กลับมายังปัจจุบัน
การที่ต้องยอมรับสภาพของตัวเองในตอนนี้ยากลำบากที่สุด โซเฟียยังปรับตัวเข้ากับร่างใหม่ที่เพิ่งได้รับมาไม่ได้เลย โชคดีที่เจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ยอมให้เธอมีวันหยุดอีกสองวัน ตามคำบอกเล่าของผู้เป็นป้า
หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียง หยิบผ้าเช็ดตัวเพื่อเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวและพบว่าร่างกายนี้มีส่วนที่นุ่มนิ่มอยู่เต็มไปหมด คาดว่าเป็นเพราะไม่เคยทำงานหนักมาก่อน อีกทั้งยังได้รับการดูแลปกป้องอย่างดี แต่มันก็ทำให้มาเฟียสาวเป็นกังวลว่าจะปกป้องตัวเองโดยใช้ร่างกายนี้ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ กลัวว่าความนุ่มนิ่มนี้จะส่งผลให้ไม่มีความยืดหยุ่นและแข็งแรงมากพอที่จะใช้ต่อสู้ได้
เมื่อออกมาจากห้องน้ำโดยจัดการสวมเสื้อผ้าที่มีอยู่ในห้องนี้เรียบร้อยแล้ว โซเฟียจึงมาหยุดยืนอยู่หน้ากระจกจ้องมองเข้าไปและพบว่ามีส่วนหนึ่งของร่างนี้ที่เหมือนกับตัวเธอ นั่นคือดวงตาคู่นี้ อาจเป็นเพราะตอนนี้เป็นโซเฟีย ดวงตาของเด็กสาวจึงดูเปลี่ยนไป ไม่ใช่เพียงเด็กสาวผู้มืดหม่นคนนั้นอีกต่อไปแล้ว แต่กลายเป็นมาเฟียสาวอัจฉริยะผู้เคยโดนคนที่รักและไว้ใจหักหลัง
หากจะมีสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปก็คงเป็นเรื่องนี้เท่านั้น ประกายตาที่เคยเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในสายสัมพันธ์ของครอบครัว เหลือเพียงเศษเสี้ยวความทรงจำดี ๆ และถูกฝังกลบด้วยการทรยศของน้องสาวรวมทั้งสามีของเธอเอง
“น่าเสียดายที่ฉันไม่ได้มองเห็นคนพวกนั้นโมโหจนอกแตกตายด้วยตาตัวเอง” โซเฟียสามารถเดาได้เลยว่าเมื่อพินัยกรรมถูกเปิดทั้งสามฉบับแล้ว สองคนนั้นต้องเจ็บใจมากแน่นอน โชคดีที่สมองของเธอในชาตินั้นฉลาดและคาดการณ์ทุกอย่างเอาไว้พร้อมแล้ว ไม่อย่างนั้นคงเจ็บใจแย่หากสิ่งที่สร้างมากด้วยมือตนเองต้องตกอยู่ในกำมือของคนอกตัญญู
“แต่ก็น่าเสียดาย” น่าเสียดายที่ในชาตินี้เธอสูญเสียสมองอันชาญฉลาดไปแล้ว เวลานี้เหลือเพียงเด็กสาวธรรมดาอายุสิบเจ็ดปีที่เป็นเพียงสาวใช้เท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นร่างกายนี้ สถานะหรือเงินทอง ร่างเดิมก็ไม่มีเลยสักอย่าง แม้จะมีความสามารถแต่โซเฟียก็ยังแอบหวั่นใจ
“น่าเสียดายบ้านที่ฉันตั้งใจสร้างขึ้นมาด้วยความยากลำบาก เวลานี้กลับไม่ได้อยู่”
เมื่อนึกถึงคฤหาสน์ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าผลไม้มากมาย ทันใดนั้นโซเฟียก็รู้สึกเท้านุ่มชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่สติเหมือนวูบหายไปจนต้องรีบนั่งลงบนเตียง แต่เมื่อลืมตาขึ้นมองก็พบว่าตอนนี้ตนเองอยู่ต่อหน้าคฤหาสน์ที่แสนคุ้นตา
“นี่มัน บ้านของฉัน ?”
หญิงสาวไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองจนต้องขยี้ตาเบา ๆ จนรู้สึกเจ็บ แต่เมื่อลืมตาขึ้นมองก็ยังคงเห็นสิ่งเดิมอยู่ต่อหน้า ทำให้โซเฟียเชื่อแล้วว่าไม่ได้เกิดภาพหลอนหรือคิดไปเอง ภาพตรงหน้าที่กำลังมองอยู่นั้นเป็นคฤหาสน์ของเธอจริง ๆ
“คฤหาสน์ของฉันในโลกเดิมมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน” คิดแล้วก็ก้มลงจับต้นหญ้าที่อยู่ใต้เท้า พบว่ามันเป็นของจริงและสามารถสัมผัสได้ กระทั่งได้กลิ่นและรับรสชาติของหญ้าพวกนี้ได้
“นี่มัน…” แม้จะสับสนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น โซเฟียก็ยังลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในคฤหาสน์ สิ่งของทุกอย่างยังตั้งวางไว้ที่เดิม เมื่อเดินไปสัมผัสดูก็พบว่าพวกมันเป็นของจริง พอลองปรบมือเบา ๆ ไฟก็เปิดและปิดตามที่ถูกตั้งคำสั่งเอาไว้เหมือนเคย
“นี่ฉันกลับมาในโลกปัจจุบันแล้วงั้นหรือ” โซเฟียยังไม่มั่นใจและรีบวิ่งขึ้นไปบนชั้นสอง เปิดประตูห้องนอนตนเองก่อนจะเดินเร็ว ๆ เข้าไป ยืนอยู่ตรงหน้ากระจกที่มีขนาดเท่าตัวคน
แต่แล้วก็ต้องผิดหวังเมื่อเห็นว่าในตอนนี้ ภาพสะท้อนในกระจกตรงหน้ากลับกลายเป็นร่างของเด็กสาวหลี่ซีเหมย
หญิงสาวชั่งใจเล็กน้อยและไม่มั่นใจว่าเกิดอะไรขึ้น แม้จะกลับมาโดยใช้ร่างเด็กคนนี้เธอก็ไม่ได้ติดขัดอะไร จากนั้นรีบวิ่งลงไปชั้นล่างเพื่อใช้โทรศัพท์บ้านโทร.ติดต่อลูกน้องสักคน
แต่เมื่อยกหูโทรศัพท์ขึ้นกลับพบว่ามันไม่มีสัญญาณใด ๆ เลย ราวกับว่าสถานที่แห่งนี้ถูกแยกจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง
“แยกจากโลกภายนอก หรือนี่จะเป็นพื้นที่มิติ ?” โซเฟียพลันนึกถึงอาวุธป้องกันรูปไข่ที่แพทย์ชรามอบให้ตนเองครั้งล่าสุด และรีบวิ่งออกไปนอกคฤหาสน์ เงยหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้า
ทันใดนั้นท้องฟ้าที่เคยไร้สีกลับกลายเป็นสีฟ้าสดใส เมื่อลองนึกดูแล้วมันคล้ายกับท้องฟ้าที่อยู่ในความทรงจำของเธออย่างแยกไม่ออก
เพราะน้อยครั้งที่โซเฟียจะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ดังนั้นเมื่อมองเห็นว่าวในความทรงจำลอยอยู่ไม่ไกล ก็รู้ว่าภาพท้องฟ้าตรงหน้านี้ถูกจำลองมาจากความทรงจำของตัวเอง
นอกจากนี้เมื่อเธอนึกถึงท้องฟ้ายามค่ำคืน จู่ ๆ ภาพท้องฟ้าสีครามสวยก็พลันเปลี่ยนเป็นท้องฟ้าดำมืดและเต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ
“นอกจากจะฉายภาพความทรงจำแล้ว ยังสร้างภาพขึ้นมาจากจินตนาการได้อีกด้วย” เธอไม่อยากจะเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อ ยิ่งเมื่อมองเห็นก้อนไข่กลม ๆ ที่คุ้นตาวางอยู่ตรงกลางสนามหญ้าโดยมีกล่องสีใสครอบป้องกันเอาไว้ ก็แปลกใจยิ่งกว่าเดิม
“เพราะเจ้าไข่นี่จริง ๆ งั้นหรือ ทำให้ฉันได้มาอยู่ที่นี่” โซเฟียไม่อยากจะเชื่อว่าตนเองจะได้รับมิติมา อีกทั้งยังเป็นมิติที่จำลอง หรือบางทีอาจยกพื้นที่คฤหาสน์มาจากโลกความจริงในยุคนั้นด้วยซ้ำ
“พื้นที่…กว้างใหญ่มาก” หญิงสาวเดินออกไปที่สนามหญ้า และมองกล่องสี่เหลี่ยมใสที่ปกป้องไข่ทรงมนไว้ บนตัวกล่องมีคำอธิบายขอบเขตของพื้นที่เอาไว้ ซึ่งมีเขตแบ่งเป็นส่วน ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการ
โดยส่วนหนึ่งนี้เป็นบริเวณคฤหาสน์ ยังมีบริเวณโดยรอบที่เธอเคยปลูกผลไม้นานาชนิดเอาไว้
เมื่อหันมองไปรอบ ๆ ก็พบว่าต้นผลไม้ที่แทบจะไม่เคยออกดอกออกผล แต่ทว่าตอนนี้กลับผลิดอกแข่งกันอย่างแข็งขัน ราวกับพร้อมจะออกผลได้ทุกเมื่อ
“หากของในนี้สามารถนำออกไปข้างนอกได้เหมือนในนิยาย ก็คงไม่ต้องสรรหาวิธีทำเงินอีกต่อไปแล้ว”
โซเฟียเม้มริมฝีปากเบา ๆ ครั้งหนึ่ง ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์ มุ่งหน้าไปยังห้องนอนตนเอง ก่อนจะใช้มือแตะลงบนภาพวาดที่ถูกแขวนประดับเอาไว้ในห้อง
ครืด! ทันใดนั้นช่องทางลับก็ปรากฏขึ้น แสดงว่าทางลับต่าง ๆ ที่ถูกสร้างไว้เพื่อเป็นทางหนีทีไล่ก็อาจจะยังอยู่ดี แต่เมื่อมาอยู่ในมิติทางลับก็คงจะไม่ได้สำคัญอีกต่อไป
ทว่าสิ่งที่หญิงสาวสนใจในตอนนี้กลับเป็นบางอย่างที่อยู่หลังประตูลับนี้ต่างหาก เมื่อโซเฟียก้าวเดินเข้าไป ทันใดนั้นระบบรักษาความปลอดภัยสุดแสนไฮเทคโนโลยีก็สแกนร่างกายและม่านตาทันที พร้อมกันนั้นเมื่อเธอวางมือลงบนประตูก็รู้สึกเจ็บจี๊ดเหมือนโดนดูดเลือดออกไป ไม่นานระบบก็ยืนยันได้ว่านี่คือเจ้านายของมัน
ประตูค่อย ๆ เปิดออกอย่างช้า ๆ เผยให้เห็นอาวุธมากมายเรียงรายเป็นทางยาวอยู่ภายใต้คฤหาสน์ เห็นดังนั้นมาเฟียสาวก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
“ดีจริง ๆ ที่ฉันเก็บอาวุธไว้ในเขตคฤหาสน์พอดี”
ในส่วนห้องลับนี้มีอาวุธอยู่ไม่มากนัก ห้องลับแห่งนี้มีขนาดพอ ๆ กับสนามฟุตบอลและมีกล่องอาวุธบรรจุไว้จำนวนมากจนเต็มห้อง นอกเหนือจากที่ถูกแขวนไว้บนฝาผนังเพื่อความสะดวกในการเลือกหยิบมาใช้งาน นอกจากนี้ยังมีช่องลับเลื่อนลงมาจากเพดานในทุก ๆ ช่องเสา ต้องบอกว่านี่คือคลังแสงที่มีอาวุธครบมือของกองทัพก็ว่าได้
แต่นี่เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ เท่านั้น เพราะของจริงอยู่ในโกดังเก็บอาวุธ ซึ่งอยู่พื้นที่ด้านหลังคฤหาสน์ต่างหาก
“น่าเสียดายจริง ดันไม่ค่อยได้ผลิตระเบิดออกมามากนัก” หญิงสาวอดรู้สึกเสียดายไม่ได้ที่เธอไม่ค่อยได้ผลิตระเบิดมาเก็บไว้ แต่เดิมมาเฟียสาวค้าอาวุธอยู่แล้ว จึงไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไรหากมีอาวุธในครอบครองมากหน่อย
“โกดังด้านบนก็คงอยู่ดีเช่นกัน ดังนั้นฉันก็รู้แล้วว่าจะสามารถขยายอำนาจในชีวิตนี้ได้อย่างไร”
พูดจบก็เดินไปหยิบมีดหลายชิ้นออกมาใส่กล่องไม้เอาไว้ ก่อนจะยกกล่องใส่มีดที่เลือกมาออกไปหน้าคฤหาสน์จำนวนหนึ่งหีบ
“ฉันคงต้องแอบไปประเมินสินค้าในตลาดมืด และตลาดมืดใต้ดินของเมืองนี้ เพื่อดูว่าของพวกนี้สามารถสร้างรายได้เท่าไร”