความเร็วในช่วงแรก และจะลงไปที่ค่า DEX ภายหลังจากที่ผมเพิ่มระดับขึ้นเป็นผู้เล่น เพราะถึงยังไงแล้วค่าอื่นๆเช่นค่าป้องกัน พลังโจมตีหรือฟื้นฟูพลังชีวิตมันสามารถใช้อุปกรณ์หรือไอเท็มมาทดแทนได้ ที่จริงแล้วค่าความเร็วเองก็เช่นกัน แต่การที่จะสู้กับพวกซอมบี้ได้โดยไม่ให้ตัวเองติดเชื้อ นั่นคือเรื่องสำคัญ เพราะต่อให้เราแข็งแกร่งแค่ไหน หรือต่อให้แข็งแกร่งที่สุดในมนุษย์ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะไปยืนให้ซอมบี้มันแทะเล่น ความเร็วจึงเป็นสิ่งสำคัญ และรองลงมาจากประสบการณ์โดยตรงของผม ค่า DEX เองก็สำคัญ เพราะมันสามารถทำให้เราโจมตีโดนเป้าหมาย รวมถึงสามารถเจาะเกราะของเป้าหมายได้อีกด้วย เรียกได้ว่าสามารถใช้ค่า DEX นี้เข้ามาแทนที่คำว่าพลังโจมตีน้อยได้ ยิ่งถ้าเรามีอาวุธคลาส SSS มันจะทำให้เราสามารถโจมตีได้แรงขึ้น ฉะนั้นแล้วการต่อสู้แบบระยะประชิด จากการที่ผมอัพค่าสเตตัสแบบนี้ มันจะทำให้ผมเหนือกว่าอีกฝ่ายมาก แต่ถ้าหากอีกฝ่ายมีทักษะติดตัวแบบ SEN นั่นก็เป็นเรื่องลำบากเช่นกัน เพราะอีกฝ่ายจะมีประสาทสัมผัสรอบตัวที่ดีสุดๆ นั่นหมายความว่าผมจะไม่สามารถเข้าถึงตัวของอีกฝ่ายได้เลย นอกเสียจากค่า AGI ของผมจะเหนือกว่าค่า SEN มากๆ ซึ่งการที่ผมอัพค่าสเตตัสเช่นนี้ เพราะผมจะเอาไว้ใช้กับพวกซอมบี้โดยเฉพาะ เป้าหมายหลักของผมคือการจัดการต้นกำเนิดซอมบี้ หรือเยลลี่สีเขียวขนาดใหญ่ที่คล้ายกับหัวใจของมนุษย์ พวกซอมบี้แค่ผ่าหัวมันก็จบแล้ว ไม่จำเป็นต้องทุบให้แหลกทั้งตัว และผมจะสามารถหลบพวกกลายพันธ์ได้อีกด้วย นอกเหนือจากนี้ก็จะให้หงส์ที่เน้นค่า STR หรือค่าพลังโจมตีและ DEX เพื่อให้เธอมีพลังทำลายล้างที่สุดยอด ในการเจาะกะโหลกของซอมบี้ไททัน ส่วนความเร็วในการโจมตีค่อยให้ผู้เล่นอาชีพช่างช่วยพัฒนาอาวุธให้ “หยุด!!” “ยกมือขึ้นเดี๋ยวนี้!!” เหล่าทหารโดยรอบที่ถูกผู้นำค่ายสั่งเตรียมพร้อมเอาไว้ ได้เดินมาทางผมพร้อมกับยกอาวุธปืนมาล้อมรอบผมในทันที ซึ่งผมก็ไม่ได้ทำตามที่พวกเขาบอกแต่อย่างใด ผมยืนอยู่เฉยๆ “ถ้าหากพวกคุณยังใช้อำนาจทำตามใจชอบ” “ผมแนะนำให้ห่างจากผมซะ” “ผมไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจของพวกคุณ” ผมกล่าวออกไปซึ่งพวกเขายังคงกดดันผมอย่างต่อเนื่องให้ผมยกมือขึ้นและคุกเข่าลง “เดี๋ยวก่อนครับท่าน!” “ผมคิดว่า-!” เจมส์กำลังวิ่งมาช่วยเหลือผมแต่ ฟุบ ลูกธนูได้ถูกยิงออกไปที่พื้นข้างหน้าบริเวณที่ผู้นำค่ายยืนอยู่ ซึ่งมันเป็นสัญญาณว่ามีคนโจมตีมาจากระยะไกล และมันคงจะเป็นเพียงแค่คำขู่ โดยที่ลูกธนูนั้นได้ปักไปที่พื้นอย่างรุนแรง พวกทหารถึงกับตกใจถึงอานุภาพของมัน ลูกธนูเล็กๆสามารถปักที่พื้นปูนได้เลยงั้นหรือ? ไม่สิ… บางทีส่วนปลายของมันอาจจะถูกลับมาจนคมมากๆก็ได้ ซึ่งมันก็ถูก ปลายลูกธนูได้ถูกลับมาจนคมมากๆ แต่ในครั้งนี้มันเป็นเพราะค่าสเตตัสของหงส์ด้วย ในส่วนของค่าพลังเจาะเกราะ พวกทหารจึงพากันมองขึ้นฟ้าเพื่อดูสถานที่ที่ลูกธนูถูกยิงออกมา และมันน่าจะเป็นไปตามที่ผู้นำค่ายกล่าวไว้ ก็คือหงส์ น้องสาวของคนที่กำลังถูกรุมล้อมไปด้วยอาวุธปืนเบื้องล่าง “คือว่า…” เจมส์ถึงกับพูดไม่ออกเกี่ยวกับสถานการณ์ตรงหน้า เพราะมันเกินความสามารถของเขาไปแล้ว ถ้าหากเขาออกตัวให้กับมังกร บางทีเขาอาจจะถูกไล่ออกจากค่ายก็เป็นได้ “ไม่ต้องครับ” ผมหันไปกล่าวกับเจมส์ด้วยท่าทางที่ไม่เกรงกลัวเกี่ยวกับสถานการณ์รอบข้างแม้แต่น้อย ก่อนจะหันกลับมามองหน้าผู้นำค่าย “ถ้าหากเป็นเช่นนี้” “เราไม่มีอะไรต้องพูดคุยกันอีกแล้ว” ผมกล่าวจบ เพล้ง เสียงกระจกแตกก็ดังขึ้นทันที มันเป็นตึกตรงข้ามหอพักของผม ซึ่งน่าจะเป็นที่อยู่ของมือสังหารจากระยะไกล และที่กระจกแตกมันไม่ใช่เพราะกระสุนของเขา แต่เป็นลูกธนูของหงส์ที่ทำให้กระจกห้องนั้นแตก มันทำให้เหล่าทหารพากันให้ความสนใจกับห้องที่กระจกแตกทันที และในจังหวะนั้นแหละมันคือโอกาสของผม! ฉับๆๆๆๆๆ ผมเร่งความเร็วการเคลื่อนที่อย่างสุดความสามารถในการใช้ปลายหอกฟันอาวุธปืนของพวกทหาร และทำให้ปืนของพวกเขาถูกตัดแบ่งครึ่ง แต่ในครั้งนี้ผมไม่ได้กลับมายืนที่เดิม ผมได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยปล่อยให้พวกทหารยืนนิ่งค้างกันอยู่อย่างนั้น ก่อนที่ผู้นำค่ายจะแสดงความโกรธออกมาและสั่งให้พวกทหารขึ้นไปที่ห้องพักของผม แต่เมื่อขึ้นไปถึง พวกเขาไม่ได้พบกับสิ่งมีชีวิต เพราะทั้งผมและหงส์ได้ออกไปจากซอยหอพักโดยไปทางข้างหลัง ซึ่งมันเป็นป่า โดยที่มีดราก้อนคอยบินสูงเพื่อดูท่าทีของพวกทหาร ซึ่งดราก้อนจะสามารถคุยกับหงส์ได้ราวกับมนุษย์คุยกัน แต่พูดคุยกันรู้เรื่องเพียงสองคน “พี่” “เราจะไปกันแค่สองคนจริงๆเหรอ?” หงส์กล่าวถามผมย้ำ เผื่อว่าผมจะมีตัวช่วยเช่นเจมส์ เนื่องจากในมหาลัยยังเป็นพื้นที่อันตรายขนาดที่ว่าพวกหน่วยสังเกตการณ์ของค่ายยังไม่กล้าเข้าไปในนั้น “ในเมื่อพี่ตัดสินใจจะทำอะไรแล้ว” “สิ่งที่พี่จะทำมันจะมีประโยชน์กับเรามาก” “รวมถึงพี่จะคิดเกี่ยวกับความปลอดภัยของพวกเราไว้แล้วด้วย” ผมกล่าวออกไปด้วยความมั่นใจ “โอเค” “หงส์จะเชื่อพี่” เธอกล่าวตอบกลับมาระหว่างที่เรากำลังเดินทางเข้าสู่รั้วมหาลัย โดยที่ระหว่างทางเราก็จะจัดการกับพวกซอมบี้ไปด้วย ซึ่งระหว่างทาง หงส์จะใช้อาวุธระยะประชิดในการสู้ เพราะต้องเก็บลูกธนูไว้ใช้ในยามจำเป็น ณ ทางเข้ามหาลัย ทางเข้ามหาลัยจะมีป้ายขนาดใหญ่โค้งราวกับเป็นสายรุ้ง ซึ่งเราใช้เวลาในการเดินทางถึงหนึ่งวัน เพราะเราไม่ได้ใช้รถในการเดินทาง เราเดินเท้าเปล่าและพยายามฆ่าซอมบี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มิใช่เพราะเราจะช่วยกวาดล้างพวกมัน แต่เราทำเพราะต้องการใช้เยลลี่ในหัวสมองของพวกมันมาเพิ่มเลเวล ทำให้เลเวลของพวกเราเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เมื่อเราไม่ต้องกักเก็บความสามารถ และส่วนใหญ่ภายนอกซอยหอพักของเราล้วนมีแต่พวกซอมบี้ เนื่องพวกมนุษย์ได้พยายามอพยพเข้าสู่ค่ายทหาร “พี่…พวกมันเยอะมากเลยนะ” หงส์กล่าวด้วยความกลัว เพราะเพียงแค่ทางเข้าสู่มหาลัยก็มีพวกซอมบี้นับร้อย เนื่องจากทีมสังเกตการณ์น่าจะพยายามเข้าไป และทำให้พวกมันได้ยินเสียงและมารวมตัวกัน เนื่องจากเราทั้งคู่ได้สังเกตเห็นซอมบี้ที่ใส่ชุดทหารราวๆ 3 คน “เราจะฝ่าเข้าไป" “และพักที่หอประชุม” ผมกล่าว เนื่องจากหอประชุมนั้นอยู่ใจกลางมหาลัย ผมมีความคิดที่จะล่อพวกซอมบี้ไปที่นั่น เพื่อเข้าไปจัดการกับดันเจี้ยนซอมบี้ที่ทำงานของอธิการ “ตกลง” หงส์กล่าวอย่างจริงจัง เพราะถ้าหากผมตั้งใจจะทำอะไรแล้ว อย่างที่ผมได้กล่าวกับเธอ ผมจะต้องคิดมาก่อนอย่างแน่นอน และส่วนใหญ่แล้วมันจะเป็นไปตามที่ผมคิด “พี่จะคอยคุ้มกันรอบข้างให้” “วิ่งไปอย่าหยุด!” ผมกล่าวเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะวิ่งนำหงส์ไปก่อน โดยที่เธอได้วิ่งตามผมมาติดๆเพราะผมลดความเร็วลง และพยายามสังเกตรอบข้าง โดยที่มีดราก้อนคอยส่งสัญญาณด้วยเสียงร้องของมัน เพื่อทำให้พวกซอมบี้ไขว้เขว แต่ถึงกระนั้นแล้วพวกซอมบี้ส่วนใหญ่ก็ยังคงเดินมาหาพวกเรา ซึ่งที่ผมเลือกโจมตีดันเจี้ยนซอมบี้ในช่วงแรกเริ่มโลกาวินาศ มิใช่เพราะผมต้องการกำจัดพวกมันโดยเร็ว แต่พวกมันยังไม่ได้ถูกวิวัฒนาการ เพราะดันเจี้ยนซอมบี้ยังไม่มั่นคง! ถ้าหากอุกกาบาตสีเขียวทั่วโลกพร้อมปลดปล่อยคลื่นซอมบี้ มันจะทำให้พวกซอมบี้มีเลเวล และเริ่มกลายพันธ์! ในตอนนี้พวกมันจึงยังเชื่องช้า พวกมันจึงไม่สามารถตามความเร็วของมนุษย์ได้ทัน ทำได้เพียงล้อมมนุษย์เอาไว้จากทุกทิศ แต่ด้วยผมที่ไม่กลัวพวกมัน และมีความเชี่ยวชาญในการล่าพวกมัน ผมจึงสามารถเปิดทางและระวังรอบข้างให้หงส์ได้เป็นอย่างดี มันทำให้หงส์สามารถวิ่งไปได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องโจมตีพวกซอมบี้แม้แต่น้อย ส่วนผมที่กำลังพยายามกวาดพวกซอมบี้ตรงหน้าและรอบข้างเพื่อไม่ให้พวกมันเข้าถึงตัวน้องสาวของผม จนในที่สุดตอนนี้เราได้วิ่งเข้าสู่อาคารเรียนรวม 1 เป็นที่เรียบร้อย ถัดไปจะเป็นเรียนรวม 4 และตรงเข้าสู่หอประชุม ในตอนนี้ผมสนใจเพียงอย่างเดียวคือการเอาชีวิตรอดปลอดภัยไปถึงหอประชุม เยลลี่เขียวที่ใช้ในการอัพเลเวลนั้นคือเรื่องรอง เพราะในตอนนี้เราทั้งสองมีเลเวลที่มากพอสมควร มากจนผมคิดว่าพอจะจัดการกับดันเจี้ยนซอมบี้ที่ยังไม่สมบูรณ์ได้อย่างแน่นอน ด้วยเลเวล ผู้รอดชีวิต มังกรบิน เลเวล 41 ผู้รอดชีวิต หงส์บิน เลเวล 30 และยังคงเหมือนเดิม ผมให้เยลลี่สีเขียวกับหงส์มากกว่าตัวผมเอง ซึ่งการเพิ่มเลเวลของพวกเรามันบ้าคลั่งมาก นอกจากที่เรารวบรวมเยลลี่สีเขียวกันมาก่อนหน้านี้แล้ว เรายังได้ระหว่างทางมาอีกด้วย โดยที่ทรัพยากรในการใช้ควบคู่ไปกับเยลลี่สีเขียว หรือก็คือหญ้าสีฟ้าที่จะปรากฏรอบๆผลึกสีฟ้า ผมได้เก็บเกี่ยวพวกมันมาเป็นจำนวนมาก มากถึงขนาดที่ทำให้เราทั้งคู่ใช้มันอัพระดับไปยังขั้นผู้เล่นได้เลยทีเดียว ติดเพียงเยลลี่สีเขียวที่ต้องใช้จำนวนมาก ฉับๆๆๆ “ดูข้างหลังให้พี่หน่อยหงส์!” ผมกล่าว แต่ถึงผมไม่กล่าวเธอก็กำลังทำอยู่ ในตอนนี้ผมรู้สึกว่าเธอได้เรียนรู้การต่อสู้ได้เป็นอย่างดี เพราะในตอนนี้ผมกำลังจัดการซอมบี้เบื้องหน้า พวกมันอยู่เต็มบันไดทางขึ้นสู่หอพระชุมเต็มไปหมด ซึ่งมันเป็นบันไดเล็กๆที่เป็นเกลียวขึ้นไปสู่ชั้นที่สาม และจากที่พวกซอมบี้มันรวมตัวกันอยู่บริเวณนี้มาก อาจจะเป็นเพราะว่ามีผู้รอดชีวิตหนีขึ้นไปหลบข้างบนนี้ก็เป็นได้ และเมื่อเราขึ้นไปถึงชั้นที่ 3 จะมีทางเดินทั้งสองฝ่าย ซ้ายและขวา แน่นอนว่าทั้งสองทางสามารถเข้าไปในห้องประชุมได้ ซึ่งฝ่ายซ้ายนั้นมีพวกซอมบี้อยู่เต็มไปหมด ผมจึงเลือกที่จะไปทางขวาแทน โดยที่ผมให้หงส์วิ่งนำไปก่อน สลับหน้าที่กันเป็นผมคอยจัดการเบื้องหลัง ให้หงส์ใช้หน้าไม้ยิงลูกธนูจัดการซอมบี้เบื้องหน้า เพราะเบื้องหลังในตอนนี้อันตรายมาก พวกซอมบี้ยั๊วะเยี๊ยะเต็มไปหมด ถ้าหากใครต้องอยู่ในสถานการณ์เดียวกับพวกผมแล้ว คิดว่าคนผู้นั้นจะต้องสติแตกแน่ๆ ครึกๆๆ “พี่!!ประตูล็อค!" หงส์ตะโกนกล่าวกับผมที่พยายามยื้อพวกซอมบี้ไว้เบื้องหลัง และพยายามเก็บเยลลี่สีเขียวจากพวกมันอีกด้วย “ห้ามเปิดเด็ดขาด!!” เสียงดังมาจากข้างในที่ประชุม มันทำให้ผมเลิกคิดเกี่ยวกับหอประชุมทันที ผมไม่อยากพบเจอผู้คนที่ต้องมาระแวงกัน และพยายามหาทางไปที่อื่น ซึ่งในตอนนี้มันน่าจะไม่ทันแล้ว เพราะเบื้องหน้ามันก็มีพวกซอมบี้กำลังเดินมาอย่างช้าๆ เนื่องจากไม่ว่าจะทางซ้ายและขวา มันหมุนกันเป็นวงกลม ถ้าหากต้องหนีจริงๆแล้วคงจะมีทางเดียวนั่นก็คือทางกระจก! ไม่! มันเสี่ยงเกินไป! ผมพยายามละทิ้งความคิดนี้ เพราะถ้าหากหงส์บาดเจ็บ แผนของเราจะพังไปหมดแน่ๆ ซึ่งในระหว่างที่ผมกำลังคิด หงส์เองก็กำลังจะใช้แรงทั้งหมดที่ตนได้อัพค่าสเตตัสไว้ฝึนผลักประตู โดยที่ข้างในหอประชุมเองก็กำลังถกเถียงกันเสียงดังและเริ่มมีเสียงต่อสู้เกิดขึ้น ฟึบ! ปังๆๆ และในพริบตาต่อมาประตูก็ถูกเปิด คนภายในประตูนั้นได้จ้องมองหงส์อยู่สักพักก่อนที่จะพุ่งออกมาและใช้ปืนของตนยิงหัวของพวกซอมบี้รอบตัวของผมไปพอสมควร มันทำให้ผมสามารถวิ่งไปหาหงส์ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งหงส์เธอก็ไม่เข้าไปจนกว่าพี่ชายของเธอจะมาถึง โดยที่เธอเองก็กำลังใช้หน้าไม้ในการยิงหัวพวกซอมบี้คุ้มกันผมเช่นกัน เมื่อผมมาถึงหน้าประตู หงส์ได้เข้าไปในทันทีพร้อมกับผม และคนสุดท้ายก็คือหญิงสาวในชุดเครื่องแบบทหาร ฟุบๆๆ ตุบๆๆๆ “ส่งอาวุธมา!!” เมื่อเราเข้ามาภายใน ปรากฏว่ามีพวกทหารล้อมรอบพวกเราอยู่แล้ว และพวกทหารสองคนได้เข้ามาปะทะกับผม ส่วนอีกคนนึงพยายามจะเข้าถึงตัวหงส์ ฟุบ “อ๊ากก!!” แต่ก็ต้องโดนหงส์เตะผ่าหมากจนทหารนายนั้นต้องทรุดลงไปนอนบนพื้น ทำให้พวกทหารที่ล้อมรอบเราอยู่เห็นถึงความอันตรายจึงยกปืนขึ้นมาจ่อพวกเราและยืนกันเป็นลักษณะครึ่งวงกลม วูบ แกร๊กๆๆ ผมไม่รอช้าตามสัญชาตญาณ ผมได้ใช้หอกของผมในการปัดอาวุธออกจากมือของพวกเขาทิ้ง แต่ดูเหมือนว่าพวกเขายอมให้ตัวกระเด็นดีกว่ายอมให้อาวุธหลุดจากมือ ซึ่งพวกเขาก็ได้พยายามตั้งท่าใหม่ทันทีที่ล้มลง “หยุด!” “แถวตรง!” เสียงหญิงสาวตะโกนออกมาดังลั่นมันทำให้พวกทหารที่ได้ยินเช่นนั้นต่างทำตามคำสั่งในทันที “คุ้มกันท่านนายกรัฐมนตรี!!!” ส่วนพวกทหารและตำรวจที่ไม่ได้อยู่ภายใต้คำสั่งของเธอทำให้พวกเขาพากันรุมล้อมชายคนหนึ่งที่ใส่ชุดเครื่องแบบและมีเหรียญตราติดเต็มเครื่องแบบไปหมด ‘เพราะมีคนสำคัญนี่เอง…’ ผมคิดในใจ และพวกทหารเบื้องหน้าของผมคงจะเป็นทหารที่มีความสามารถมากที่สุดในห้องนี้ โดยที่พวกเขาน่าจะเป็นทีมของหญิงสาวเบื้องหลังของผม ซึ่งเธอกำลังเดินมายืนข้างๆผม “คุณคงจะชื่อว่ามังกร” “ฉันได้ฟังเรื่องราวของคุณมาจากเจมส์” “เขาเคยอยู่ในหน่วยของฉัน” หญิงสาวในเครื่องแบบกล่าวออกมา เธอมีรูปร่างที่พอจะเป็นนางแบบได้เลยทีเดียว ยังไม่รวมถึงหน้าตาและผิวสีน้ำผึ้งของเธอ แล้วเพราะอะไรกันที่ทำให้เธอมาเป็นทหารยศสูง? ด้วยยศที่ถูกติดบนบ่าของเธอ พันเอก “ส่วนน้องสาวของคุณถือหน้าไม้เป็นอาวุธน่าจะชื่อว่าหงส์” เธอกล่าวพลางมองดูไปที่น้องสาวของผม ซึ่งเธอกำลังวิ่งมายืนข้างๆผมเพราะเชื่อว่าพี่ชายของเธอจะสามารถปกป้องเธอได้ “…” ผมถึงกับพูดไม่ออกเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ เธอรู้จักผม อาจจะเพราะว่าเธอเป็นคนสั่งให้เจมส์พาผมไปหาเธอ ไม่ใช่ผู้นำค่าย เพราะผู้นำค่ายยังคงเป็นเพียงทหารยศพันตรี และเป้าหมายหลักของเจมส์มิใช่การพาผมกลับไปที่ค่าย อาจจะเป็นการพาผมไปช่วยเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD