Smokin'Love ❤️วิมานรักสีเทา<4>แฟนก็เท่ากับเมีย เมียก็เท่ากับแฟน

2152 Words
“อยากจะเป็นผัวของเพลงถามผัวตัวจริงของเขาหรือยังว่าเขายอมไหม” น้ำเสียงเย็นชาถามคิมหันต์ที่ตอนนี้หัวแตกเลือดอาบด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยผิดกับเพลงพิณที่ตอนนี้ตัวสั่นด้วยความกลัวและตกใจเพราะเลือดที่กำลังไหลหยดลงตามเสื้อผ้าของคิมหันต์ ส่วนเอวากับเจ้าเอยได้แต่อ้าปากค้างอย่างตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าที่ไม่รู้ว่าต้องตกใจที่คิมหันต์โดนตีหัวจนเลือดอาบหรือตกใจกับสถานะมีผัวของเพื่อนเธอดี ส่วนคำพูดของเพลงพิณที่บอกกับพวกเธอว่าผู้ชายคนนั้นหน้าตาดีมากไม่ได้เกินจริงเลยแม้แต่น้อยเพราะผู้ชายที่กำลังโอบกอดเพื่อนรักของพวกเธออยู่นั้นหน้าตาดีเสียจนพวกเธอถึงกับหลงเคลิ้มไปชั่วขณะ พวกเธอไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเพลงพิณถึงยอมแหกกฎเหล็กของตัวเองด้วยการยอมให้ผู้ชายคนนี้จูบ เพราะถ้าเป็นพวกเธอเองก็คงไม่ต่างจากเพลงพิณ ใบหน้าที่หล่อราวกับเทพบุตรทำให้พวกเธอไม่สามารถที่จะละสายตาไปจากเขาได้เลยจริงๆ “แม่งเอ้ย มึงกล้าดียังไงมาตีหัวกูวะอยากตายหรือไง” มืออีกข้างกุมหัวด้วยความเจ็บส่วนอีกข้างก็ยกขึ้นชี้หน้าเกรย์ด้วยความโมโหจนแทบคลั่งเพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครกล้าทำร้ายคิมหันต์ต่อหน้าสาธารณะชนแบบนี้มาก่อน แต่ผู้ชายตรงหน้ากลับกล้าที่ฟาดเขาด้วยขวดแถมยังทำหน้านิ่งเฉยไร้ความหวาดกลัวเขาที่เป็นถึงลูกชายของท่านรัฐมนตรีแบบนี้มันหยามหน้ากันชัดๆ “แล้วมึงกล้าดียังไงมาแตะเมียกู เป็นแค่แฟนเก่าก็อยู่ส่วนแฟนเก่าสิสะเหร่อมายุ่งกับเมียกูอยู่ได้หน้าตาก็เหมือนปลิงทะเลอยู่แล้วยังจะทำตัวเหมือนปลิงเข้าไปอีกทุเรศสิ้นดี” คำพูดที่ไม่เคยคิดว่าเกิดมาชาตินี้จะได้พูดแบบนี้กับใครหลุดออกมาจากปากของเกรย์ผู้ชายที่แทบจะพูดกับคนอื่นนับคำได้ อีกอย่างคำพูดพวกนี้เขาจำมาจากย่าแก้มที่ชอบโมโหเวลาดูละครนี่เขาไม่ได้อินเกินไปใช่ไหม? และถึงปากเขาจะพูดออกไปแบบนั้นแต่ภายในใจของเขากลับรู้สึกตำหนิตัวเองเป็นครั้งแรกที่เอาตัวเข้ามาพัวพันกับผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง และครั้งนี้เขาไม่ได้มาแค่ในสถานะแฟนแต่เขากลับเล่นใหญ่ด้วยการกลับมาในสถานะผัวที่คนพูดเองยังรู้สึกกระดากปากไม่น้อยผ ทีแรกเขาแค่เดินผ่านมาเจอเหตุการณ์นี้เข้าพอดีและคิดว่าจะแกล้งทำเป็นหูทวนลมเดินผ่านไป แต่คำพูดที่น่ารังเกียจของผู้ชายปากโสมมคนนี้มันทำให้เขาไม่สามารถที่จะเดินผ่านไปโดยที่ไม่สนใจเธอไม่ได้ ที่เคยเป็นแฟนกันแค่วันเดียวถ้าจะเพิ่มสถานะมาเป็นผัวเมียกันในวันที่สองมันจะเป็นไรไปจริงไหม “นึกว่าตัวเองกำลังรับบทพระเอกอยู่หรือยังไงไอ้กระจอก มึงมันก็แค่เด็กบาร์น้ำส่วนกูน่ะลูกใครมึงคงไม่รู้ ทำตัวห้าวตีนแบบนี้ระวังจะหายไปจากโลกนี้แบบไม่ได้กลับมาอีก” “อ้อเหรอ แต่ขอโทษทีว่ะที่กูไม่ใช่พระเอกแต่ดันเป็นผัวของเพลงตัวจริงเสียงจริงแสตนอินไม่ต้อง อีกอย่างมึงลูกใครมึงจำชื่อพ่อไม่ได้ไงหรือเกิดมาจากกอไผ่ถึงได้มาถามกูว่ามึงลูกใคร ส่วนเรื่องห้าวตีนก็พอตัวหายไม่กลัวกลัวไม่หายหรือมึงจะหายก่อนก็ไม่รู้สินะ อ๋อแล้วนี่คิดออกยังว่าพ่อมึงชื่ออะไร” คำพูดที่สุดแสนจะกวนประสาทที่สุดเท่าที่เพลงพิณเคยได้ยินมาทำเอาคนที่อยู่ในอาการตกใจในทีแรกได้แต่พยายามกลั้นขำอย่างสุดฤทธิ์กับมุกตลกร้ายที่ตอนนี้ทุกคนต่างพากันหัวเราะด้วยความขำขัน รวมไปถึงเพื่อนของเธอทั้งสองคนที่กำลังอ้าปากหัวเราะอย่างไม่คีพลุคความสวยเลยสักนิด “ปากดีนักนะมึงกูก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าวันนี้มึงโดนกระทืบจนหมอบมึงยังจะปากเก่งอยู่ไหม พวกมึงจัดการ” ถึงแม้จะเจ็บที่หัวจนแทบจะทนไม่ไหวแค่คิมหันต์ก็ขอจัดการกับแฟนใหม่ของเพลงพิณก่อนเขาไม่คิดเลยว่าเพลงพิณจะลดตัวลงไปคบกับผู้ชายกระจอกๆและนิสัยหยาบคายอย่างมัน ใบหน้าที่อาบด้วยเลือดพยักลงอย่างส่งสัญญาณให้ลูกน้องเพียงเท่านั้นคนของคิมหันต์ก็พากันกรูเข้ามาเพื่อที่จะรุมกระทืบเกรย์ที่ไม่ได้รู้สึกตกใจหรือหวาดกลัวคนเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย เวลาผ่านไปเพียงห้านาทีคนของคิมหันต์ก็ต่างพากันร่วงลงไปนอนหมอบอยู่บนพื้นพร้อมกับร้องโอดโอยด้วยความเจ็บเมื่อเจอกับฝีมือต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาของเกรย์ที่เคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็วตามแบบฉบับมาเฟียพร้อมกับวิชาการต่อสู้ที่เกรย์มั่นใจว่าเขาไม่เป็นสองรองใครแน่นอน “จะจ้างบอดี้การ์ดทั้งทีก็เลือกพวกที่มันฝีมือดีกว่านี้หน่อยนะไม่ใช่พวกเก่งแต่ปากเหมือนมึง ไสหัวไปไกลๆแล้วอย่าเสนอหน้ามายุงกับเมียกูอีก ไป๊” น้ำเสียงที่ทรงอำนาจและเด็ดขาดตะคอกใส่คิมหันต์กับพวกทำให้เพลงพิณถึงกับเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายที่กำลังโอบกอดเธออยู่ด้วยความแปลกใจ เป็นแค่เด็กบาร์น้ำแต่คำพูดและน้ำเสียงดูไม่เหมือนคนธรรมดาเลยสักนิด ไม่มีความลังเล ไม่มีความหวาดกลัว แต่กลับเต็มไปด้วยความน่าเกรงขามที่ตัวเธอเองยังสัมผัสได้หรือเขาจะเคยแสดงละครเป็นสแตนอินมาก่อนนะแอคติ้งถึงได้เนียนแบบไม่ต้องเรียนมาใหม่แบบนี้ เมื่อได้ยินแบบนั้นคนของคิมหันต์ก็รีบลุกขึ้นมาพยุงนายตัวเองให้ลุกขึ้นก่อนที่จะรีบพากันเดินหนีไปจากตรงนี้ด้วยความอับอาย เมื่อห้าคนแพ้ให้หนึ่งคนอย่างราบคาบในขณะที่อีกคนกลับไม่มีบาดแผลหรือรอยข่วนแม้แต่นิดเดียวหลังจากที่คิมหันต์กับพวกจากไปแล้วเจ้าเอยกับเอวาก็รีบถลาเข้ามาหาเพื่อนด้วยความเป็นห่วงและตื่นเต้น ในขณะที่เกรย์ค่อยๆปล่อยเพลงพิณออกจากอ้อมแขนด้วยความรู้สึกเสียดายซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะเสียดายไปทำไมในเมื่อเขาไม่ได้เป็นแฟนกับเธอจริงๆสักหน่อย “วันนั้นฉันแค่แอบอ้างว่าคุณเป็นแฟนแต่วันนี้คุณเล่นใหญ่กว่าฉันอีกนะคะ เราสองคนไปเป็นผัวเมียกันตั้งแต่เมื่อไหร่” เพลงพิณถามเกรย์ด้วยน้ำเสียงงอนๆเพราะเธอยังไม่เคยมีผัวมาก่อนแต่เขากลับประกาศไปทั่วทั้งผับว่าเธอเป็นเมียเขาแล้วแบบนี้ใครจะกล้าเข้ามาจีบเธอกันล่ะ ที่สำคัญกว่านั้นคือไม่กล้าจีบเธอยังไม่พอคงเอาเธอไปลือกันให้แซ่ดว่าผัวของเธอดุมากมันก็แน่นอนล่ะเล่นฟาดหัวคนจนอาบเลือดซะขนาดนี้ “วันนั้นคุณบอกมันแค่แฟน แต่ว่าวันนี้ผมยกระดับความสัมพันธ์จอมปลอมของเราให้ไง แฟนก็เท่ากับเมีย เมียก็เท่ากับแฟน มันก็ความหมายเดียวกันไม่ใช่เหรอครับแค่ต่างกันตรงที่ว่าเป็นแฟนกันแค่จูบเบบี้ส่วนผัวคนดีก็มากกว่าจูบแต่สรุปโดยรวมแล้วก็แฟนกันอยู่ดี” คำพูดของเกรย์ทำเอาเอวากับเจ้าเอยถึงกับหลุดขำออกมากับความขี้เล่นกวนประสาทของผู้ชายหน้าหล่อที่ถ้ามาบอกว่าพวกเธอเป็นเมียจะไม่ปฏิเสธเลยสักนิด หล่อจนอยากพกกลับไปนอนกอดที่บ้านด้วยขนาดนี้ใครบ้างจะไม่อยากได้เป็นผัว ปึก ปึก ปึก “ไอ้คนทะลึ่ง ไอ้คนลามก” เพลงพิณฟาดมือลงบนท่อนแขนแกร่งของเกรย์เต็มแรงก่อนที่เกรย์จะกระชากเพลงพิณเข้าสู่อ้อมแขนอีกครั้งทำเอาคนที่กำลังรัวฟาดคนข้างกายถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจกับความใกล้ชิดที่เขาเสิร์ฟให้เธอโดยที่ไม่ได้ตั้งตัวอีกแล้ว ตั้งแต่วันแรกที่เธอได้เจอกับเขาหัวใจของเธอก็ทำงานหนักมากมันเต้นแรงจนแทบกระเด็นออกมานอกอกทุกครั้งที่เขาใกล้ชิดกับเธอ ส่วนเพื่อนทั้งสองคนของเพลงพิณได้แต่ยกมือขึ้นทาบอกเมื่อผู้ชายที่อยู่ในสถานะผัวใหม่ของเพื่อนเธอร้ายไม่ใช่เล่น “ทะลึ่งยังไงก็ผัวคุณ ลามกยังไงก็ยังคงเป็นผัวคุณเหมือนเดิมครับที่รักหรือจะเถียงคนเห็นกันทั้งผับ” ถึงแม้ประโยคของผู้ชายที่กำลังกอดเธออยู่จะยียวนชวนให้ตบไม่น้อยแต่มันกลับทำให้เพลงพิณใจเต้นแรงกับประโยคสุดท้ายของเขาที่เรียกเธอว่าที่รักอย่างไม่กระดากปากเลยสักนิด แถมยังลอยหน้าลอยตายักคิ้วให้เธออย่างกวนๆ ทำเอาเพลงพิณอดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลงเพื่อซ่อนรอยยิ้มยิ่งเขาทำหน้าตาแบบนี้มันยิ่งดูน่ารักมากในสายตาของเพลงพิณมันดูหนึบหนับไปหมดเลย อ๊าย อยากจับแก้มเขาบีบให้ช้ำไปทั้งแก้มเลย แง ไม่นะเพลงพิณเธอจะคิดกับเขาแบบนี้ไม่ได้นะ “ใจคอจะสวีตกันสองคนไม่สนใจพวกเราสักนิดเลยเหรอคะ” เอวาท้วงสองหนุ่มสาวที่กำลังเล่นบทพ่อแง่แม่งอนโดยที่ไม่สนใจพวกเธอทั้งสองคนเลยสักนิดก่อนที่เพลงพิณจะค่อยๆผละออกจากอ้อมกอดของคนเจ้าเล่ห์ ที่ตีเนียนกอดเอวของเธอซะแนบแน่นซึ่งเกรย์เองก็ยอมปล่อยเพลงพิณแต่โดยดี “หมดหน้าที่ของผัวจำเป็นแบบผมแล้ว ขอตัวก่อนนะครับ” เกรย์ชิงบอกลาทั้งสามสาวก่อนที่เขาจะหันหลังและเตรียมเดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์แต่สองมือที่เข้ามาควงแขนเขาคนละข้างทำเอาเกรย์ถึงกับชะงักไปด้วยความตกใจ “จะรีบไปไหนกันล่ะจ๊ะพ่อหนุ่ม เราสองคนยังไม่ได้ทำความรู้จักกับคุณเลยนะ ปะไปดื่มด้วยกันสักสองสามแก้วเดี๋ยวพวกเราเลี้ยงเอง” เจ้าเอยบอกเกรย์ด้วยรอยยิ้มในขณะที่เพลงพิณได้แต่มองเพื่อนสนิททั้งสองด้วยความตกใจเพราะเธอไม่คิดว่าเพื่อนของเธอจะกล้าเข้าไปควงแขนเกรย์แบบนี้ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักสนิทสนมกันมาก่อน ส่วนคนที่ถูกควงแขนโดยไม่ทันตั้งตัวถึงกับเตรียมตั้งท่าสะบัดแขนออก แต่พอคิดได้ว่าสองสาวเป็นเพื่อนของเพลงพิณเขาก็ได้แต่ยืนนิ่งๆให้สองสาวควงแขนโดยไม่ขัดขืนเพราะถ้าทำแบบนั้นมันก็ดูไม่เป็นสุภาพบุรุษเกินไป “ไม่จำเป็นหรอกมั้งครับ ผมไม่ใช่แฟนจริงๆของเพื่อนคุณสักหน่อยแค่บังเอิญผ่านมาเจอเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นผมขอตัว” จบประโยคร่างสูงก็ก้าวเดินไปข้างหน้าเพื่อที่จะรีบไปประจำเคาน์เตอร์บาร์แทนอาร์มที่อาจจะถูกหักเงินเพราะไม่มีใครไปทำหน้าที่แทน แต่สุดท้ายแล้วเกรย์กลับต้องก้าวเดินถอยหลังเพราะแรงลากของสองสาวที่ดูจะไม่ฟังคำพูดของเขาเลยสักนิด “จะบังเอิญผ่านมาเจอหรือตั้งใจก็ไม่เป็นไรค่ะ ไปนั่งดื่มทำความรู้จักกันไว้ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายเผื่ออนาคตเราจะได้นั่งดื่มด้วยกันบ่อยๆ” เอวาแย้งเกรย์ด้วยใบหน้าที่ยิ้มระรื่นก่อนที่สองสาวจะออกแรงลากเกรย์ให้เดินตามพวกเธอไปในขณะที่เพลงพิณได้แต่พยายามจะห้ามเพื่อนๆ รวมถึงเกรย์เองที่ก็ยื่นมือมาหาเพลงพิณอย่างต้องการความช่วยเหลือ แต่สุดท้ายแล้วความต้องการที่อยากจะทำความรู้จักผู้ชายคนนี้ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ก็ทำให้เพลงพิณเลือกที่จะเดินตามเพื่อนสาวทั้งสองคนไปเงียบๆด้วยหัวใจที่แอบพองโต
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD