“ขอ Pink แก้วหนึ่งค่ะ"
เพลงพิณทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทรงสูงพร้อมกับร้องสั่งเครื่องดื่มค็อกเทลสุดโปรดก่อนที่เธอจะอยู่ในท่านั่งเท้าคางพร้อมกับจ้องมองร่างสูงที่ดูแปลกตาไปไม่เหมือนทุกวัน เพราะอาร์มเด็กประจำบาร์ที่เธอรู้จักนั้นค่อนข้างผอมบางและผิวสีแทนผิดกับคนตรงหน้าที่รูปร่างสมส่วนและผิวขาวจัดราวกับลูกคุณหนู
เกรย์หยิบจับส่วนผสมของเครื่องดื่มที่ลูกค้าสั่งอย่างคล่องแคล่วเขาใช้เวลาเพียงสามนาทีก็หันกลับมาพร้อมกับวางเครื่องดื่มลงตรงหน้าของผู้หญิงที่เขาไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอกันอีกครั้ง แม่สาวหวงซิง ที่ตอนนี้ดวงตากลมโตของเธอกำลังจ้องมองมาที่เขา
"หล่อจัง"
คำพูดที่คิดอยู่ในใจเงียบๆกลับเล็ดลอดออกมาเป็นน้ำเสียงหวานรื่นหูที่คนพูดยังตกใจที่ตัวเองเผลอคิดเสียงดังจนหลุดออกมาทั้งเสียงและคำพูดให้ขายหน้าผู้ชายที่สบตาเธอเพียงชั่วครู่เท่านั้น ก่อนที่เขาจะหันกลับไปชงเหล้าต่อเงียบๆโดยที่ไม่สนใจเพลงพิณที่กำลังรู้สึกหัวใจห่อเหี่ยวเมื่อโดนผู้ชายตรงหน้าเมินเป็นครั้งแรกและคนแรก ที่ผ่านมาเธอเป็นฝ่ายเมินผู้ชายมาตลอดแต่มาวันนี้สาวสวยอย่างเธอกลับถูกผู้ชายที่หล่อมากคนนี้เมินอย่างไม่ไยดี เหอะ มันจะมากไปแล้วนะ
"เชอะ คิดว่าตัวเองหล่อมากนักหรือไง"
ความคิดที่มีเสียงหลุดออกมาจากริมฝีปากสีแดงฉ่ำอีกครั้งทำเอาคนที่กำลังชงเครื่องดื่มอยู่ถึงกับคิ้วกระตุกอย่างมีน้ำโหนิดๆกับคำพูดเชิงประชดประชันจากแม่สาวหวงซิง ก่อนที่เกรย์จะตัดสินใจหันกลับมาเผชิญหน้ากับเพลงพิณพร้อมกับยื่นหน้ามาหาเธอที่ชะงักเล็กน้อยด้วยความตกใจ เพราะระยะห่างระหว่างเขากับเธอมีเพียงลมหายใจกั้นเท่านั้น
“ถ้าไม่หล่อคุณคงไม่ชมหรอกจริงไหมครับ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อย่าแถนะครับว่าไม่ได้ชมผมเพราะสายตาคุณมองมาที่ผมตอนที่พูดคำว่าหล่อจัง”
เกรย์ดักทางเพลงพิณอย่างรู้ทันเมื่อเธอตั้งท่าจะอ้าปากแก้ตัวแบบที่เขาว่าก่อนที่เกรย์จะหันกลับไปจัดของทุกอย่างให้เข้าที่อย่างเป็นระเบียบ เพลงพิณหน้ามุ่ยอย่างหงุดหงิดใจที่โดนผู้ชายตรงหน้าเมินยังไม่พอเขาดันรู้ทันเธอเสียอีกมือบางยกเครื่องดื่มขึ้นกระดกทีเดียวจนหมดแก้วก่อนที่น้ำเสียงที่คุ้นเคยจะดังขึ้นอยู่ข้างๆเธอ
“Whisky sour แก้วหนึ่งครับ”
เพลงพิณหันหน้ามามองคนข้างกายที่ร้องสั่งเครื่องดื่มทันทีในขณะที่คิมหันต์ยกยิ้มมุมปากให้เพลงพิณด้วยความเจ้าเล่ห์พร้อมกับนั่งลงข้างๆเธออย่างใกล้ชิด แต่เพลงพิณกลับขยับหนีคิมหันต์ราวกับว่ารังเกียจคนข้างกายจนทนนั่งใกล้ๆกันไม่ได้ เกรย์เหลือบมองท่าทีแปลกๆของหนุ่มสาวทั้งสองคนตรงหน้าด้วยความสงสัยเล็กน้อยก่อนที่เขาจะหันกลับไปชงเครื่องดื่มต่อเงียบๆ
“ไงจ๊ะที่รัก หนีพี่คิมมานั่งตรงนี้เองพี่ตามหาตั้งนาน”
คำพูดที่ราวกับว่าเธอยังคบกับเขาอยู่ทำเอาเพลงพิณถึงกับขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่เข้าใจ เพราะคำพูดของเขาดูเหมือนจงใจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าเธอกับเขาเป็นแฟนกันทั้งๆที่เลิกรากันไปแล้ว
“ถ้าเรียกผิดเพลงอนุญาตให้เรียกใหม่ได้นะคะพี่คิม เพลงไม่ใช่ที่รักของพี่แต่เป็นแค่แฟนเก่าที่บังเอิญมาเจอกันทั้งๆที่เพลงไม่ได้อยากเจอพี่คิมเลยสักนิดต่างหากล่ะคะ”
เพลงพิณทักทายคิมหันต์กลับอย่างไม่ไว้หน้าเขาเลยสักนิดส่วนคนที่โดนตอกย้ำสถานะแฟนเก่าได้แต่ค่อยๆหุบยิ้มลงพร้อมกับชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจ แต่ยังไม่ทันที่คิมหันต์จะได้เอ่ยง้องอนหรือต่อปากต่อคำกับเพลงพิณเครื่องดื่มที่เขาสั่งก็ถูกวางลงตรงหน้าเสียก่อน
“Whisky sour ได้แล้วครับ”
เกรย์ผายมือไปยังเครื่องดื่มก่อนที่เขาจะหันหลังให้สองหนุ่มสาวที่อยู่ในสถานะแฟนเก่าและทำทีเป็นจัดอุปกรณ์ชงเครื่องดื่มให้เป็นระเบียบแต่หูกลับคอยแอบฟังบทสนทนาของทั้งคู่อย่างเนียนๆ
“เพลงครับ พี่คิมขอโอกาสได้ไหมครับเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมกันเถอะนะ”
คิมหันต์ไม่พูดเปล่าหากแต่มือใหญ่กลับยื่นไปจับมือของเพลงพิณที่สะบัดออกทันทีอย่างนึกรังเกียจผู้ชายตรงหน้าที่เคยเอ่ยขอมีอะไรกับเธออย่างหน้าด้านๆ แต่พอเธอไม่ยินดีและยินยอมเขาก็โพล่งคำบอกเลิกเธอออกมาโดยที่ไม่หยุดคิดหรือทบทวนคำพูดของตัวเองแม้แต่น้อย
“เหมือนเดิมของพี่คิมคือการขอมีอะไรกับเพลงพอเพลงไม่ยอมก็บอกเลิกแบบนี้เหรอคะ หึ พี่คิมคะเพลงเป็นคนนะคะไม่ใช่ควายที่จะโง่กลับไปคบกับผู้ชายแบบพี่คิมซ้ำสอง”
ฝีปากที่จัดจ้านของเพลงพิณทำเอาคนที่ทำทีเช็ดแก้วอยู่ถึงกับหลุดยิ้มออกมาน้อยๆด้วยความชอบใจในตัวเธอที่ค่อนข้างตรงไปตรงมาคิดอะไรก็พูดแบบนั้น โดยที่คำพูดของเธอไม่ได้ผ่านการปรุงแต่งให้สวยหรูเพื่อรักษาน้ำใจคนฟังหากแต่เป็นคำพูดจากใจของเธอที่หนุ่มสาวสมัยนี้ชอบพูดกันว่าแมนๆคุยกัน
“แต่พี่คิมรักเพลงนะคะรักมาก อีกอย่างเรื่องมีอะไรกันของคนที่คบเป็นแฟนกันมันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสักนิดทุกวันนี้คนเป็นแฟนกันเขาก็มีอะไรกันทั้งนั้น”
“แต่เพลงไม่ได้รักพี่คิมและไม่เคยรักเลยสักนิดเพราะเราแค่อยู่ในช่วงทดลองคบกันเป็นแฟนเท่านั้น เรื่องแบบนั้นสำหรับพี่คิมที่ผ่านการมีแฟนมาแล้วหลายคนคงเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับเพลงแล้วมันไม่ใช่ค่ะพี่คิมอาจจะมองว่าเพลงหัวโบราณแต่เพลงไม่คิดที่จะยกสิ่งที่มีค่าของเพลงให้ใครง่ายๆหรอกค่ะ”
เพลงพิณยังคงตอบโต้คิมหันต์อย่างเผ็ดร้อนตอนนี้เธอทั้งหงุดหงิดและโมโหที่ต้องมานั่งพูดถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาแล้วกับผู้ชายดื้อด้านอย่างคิมหันต์ ในเมื่อเขาเลือกที่จะจบความสัมพันธ์กับเธอเองแต่เขากลับไม่ยอมทำตามอย่างที่ปากพูดเลยสักนิด
“หึ สมัยนี้มันไม่มีแล้วเพลงผู้ชายที่รักจริงและรอเพลงได้จนถึงแต่งงาน สงสัยเพลงคงอ่านนิยายมากเกินไปเพราะผู้ชายดีๆพวกนี้มันมีแต่ในนิยายเท่านั้นแหละ”
คิมหันต์พูดขึ้นมาอย่างดูถูกความคิดของเพลงพิณที่เขามองว่าผู้ชายดีๆทุกวันนี้นั้นหายากมาก มันแทบไม่มีหลงเหลืออยู่แล้วไอ้ประเภทที่รักและรอเปิดซิงเจ้าสาวในวันแต่งงานเขาคนหนึ่งแหละที่คงอดใจรอไม่ได้จนถึงวันนั้น
“แต่แฟนใหม่ของเพลงเขาไม่เคยมีความคิดเหมือนพี่คิมเลยสักนิด”
เพราะความโมโหที่โดนอดีตแฟนเก่าดูถูกทัศนคติและความคิดของตัวเองทำให้เพลงพิณพลั้งปากออกไปแบบนั้นซึ่งพอพูดออกไปแล้วเธอก็อยากจะกัดลิ้นตัวเองเสียจริงๆที่พูดออกไปโดยไม่คิด ส่วนคิมหันต์เมื่อได้ยินอย่างนั้นเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นอย่างนึกขันเพลงพิณที่ไม่อยากคืนดีกับเขาจนถึงกับต้องอ้างว่ามีแฟนใหม่แล้ว
“หึ เพิ่งเลิกกับพี่ได้แค่สองเดือนแต่กลับมีแฟนใหม่ได้รวดเร็วทันใจคิดว่าพี่จะเชื่อคำพูดของเพลงหรือไง ตั้งแต่ที่เราเลิกกันพี่สั่งให้คนคอยตามดูเพลงตลอดเวลาไม่เห็นมีใครหน้าไหนมันเข้ามาจีบเพลงเลยสักคน แต่ถึงจะมีเพลงก็ปฏิเสธจนพวกมันหน้าหงายกลับไปอย่ามาหลอกพี่เสียให้ยากเลยจ้ะเพลงจ๋า”
คิมหันต์บอกเพลงพิณอย่างไม่คิดที่จะเชื่อคำพูดของเธอเลยสักนิดเพราะตั้งแต่ที่เขาพลั้งปากบอกเลิกเธอด้วยความโมโหเขาก็ให้คนคอยตามดูความเคลื่อนไหวของเพลงพิณตลอดเวลา ซึ่งเธอไม่ได้มีแฟนใหม่อย่างที่บอกเขาเพราะเวลาส่วนใหญ่ของเธอคืออยู่กับเจ้าเอยและเอวาโดยที่ไม่มีตัวผู้หน้าไหนมาเกาะแกะเธอทั้งนั้น
“ดูเหมือนพี่คิมจะมั่นใจจังเลยนะคะว่าเพลงยังไม่มีแฟนใหม่ แต่พี่คิมอย่าลืมนะคะว่าคนของพี่คิมไม่ได้ตามดูเพลงตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงสักหน่อย”
เอาว่ะเพลงพิณได้แถแล้วก็เอาให้สุดไปเลยถึงจะไม่ได้เรียนเอกการแสดงแต่มารยาหญิงที่สั่งสมมาหลายปีเธอต้องงัดเอาออกมาใช้ให้หมด เพลงพิณบอกตัวเองอยู่ในใจด้วยหัวใจที่เต้นแรงเพราะกลัวว่าคิมหันต์จะจับได้ว่าเธอกำลังโกหกเขาอยู่
ในขณะที่เกรย์ได้แต่ยิ้มน้อยๆกับเหตุการณ์ตรงหน้าที่ดูเหมือนละครน้ำเน่าหลังข่าวเข้าไปทุกที ให้เดาต่อจากนี้เธอคงหาใครสักคนมาสมอ้างเป็นแฟนสินะ อืม ครบสูตรละครหลังข่าวเลยหวังว่าแฟนใหม่ของเธอคงไม่ใช่เขาที่อยู่ใกล้เธอที่สุดตอนนี้หรอกนะ
“หึ ถ้ามีจริงๆก็พามาแนะนำให้พี่รู้จักหน่อยสิครับ พี่ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าแฟนใหม่ของเพลงมันจะหน้าตาดีและนิสัยดีขนาดไหนกันเชียวขึ้นชื่อว่าผู้ชายร้อยทั้งร้อยนิสัยเหมือนกันหมด”
คำท้าทายของคิมหันต์ทำเอาเพลงพิณถึงกับหน้าเสียไปเพียงชั่วครู่ก่อนที่เธอจะรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดเพื่อไม่ให้มีพิรุธ สมองน้อยๆก็พยายามคิดหาทางออกสุดฤทธิ์เพราะดูเหมือนว่าครั้งนี้คิมหันต์จะไม่ยอมล่าถอยออกไปง่ายๆเพราะเธอดันไปโกหกคำโตว่าเธอมีแฟนใหม่แล้ว
ในขณะที่กำลังคิดหาทางออกจนปวดหัวผู้ชายที่ยืนหันหลังให้เธอกับพี่คิมหันต์และทำตัวราวกับอากาศธาตุก็ค่อยๆหันหน้ากลับมา แววตาที่ไหววูบสบเข้ากับดวงตาคมกริบของผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าก่อนที่ความคิดแผลงๆจะสั่งให้เพลงพิณตัดสินใจยื่นมือไปกระชากแขนผู้ชายแปลกหน้าที่เธอไม่รู้จักแม้แต่ชื่อเข้ามาแนบชิด
“แต่แฟนใหม่คนนี้ของเพลงไม่เหมือนร้อยทั้งร้อยที่พี่คิมหันต์พูดถึงแน่นอน ใช่ไหมคะที่รัก”
รอยยิ้มหวานถูกส่งไปให้ผู้ชายที่ตกอยู่ในสถานะแฟนใหม่ของเพลงพิณอย่างไม่ทันตั้งตัวพร้อมกับสายตาขอร้องอ้อนวอนที่พยายามส่งมาให้เขานั่นอีก คิมหันต์กำหมัดแน่นด้วยความโมโหเมื่อผู้ชายที่เป็นพนักงานบาร์เทนเดอร์ของที่นี่ถูกเพลงพิณแนะนำให้เขารู้จักในฐานะแฟนใหม่
ส่วนคนที่ถูกแนะนำว่าเป็นแฟนใหม่ของผู้หญิงที่กำลังควงแขนตัวเองอยู่ได้แต่หลับตาลงช้าๆอย่างรู้สึกปวดหัวขึ้นมาในทันที กับสถานะแฟนที่เกรย์ไม่เคยคิดจะใช้กับผู้หญิงคนไหนทั้งนั้นไม่ว่าจะตอนนี้หรือในอนาคตข้างหน้า เพลงพิณพยายามส่งสายอ้อนวอนเกรย์สุดฤทธิ์เมื่อเขายังคงเงียบไม่ยอมตอบรับคำพูดของเธอ
“ใช่ครับ คนรักกันไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องมีเรื่องเซ็กซ์เข้ามาเกี่ยวข้องแต่ถ้าคุณมีความคิดแบบนั้นอยู่ในหัวทั้งๆที่เพิ่งคบกันได้ไม่นานเขาเรียกว่ารักหวังฟันครับ สำหรับผมต่อให้ต้องรอเพลงไปจนถึงวันแต่งงานของเราผมก็รอได้ครับเพราะความรักที่ผมมีให้เพลงคือความรักที่หวังเพียงอยากจะเห็นเพลงมีความสุขในทุกๆวันที่มีผมคอยอยู่เคียงข้าง”
เกรย์ตอบรับคำพูดของเพลงพิณอย่างหนักแน่นก่อนที่เขาจะกุมมือเล็กของเธอเอาไว้พร้อมทั้งส่งยิ้มอย่างปลอบโยนมาให้เพลงพิณที่หัวใจเริ่มเต้นผิดจังหวะ กับคำพูดของเขาผู้ชายที่เธอหวังเพียงดึงเขาเข้ามาในชีวิตชั่วคราวเท่านั้น
โดยที่เพลงพิณและเกรย์ไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าละครทุกเรื่องเมื่อมีตอนแรกก็ย่อมต้องมีตอนจบที่บทสรุปจะสมหวังหรือผิดหวังก็ขึ้นอยู่กับตัวละครเอกของเรื่องว่าจะดำเนินเรื่องให้จบลงอย่างไร เช่นเดียวกับบทละครเรื่องนี้ที่สุดท้ายแล้วบทสรุปจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับเธอและเขาเพียงสองคนเท่านั้น