bc

เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย

book_age16+
2.8K
FOLLOW
27.7K
READ
drama
comedy
sweet
lighthearted
spiritual
like
intro-logo
Blurb

คุณหนูใหญ่ตระกูลเผยว่าที่พระชายาขององค์ชายสิบห้าตกไปในเหวพร้อมรถม้า นางสิ้นชีพพร้อมสาวใช้คนสนิท ทว่าวิญญาณไปเข้าร่างของบุตรสาวนอกสมรสของขุนนางผู้หนึ่ง นางได้รับรู้โดยบังเอิญว่าตนเองอาจจะถูกฆ่าในชาติก่อนจึงหมายกลับมาแก้แค้น!

chap-preview
Free preview
บทที่ 1 อุบัติเหตุบนหน้าผา
            ...ข้าตายแล้ว! ข้าตายแล้วจริงๆ หรือนี่?....             รถม้าที่แยกส่วนเป็นเสี่ยงๆ อยู่ตรงหน้ายังไม่น่ากลัวเท่าร่างของนางในชุดเจ้าสาวสีแดงสดที่พาดฟุบอยู่บนโขดหินเบื้องหน้าเลือดสดๆ ไหลอาบทั่วร่าง ใบหน้าบิดเบี้ยวจนแทบจะมองเค้าเดิมไม่ออก สองแขนห้อยเหมือนไร้กระดูก เท้าสองข้างบิดกลับหลัง ศพของนางกระเด็นออกจากรถม้าไปไม่ไกลนักคงจะเป็นเพราะการกระแทกกับก้อนหินบริเวณนี้ พลันนางจึงนึกขึ้นได้ว่าในรถม้าคันนี้มีสาวใช้ประจำตัวที่นั่งมาด้วย           “หยวนจุน! หยวนจุน!” นางส่งเสียงร้อง พยายามมองหาสาวใช้ประจำตัว รอบข้างช่างเงียบงันนัก นางขยับออกไปไกลกว่าเดิม ยามนี้ใกล้จะฟ้าสางแล้วทำให้พอมองเห็นได้รางๆ             นางก้มลงมองตนเองยิ่งตกใจเมื่อเห็นว่าตั้งแต่หัวเข่าจนถึงปลายเท้าของตน  ไม่มีอยู่แล้ว ร่างของนางคล้ายลอยไปตามที่จิตตั้งความปรารถนา             ...จริงสิ! ข้าตายไปแล้ว นี่เป็นเพียงวิญญาณเท่านั้น...             ความรู้สึกเจ็บปวดที่จำได้เลือนรางเพียงไม่กี่อึดใจนั้นไม่มีหลงเหลืออยู่แล้ว นางจำได้ว่าอนุสติสุดท้ายได้ยินเสียงรถม้ากระทบกับก้อนหินดังลั่น ร่างของนางถูกอัดอย่างแรง หน้าอกถูกกระแทกคราหนึ่งบีบแน่นจนหายใจไม่ออก จากนั้นนางก็วูบดับไป รู้ตัวอีกทีก็มายืน ไม่สิ...ลอยนิ่งๆ อยู่เบื้องหน้าเศษซากรถม้านั่นแล้ว! นางลอยไปรอบๆ จนพบศพหยวนจุนที่กระเด็นไปติดอยู่ในซอกหินใหญ่       ริมแม่น้ำ ใบหน้าของนางเละไปซีกหนึ่ง แขนขาห้อยรุ่งริ่งสลับกลับข้างอย่างน่ากลัว ร่างของเยว่หยวนจุนเองก็แหลกเหลวไม่ต่างจากศพของนาง “หยวนจุน ข้าขอโทษที่พาเจ้ามาตายอนาถเช่นนี้” นางมองไปรอบๆ แล้ววิญญาณของหยวนจุนเล่า? เหตุใดนางจึงไม่เห็นวิญญาณของสาวใช้คนสนิท? ทั้งๆ ที่เป็นคนตายเหมือนกันแท้ๆ นางจึงตะโกนร้องเรียกอีกครั้งเผื่อวิญญาณของหยวนจุนจะได้ยิน ....แปลกจริง! หรือว่า? วิญญาณหยวนจุนจะถูกยมทูตพาไปก่อนแล้ว....             เวิ้งแม่น้ำนี้มีแต่โขดหินระเกะระกะ หินขนาดใหญ่น้อยวางทับซ้อนกันอยู่เป็นบริเวณกว้าง มองเลยออกไปเป็นหน้าผาสูงชัน หน้าแหงนมองจนรู้สึกปวดคอ นางอยากจะตะโกนร้องให้คนช่วย แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตนเองคือดวงวิญญาณที่ออกจากร่าง ยังคงได้แต่สงสัยว่าจากนี้นางต้องทำอย่างไร? หรือต้องรอให้มียมฑูตมารับนางไปยมโลกอย่างที่เคยอ่านในบันทึกเก่าแก่? จากนั้นก็ไปเข้าแถวดื่มน้ำแกงยายเมิ่งเพื่อให้ลืมชาติที่แล้วเป็นการเตรียมมาเกิดใหม่             เสียงฝีเท้าม้าก้องไปทั่วหุบเขา เผยมู่ซีรู้สึกใจเต้นโครมครามด้วยความตื่นเต้น มีคนผ่านมาทางนี้แล้ว หากว่านางยังคงนั่งรอเฝ้าศพตนและหยวนจุนอยู่ที่นี่ก็คงไม่มีประโยชน์อันใดสู้ขึ้นไปดักข้างบนจะดีกว่า รถม้าของนางเองก็ตกมาจากข้างบนนั่น นางหันกลับไปมองซากรถและศพของตนเองอย่างเศร้าใจ             ...แปลกจริง! ไม่มีซากม้าแม้สักตัว...             เพียงจิตปรารถนาจะขึ้นไปข้างบน ร่างของนางก็ลอยละลิ่วตรงขึ้นไปตามหน้าผา รถม้าคันใหญ่วิ่งมาช้าๆ เพราะหนทางนั้นสูงชัน เผยมู่ซีถูกดึงดูดจนร่างของนางลอยหวือเข้าไปแปะติดอยู่ข้างรถม้า จากนั้นก็วูบเข้าไปในรถม้า นางมองเห็นเด็กหญิงหน้าตาจิ้มลิ้มอายุประมาณสิบขวบนอนหายใจรวยรินโดยมีฮูหยินงดงามผู้หนึ่งนั่งกุมมืออยู่ อีกข้างมีสาวใช้คอยใช้ผ้าซับเหงื่อของคนป่วย             “หลานเอ๋อร์! เจ้าอดทนหน่อยเถิด อีกไม่นานก็ถึงโรงหมอแล้ว!” โฉมงามผู้นั้นปลอบใจเด็กหญิงด้วยสีหน้าอมทุกข์             เผยมู่ซีก้มลงมองคนทั้งคู่ในรถม้าด้วยความเห็นใจ ใบหน้าของเด็กหญิงที่ถูกเรียกว่าหลานเอ๋อร์ซีดขาว ริมฝีปากเผือดสีแตกเป็นเกล็ดลอกออกมาหลายส่วน ร่างกายดูอ่อนระโหยโรยแรงคล้ายคนเจ็บป่วยมาเป็นเวลานาน เผยมู่ซีคิดอยากจะออกจากรถม้าคันนี้ แต่ตั้งจิตปรารถนาเท่าใดนางก็ไม่อาจออกไปได้             ‘เอ๊ะ! รถม้านี้มีสิ่งใดกันทำให้ข้าออกไปมิได้?’             “กำยันต์เอาไว้หลานเอ๋อร์! แม่ไปขอมาจากวัดหยกสวรรค์ที่ร่ำลือกันว่าศักดิ์สิทธิ์นัก! เทพยดาฟ้าดินจะต้องช่วยเจ้าได้แน่!”             เผยมู่ซีตะลึงมองหน้ามารดาของหลานเอ๋อร์ที่กำลังยัดผ้ายันต์สีเหลืองผืนเล็กใส่ในมือของบุตรสาว เด็กหญิงกำมือแน่นสาวใช้จึงช่วยฮูหยินแกะมือน้อยนั้นออก ครั้นฮูหยินกุมมือของบุตรสาวที่มียันต์เอาไว้ แสงสีทองประกายก็ทอประกายเจิดจ้าออกจากกำมือของหลานเอ๋อร์ เผยมู่ซีที่มัวแต่มองอยู่ถูกแสงนั้นรู้สึกว่าร่างกายของตนเองวูบวาบ พอก้มลงมองช่วงขาก็ได้เห็นว่าร่างของตนเองถูกดูดเข้าไปในกำมือของ     หลานเอ๋อร์             ‘โอ๊ะ! อ๊ะ! นี่เกิดอะไรขึ้น?’             เด็กหญิงที่นอนหลับตาดิ้นกระสับกระส่ายอยู่เมื่อครู่นอนนิ่ง สาวใช้เห็นเช่นนั้นก็รีบอังนิ้วที่ปลายจมูกของหลานเอ๋อร์ “ฮะ ฮูหยิน คุณหนูไม่หายใจแล้วเจ้าค่ะ!” สีหน้าของสาวใช้ซีดเผือด ฮูหยินได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจจนอ้าปาก นางส่ายศีรษะเหมือนจะไม่เชื่อก่อนจะยื่นนิ้วไปวางเหนือริมปากบนจนบุตรสาว ทว่า....สตรีทั้งสองที่เฝ้าอยู่รถม้าร้องเรียกหลานเอ๋อร์ออกมาพร้อมกัน เสียงร่ำไห้ระงมก้องทั้งรถม้า             “หลานเอ๋อร์! อย่าจากแม่ไป! ฮือๆ ฮือๆ” เสียงร่ำไห้น่าเวทนานั้นดังอยู่ไม่ขาดกระทั่งรถม้าจอดหน้าโรงหมอ ท่านหมอเกาเคยอยู่ที่หัวเมืองแต่เพราะฝีมือการรักษาเป็นที่เลื่องลือ ฮ่องเต้จึงได้มีราชโองการจัดตั้งโรงหมอและให้หมอเกามาดูแล ผู้ช่วยร่างใหญ่ของหมอเกาขึ้นไปบนรถม้าช่วยอุ้มเด็กหญิงที่สิ้นสติลงมา ท่านหมอมองดูร่างระทดระทวยของเด็กหญิงด้วยสายตาเวทนา “พานางเข้าไปนอนข้างใน” “ท่านหมอ! ช่วยลูกสาวข้าที นางไม่หายใจแล้ว!” “ท่านวางใจ...ข้ารักษาผู้ป่วยทุกคนเต็มที่อยู่แล้ว” หมอเกาเดินลิ่วตามเข้าข้างใน นั่งลงตรวจชีพจรของเด็กหญิงอยู่ครู่หนึ่ง “ฮูหยินชีพจรของบุตรสาวท่านอ่อนมาจริงๆ แต่ยังพอมีความหวังอยู่” สตรีทั้งสองที่ยืนสะอื้นฮักๆ เมื่อครู่บนรถม้าเห็นอยู่ชัดๆ ว่าหลานเอ๋อร์ไม่หายใจแล้ว คนทั้งสองหันมาจับมือกันด้วยสีหน้ายินดีเปี่ยมล้น “ท่านหมอ บุตรสาวของข้ามีโอกาสจะฟื้นใช่หรือไม่?” “ข้าคิดว่าเป็นเช่นนั้น” หมอเกาหันไปเทยาลูกกลอนเล็กๆ ในขวดกระเบื้องสีน้ำตาลใส่ปากหลานเอ๋อร์สองสามเม็ดก่อนจะป้อนน้ำตามไป “ร่างกายของนางยังตอบสนองดีอยู่ ท่านดูสิว่านางกลืนยาเข้าไปแล้ว เช่นนี้นับว่าเป็นสัญญาณที่ดี เดี๋ยวข้าจะไปต้มยาให้นางก่อน พวกท่านดูแลนางให้ดีเถิด” เหงื่อของเด็กหญิงผุดออกมาไม่ขาดสาย เปลือกตาของนางเริ่มขยุกขยิก ใบหน้าของนางส่ายไปมา ฮูหยินดีใจยิ่งนักที่ได้เห็นบุตรสาวเคลื่อนไหวอีกครั้งเพราะเห็นหลานเอ๋อร์หยุดหายใจ นางเกือบจะกลับรถกลับไปอำเภอเฉินแล้ว “ฮูหยินช่างเป็นโชคของพวกเราเสียจริงที่มาจนถึงโรงหมอของท่านหมอเกา” “อืม! ไม่เสียทีที่ข้าจ้างรถม้าพาหลานเอ๋อร์มาถึงที่นี่” จังฮูหยินทอดถอนใจ เงินเก็บของนางมิได้มีมากนักที่ผ่านมาได้แต่เก็บหอมรอบริบจากเงินที่สามีแอบให้คนนำมามอบให้เป็นครั้งคราวจนมากพอที่จะพาบุตรสาวมาหาหมอได้ แต่หากจ่ายไปในคราวนี้เห็นทีคงต้องรับงานเย็บปักเพิ่มขึ้น สินเดิมที่นางนำติดตัวมาด้วยถูกสตรีร้ายกาจผู้นั้นใช้เล่ห์กลยึดเอาไว้ส่วนหนึ่ง สิ่งที่นางซุกซ่อนออกมาจากจวนได้ก็ถูกนำมาขายประทังชีวิต กระทั่งได้พบกับเถ้าแก่เนี้ยใจดีคอยหยิบยื่นงานเย็บปักให้ จึงมีรายได้พอเลี้ยงบุตรสาวและดูแลสาวใช้ที่ติดตามอย่างจงรักภักดี “ฮูหยินท่านอย่ากังวลไปเลยเจ้าค่ะ ท่านหมอเกามีวิชาแพทย์ล้ำเลิศ ย่อมช่วยชีวิตคุณหนูได้แน่ กลับไปข้าจะขยันช่วยท่านเย็บปักงานให้เยอะกว่าเดิม พวกเราจะได้มีเงินพอใช้จ่าย” “เสี่ยวลิ่งที่ผ่านมาเจ้าเองก็ยอมอยู่ดูแลพวกเราทั้งๆ ที่ไม่อาจจ่ายค่าจ้างได้   ข้าเองก็ละอายใจอย่างยิ่ง นับตั้งแต่หลานเอ๋อร์เจ็บป่วยเจ้าเองก็ต้องเหน็ดเหนื่อยช่วยข้าหาเงินอีก เพียงเท่านี้ก็ไม่รู้ว่าจะชดเชยเจ้าอย่างไรไหว?” เสี่ยวลิ่งเห็นสีหน้าจังฮูหยินก็รีบยื่นมือไปกุมอีกฝ่ายเอาไว้ “ท่านอย่ากล่าวเช่นนั้น ข้าเป็นเด็กกำพร้าที่สกุลจังเมตตาชุบเลี้ยง ขอเพียงมีที่อยู่ที่กินให้ข้า เบี้ยหวัดย่อมไม่จำเป็นต้องจ่ายให้ ข้ายินดีตอบแทนพระคุณท่านไปชั่วชีวิต” “หากไม่มีเจ้า ข้าสองคนแม่ลูกคงไม่อาจจะอยู่ดีมีสุขมาจนป่านนี้ ความจริงพวกเราต่างหากที่ได้พึ่งพาเจ้า”   *********************   *วัดหยกสวรรค์ ปรากฏในเรื่องท่านหญิงจีจอมพลัง *ท่านหมอเกา ปรากฏในเรื่องซือซือฮองเฮาพันโฉม                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                   ******************************* ไรท์แนะนำ....นิยายเรื่องนี้เกี่ยวพันมาจากเรื่อง "ซือซือฮองเฮาพันโฉม" 

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.7K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.7K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.2K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.9K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
39.8K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook