ลมหนาวแห่งฤดูใบไม้ร่วงพัดกระหน่ำไปทั่วพื้นที่โล่ง เสียงโลหะกระทบกันดังลั่นมาจากสนามฝึกซ้อม ทหารและชาวบ้านกำลังฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วง พวกเขารู้ดีว่าศึกใหญ่ที่กำลังจะมาถึงจะเป็นตัวชี้ชะตาของทุกคน
ภายในกระโจมวางแผน หย่งหมิงกำลังจ้องมองแผนที่ตรงหน้าอย่างตั้งใจ รอบกายเขามีเหล่าผู้นำฝ่ายต่าง ๆ ของกองทัพ รวมถึงอู๋เฟิงหลินและหลิงฮวาที่กำลังช่วยกันพิจารณาแผนการ
"ศัตรูเริ่มเคลื่อนกำลังพลไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ" อู๋เฟิงหลินกล่าว พร้อมชี้ตำแหน่งบนแผนที่ "จุดนี้เป็นป้อมปราการที่สำคัญ หากพวกมันยึดได้ เราจะเสียเปรียบในเชิงกลยุทธ์"
หย่งหมิงขมวดคิ้ว "แล้วเรามีทางป้องกันไม่ให้พวกมันยึดจุดนี้ได้หรือไม่?"
"ข้าเชื่อว่าเรายังพอมีเวลา หากเราส่งกำลังไปประจำการที่จุดนั้นโดยเร็ว พวกมันจะไม่สามารถโจมตีได้ง่ายนัก" หลิงฮวาเอ่ยขึ้น ดวงตาของเธอฉายแววเด็ดเดี่ยว
"แต่เราต้องระวังการโจมตีจากทิศอื่นด้วย" หย่งหมิงเสริม "พวกมันอาจใช้กลลวงเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจเรา"
"ข้าจะนำหน่วยลาดตระเวนไปสำรวจเส้นทางที่พวกมันอาจใช้โจมตี" หลิงฮวากล่าว "ข้าสามารถใช้พลังของข้าเพื่อช่วยในการคาดการณ์"
หย่งหมิงหันมามองหลิงฮวาด้วยความกังวล "เจ้ามั่นใจหรือ? การใช้พลังนั้นอาจทำให้เจ้าหมดแรง"
"ข้ามั่นใจ" หลิงฮวาตอบหนักแน่น "นี่เป็นสิ่งเดียวที่ข้าทำได้เพื่อช่วยพวกเรา"
หย่งหมิงพยักหน้า "ถ้าเช่นนั้น ข้าฝากเจ้าด้วย"
หลังจากการประชุมสิ้นสุดลง หลิงฮวานำหน่วยลาดตระเวนกลุ่มเล็ก ๆ ออกเดินทางในคืนนั้น ท่ามกลางความมืดและสายลมเย็นเยียบ เธอใช้สมาธิอย่างหนักเพื่อเรียกใช้พลังที่มี ภาพของเส้นทางและการเคลื่อนที่ของศัตรูเริ่มปรากฏขึ้นในจิตใจของเธอ
"พวกมันจะแบ่งกำลังออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งบุกโจมตีจุดหลักที่ตะวันออกเฉียงเหนือ อีกกลุ่มจะเคลื่อนไปทางใต้เพื่อสร้างความสับสน" หลิงฮวาเอ่ยกับกลุ่มทหารที่ร่วมเดินทางมา
เมื่อได้ข้อมูล พวกเขารีบกลับมายังค่ายและรายงานให้หย่งหมิงทราบ "เช่นนั้น เราจะต้องแบ่งกำลังพลของเราออกเป็นสองส่วน" หย่งหมิงกล่าว "กลุ่มหนึ่งตั้งรับที่ป้อมตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนอีกกลุ่มเตรียมรับมือทางใต้"
หลิงฮวาเสนอเพิ่มเติม "ข้าจะอยู่กับกองกำลังที่ป้อมตะวันออกเฉียงเหนือ ข้าจะช่วยป้องกันจุดนั้นให้ได้"
หย่งหมิงนิ่งคิดครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า "เช่นนั้น ขอให้เจ้ารักษาตัวด้วย"
รุ่งสางมาถึงพร้อมกับเสียงสัญญาณเตรียมความพร้อมจากหอคอยสังเกตการณ์ กองกำลังของหย่งหมิงแบ่งออกเป็นสองกลุ่มตามแผนที่ได้วางไว้
หลิงฮวายืนอยู่บนกำแพงป้อมปราการตะวันออกเฉียงเหนือ ข้างเธอมีอู๋เฟิงหลินที่มาช่วยสนับสนุนด้านการวางกลยุทธ์ "ข้าเคยอ่านตำราเกี่ยวกับศึกที่ลักษณะคล้ายกับครั้งนี้" อู๋เฟิงหลินกล่าว "สิ่งสำคัญที่สุดคือการยึดแนวรับไว้ให้มั่น และหาช่องโต้กลับเมื่อศัตรูประมาท"
"ข้าจะพยายามเต็มที่" หลิงฮวาตอบ น้ำเสียงของเธอแม้จะอ่อนล้า แต่ก็ยังเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น
ไม่นานนัก ศัตรูก็เริ่มปรากฏตัวที่เส้นขอบฟ้า ธงสีดำแดงโบกสะบัดท่ามกลางสายลม กองกำลังของพวกมันเคลื่อนที่เข้ามาอย่างช้า ๆ แต่มั่นคง
"เตรียมพร้อม!" หลิงฮวาตะโกนสั่ง ทหารทุกคนยกอาวุธขึ้นพร้อมรับมือ
เมื่อศัตรูเริ่มบุกเข้าใกล้ การโจมตีก็เริ่มต้นขึ้น ลูกธนูพุ่งผ่านอากาศเป็นสาย ขณะที่ทหารทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างดุเดือด หลิงฮวาใช้พลังของเธอเพื่อช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับกองทัพ ฝ่ายของหย่งหมิงสามารถรักษาแนวรับไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
ในขณะเดียวกัน ที่ฐานทัพทางใต้ หย่งหมิงนำทัพด้วยตนเอง การวางแผนล่วงหน้าและความสามัคคีของชาวบ้านและทหารทำให้พวกเขาสามารถป้องกันการโจมตีของศัตรูได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในยามบ่ายอันร้อนระอุ กองทัพของหย่งหมิงเดินหน้าเข้าสู่ที่ราบอันเปิดโล่ง ที่ซึ่งข้าศึกเริ่มจัดแถวเป็นรูปขบวนเตรียมโต้กลับ แม้ความเสียเปรียบด้านจำนวนจะชัดเจน แต่กองกำลังฝ่ายหย่งหมิงกลับเต็มไปด้วยความสามัคคี เสียงโห่ร้องให้กำลังใจกันระหว่างทหารและชาวบ้านดังกึกก้อง
หย่งหมิงมองข้ามทุ่งราบไปยังแนวรบของศัตรู เขารู้ดีว่ากลยุทธ์ที่คิดไว้มีความเสี่ยงสูง “เราต้องใช้ทุกอย่างที่เรามี ไม่ว่าตัวหรือหัวใจ” เขากล่าวเสียงหนักแน่น หันไปสั่งการเหล่าผู้นำกองพล
อู๋เฟิงหลินเดินเข้ามาใกล้ หย่งหมิงรับรู้ถึงความสงบนิ่งในแววตาของเขา “เจ้าแน่ใจหรือว่าแผนนี้จะสำเร็จ?” องค์ชายถาม
เฟิงหลินตอบเรียบง่าย “ไม่มีแผนใดไร้ช่องโหว่ แต่หากเราร่วมแรงใจ ช่องโหว่จะเล็กลงจนศัตรูไม่อาจฉวยโอกาสได้”
หลิงฮวายืนฟังอยู่ใกล้ๆ ความกังวลในใจยังคงอยู่ เธอใช้พลังของตนตรวจสอบพื้นที่รบเป็นครั้งสุดท้าย ภาพลางๆ ของศัตรูที่ลอบโจมตีปรากฏขึ้นในจิตใจ เธอรีบแจ้งข่าวนี้แก่หย่งหมิง “ศัตรูกำลังจะใช้ทหารม้าบุกด้านข้าง ต้องส่งนายกองไปเสริมกำลังที่นั่น”
หย่งหมิงพยักหน้ารับคำทันทีและส่งสัญญาณให้นายกองเคลื่อนกำลัง แต่ในขณะเดียวกัน ทหารที่แนวหน้าเริ่มปะทะกับศัตรู การต่อสู้ดุเดือดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง หลิงฮวาตัดสินใจออกมาที่แนวหน้าเพื่อช่วยสนับสนุน เธอใช้อำนาจของตนสร้างม่านพลังปกป้องทหารที่อ่อนแอ ขณะที่หย่งหมิงสั่งทัพใหญ่โจมตีศัตรูตรงกลาง สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย กองกำลังของพวกเขาเริ่มตีวงล้อมได้สำเร็จ
แต่ในช่วงเวลาที่ทุกคนคิดว่าสถานการณ์เริ่มเข้าข้างฝ่ายตน เสียงแตรรบของศัตรูดังขึ้นจากด้านหลัง
ข้าศึกกลุ่มหนึ่งที่หลบซ่อนในหุบเขาปรากฏตัว พวกมันเป็นกลุ่มนักรบที่มีฝีมือร้ายกาจ ซึ่งถูกส่งมาเพื่อตีตลบหลังกองทัพของหย่งหมิง
“พวกมันมากกว่าที่เราคาดไว้!” นายกองคนหนึ่งตะโกน เตือนถึงภัยที่กำลังมาใกล้
หลิงฮวาหันมองภาพที่เห็นจากม่านพลังของเธอ “เราถูกล้อมแล้ว...” เธอพึมพำ น้ำเสียงแฝงความหวั่นใจ
อู๋เฟิงหลินกลับสงบ เขาเดินเข้ามาใกล้หย่งหมิงและพูดเบาๆ “องค์ชาย หากเรายอมเสียบางสิ่ง เราจะสามารถรักษาชัยชนะไว้ได้”
หย่งหมิงขมวดคิ้ว “เสียบางสิ่ง? เจ้าหมายถึงอะไร?”
“พื้นที่ตรงนี้... เราไม่จำเป็นต้องรักษาไว้ทั้งหมด หากเราถอยไปตั้งรับที่เนินเขาเบื้องหลัง โอกาสของเราจะเพิ่มขึ้น” อู๋เฟิงหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นคง
แม้จะไม่เต็มใจยอมรับ แต่หย่งหมิงก็รู้ว่าอู๋เฟิงหลินพูดถูก “ถ้าเช่นนั้น เราจะทำตามแผนของเจ้า” เขาหันไปสั่งให้พลทหารเริ่มถอยทีละน้อย
ในขณะเดียวกัน หลิงฮวายังคงใช้พลังของเธออย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือกองกำลังที่กำลังเสียเปรียบ แต่เธอเริ่มสังเกตถึงความผิดปกติในร่างกาย ความอ่อนล้ากัดกินเธออย่างช้าๆ
“เจ้าไหวไหม?” หย่งหมิงถามเมื่อเห็นหลิงฮวาดูอิดโรย
“ยังไหวอยู่...” เธอยิ้มบางๆ แม้ในใจจะรู้ว่าพลังของเธอกำลังจะถึงขีดจำกัด
ในช่วงเวลาแห่งความตึงเครียดนี้ หย่งหมิงกลับพบเห็นบางสิ่งที่ทำให้เขาเปลี่ยนใจ เขาหันไปหานายกอง “แจ้งกำลังพลทหารทุกนาย ให้เตรียมพร้อมสำหรับการโต้กลับสุดท้าย เราจะไม่ยอมให้ศัตรูนำชัยชนะไปได้!”
เสียงโห่ร้องตอบรับดังกึกก้อง หลิงฮวามองหย่งหมิงด้วยความเชื่อมั่น ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าเขาไม่ได้ต่อสู้เพียงเพื่อราชวงศ์ แต่เพื่อตัวตนของประชาชนทุกคน