“พวกผู้ชายบ้า อยากตีกัน ก็ตีกันให้ตายไปเลย!”
ดาริกากระทืบเท้าเดินมาถึงบ้านหลังเล็กหลังร้านขนม มีรั้วเล็กกั้นกลางไม่ให้ลูกค้าล่วงล้ำเข้ามาในเขตที่อยู่อาศัย หน้าบ้านร่มรื่นไปด้วยดอกไม้บานสะพรั่ง ชนิดเดียวกับที่ปลูกในสวนดอกไม้ข้างร้าน ก่อนถึงประตูเข้าบ้านจะมีเฉลียงให้ร่มเงา ดาริกาตาจะปิดทุกสองวินาที ไขกุญแจเข้ามาในบ้าน เปิดไฟ เปิดทีวี เข้าห้องนอนไปหยิบผ้าเช็ดตัวออกมาอาบน้ำในห้องน้ำที่มีแค่ห้องเดียว
บ้านตกแต่งสไตล์โมโนโทน เรียบง่ายแต่โก้เก๋ หัวใจสำคัญของการตกแต่งสไตล์นี้คือการใช้สีเดียว ทว่าเลือกใช้บางส่วนเข้มบางส่วนอ่อน เพื่อให้บ้านดูทันสมัย เฟอร์นิเจอร์รวมถึงพื้นจะเป็นสีขาว สกปรกง่ายไปหน่อย แต่สำหรับคนที่ขยันทำงานบ้านอย่างดาริกา บอกเลยว่าสะอาดกริบยิ่งกว่าจ้างแม่บ้าน
สมัยก่อนบ้านไม่ได้สวยทันสมัย ค่อนข้างเก่า ทรุดโทรม แต่ได้รับความเมตตาจากภูดิศ เขาออกทุน และควบคุมการรีโนเวทด้วยตัวเอง หมดเงินไม่ใช่น้อย ดาริกากับดรุณีเกรงใจเขามาก ตอนนั้นเขาเพิ่งจะกลับเข้ามาในชีวิตพี่สาวกับหลานสาวได้ไม่นาน
ชีวิตของดาริกาเดิมๆ วนเวียนอยู่กับร้าน บ้าน และห้างฯ ซื้อของมาเตรียมขายของในวันต่อไป จากต้องทำเองหมดทุกอย่าง มีลูกน้องมาช่วยแบ่งเบาแรงก็ทำให้หายเหนื่อยได้ ดาริกาสบายมากกว่าเมื่อก่อน แต่เหงามากกว่าร้อยเท่า หันไปทางไหนก็ไม่มีใครสักคน ต้องเป็นเสาหลักของบ้านและร้านคนเดียว
จะโทษพี่สาวก็ไม่ได้ พี่สาวมีครอบครัว มีทางไปของตัวเอง ต้องช่วยสามีทำงาน ส่วนร้านที่เป็นมรดกบิดามารดา ก็เป็นหน้าที่รับผิดชอบของดาริกา ต่อให้ร้านจะขายดีหรือขายไม่ดี ดาริกาก็ไม่สามารถทิ้งร้าน จะยังบริหารและเปิดขายไปเรื่อยๆ
หลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ดาริกากลับมานั่งบนชุดรับแขกกลางบ้าน มีผ้าเช็ดตัวติดมือมาด้วยหนึ่งผืนไว้สำหรับเช็ดผม อาการปวดท้องลดน้อยลงแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกแปลบๆ เป็นระยะ หล่อนกินยาดักไว้ กลัวพรุ่งนี้จะไม่มีแรง ต้องยืนทำขนมทั้งวัน
ชั่วโมงที่แล้วอยู่ร้านอาหารง่วงนอนแทบตาย กลับมาถึงบ้านเห็นปฐวีกับภูมินทร์มีปากเสียงกันก็เบื่อพวกเขา แต่พออยู่คนเดียวกลับนอนไม่หลับซะอย่างนั้น ดาริกาคลายเหงาด้วยการเข้ายูทูปผ่านสมาร์ททีวี เลือกดูรายการท่องเที่ยวในประเทศพม่า ตั้งใจไว้ว่าจบการแข่งขันจะไปเที่ยวด้วยตัวเองสักครั้ง เผื่อว่าการเที่ยวจะทำให้มีแรงบันดาลใจในการทำงาน ดาริกาไม่ใช่เด็กบ้านรวย พอมี พอกิน ไม่ค่อยได้ไปเที่ยว แค่ต่างจังหวัดใกล้ๆ ก็แทบจะไม่มีโอกาสได้ไป คนค้าคนขายน่าจะเข้าใจ ถ้าปิดร้าน ก็เท่ากับขาดรายได้
พม่านี่แหละ จะเป็นการเดินทางครั้งแรก
ดาริกาติดลม ดูเพลินมาเกินครึ่งคืนก็ยังไม่ง่วงนอนทั้งที่ต้องตื่นเช้า หูแว่วได้ยินเสียงของหล่นมาจากกำแพงฝั่งบ้านปฐวี หันขวับไปมอง เผื่อว่าจะเป็นเสียงแมว แต่ก็ไม่มีเสียงร้องเหมียวๆ ดาริกาไปหยุดตรงกรอบหน้าต่าง ดึงขอบผ้าม่านสอดส่องดูนอกบ้าน หล่อนเปิดไฟนอกบ้านไว้เกือบทุกดวง สว่างมาก ถ้าโจรเข้าบ้านก็คงเห็นหน้าชัดตั้งแต่ระยะห้าเมตร ยืนมองอยู่นานไม่เห็นสิ่งผิดปกติ ก็ตำหนิตัวเองว่าวิตกกังวลมากเกินไป
“กลัวไม่เข้าเรื่อง ประสาทหลอนเข้าไปทุกวัน” บ่นตัวเอง ยกแล็ปท็อปกับเอกสารสำคัญไปเก็บไว้ในห้องนอน แต่เมื่อย้อนกลับมาอีกทีก็ตกใจย่องเบาเข้าไปหลบใต้โต๊ะ เห็นกับตาว่าประตูถูกเปิดออกเกินครึ่งให้ลมพัดเข้ามา
หรือว่าจะเป็นโจร!
ดาริกากลัวจนเหงื่อซึม คลานออกจากใต้โต๊ะไปหลบหลังตู้ไม้ โผล่ออกไปแค่ศีรษะดูว่าคนที่แอบเข้ามาเป็นใคร คลานเข่าไปด้านหน้า เป้าหมายคือทางออกที่ใกล้ที่สุดหรือไม่ก็โทรศัพท์ที่วางทิ้งไว้บนโซฟา มีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาข้างใน ใจหล่อนเต้นแรงเกือบจะกระเด็นออกมา หยุดการเคลื่อนไหวซ่อนตัวหลังแนวผ้าม่านผืนใหญ่ กลัวจนตัวสั่น นั่งกอดขาให้เล็กและเงียบที่สุดจนเกือบลืมหายใจ
โจรคนนั้นย้อนกลับเข้ามากลางบ้าน เปลี่ยนจากช่องรายการเที่ยวมาเป็นหนังรอบดึก ไม่มีทีท่าว่าจะขโมยของหรือตามหาเจ้าของบ้าน ดาริกาข่มความกลัวดึงชายผ้าม่านออกเพื่อจะมองไปยังกลางบ้าน ก็เห็นว่าเป็นศีรษะของผู้ชายโผล่พ้นจากขอบโซฟา หล่อนคลับคล้ายคลับคลาว่าคุ้นยังไงชอบกล
แต่… นี่มันจะตีหนึ่งแล้วนะ!
ดาริกาหน้ายุ่งผมฟูวิ่งออกจากที่ซ่อน จับไม้กวาดในมือให้แน่นแล้วกระหน่ำตีจนปฐวีตกใจ เขาหันกลับมามองโดนฟาดไปเต็มๆ
“คุณวี! ไอ้ลุงบ้า! เข้ามาให้บ้านดรีมทำไม!”
“เฮ้ย! มันเจ็บนะ ตีลงมาได้ยังไง!”
“พอๆๆ หยุดๆๆ เจ็บๆๆๆ” เขากระโดดหลบเป็นว่าเล่น แม่คุณทูนหัวก็ไม่ยั้งมือเลยสักนิดยังคงตามมาทุบตีอย่างต่อเนื่อง
ปฐวีไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดก็ร้องโวยวาย
“จะทำอะไรถึงเข้ามากลางดึก คิดว่าดรีมเพลียจากการถ่ายรายการมากจนหลับไม่รู้เรื่องอย่างนั้นเหรอ หน็อย! รู้จักยัยดรีมน้อยเกินไปซะแล้ว ออกไปเลยนะ ก่อนดรีมจะเอามีดฟันหน้าคุณให้เละเหมือนขนมเค้กตอนถูกขว้างใส่กำแพง!”
“เฮ้ย! เข้าใจผิดแล้ว พี่ไม่ได้มีเจตนาอย่างนั้น”
ปฐวีเลิกวิ่งหนี โถมกายเข้าหาแย่งไม้กวาดโยนทิ้งข้างหลังตรึงร่างน้อยไว้บนโซฟา ดาริกายังไม่สิ้นฤทธิ์ยกเท้าขึ้นถีบสวนอัดเข้ากลางเป้า ปฐวีหน้าเขียวกลิ้งลงพื้น มือสองข้างกุมเป้า เงยหน้าขึ้นมองดาริกาในเชิงขอร้อง
แต่ไม่ทัน หล่อนยกเท้าขึ้นมาเตะสวนเข้าใส่คางเขาเต็มๆ
เฮือก! แค่จะเข้ามาบอกว่าลืมถอดกุญแจ มันเสียบอยู่ประตูหน้าบ้าน ทำไมต้องทำร้ายร่างกายกันด้วย
แล้วปฐวีก็ล้มตึงลงพื้น เจ็บเป้าไม่พอแล้วยังเจ็บปลายคางถึงขั้นเลือดไหล!