“ขอบคุณค่ะคุณแม่ ขอบคุณ....”
วิภาโบกมือเป็นเชิงห้ามว่าหยุดพูดเสียที นางหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดปากเช็ดหน้าให้คนที่เอนร่างลงไปนอนอีกครั้ง เจ้าหล่อนร้องไห้สะอึกสะอื้นประหนึ่งเด็กน้อยถูกรังแก ช่างน่าสงสารเหลือเกิน
“หล่อนเป็นอะไรกันแน่ยะ ฉันว่าอาการมันไม่ค่อยเหมือนไข้หวัดหรอกนะ”
คุณนายลองหยั่งเชิงถามดู ละอองดาวปาดน้ำตาแล้วครุ่นคิดอยู่ชั่วอึดใจ
“ถ้าดาวบอกคุณแม่ คุณแม่...อย่าเพิ่งบอกคุณโยนะคะ”
เสียงหวานแหบเครือสั่นพร่า ปวดหนึบที่หัวอกด้านซ้ายเพราะความเจ็บช้ำทิ่มตำเข้าไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“อะไรกันแม่คนนี้ ถ้าเขาไม่ถามแล้วฉันจะพูดทำไมยะ”
วิภาไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ ทว่านางก็ตั้งใจไว้ว่าหากละอองดาวปรารถนาจะเก็บงำสิ่งที่กำลังจะเอ่ย นางก็จะไม่บอกให้ผู้ใดรับรู้
“ค่ะ...ดาว...ดาวกำลัง ‘ท้อง’ ค่ะ” ริมฝีปากซีดเซียวคลี่ยิ้มละไม
นางวิภาจ้องมองหน้าท้องของลูกสะใภ้ มือที่เหี่ยวย่นตามวัยค่อยๆ เลื่อนไปวางบนนั้น หมายสัมผัสเจ้าหลานตัวน้อยที่อยู่ข้างใน
“แม่ดาว...หล่อน...หล่อนท้องจริงๆ รึ” คำถามนั้นดังเพียงกระซิบ นางวิภายิ้มกว้างอย่างดีใจ นัยน์ตาที่เจือแววหม่นเศร้ามานานปี ก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาในบัดดล มันเกิดขึ้นพร้อมๆ หยดน้ำใสๆ ที่ไหลมาคลอในสองตา
“คุณแม่...ดีใจเหรอคะ” ลูกสะใภ้เอ่ยถามเพราะไม่อยากเชื่อว่าแม่สามีที่ตั้งแง่รังเกียจกันมานาน จะดีใจที่เธอตั้งท้อง ความจริงลูกไม่น่ามาเกิดเอาตอนนี้หรอก แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อเกิดมาแล้วก็ต้องเลี้ยงดูอุ้มชูกันไป แม้ว่าวันข้างหน้าอาจมีเธอเพียงคนเดียวที่ต้องเป็นทั้งพ่อและแม่ให้แกก็ตาม
“แม่ดาว! ทำไมถามอย่างนั้นยะ ฉันก็ต้องดีใจสิ ดีใจจนพูดไม่ออกเลย แล้วนี่...หล่อนจะไม่บอกสามีหล่อนจริงๆ รึ ใจดำไปหรือเปล่ายะแม่คุณ”
วิภาประชดแม่ของหลาน ใช้ผ้าเช็ดหน้าที่นางถือจนติดมือกดซับหยดน้ำตา อีกไม่กี่เดือนข้างหน้านางก็จะได้เป็นคุณย่าแล้ว น่าดีใจจริงๆ
“ขอเวลาอีกสักนิดนะคะ ดาวจะบอกแน่ๆ คุณแม่อย่าเพิ่งบอกนะคะ” พยายามทำน้ำเสียงให้สดใสเข้าไว้ เพื่อล่อหลอกให้แม่สามีตายใจ เธอจะไม่บอกวาโยจนกว่าเขาจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับวีนุตตรา และบางที เธออาจจะไม่อยู่ถึงวันนั้น วันที่พวกเขาเลิกกัน เพราะวันนั้นที่ว่า...มันอาจไม่มีจริง
“เชิญเถอะย่ะ ฉันไม่เสนอหน้าเอาความดีความชอบจากสามีหล่อนหรอก” เอ่ยเย้าลูกสะใภ้ทำนองจิกกัดอย่างที่เคย ทว่าครานี้มันปะปนด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ มากกว่าจะต่อสู้ด้วยลมปากเพื่อจะได้เป็นฝ่ายชนะ
แม่สามีกับลูกสะใภ้เริ่มต้นต่อบทสนทนาเรื่องชีวิตน้อยๆ ที่กำลังจะเกิดมาด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข กระทั่งเวลาผ่านไป นางเจรียงก็ยกสำรับกับข้าวมาให้คนป่วยอีกหน คราวนี้ละอองดาวรับประทานได้มากขึ้น และหลังจากมื้อเช้าของคนป่วยผ่านไป นางวิภาก็รีบโทรศัพท์ไปนัดคุณหมอให้มาตรวจอาการลูกสะใภ้อีกครั้ง
หนึ่งชั่วโมงให้หลัง
อาการของละอองดาวเป็นไปตามคาด คุณหมอสูงวัยสั่งยาบำรุงครรภ์มาให้ว่าที่คุณแม่เป็นกระบุง นางวิภายิ้มกว้างอย่างพออกพอใจ เมื่อความสุขของนางถูกยืนยันอีกครั้งด้วยปากคุณหมอ นางถึงกับเดินไปส่งคุณหมอประจำตระกูลด้วยตัวเอง เมื่อท่านทำการรักษาเสร็จเรียบร้อย นางยิ้มแย้มตลอดเวลาที่คุณหมอวัยแก่กว่าเอ่ยถามถึงความสุขใจเรื่องที่นางกำลังจะได้เป็นคุณย่า นางไม่เคยรู้เลยว่าความสุขจากการเอ่ยถึงหนึ่งชีวิตที่ยังไม่ได้ลืมตาขึ้นมาดูโลก จะมีมากมายถึงเพียงนี้ แล้วถ้าวันที่เขาหรือเธอคนนั้นเกิดมาเล่า นางจะมีความสุขมากมายเพียงไร
กลางดึกของวันเดียวกัน
ประตูรั้วเตี้ยๆ ของเรือนไม้หอมถูกผลักให้อ้าออกด้วยมือของเจ้าบ้านอีกคน วาโยถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพื่อรวบรวมพลังมาแจ้งเรื่องบางอย่างกับภรรยา วันนี้หล่อนคงพอใจที่จะได้เป็นไทจากเขา แต่ทำไมนะ พอคิดว่าจะไม่ได้เห็นหน้าละอองดาวอีก หัวใจเขาก็ไร้ความรื่นรมย์ ความอ้างว้างที่ไม่เคยพบพานก็พลันชำแรกแทรกซึมเข้ามากระจ่างอยู่กลางหัวใจ และดูท่าว่าจะปักหลักพักพิงไม่ยอมจากไปเสียด้วย
ก๊อกๆๆ
ละอองดาวลุกจากเตียงช้าๆ เพื่อไปเปิดประตู ดึกขนาดนี้คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากสามีของเธอ
“คุณโย...มีอะไรหรือเปล่าคะ” เธอถามแล้วหลับตาแน่น เพื่อระงับอาการตาพร่าที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน สองมือรีบยึดขอบประตูเอาไว้ด้วยกลัวว่าจะล้มลงไป มันคงไม่ดีแน่หากว่าล้มลงอย่างแรงบนพื้นไม้แข็งๆ อย่างนี้
“นี่เธอ...เป็นไข้ยังไม่หายอีกเหรอ” วาโยกลั้นใจถามเมื่อเห็นสีหน้าของภรรยา เขาออกแรงเบาๆ ผลักประตูให้อ้ากว้าง ละอองดาวถอยหลังแต่เซเสียหลัก วาโยตื่นตกใจ รีบประคองหล่อนไว้ แล้วอุ้มไปวางบนเตียง
“ดาวเวียนหัวค่ะ ไม่หายสักที” เธอบอกตามจริง ในเมื่อเขาคิดว่าเธอยังเป็นไข้ไม่หาย ก็ขอให้เป็นตามนั้น
“ถ้าไม่หายจริงๆ พรุ่งนี้ฉันจะพาไปโรงพยาบาล”
เขาบอกเสียงทุ้มอย่างอ่อนโยน ละอองดาวเผลอคิดไปว่าน้ำเสียงนั้นมันออกมาจากหัวใจอบอุ่นของเขา ทว่าเปล่าเลย มันเป็นเพียงเศษเสี้ยวของภาระหน้าที่ที่เขาควรทำเท่านั้น นั่นเพราะวินาทีต่อมา เขาก็เอื้อนเอ่ยขึ้นว่า...
“วันจันทร์...ฉันจะพาเธอไปหย่า”
“อะไรนะคะ!” เสียงสั่นพร่าร้องออกไปด้วยเรี่ยวแรงที่ยังมี บทจะง่ายทำไมถึงง่ายอย่างนี้ แต่ไม่รู้สิ เธอไม่ได้รู้สึกดีใจสักนิดเลย
“ฉัน...ฉันอยากให้นุตแต่งงานกับฉันซะที นุตไม่ยอมแต่ง ถ้าฉันยังไม่หย่ากับเธอ นุตเขาเป็นคนดีเกินกว่าจะแย่งของของใคร”
“แต่ดาวก็ไม่เคยแย่งของของใคร และคนดีของคุณก็ไม่ได้แย่งคุณไปเลยตลอดสามปีที่ผ่านมา”
EBOOK วางขายแล้ว ในเว็บทั่วไป ถ้าเห็นปกนี้ ปกสีม่วง คือฉบับล่าสุด ถ้าเห็นปกสีอื่น คือฉบับเดิม ให้เลี่ยงนะคะ เนื้อหามีการปรับสำนวนจ้า