บทที่ 5

1353 Words
5.โรงเรียนบ้านทุ่ง ทองพันพี่สาวของคำปันมักจะท่องจำรายชื่อของคุณครูที่เคยสอนอยู่ในโรงเรียนประจำหมู่บ้านให้น้องๆรับฟังอยู่เสมอ ทั้งๆที่อายุของคำปันยังไม่ถึงเกณฑ์เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่1 "เพชร แก้วใส สุดใจ คำเพราะ อนงค์ หางนาค" นี่เป็นรายชื่อของคุณครูที่เคยสอนพี่สาวของคำปันในช่วงแรกๆที่ก่อตั้งโรงเรียนประจำหมู่บ้าน ในจำนวนครูที่เอ่ยนามมานี้ ครูอนงค์เป็นครูที่ดุร้ายที่สุด ทองพันเล่าว่า..แก้ว สงบ และพรม คือนักเรียนชายที่เรียนรู้ได้ช้าที่สุดในชั้น พวกเขาอ่านหนังสือไม่ออก คิดเลขไม่เป็น จะเรียกว่าโง่กว่าใครๆก็ว่าได้ ทุกครั้งที่ครูอนงค์มาสอน อารมณ์ดุร้ายของแกจะแผงฤทธิ์เข้าใส่เด็กนักเรียนทั้งสามทันที ทั้งดุด่า สาปแช่ง และฟาดตีด้วยไม้ฝาที่เตรียมมาเฉพาะ แก้วโดนหนักกว่าใครๆไม้ฝาของครูอนงค์ฟาดตีที่หัวของเขาจนแตกเลือดสาด แม่ของแก้วไปฟ้องครูใหญ่และผู้ใหญ่บ้าน ครูอนงค์เป็นภรรยาของครูเพชร และครูเพชรเป็นครูใหญ่ของโรงเรียนแห่งนี้ เรื่องราวจึงไม่ถึงอำเภอ แก้ว พรม และสงบ เป็นนักเรียนรุ่นเดียวกับทองพัน พี่สาวของคำปัน เด็กนักเรียนรุ่นเดียวกันเรียนจบไปได้หลายปีแล้ว ช่วงที่ทั้งสามคนเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พวกเขามีอายุครบ15ปีบริบูรณ์ ซึ่งครบเกณฑ์กำหนดบังคับของทางการจะต้องออกจากโรงเรียนไปโดยปริยาย คำปันเรียนเก่งเหมือนพี่สาว เขาสามารถอ่านออก เขียนได้ คิดเลขเป็น ตั้งแต่ชั้นป.1 ครูอนงค์มักจะกล่าวชมเขาบ่อยๆ และมอบหมายให้คำปันเป็นหัวหน้าห้อง บางครั้งเขาได้ทำหน้าที่ช่วยครูสอนเพื่อนๆแทนครูอนงค์ที่ไม่สบาย หรือมีธุระ ครูอนงค์กำลังตั้งท้อง จึงมีอารมณ์เครียดเคร่ง นักเรียนที่เรียนโง่เรียนปึกจึงโดนไม้ฝาของครูอนงค์ฟาดตีบ่อยๆ แก้ว สงบ และพรม จะโดนครูอนงค์ทำโทษหนักที่สุด จากรุ่นพี่สาวส่งผ่านมาถึงรุ่นของคำปันและอ่อนจันทร์ ได้มีครูหนุ่ม 2 คนบรรจุมาสอนที่โรงเรียนประจำหมู่บ้านครูคนหนึ่งชื่อยงยุทธ รูปร่างเตี้ยล่ำ อารมณ์ดุร้ายไม่ต่างจากครูอนงค์ อีกคนชื่อครูประสาน หรือครูจ่อย ครูประสานชอบขี่ม้ามาโรงเรียน และมักจะให้นักเรียนไปหาถอนหญ้าในดอนปู่ตามาให้ม้าของแกกินประจำ ครูประสานรูปร่างสูง ผอม แกชอบเป่าแคน และวาดรูป เป็นครูที่เก่งทางด้านศิลปะ ดนตรี และกีฬา แก้วเป็นคนเรียนหนังสือไม่เก่ง แต่แก้วดีดพิณเก่งมาก ครูประสานชื่นชมเขามาก เวลามีงานแสดงครูประสานจะมอบหมายให้แก้วและเพื่อนๆในห้องไปแสดงในงานวันเด็กเสมอ จนกระทั่งอายุครบ 15 ปี แก้วจึงต้องออกจากโรงเรียนเพราะอายุพ้นเกณฑ์บังคับดังกล่าว ที่บ้านของครูเพชรซึ่งเป็นครูใหญ่จะเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่เอาไว้หลายตัว แกจะให้นักเรียนไปหาขุดปลวกจากดอนปู่ตา ซึ่งอยู่ติดกับโรงเรียน ดอนปู่ตาเป็นผืนป่าขนาดใหญ่ มีเนื้อที่กว้างใหญ่ไปจนถึงโคกป่าช้า โคกป่าช้าอยู่ใกล้นาพ่อใหญ่ลุย นายช่างใหญ่ประจำหมู่บ้าน ท่านเป็นคนเก่าแก่เป็นช่างพื้นบ้านผู้ก่อสร้างสิมไม้หรืออุโบสถไม้ของวัดไทรงามทั้งหลัง โคกป่าช้าผืนใหญ่และดอนปู่ตาเป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารเล็กๆของหมู่บ้าน พื้นที่ป่ากว้างใหญ่ทำให้เกิดฝนตกชุกตลอดปี และสายน้ำจะไหลทะลักแผ่นดินทรายจนกลายเป็นร่องเป็นคลองน้ำ ร่อง ฮอง หรือคลองน้ำที่เกิดจากโคกป่าช้า เรียกว่าร่องคำผือหรือฺฮ่องคำผือ มันจะหลากไหลลงมาทางนาพ่อใหญ่อ่อน ซึ่งเป็นนน้องชายแม่ของคำปัน ทำให้ชาวนาวังโกพากันเกิดความหวาดกลัวผีกันมาก มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีร่องคำผือจนเกิดตำนานผีอีซิ่นเหี่ยนที่ได้ฆ่าชีวิตของชาวนาวังโกไปหลายคน ในยามเจ็บป่วยไข้ของคนชาวนาวังโกจะต้องมีการแต่งแก้ขอขมาผีอีซิ่นเหี่ยนอยู่เป็นประจำ พ่อใหญ่อ่อนน้องชายแม่ใหญ่กงก็เคยล้มป่วยแทบเอาชีวิตไม่รอด ต้องอาศัยพึ่งพาหมอธรรมมาปราบผีอีซิ่นเหี่ยน เมื่อฤดูฝนที่ผ่านมา ทำให้ครอบครัวพ่อใหญ่อ่อนเดือดร้อนหนัก เพราะไม่มีคนทำนา อ้ายจารย์ธง อ้ายจารย์คำหล้าจึงได้มาช่วยไถฮุดนา ส่วนแม่ใหญ่กง ก็ได้พาแม่ทองออน ทองพันมาช่วยปักดำข้าวกล้าจนแล้วเสร็จ เช่นเดียวกันกับในยามฤดูน้ำหลากลำน้ำโพงได้ไหลหลากท่วมนาวังโก พ่อใหญ่อ่อนก็ได้มาช่วยแม่ใหญ่กง พ่อใหญ่แป พากันอพยพวัว ควาย ไก่ เป็ด มาไว้ที่นาของพ่อใหญ่อ่อน ซึ่งตั้งอยู่ในที่สูงกว่าเช่นเดียวกัน ในยามทุกข์ยากเดือดร้อนพี่น้องต้องช่วยกัน แม่ใหญ่ผมจะบอกสอนลูกหลานเสมอ หลังเลิกเรียน คำปันชวนอ่อนจันทร์ไปที่บ้านของพวกเขา แม่ใหญ่กงบอกกับสองพี่น้องว่าให้ไปเก็บเอาหมากหุ่งไปตำส้มตำด้วยเพราะช่วงนี้งานนารีบเร่งปักดำ ไม่มีเวลาไปหาอยากหากิน ถ้ากอไผ่ออกหน่อใหม่ๆก็ให้ขุดเอามาด้วย หาเก็บใบย่านางที่ดอนปู่ตามาสักสองกำมือจะได้แกงหน่อไม้อ่อนกินงายตอนเช้าก่อนไปโรงเรียน คำปันอยากเล่นเตะฟุตบอลกับเพื่อนๆเพราะครูประสานได้นำลูกฟุตบอลจากทางอำเภอที่แจกจ่ายให้กับโรงเรียนต่างๆนับได้ว่าเป็นลูกฟุตบอลลูกแรกของโรงเรียนก็ว่าได้ ครูประสานนำมาฝึกซ้อมให้กับนักเรียนผู้ชายได้เล่นกัน ส่วนนักเรียนผู้หญิงก็ได้รับลูกแชร์บอลเช่นเดียวกัน ครูประสานเป็นผู้ฝึกสอนการเล่นฟุตบอลและแชร์บอล พวกนักเรียนหญิงพากันวิ่งไล่และโยนลูกแซร์บอลใส่ลงในตะกร้าอย่างสนุกสนาน ส่วนนักเรียนชายต่างก็พากันวิ่งไล่เตะฟุตบอลโดยมี สงบ แก้ว และพรม เป็นผู้ช่วยดูแลน้องในการฝึกการละเล่นในครั้งนี้ คำปันและอ่อนจันทร์อยากจะร่วมเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆอยู่เหมือนกัน หากทว่าคำพูดของการบอกสอนของแม่ใหญ่กง พ่อใหญ่แปที่คอยกำชับกับสองพี่น้องอยู่ทุกวัน ทำให้คำปันกับอ่อนจันทร์ต้องตัดใจรีบเดินออกจากสนามโรงเรียนด้วยความเสียดายในโอกาสเช่นนี้ แต่เขาบอกกับน้องชายว่าสักวันหนึ่งต้องได้เล่นเตะฟุตบอลกับเพื่อนๆอย่างแน่นอน และเขาจะต้องบอกกล่าวเรื่องการฝึกสอนของครูประสานให้แม่ใหญ่กง พ่อใหญ่แปได้รับรู้เช่นเดียวกัน คำปันและอ่อนจันทร์พากันเดินลัดเลาะผ่านดอนปู่ตาสู่นาพ่อใหญ่ซอ แล้วทะลุออกมายังท้องทุ่งนาวังโก แต่เสียงดังของลูกฟุตบอลยังแว่วตามมาอยู่ไม่ขาดช่วง ทำให้เด็กทั้งสองรู้สึกอาลัยอาวรณ์ในการเตะลูกฟุตบอลยิ่งนัก หลังจากเดินทางมาถึงเถียงนา คำปันและอ่อนจันทร์ได้ผลัดเปลี่ยนเสื้อนักเรียนออกไป เหลือแต่กางเกงนักเรียน ก่อนที่จะวิ่งลงไปยังท้องทุ่งนาเพื่อขี่ควายบักตู้และอีทองคำไปเดินย่ำเหยียบเลาะเล็มหญ้าที่ดอนป่าจิก ดวงตะวันกำลังจะเลยลับขอบฟ้า ได้เวลาที่เด็กชายชาวนาวังโกจะต้องนำเอาควายที่พวกเขาเลี้ยงกลับไปยังคอกใต้ถุนเถียงนา หากทว่าหูของเด็กทั้งสองคนยังคงได้ยินเสียงของผองเพื่อนวิ่งไล่เตะลูกฟุตบอลอยู่มิสร่างซา *****

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD