เช้าวันใหม่ที่ประเทศไทย
08:00
วันนี้ธนินพามินดามาทานข้าวเช้าที่บ้านคุณปกรณ์และคุณมาลี ศิริการกุลผู้เป็นบิดาและมารดาของธนินทั้งสองมองมินดาด้วยสายตาเอ็นดูรักใคร่เพราะเห็นหญิงสาวมาทั้งแต่เยาว์วัย และมินดาคือผู้หญิงคนเดียวเท่านั้นที่ตระกูลศิริการกุลยอมรับให้มาเป็นลูกสะไภ้เนื่องจากทั้งสองตระกูลสนิทสนมและสร้างเนื้อสร้างตัวมาด้วยกันช้านานมินดาจึงเป็นที่ยอมรับได้อย่างง่ายดาย
อีกทั้งมินดาเป็นหญิงสาวที่เพียบพร้อมทั้งนิสัยใจคอมารยาทกิริยาวาจาต่างๆ ภายนอกของเธอเหมือนจะนุ่มนวลเรียบร้อยราวกับผ้าที่พับไว้ แต่ข้างในมินดานั้นเข้มแข็งและอดทนมากกว่าคนปกติทั่วไปเพราะต้องทนรับแรงกดดันต่างๆจากผู้เป็นบิดามากมาย
"เป็นอย่างไรบ้างหนูมินไปสิงคโปร์กับเจ้าธนินมา แม่เห็นข่าวในหนังสือนิตรสารแล้วหนูสวยมาก เหมาะสมกับธนินราวกับกิ่งทองใบหยก"
หญิงสูงอายุกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานและนุ่มนวลใบหน้าที่มีริ้วรอยของนางมีรอยยิ้มบวกกับสายตาที่อบอุ่นอยู่ตลอดเวลา
"สนุกมากเลยค่ะคุณ...เอ่อ.."
มินดาอึกอักขึ้นมาทันทีเพราะปกติเธอจะเรียกคุณมาลีว่าคุณยายมาลีเพราะผู้เป็นพ่อของมินดาเรียกท่านว่าคุณอามาลีตามศักดิ์แต่จริงๆแล้วคุณมาลีนั้นมีอายุเพียงแค่60ต้นๆเท่านั้น
"เรียกคุณแม่นั่นแหละ..ตอนนี้หนูมินเป็นลูกสาวของแม่แล้วนะ"
"ค่ะคุณแม่"
มินดายิ้มให้ท่านอย่างมีความสุขที่เธอได้มีแม่กับเขาบ้างในตอนนี้
"ไม่ค่อยเห่อลูกสะไภ้เลยนะคุณ"
คุณปกรณ์ผู้เป็นบิดาของธนินเอ่ยเหย้าหยอกออกมาบ้างแต่ก็รู้สึกไม่ต่างกับผู้เป็นภรรยาเท่าไหร่นักดูจะภูมิใจในตัวลูกสะไภ้พอๆกัน แววตาที่มองมาที่มินดามีความเอ็นดูไม่ต่างกันทั้งคู่ มินดารู้สึกอบอุ่นเหมือนได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวอีกครั้ง
ธนินมองภาพตรงหน้าด้วยความสุขความสบายใจที่ทำให้ผู้เป็นบิดาและมารดามีความสุขแต่ถ้าพ่อกับแม่รู้ว่ามินดานั้นบริสุทธิ์ทั้งร่างกายและจิตใจท่านคงจะรักเธอมากกว่านี้อีก
'รักเหรอ?'
ธนินเผลอหัวเราะหึหึในลำคอเยาะหยันตัวเองเบาๆ เพราะเขาถูกคำๆนี้ทำลายชีวิตมาจนเกือบพังไม่เป็นท่า คงไม่มีแก่ใจที่จะไปรักใครได้อีก
"เอ้ะ!อย่างนี้นนท์จะเป็นหมาหัวเน่ามั้ยครับนี่"
ธนนท์ผู้เป็นน้องชายของธนินเอ่ยออกมาบ้างที่ผู้เป็นบิดาและมารดารู้สึกจะเอ็นดูลูกสะไภ้มากกว่าลูกของตัวเองเสียอีก
"อย่างแกอ่ะเน่าอยู่แล้ว..ไม่มีมินดาก็เน่า..เพราะพ่อกับแม่รักพี่มากกว่า"
"ค้าบบข้าน้อยยอมแพ้"
"รักเหมือนกันทั้งคู่น่ะแหละ แต่น้อยกว่าหนูมินนิดนึง"
เสียงหัวเราะดังออกมาอย่างมีความสุข มินดาตักข้าวเข้าปากพร้อมหันไปมองหน้าผู้เป็นสามีด้วยรอยยิ้มเย้ยบางๆอย่างผู้ชนะ เธอรู้สึกอิจฉาเขาขึ้นมาทันทีที่ได้เกิดมามีครอบครัวที่อบอุ่นแบบนี้ พลอยทำให้มินดารู้สึกมีความสุขไปด้วย
"มินดา..เดี๋ยวไปทำขนมกับแม่ในครัวนะ...วันนี้วันหยุดปล่อยให้หนุ่มๆเค้าคุยกัน"
"ได้เลยค่ะคุณแม่..มินดาอยากหาอะไรทำอยู่พอดี"
เมื่อผู้เป็นมารดากับภรรยาเดินออกไปแล้ว ธนินเลยชวนธนนท์ออกไปนั่งที่ริมสระน้ำ เพื่อจะคุยเรื่องงานกันส่วนคุณปกรณ์นั้นมีนัดไดร์กอล์ฟกับเพื่อนๆรุ่นเดียวกันเลยขอตัวแยกออกไปอีกที
"ไปไดร์ฟกอล์ฟแน่นะครับพ่อ..ไม่ใช่ไปหาน้องน้ำฝนใช่มั้ย?"
ธนนท์เอ่ยแซวผู้เป็นบิดาขึ้นมาทันที เมื่อเห็นผู้เป็นบิดาขึ้นไปแต่งตัวใหม่อย่างหล่อเลยทีเดียวธนนท์รู้ดีว่าผู้เป็นบิดานั้นแอบมีบ้านเล็กอยู่ แต่ผู้เป็นแม่ของเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะว่าแก่ๆกันแล้วตนเองไม่มีแรงที่จะทำอะไรเกี่ยวเรื่องแบบนั้นอีก เลยอนุญาตให้คุณปกรณ์ไปมีบ้านเล็กได้เลี้ยงดูได้ตามแต่สมควรแต่ห้ามให้มาวุ่นวายที่บ้านใหญ่ก็พอ ซึ่งคุณปกรณ์ก็จัดการได้ตลอดมา
"เบาๆหน่อยนายนนท์ถึงแม่แกจะไม่ว่า แต่เราก็ควรทำอะไรเงียบๆเดี๋ยวปั๊ดดด..จะเอามั้ยมรดก?"
คุณปกรณ์กระซิบออกมาเบาๆ ธนนท์หัวเราะก๊ากที่แกล้งเหย้าผู้เป็นพ่อได้สำเร็จแต่ก็แอบกลัวเรื่องมรดกอยู่
"ขอโทษค้าบบ..เชิญเลยคร๊าบบบบ แฮร่ๆๆ"
"นายนี่ยังทำตัวเป็นเด็กๆไม่เลิกอายุก็ปาเข้าไป30แล้วนะนั่น"
ธนินส่ายหน้าไปมาแต่ก็อดขำขันทั้งคู่ไม่ได้
"30แล้วไงอ่ะพี่นินผมอ่ะยังฟิตสาวๆยังตรึม รูปหล่อพ่อรวย"
"เออ..ไอ้คาสโนว่าตัวพ่อ"
"ว่าแต่พี่เถอะ..รักน้องมินดาเข้าแล้วล่ะสิ กลับมาหน้าบานเชียว...เป็นยังไงบ้างสิงคโปร์หวานมากมั้ย รูปของพี่และน้องมินดานี่โชว์หราในนิตยสารของกลุ่มของนักธุรกิจชื่อดังเลยนะ..สาวๆพากันอกหักเป็นแถวๆ"
"รักอะไรกัน..ไร้สาระ..มันจะไม่มีเรื่องรักใคร่อะไรแบบนั้นกับพี่อีกแล้ว มินดาก็แค่เมียต่างคนต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองไป..ก็แค่นั้น"
"ให้มันจริงเถอะ"ธนนท์จ้องหน้าพี่ชายตัวเองอย่างไม่เชื่อคำพูดของธนินที่กล่าวออกมาแม้แต่นิด
มินดาซึ่งถือถาดขนมออกมาต้องหยุดชะงักกะทันหันเมื่อแอบได้ยินอาธนินกล่าวออกมาแบบนั้น ขาของเธออ่อนยวบเหมือนจะทรุดลงไปนั่งทันทีเมื่อได้ยินว่าเขาไม่ได้รักใคร่อะไรมินดาและเห็นว่าเรื่องของความรักเป็นเรื่องที่ไร้สาระ แต่มันก็ไม่ได้เกินความคาดหมายของมินดาเท่าไหร่นักเพราะปกติอาธนินก็เย็นชากับเธออยู่แล้ว ยกเว้นเวลา..อยู่บนเตียงเท่านั้น..แต่มินดาก็อดที่จะรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาไม่ได้
มินดาปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะเดินเข้าไปหาสองหนุ่มด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ขนมมาแล้วค่ะ อาธนิน อานนท์ "
"โห!ทองหยิบทองหยอดน่ากินจังเลยครับ น้องมินดานั่งลงกินด้วยกันสิ"
"ค่ะอานนท์"
"อืม!...มานั่งตรงนี้"
ธนินรีบดึงเก้าอี้อีกตัวมาข้างตนแล้วบอกให้มินดามานั่งข้างๆเขา เพราะตรงนั้นมันติดกับธนนท์เกินไป ธนนท์สังเกตุจากอาการของพี่ชายแล้วก็รู้ได้ทันทีว่าธนินนั้นปากแข็ง จริงๆแล้วแอบมีใจให้มินดาอยู่แต่ไม่รู้ตัวก็แค่นั้น
ธนนท์ ศิริการกุลเป็นบุตรชายคนเล็กของตระกูลศิริการกุล นั่งตำแหน่งรองประธานของศิริการกุลกรุ๊ปทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์และเปิดเป็นห้างสรรพสินค้าชั้นนำหลายสาขาทั่วประเทศไทยจนตอนนี้นั้นเป็นมหาชนเข้าตลาดหลักทรัพย์เรียบร้อยแล้ว
ทั้งคู่เลยกลายเป็นหนุ่มฮอตทั้งในวงการและนอกวงการที่มีสาวๆหมายปองเพราะรูปหล่อพ่อรวยแต่ตอนนี้คงเหลือแต่ธนนท์คนเดียวแล้วที่ยังฮอตอยู่เพราะผู้เป็นพี่ชายนั้นได้แต่งงานไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว