บทนำ
15 ปีก่อน…
ภาพคลอเคลียของชายหญิงในห้องทำงานตกอยู่ในสายตาของหญิงสาวอีกคน ที่เดินทางมาหาสามีโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้าเพื่อหวังจะเซอร์ไพร้ส์ เนื่องจากวันนี้เป็นวันครบรอบการแต่งงานของเธอและสามี แต่การมาครั้งนี้กลับได้เห็นภาพที่ทำให้หัวใจแตกสลาย หยาดน้ำตาก็พากันหลั่งไหลไม่ขาดสาย ขณะที่หญิงชายภายในห้องทำงานหาได้สนใจผู้มาใหม่ เพราะทั้งสองยังคงกอดรัดแลกจูบกันนัวเนียจนแทบจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
ช่วงจังหวะหนึ่งสายตาของหญิงสาวที่กำลังนัวเนียกับเจ้านายหนุ่มเหลือบมาเห็นผู้มาใหม่เข้าพอดี ซ้ำหล่อนยังเหยียดยิ้มเยาะหยันมอบให้ ก่อนจะหันกลับไปสนใจเรือนร่างของเจ้านายหนุ่มต่อ หวังให้หญิงสาวที่เข้ามาขัดจังหวะหาความสุขของตนและเจ้านายตกใจจนช็อกตายไปต่อหน้าเลยยิ่งดี เพราะเธอจะได้ขยับตำแหน่งจากเมียลับๆ ไปเป็นเมียหลวง!
“ผมต้องการคุณเหลือเกิน บุษยายอดรัก” คุณพฤกษ์ ผู้บริหารบริษัท ภโวทัย เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า โดยไม่คิดเอะใจว่าจะมีใครโผล่พรวดเข้ามาในห้องทำงาน
“คุณเรียกบุษว่ายอดรัก แล้วภรรยาที่บ้านล่ะ คุณพฤกษ์จะเรียกว่าอะไรคะ” สายตาของคนพูดส่งไปเยาะเย้ยหญิงสาวอีกคน ที่ยืนน้ำตาไหลไร้เสียงสะอื้นอยู่หน้าห้องทำงาน
หัวใจของคนถูกเยาะเย้ยบีบรัดจนแทบหายใจไม่ออก เพราะเชื่อใจสามีมาตลอด แต่ในวันนี้ความไว้เนื้อเชื่อใจมลายหายไปแล้ว เพราะภาพเริงรักของสามีกับเลขา ที่ทั้งสาวและสวยกว่า
“อย่าเพิ่งพูดถึงคนอื่นเลยบุษยายอดรัก” ขาดคำมือของคนพูดก็ลากผ่านทรวงอกอวบอิ่มของเลขาสาว หลังจากเลขาสาวปลดกระดุมเสื้ออำนวยความสะดวกให้แก่เจ้านายหนุ่ม อย่างจงใจยั่วให้คนที่ยืนอยู่หน้าห้องทำงานใจสลาย
“แต่คนที่บุษพูดถึงใช่คนอื่นที่ไหนกันล่ะ” บุษยาค้านด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด หญิงสาวเอียงตัวหลบฝ่ามือและ ริมฝีปากเร่าร้อนของเจ้านายหนุ่ม โดยที่สายตายังคงยิ้มเยาะหญิงสาวอีกคนด้วยความสะใจ
“หยุดพูดถึงคนอื่นได้แล้วบุษยา”
“อย่าเพิ่งอารมณ์เสียสิค่ะ”
“เรามาหาความสุขกันก่อนดีกว่า คุณไม่อยากได้เงินจากผมหรือไง หรือจะเอารถคันใหม่ดีล่ะ” เจ้านายหนุ่มหว่านล้อม เพราะแพ้ให้แก่ไฟสิเน่หาของเลขา
“คุณจะซื้อรถให้บุษจริงเหรอคะ” เลขาสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น โดยไม่ลืมที่จะส่งสายตาไปถึง ‘นีรนาท’ ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณพฤกษ์ ที่กำลังยืนตัวสั่น น้ำตาไหลแต่ไร้เสียงสะอื้น นึกอยากจะหนีไปให้พ้นจากที่นี่ แต่สองเท้ากลับไม่พาร่างกายอันอ่อนแรงของตนขยับไปไหน ทำให้ต้องทนฟังถ้อยคำฉอเลาะของเลขาและสามีคอยเสียดแทงหัวใจ
“จริง ถ้าบุษตามใจผม” เจ้านายหนุ่มบอกอย่างใจป้ำ โดยหารู้ไม่ว่าภรรยาได้ยินทุกถ้อยคำ
“อย่างบุษเนี่ยเหรอคะที่จะไม่ยอมตามใจคุณ คุณนี่ช่างกล่าวหาบุษซะจริงเลย” เลขาสาวจีบปากจีบคอพูด พลางเบียดเสียดเนื้อตัวเข้าหาเรือนกายของเจ้านายหนุ่ม
“ผมว่าเราเลิกพูดกันได้แล้วบุษ ผมต้องการคุณ” ขาดคำมือใหญ่ก็เร่งปลดพันธนาการของเลขาสาวออก แต่ทุกอย่างต้องชะงักเพราะเสียงๆ หนึ่ง ที่ฟังอย่างไรก็คุ้นหู ฝ่ายเลขาสาวก็แสร้งทำท่าทีตกอกตกใจ ลนลานควานหาเสื้อผ้ามาห่อกาย พลางทำหน้าสลดน่าสงสาร แต่ภายในใจกลับกระหยิ่มยิ้มย่องด้วยความสะใจ เมื่อวันที่เฝ้ารอคอยใกล้จะเป็นจริง
“คุณนาท!” สิ้นเสียงของคุณพฤกษ์ ทุกอย่างก็ตกอยู่ในภาวะเงียบงัน ก่อนจะมีเสียงดังจากหน้าห้องเข้ามาทำลายความเงียบ
“คุณพ่อคุณแม่ครับ ภัทรกลับมาแล้วครับ วันนี้ คุณพ่อคุณแม่จะพาภัทรไปเลี้ยงฉลองวันครบรอบแต่งงานของคุณพ่อคุณแม่ที่ไหนครับ” ร่างของเด็กหนุ่มวัยสิบสองดังอยู่ด้านหลังผู้เป็นแม่ ก่อนที่เด็กหนุ่มจะเดินแทรกมารดาเข้าไปยกมือไหว้ผู้เป็นพ่อ แต่สิ่งที่ได้เห็นทำให้เด็กหนุ่มได้แต่ยืนตะลึง สองมือน้อยกำเป็นหมัดแน่น เมื่อได้เห็นเลขาหน้าห้องของผู้เป็นพ่ออยู่ในห้องด้วย
“คุณพ่อ! คุณพ่อทำอะไร ทำไมเสื้อผ้าเลขาถึงได้เป็นแบบนั้น”
“ภัทร ออกไปก่อนนะลูก พ่อมีเรื่องจะคุยกับแม่” คุณพฤกษ์บอกลูกชายเสียงนุ่ม แต่คนเป็นลูกไม่คิดทำตาม เด็กหนุ่มหันไปหามารดาที่ยืนนิ่งราวคนไร้ชีวิต แล้วโอบกอดท่านเอาไว้ด้วยสองแขนเล็กๆ ของตน
“คุณพฤกษ์ขา บอกให้ลูกชายของคุณออกไปก่อนสิคะ” บุษยาเริ่มออเซาะผู้เป็นเจ้านาย หลังถูกเด็กหนุ่มมองด้วยสายตาหยามเหยียด ทั้งที่ไอ้เด็กคนนี้อายุน้อยกว่าเธอเป็นสิบปี
‘คอยดูเถอะ หากเธอได้เป็นเมียคุณพฤกษ์วันไหน เธอจะเฉดหัวไอ้เด็กนรกไปให้พ้น’ เรียวปากสีสดเหยียดออกด้วยความชิงชังลูกชายของเจ้านาย
“เธออย่ายุ่ง” เด็กหนุ่มหันมาตวาดด้วยความไม่พอใจ
“ก็นี่มันเรื่องของผู้ใหญ่ เด็กอย่างเธอจะมาวุ่นวายทำไม” บุษยาตวาดกลับอย่างลืมตัว
“บุษ! อย่ายุ่งกับลูกชายผม คุณออกไป”
“แต่ว่าบุษ...”
“ออกไป!” สิ้นคำสั่งของเจ้านายหนุ่มบุษยาก็จำใจเดินออกไป จากนั้นคุณพฤกษ์ก็หันมาทางลูกชายแล้วบอกลูกชายด้วยเสียงนุ่มนวล “ ภัทร ลูกออกไปก่อนนะ พ่อมีเรื่องจะคุยกับแม่”
“แต่ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ” คุณนีรนาทตอบกลับพร้อมเดินจากไปอย่างคนหมดสิ้นทุกอย่างเมื่อถูกสามีที่รักหักหลัง
“คุณนาท! คุณฟังผมก่อน คุณนาท! คุณนาท!” คุณพฤกษ์ผวาจะตามภรรยาไปแต่ถูกบุษยาที่อยู่หน้าห้องรั้งเอาไว้
“บุษ! ปล่อยผม”
“ตามไปตอนนี้คุณนาทก็ไม่ฟังอะไรหรอกค่ะ แต่บุษสิ เสื้อผ้าหลุดลุ่ยขนาดนี้ คุณพฤกษ์ไม่คิดจะสนใจเลยเหรอคะ”
“ผมเกลียดพ่อ!” คนเป็นลูกตะโกนลั่นเมื่อเห็นท่าทีของ ผู้เป็นพ่อดูจะเป็นห่วงเป็นใยเลขามากกว่าความรู้สึกแม่ของเขา จากนั้นเด็กหนุ่มก็วิ่งตามผู้เป็นแม่ไป
“ภัทร! ภัทร!” คุณพฤกษ์ตะโกนเรียกลูกชาย แต่ลูกชายวิ่งหายไปแล้ว แต่ทว่าเด็กหนุ่มกลับไปไม่ทันมารดาที่ขับรถออกไปด้วยความเร็ว
“คุณพฤกษ์อย่าตามไปเลยค่ะ เด็กมันก็พูดไม่รู้จักคิดแบบนี้แหละค่ะ”
“แต่ภัทรกำลังโกรธผม”
“โกรธได้ก็หายได้ค่ะ คุณอยู่กับบุษดีกว่านะคะ บุษจะปลอบใจคุณเอง ไปนะคะ กลับเข้าห้องทำงานกันดีกว่า” บุษยาออดอ้อนเสียงอ่อนเสียงหวาน ด้านคุณพฤกษ์ก็คล้อยตาม บุษยาเลยได้โอกาสและใช้โอกาสนี้ปลอบโยนคุณพฤกษ์ด้วยไฟสวาท ภายในห้องทำงานเจ้าของค่ายเพลงดังจึงลุกโหมด้วยเพลิงสวาท แต่ในเวลาเดียวกันบนถนนสายหนึ่ง มีรถสุดหรูคันหนึ่งเสียหลักและพลิกคว่ำไปหลายตลบ สร้างความแตกตื่นให้กับผู้ใช้รถเป็นอย่างมาก ก่อนที่รถคันดังกล่าวจะเกิดประกายไฟ ไม่นานก็เผาวอดเสียหายไปทั้งคัน!