เช้าตรู่วันถัดมา ประเทศไทย
ละอองดาวนั่งกุมขมับอยู่ภายในห้องโดยสารของรถคันหนึ่ง หลังจากลงเครื่องที่สุวรรณภูมิ เธอก็ถูกสามียัดขึ้นรถแท็กซี่ ส่วนเขาก็บึ่งรถคันงามที่คนขับรถขับมาให้ ออกไปเพียงลำพัง ไม่บอกก็รู้ว่าเขาไปไหน คำว่า ‘บ้านของเรา’ คงไม่มีค่าพอให้เขากลับไปกระมัง
เมื่อรถแท็กซี่แล่นมาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ ละอองดาวก็หอบหิ้วกระเป๋าเดินทางลงมา เธอไม่อยากลงจากรถเลยจริงๆ นั่นเพราะที่ลานน้ำพุหน้าบ้าน มีร่างของสตรีจอมป่วนประสาท ยืนรอท่าเธออยู่ด้วยใบหน้าขุ่นเคืองระคนเย้ยหยัน
“ฉันอยากรู้ว่าทำไมหล่อนกลับมาคนเดียวยะแม่ดาว”
เสียงของแม่สามีจิกกัดเล็กน้อยพอหอมปากหอมคอ
ละอองดาวยกมือไหว้คุณนายวิภา นางไม่ปรารถนาลูกสะใภ้ไร้สกุลเช่นเธอมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“คุณแม่ก็รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร แล้วจะถามดาวทำไมคะ” ตอบแล้วถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะเดินหนีคุณนายโดยอ้อมไปตามทางเดินข้างตึกเพื่อจะได้กลับบ้านหลังน้อยของตัวเอง สาวใช้นามว่านกเอี้ยงรีบเข้ามาช่วยเธอถือกระเป๋าอันหนักอึ้ง ดีที่เจ้าหล่อนมาช่วย เพราะตอนนี้เธออยากเปลี่ยนทางเดินเป็นเตียงเหลือเกิน
นางวิภา จตุรศิลป์ สตรีวัยห้าสิบปลายๆ รูปร่างบอบบาง มีนิสัยเอาแต่ใจอยู่เป็นนิจ นางทอดสายตาตามหลังละอองดาวไป ถึงไม่ชอบใจที่เจ้าหล่อนเข้ามาเป็นสะใภ้ แต่พออยู่ด้วยกันเป็นเวลานาน ความผูกพันใกล้ชิดก็ทำให้อดห่วงใยละอองดาวไม่ได้
“พี่เจรียง! พี่เจรียง” นางร้องเรียกแม่บ้านวัยใกล้กันซึ่งอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่จำความได้ แม้ว่านางจะแต่งงานมีลูกเต้า นางเจรียงก็ไม่เคยห่างกายนางเลย จนนับถือนางเจรียงว่าเป็นเช่นญาติคนหนึ่งมากกว่าข้าทาสรับใช้ ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะรับเงินเดือนจากนางทุกเดือนก็ตาม
“คะคุณ คุณภาจะเอาอะไรคะ”
นางเจรียง สตรีร่างท้วมใบหน้าอวบอิ่ม เดินแกมวิ่งออกมาจากห้องครัว
“แม่ดาวกลับมาแล้วนะพี่ หน้าตาดูอิดโรยชอบกล ฉันว่าจะตามไปดูหน่อย พี่ช่วยทำข้าวต้มให้ฉันทีนะ”
นางเจรียงอิดออดเล็กน้อยในคำสั่งของเจ้านาย
“เดี๋ยวก็โดนคุณดาวแขวะเอาหรอกค่ะ ค่าที่เป็นห่วงเป็นใยเธอ” นางบอกด้วยความเป็นห่วง ไม่อยากให้ผู้เป็นนายถูกถอนหงอกด้วยคนที่เจ้าตัวหวังดีช่วยเหลือ
“ช่างปะไร ถ้ามันกล้าแขวะฉัน ฉันจะตอกกลับว่าไม่อยากให้ใครมาตายในบ้านนี้ก็สิ้นเรื่อง เร็วๆ นะพี่”
วิภาว่าแล้วก็เดินไปตามทางเดินเล็กๆ ลัดเลาะไปด้านข้างตึกใหญ่ เพื่อไปเรือนอีกหลังที่ลูกชายปลูกไว้เป็นเรือนหอ แต่แน่นอนว่าเขายังพักบนตึกใหญ่กับนาง วาโยแต่งงานเพื่อประชดนางเท่านั้น โดยเอาผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างละอองดาวเข้ามาเป็นภรรยาออกหน้าออกตา ให้นางได้เจ็บใจเล่นๆ คิดแล้วก็ยังเคืองไม่หาย
เรือนไม้หอม
ละอองดาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็รีบเข้านอนทันที อาการปวดศีรษะทั้งเนื้อตัวที่ร้อนผ่าว ทวีความรุนแรงจนเธออยากไปนอนโรง’บาลให้รู้แล้วรู้รอด
“คุณดาวคะ คุณนายมาค่ะ” นกเอี้ยงบอกกล่าว เจ้าหล่อนเข้ามาเอาเสื้อผ้าของนายสาวไปซักเหมือนเคย
“แต่ฉันเพลียเหลือเกินนกเอี้ยง ไม่มีแรงรบกับคุณนายของเธอหรอก ช่วยบอกคุณนายทีว่าฉันไม่สบาย ขอผลัดเป็นวันหลัง” เธอสั่งความนกเอี้ยงทั้งที่ยังหลับตา และไม่ได้รู้เลยว่าแม่สามีมายืนค้ำหัวอยู่ครู่ใหญ่แล้ว
“ไม่สบายทำไมไม่ไปหาหมอยะ อยากให้ลูกชายฉันมาโอ๋หรือไง”
นางวิภาจีบปากจีบคอว่าให้
“คุณแม่? มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ!”
คนป่วยถามด้วยความตกใจ รีบลุกนั่ง แต่อาการมึนศีรษะและหน้ามืดทำให้ต้องหลับตาปี๋