ตอนที่ 4

2934 Words
ภารัณมองหน้าสวยๆของเธอแบบใกล้ชิด ทำให้เขาได้เห็นเลยว่าผู้หญิงคนนี้คือคนๆเดียวกันกับที่ทำให้เขาเสียหน้าข้างใน และนี่เธอยังกล้าใช้สีสเปร์ยมาฉีดรถเขา แบบนี้มันจะมากเกินไปแล้ว เขาก็รีบลงจากรถไปหาเธอทันที “คุณทำอะไร” ภารัณพูดออกไปแล้วมองหน้าของเธออย่างจดจ้องอย่างโมโห ยิ่งเห็นรถสุดที่รักของเขาไปรอยฉีดจากสีเปร์ยก็ยิ่งโมโห “ฉะ ฉัน ฉันเปล่า” ปารารินก็ตกใจที่เขานั่งอยู่ในรถ แล้วเธอก็รีบโยนกระป๋องสีสเปร์ยนั้นทิ้งไป แล้วเธอก็รีบเดินหนีเขาทันทีแต่เขากลับลงมาจากรถแล้วมาจับแขนของเธอเอาไว้ “เปล่าอะไรคุณ ผมเห็นกับตาขนาดนี้ นี่คุณคิดจะทำผิดแล้วหนีไปง่ายๆงั้นเหรอ ใครจ้างคุณให้มาก่อกวนผมแบบนี้ห้ะ” ภารัณพูดออกไปอย่างไม่พอใจ ก่อนจะดึงตัวเธอเข้ามาใกล้ตัวเขาไม่ให้เธอหนีไปง่ายๆ “ไม่มีใครจ้างฉันมาทั้งนั้นแหละ ที่ฉันทำก็เพราะความแค้นส่วนตัวล้วนๆ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณเอาทุนของฉันไปให้ผู้หญิงที่ยอมนอนกับคุณง่ายๆ ป่านนี้ฉันก็คงจะได้ไปเรียนแล้ว ปล่อยฉันเดี๋ยวนะ ปล่อยสิ” ปารารินพูดไปก็พยายามสะบัดมือออกจากการจับกุมของเขา “ไม่ ในเมื่อคุณทำไปเพราะความแค้นส่วนตัว งั้นคุณต้องไปโรงพักกับผม ผมจะไม่ปล่อยคุณให้ลอยนวลแน่ คนอย่างคุณมันต้องได้นอนในคุก” ภารัณพูดไปอย่างไม่ยอม เพราะเธอจะต้องได้รับบทเรียนจากการกระทำในครั้งนี้ “ไม่นะฉันไม่ไป ไอ้บ้า ปล่อยฉันนะ อื้อ งับ” ปารารินพูดไปอย่างขัดขืน ไม่ยอมให้เขาจับตัวไปโรงพัก ก่อนจะก้มลงไปกัดมือของเขาให้ปล่อยมือของเธอเป็นอิสระ “โอ้ย” ภารัณร้องออกมาอย่างเจ็บๆ เมื่อผู้หญิงคนนี้กัดที่มือของเขาอย่างแรงจนเขาต้องรีบปล่อยมือของเธอแล้วสลัดมือหลบหนี “หึ สมน้ำหน้า ” ปารารินพูดออกปแบบล่อหน้าล่อตาของเขาแบบกวนๆ ก่อนจะรีบเดินหนีเขาแต่ก็ถูกเขาเข้ามาจับมืออีกรอบ “จะไปไหน ผมไม่ยอมปล่อยคุณไปง่ายๆหรอก พรึบ ดูสิว่าคราวนี้จะหนีไปไหนรอด ผมมีหลักฐานของคุณอยู่ในมือแล้ว คุณจะหนีไปก็เชิญเลย ” ภารัณพูดบอกไปก็ดึงเอากระเป๋าสพายของเธอมาไว้อย่างเจ้าเล่ห์ “ทำอะไรของคุณเนี่ย เอากระเป๋าของฉันคืนมาเดี๋ยวนี้นะ” ปารารินพูดออกไปอย่างตกใจที่เขาเอากระเป๋าของเธอไป แล้วแบบนี้ถ้าเขาไปแจ้งจับเธอจริงๆ เธอก็แย่น่ะสิ “ไม่ คุณต้องไปโรงพักกับผม ไปรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำ” ภารัณพูดไปด้วยเสียงจริงจัง “อย่าแจ้งความจับฉันเลยนะคุณ ฉันขอโทษ นะ นะ ” ปารารินพูดไปแล้วก็ทำหน้าทำตาอ้อนวอนเขาอย่างขอร้อง เมื่อเขาจะจับเธอส่งตำตรวจจริงๆ “ทีตอนนี้ล่ะมาขอโทษ ตอนทำทำไมไม่คิดห้ะ รถผมราคาตั้งเท่าไหร่ เด็กไร้มารายาทอย่างคุณน่ะต้องโดนอบรมซะบ้าง” ภารัณพูดไปก็ดึงมือของเธอให้ตามเขา แต่เธอก็ชักมือเอาไว้จนเขาหันไปมองแบบจดจ้อง “ฉันขอร้องนะคุณ ให้ฉันชดใช้อะไรก็ได้แต่อย่าแจ้งจับฉันเลยนะ” ปารารินูดออกไปแล้วพยายามดึงมือของเขาออก “กริ้งๆ กริ๊งๆ ผมคุยโทรศัพท์เสร็จแล้วผมจะมาจัดการคุณต่อ” ภารัณพูดออกไปก่อนจะเอามือข้างขวาหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาแล้วกดรับทันที “คุณภามคะ คุณทาเคชิขอเลื่อนนัดเป็นเที่ยงนี้ค่ะ เพราะเขาจะบินกลับญี่ปุ่นเย็นนี้เลย แล้วเลขาของคุณทาเคชิแจ้งว่าเขาใกล้จะถึงที่ร้านแล้ว แต่คนที่คุณภามจะจ้างมาเป็นแฟนหลอกคุณทาเคช ตอนนร้เธอกำลังขึ้นเครื่องกลับมากรุงเทพยังไม่ถึงเลยค่า เอาไงดีคะ” วิชุดาพูดออกไปแล้วก็ลุ้นในใจว่าเจ้านายของเขาจะไม่โมโหที่การนัดคลาดเคลื่อน แถมแผนที่วางเอาไว้ว่าจะหลอกทาเคชินั้นก็กำลังจะพังลง “โธ่โว้ย แล้วมาเลื่อนนัดอะไรตอนนี้เนี่ย ต่อให้หาคนใหม่มาก็คงจะไม่ทันได้เตรี้ยมอะไรกัน คงถูกจับได้กันพอดี ” ภารัณพูดบอกไป แล้วเขาก็มองปารารินอย่างสำรวจ เพราะดูๆไปแล้วผู้หญิงคนนี้ก็สวยใช้ได้เลย คงจะใช้หลอกทาเคชิได้ เนื่องจากลูกสาวของทาเคชินั้นมีใจให้เขาแล้วคอยตามตื้อเขาอยู่บ่อยๆ และเขาก็ยากจะปฎิเสธ เพราะทำธุรกิจโครงการใหญ่ร่วมกัน แต่สุดท้ายทาเคชินั้นก็พยายามยัดเหยียดลูกสาวให้คบกับเขาอยู่เรื่อยๆ และมันก็เริ่มจะหนักขึ้นทุกวัน เขาจึงต้องการหยุดความคิดของทั้งสองด้วยการหาแฟนปลอมๆมา เพื่อทำให้ทั้งสองหมดหวังเรื่องนี้ไป “อะไร มองฉันแบบนี้หมายความว่าไง” ปารารินถามออกไปแล้วก็ก้มมองตัวเอง ที่ถูกเขามองอย่างสำรวจด้วยสายตาอย่างนั้น ”ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง คุณให้คนเตรียมชุดแล้วก็ช่างหน้าช่างผมไปรอผมที่โรงแรมก็แล้วกัน ” ภารัณพูดออกไปแล้วคิดว่า ตอนนี้เขาจะต้องให้ผู้หญิงคนนี้ช่วยเขาแล้วล่ะ “ได้ค่ะคุณภาม วิจะจัดการให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ” วิชุดาตอบรับไปแบบงงๆ ก่อนที่เจ้านายของเธอจะกดวางสายไปซะก่อน “ผมมีธุระสำคัญต้องไปทำ และผมต้องการให้คุณช่วยแกล้งเป็นแฟนกับผมสักสองชั่วโมง แล้วหลังจากที่ผมเสร็จธุระแล้ว ผมจะไม่เอาเรื่องที่คุณใช้สีส้ปร์ยมาฉีดที่รถของผม ตกลงไหม” ภารัณพูดออกไปอย่างจริงจัง เพราะตอนนี้เขาก็คงจะหาคนไม่ทัน และเธอก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้แล้ว ”แกล้งเป็นแฟนกับคุณเนี่ยนะ ไม่มีทางอ่ะ” ปารารินพูดออกไปก็ยักไหล่แบบไม่เอาด้วย บ้าหรือเปล่า อยู่ดีๆก็จะให้แกล้งเป็นแฟนกันน่ะ “ งั้นคุณก็ไปโรงพักกับผม แล้วก็อย่าหวังว่าผมจะใจดียอมให้มีการประกันตัวนะ เพราะผมจะเอาให้คุณนอนเล่นในคุกสักอาทิตย์นึงเลย” ภารัณพูดขู่ออกไป แล้วก็มองเธออย่างเจ้าเล่ห์ เพราะเขาอุตส่าห์ใจดีจะไม่เอาเรื่องเพื่อแลกกับการที่เธอยอมช่วยเขา แต่เธอกลับปฏิเสธก็ต้องเจอขู่อย่างนี้แหละ “อืม ตกลงก็ได้ หวังว่าคุณจะพูดคำไหนคำนั้นก็แล้วกัน” ปารารินพูดไปแบบยอมๆ เพราะเธอก็ไม่อยากถูกจับขึ้นโรงพักหรอกนะ ไม่งั้นถ้าป้าเธอรู้ล่ะก็ ถูกลากตัวกลับลำปางๆแน่ๆ แกล้งเป็นแฟนกับเขาแค่สองชั่วโมงให้มันจบๆไปซะยังดีกว่า “งั้นก็ขึ้นรถ ผมมีเวลาไม่มาก เดียวผมจะบอกรายละเอียดคุณอีกทีในรถ” ภารัณเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่ง ก่อนจะเอากระเป๋าสะพานของเธอมาเปิดแล้วหยิบเอากระเป๋าสตางของเธออกมาเก็บไว้ในเสื้อสูทของตัวเองอย่างป้องกันการถูกเธอขโมยกลับคืนไป “อืม งั้นคุณก็ขับช้าๆหน่อยนะ ฉันกลัวความเร็ว” ปารารินพูดบอกไปอย่างจริงจัง เพราะเธอไม่รู้ว่าเขาจะขับรถเร็วหรือไม่ แค่ต้องการบอกเขาเอาไว้ เนื่องจากเธอเคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์พร้อมกับพ่อและแม่ของเธอ และเหตุการณ์นั้นก็ทำให้พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต และมีเพียงเธอที่โชดดีรอดมาได้ แต่มันก็กลายเป็นภาพจำจนเธอกลัวเวลาที่ใครขับรถเร็วๆ “อืม ผมไม่กล้าขับรถเร็วหรอกน่าคุณ วางใจได้” ภารัณพูดไปแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ออกมา ก่อนจะเข้าเกียร์รถ แล้วเขาก็เหยียบคันเร่งแล้วขับราวกับนักแข่งออกไปทันที ”ว้าย คุณ ฉันบอกว่าอย่าขับเร็วไง ฉันกลัว” ปารารินเอามือจับเข็มขัดนิรภัยแน่น พร้อมกับหลับตาอย่างกลัวๆ “นี่คุณกลัวจริงๆเหรอเนี่ย โอเคๆ ผมขอโทษ ลืมตาเถอะผมขับช้าลงแล้ว” ภารัณพูดบอกไปอย่างขอโทษ เพราะไม่คิดว่าตัวแสบอย่างเธอจะกลัวจริงๆ จากนั้นปารารินก็ลืมตาขึ้นมามองแล้วเห็นว่าเขาขับรถช้าลงจริงๆก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกโล่งใจ “ทีนี้ก็ตั้งใจฟัง ว่าผมต้องการให้คุณทำอะไร” ภารัณพูดบอกไปก็อธิบายให้เธอฟังว่าเธอจะต้องทำอะไรบ้าง ผ่านไปยี่สิบนาที ภารัณก็ขับรถมาถึงโรงแรมที่เขานัดกับทาเคชิเอาไว้ เขาก็พาปารารินเข้ามาในล็อบบี้ของโรงแรม แล้วก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา “นี่คนที่คุณภารัณจะให้แปลงโฉมใช่ไหมคะ” ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นพร้อมกับมีคนถือชุดและอุปกรณ์แต่งหน้าอยู่ มันก็ทำให้ภารัณรู้ทันทีว่านี่คือคนที่เลขาของเขาจัดมาให้ “ใช่ผู้หญิงคนนี้แหละ เอาใหสวยเลยระ ผมมีเวลาให้สบนาทีกว่าๆ จดการการได้เลย” ภารัณพูดบอกไป ชายคนนั้นก็เดินนำไปที่ลิฟต์ทันที “ดะ เดี๋ยวสิคุณ มำไมต้องเปลี่ยนชุดแปลงโฉมอะไรนี่ด้วยล่ะ ชุดนี้ก็ได้มั้ง” ปารารินถามออกไปเพราะไม่ต้องการเปลี่ยนชุดแต่งหน้าแต่งตาอะไรทั้งนั้น “ผมไปเจอนักธุรกิจนะคุณ ไม่ได้ไปเดินตลาดที่จะให้คุณใส่ชุดแบบนี้ไปน่ะ รีบตามช่างไปแล้วทำตามที่เขาบอกซะ เพราะนี่มันสำคัญกับผมมาก และถ้าผมพลาดงานนี้เพราะคุณล่ะก็ คุณก็จะไม่ได้คำตอบเรื่องทุนการศึกษาของคุณ และผมก็จะยกเลิกทุนทุกอย่างที่ให้กับมหาวิทยาลัยที่คุณเรียนอยู่ด้วย แล้วก็จะให้เหตุผลว่าเป็นเพราะคุณ ทีนี้ก็คงจะมีคนจำชื่อคุณได้ขึ้นใจเลยล่ะ” ภารัณพูดขู่เธอออกไป เพราะเขาคิดว่ามันน่าจะทำให้เธอยอมช่วยเขาในครั้งนี้ได้ง่ายขึ้น “คุณนี่มันร้ายกว่าที่ฉันคิดเอาไว้อีกนะคุณภารัณ ได้ ฉันจะช่วยคุณแบบถวายหัวเลย” ปารารินพูดออกไปแล้วมองหน้าของเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า ผู้ชายที่เธอเคยปลาบปลื้มจะร้ายกาจจนไม่แคร์ใครถึงขนาดนี้ “ดี งั้นก็ไปกันได้แล้ว ก่อนที่ผมจะไปสายมากกว่านี้” ภารัณพูดไปก็ถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ จากนี้นปารารินก็ขึ้นไปยังห้องพักที่ภารัณเปิดเอาไว้เพื่อจับเธอแต่งตัวแปลงโฉมโดยเฉพาะ และเมื่อเวลาผ่านไปสบนาทีเธอก็ออกมาสวยสมใจเขา ”เรียบร้อยแล้วค่ะคุณภารัณ เป็นยังไงบ้างคะ สวยไหมเอ่ย” ช่างแต่งหน้าถามออกไป แล้วก็ยิ้มอย่างภูมิใจกับการทำงานของตัวเอง ภารัณก็เงยหน้ามองอย่างอึ้งไ แล้วก็ยอมรับเลยว่าผู้หญิงคนนี้พอแต่งตัวขึ้นมานั้นแบบนี้แล้ว เธอก็ยิ่งสวยและโดดเด่นเป็นอย่างมาก “อืม ก็พอใช้ได้ เสร็จแล้วก็ไปกันเถอะ” ภารัณพูดบอกไปก็ลุกขึ้นมองเธอ แล้วก็หลบสายตาพร้อมกับเดินออกไป “ก็พอใช้ได้ แต่ทำหน้าอึ้งซะ ไอ้ขี้เก๊กเอ๊ย” ปารารินพูดว่าเขาออกไปเขาๆอย่างอดไม่ได้ ก่อนจะเดินตามเขาออกไปขึ้นลิฟต์ เพื่อขึ้นไปยังชั้นของร้านอาหาร ”จำเอาไว้ว่าต่อไปนี้คุณคือแฟนของผม พร้อมนะ” ภารัณพูดบอกไปก่อนจะเอามือไปโอบเอวเธออย่างใกล้ชิด ก่อนจะก้มไปมองอย่างประหม่า ส่วนปารารินก็รู้สึกเกร็งๆที่เขาเอามือมาโอยที่หลังของเธอ เธอก็เงยหน้าหันไปมองหน้าของเขา แล้วก็รู้เลยว่ามันใกล้มาก ใกล้จนเธอสบตากับเขาโดยบังเอิญ “อืม ฉันพร้อมแล้วค่ะ ” ปารารินหลบสายตาของเขาอย่างเขินๆ ก่อนจะพูดตะกุจะกะออกไปอย่างทำตัวไม่ถูก จากนั้นภารัณก็พาปารารินเขาไปในร้านอาหารที่อยู่ในโรงแรงสุดหรูแห่งนี้ราวกับคนรักกัน จนมีผู้คนมองมาที่พวกเขาแล้วยิ้มอย่างชื่นชม “คุณภารัณ ทางนี้ครับ” ทาเคชิยกมือเรียกภารัณเป็นภาษาอังกฤษทันที ที่เขาเห็นผู้บริหารหนุ่มเดินเข้ามาในห้องอาหาร พร้อมกับผู้หญิงสวยคนหนึ่ง ซึ่งปกตินั้นภารัณไม่เคยพาใครมาด้วยแบบนี้มาก่อน “อ่อ สวัสดีครับคุณทาเคชิ ขอโทษที่มาช้าด้วยนะครับ” ภารัณพูดบอกไปก็จับมือทักทายทาเคชิอย่างเป็นกันเอง เพราะทำธุรกิจด้วยกันมาหลายโครงการแล้ว และเขาก็หวังว่าโครงการนี้เขาก็จะได้ทำร่วมกับทาเคชิอีกเช่นกัน “สวัดสดีครับ ว่าแต่ทำไมวันนี้ถึงได้พาสาวสวยมาด้วยล่ะครับเนี่ย” ทาเคชิพูดทักออกไป แล้วมองภารัณโอบเอวของผู้หญิงคนนี้ไม่ห่าง แล้วก็คิดว่าทั้งสองคงมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแน่ๆ และถ้าเป็นอย่างนั้นลูกสาวของเขาที่ชอบภารัณอยู่คงต้องทำใจแล้วล่ะ “อ่อ นี่ปาราริน แฟนของผมเองครับ พอดีผมมีนัดทานข้าวเที่ยงกับเธอก็เลยพาเธอมาด้วยเลย หวังว่าคุณทาเคชิคงไม่ว่านะครับ ที่รัก ทักทายคุณทาเคชิสิ” ภารัณพูดไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะมองหน้าของปารารินแล้วเขาก็ทำหน้ายิ้มใส่เธอ เพื่อให้เธอยิ้มออกไปไม่ใช่สีหน้าบึ้งตึงแบบนี้ “หืม เรียกที่รักเลยเหรอตาบ้า จะสมจริงไปไหมยะ” ปารารินแอบต่อว่าเขาในใจที่กล้าเรียกเธอว่าที่รักแบบนี้ น้ำเน่าสุดๆ เดี๋ยวนี้ใครเขาเรียกคนรักหวานแหววกันขนาดนี้ยะ “สวัสดีค่ะ ฉันปารารินค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคุณทาเคชิ ” ปารารินพูดทักทายเป็นภาษาอังกฤษออกไปอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะยิ้มออกมาแล้วส่งมืออีกข้างไปทักทายเขาอย่างเป็นมิตร “ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณปาราริน ผมจะว่าอะไรล่ะครับก็ผมเป็นฝ่ายเลื่อนนัดให้เร็วขึ้นเอง เลยรบกวนเวลาของคุณภารัณกับแฟนเลย แต่แฟนของคุณภารัณสวยมากเลยนะครับเนี่ย ว่าแต่คบกันนานแล้วเหรอครับ ไม่เคยเห็นคุณภารัณพูดถึงมาก่อน” ทาเคชิถามไปอย่างสงสัยและอยากรู้ว่าทั้งสองไปคบกันตอนไหน “คบกันนานแล้วล่ะครับ แฟนผมเขาไม่ชอบออกงานหรือยุ่งเรื่องงานของผมเลย ก็เลยไม่ค่อยมีใครได้เห็นเธอน่ะครับ พอดีคุณทาเคชิเลื่อนนัดมาผมก็เลยชวนเธอมาด้วยนะครับ จะได้รู้จักกันเอาไว้ ” ภารัณพูดเออออตามน้ำไป จนปารารินเห็นถึงความมโนของเขาเลย “อ่อ งั้นเชิญนั่งก่อนเลยครับ ทานอะไรกันก่อนแล้วเราก็ค่อยคุยงานก็แล้วกันนะครับ” ทาเคชิพูดบอกไปแล้วก็นั่งลง “อ่อ ผมว่าเราคุยงานกันก่อนดีไหมครับ” ภารัณพูดบอกไป เพราะจะได้เสร็จงานไวๆเรื่องที่เขากับปารารินกำลังทำในตอนนี้จะได้จบไวๆ จากนั้นเขาก็ดึงเก้าอี้ให้กับปารารินนั่งลง ทาเคชิที่ต้องร่วมรับประทานอาหารกับทั้งสองก่อนที่จะคุยงานก็นิ่งไปกับคำพูดของภารัณ ที่ตั้งหน้าตั้งตาจะคุยงานอย่างเดียว ทั้งที่เขาตั้งใจอยากจะพูดคุยกับภารัณและแฟนของเขาก่อนด้วยความจริงใจ “คุณภารัณ อ่อ ที่รักคะ คุณจะรีบไปไหนล่ะคะ คุณทาเคชิเขาอยากจะทานมือเที่ยงกับเรานะคะ เราทานไปคุยไปก็ได้นิคะ” ปารารินพูดออกไป เมื่อเห็นสีหน้าของทาเคชิดูนิ่งไปหลังจากที่ภารัณขอคุยงานก่อนจะทานอาหาร เธอจึงต้องเอ่ยขึ้นเตือนๆให้เขารู้ว่า เขาไม่ควรเร่งรีบแบบนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD