บทที่ 3
พลอยพิชญาร้องไห้ เธอจ้องมองดวงตาสีน้ำเงินเข้มคลั่กด้วยโทสะที่ผลาญเผา
“เบน...อ๊ะ!”
หญิงสาวร้องเสียงดังเมื่อร่างสูงใหญ่โถมตัวลงมาและจับไหล่เธอไว้แน่น สันกรามของเขานูนขึ้นมาจนเห็นได้ชัด เสียงที่กังวานออกจากปากเขาราวกลั่นมาจากความเจ็บปวด
“เขาบาดเจ็บสาหัสและถูกส่งตัวกลับมาเพื่อรับการรักษาที่นี่ แต่ก็สายไป ไม่มีใครช่วยน้องชายของผมได้แม้แต่แพทย์มือหนึ่งที่บินตรงมาจากอเมริกา ผมเกือบเป็นบ้าในวันที่ต้องมาร่วมพิธีศพและมองดูบาทหลวงฝังเขาบนเกาะนี้เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว”
ปีที่แล้ว...พลอยพิชญานิ่งอึ้ง ที่เธอสงสัยว่ามาเรียสหายไปและเธอก็ไม่ได้รับข่าวคราวใด ๆ จากเขาอีกเลยนับจากวันนั้น ทุกอย่างได้กระจ่างชัดแล้วในตอนนี้
“และสำหรับคุณ...พลอยพิชญา” ชายหนุ่มบีบไหล่บางจนเธอกระตุก
“คุณไปกับมาเรียสคืนนั้น รถคันนั้นที่เขานั่งไปเสียหลักพุ่งชนต้นไม้และคนขับ ก็คือคุณ!”
“โอ๊ย! เบน ฉันเจ็บนะคะ”
ดูเหมือนเสียงครางของหญิงสาวจะยิ่งยุให้ไฟแค้นในใจของเบนโหมไหม้มากขึ้น นัยน์ตาคู่นั้นดุดันน่ากลัวก่อนจะกดร่างเล็กบอบบางลงไปอยู่ใต้ร่างสูงใหญ่ของเขาบนเตียงหนา
“เบน...ฟังฉันก่อนค่ะ”
“ผมจะฟังตัวเองที่ได้ยินเสียงเจ็บปวดของมาเรียส เสียงนั้นที่คุณไม่เคยได้ยินตอนที่คุณกำลังมีความสุขโดยไม่รับรู้ความทุกข์ของคนอื่น ฆาตกรอย่างคุณไม่ควรมาลอยนวลอยู่อย่างนี้ ถ้าศาลไม่พิพากษาคนผิด ผมนี่แหละที่จะตัดสินชีวิตคุณเอง!”
“ไม่! ปล่อยฉันนะ!”
พลอยพิชญาบิดตัวสุดแรงและส่ายหน้าหลบแต่ไม่พ้นใบหน้าคร้ามคมที่ก้มลงมาและฉกลิ้นเข้าไปในกลีบปากสีชมพูเข้ม เขาไม่เพียงจาบจ้วงเธอด้วยปากแต่ยังกดร่างหนาลงมาจนหญิงสาวหายใจแทบไม่ออก
เธอจะทำอย่างไรดี...พลอยพิชญา หญิงสาวถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าในขณะที่เขาบดขยี้ริมฝีปากบางหนักขึ้นเรื่อย ๆ แต่ความกลัวทำให้เธอตีบตันไปหมด ดวงตาคู่สวยเหลือกขึ้นด้านบนเมื่อรู้สึกถึงความปวดแปลบวาบขึ้นบนริมฝีปาก
“อื้อ!” เสียงในลำคอนั้นไม่ดังพอให้เขาหยุดการกระทำดิบห่ามลงได้ เธอไม่ควรมาที่นี่ ไม่ควรหลงเชื่อใจเพียงเพราะเห็นว่าเขาเป็นคนใกล้ชิดกับมาเรียส
“อย่า...เบน...อย่าค่ะ!”
พลอยพิชญารีบเอามือป้องบนใบหน้าเมื่อเขาถอนริมฝีปาก ร่างเล็กสั่นเทาทว่าเขาก็ยังแสดงความหยาบร้ายด้วยการกระชากข้อมือข้างนั้นออก
“คุณกลัวด้วยรึ พลอยพิชญา...ผมยังสงสัยว่าทำไมคนที่ต้องตายถึงไม่ใช่คุณ!”
“ได้โปรดเถอะค่ะ เบน...ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าคุณต้องสูญเสียมาเรียส ฉันไม่ได้ข่าวเขาเลยหลังจากวันที่เกิดอุบัติเหตุ ฉันรู้ก็แต่ว่าเขาถูกส่งตัวกลับมารักษาที่นี่ แล้วหลังจากนั้น...”
“หลังจากนั้นคุณก็กลับบ้าน มีข้อหาติดตัวเล็กน้อยแค่ขับรถโดยประมาท แล้วก็กลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติ โดยไม่คิดสนใจว่าคนที่ไปด้วยจะเป็นตายยัง ใช่มั้ย พลอยพิชญา!”
“ฉันไม่เคยไม่สนใจมาเรียส!” เธอเถียงทั้งน้ำตาและลืมไปว่าชายด้านล่างของชุดกระโปรงถลกขึ้นมาถึงโคนขาจามแรงดิ้น
“ฉันคิดเรื่องของเขาตลอดเวลา ถ้าฉันรู้...”
“มันสายไปแล้วที่คุณจะรู้ว่ามาเรียสไม่ได้อยู่ที่นี่! เขาเคยเป็นน้องชาย ที่ดีของผม เราออกล่าวาฬด้วยกันในน่านน้ำของทะเลนอร์วีเจียน แต่ตอนนี้จะไม่มีเวลาแบบนั้นอีกแล้ว คุณเป็นคนทำลายมันและผมจะให้คุณชดใช้สิ่งท่าคุณทำลายนับตั้งแต่วันนี้!”
ชดใช้หรือ! พลอยพิชญาตื่นตระหนกต่อคำพูดที่ลั่นออกมาจากความโกรธแค้น เธอไม่ใช่คนผิดแต่กลับต้องมชดใช้สิ่งที่ไม่ได้ก่อแทนเพื่อนสนิทอย่างไม่อาจเลี่ยง
ทุกอย่างสายไปแล้ว ที่นี่ไม่มีมาเรียสที่จะช่วยยืนยันความจริงและปราศจากดารินที่จะช่วยแก้ต่างแทนเธอ หญิงสาวรู้ว่าเขาโกรธจัดและไม่มีวันรับฟังคำแก้ตัว ซึ่งท้ายที่สุดเธอก็จะกลายเป็นคนสับปลับในสายตาของเขา แต่ตอนนี้เธอกำลังหาทางออกทว่าก็ดูเหมือนความหวังนั้นริบหรี่เต็มที
“คุณจะให้ฉันชดใช้อะไร”
“คุณต้องอยู่ที่นี่! อยู่อย่างข้ารับใช้ ทำงานเหมือนทาส มีชีวิตทุกข์ทรมานอยู่บนเกาะที่มีคนแค่ร้อยกว่าคน แล้วอย่าคิดว่าจะหนีไปจากสกรูวา ไม่มีใครช่วยคุณได้ คุณต้องเป็นทาสผมไปจนวันตาย!”
”ฉันไม่...” คำปฏิเสธนั้นช้าเกินกว่าปากหยักที่บดขยี้ลงมาอีกหน คราวนี้เบนไม่ใช่รุกล้ำแต่บนใบหน้าเพียงอย่าง เดียว แต่เขายังถอดทึ้งชุดสวยบนร่างงามจนฉีกขาดก่อนขว้างลงไปข้างเตียง
“เบน...อย่านะ!”
พลอยพิชญาตะโกนเสียงดังแต่ไม่มีใครได้ยิน ถ้าเกาะนี้มีคนอยู่แค่ร้อยกว่าคนจริงดังเขาว่าเธอก็พบกับเรื่องยุ่งยากเสียแล้ว หญิงสาวไม่นึกไม่ฝันว่าต้องมาพบกับคนบ้าคลั่งอย่างพี่ชายของมาเรียส เบนเหมือนเขาแทบทุกอย่างยกเว้นความป่าเถื่อนที่เขากำลังทำกับเธอ
ตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อรู้ตัวอีกทีก็ไม่หลงเหลือเสื้อผ้าไว้บนตัว
สักชิ้น ผิวเนียนขาวเสียดสีกับเนื้อผ้าหยาบของเสื้อเชิ้ตยีนส์บนร่างหนา พลอยพิชญาแทบไม่มีแรงทุบถองเพราะข้อมือถูกเขาตรึงไว้ขณะลิ้นหนาจ้วงเข้าไปเลียดไล้ในอุ้งปากเล็ก
กระทั่งหญิงสาวหมดแรงต้านเมื่อใจหนึ่งประหวัดไปถึงน้องชายฝาแฝดของเขา