ภรรยาที่คุณอาไม่รัก

สิงคโปร์

-สิงคโปร์-

20:00

รีสอร์ทหรูmarina bay sands

อาธนินพามินดามาที่Sands Sky Park ชั้น 57 ซึ่งเป็นจุดชมวิวมุมสูง สำหรับตัวตึกของมาริน่าเบย์แซนด์ เป็นสถาปัตยกรรมรูปร่างคล้ายเรือที่วางพาดอาคารทั้ง 3 เป็นสวนลอยฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ มินดาเดินชมความสวยงามของต้นไม้ พร้อมกับทัศนียภาพของสิงคโปร์และสระว่ายน้ำที่เหมาะแก่การชมวิวยามค่ำคืนอย่างสบายตา

"สวยจัง!"

สายตาที่มองทอดออกไปของมินดาเป็นประกายตาระยิบระยับ แฝงไปด้วยประกายของความสุขรอยยิ้มสดใสเปิดโลกดั่งกับว่าเป็นเด็กสาวไร้เดียงสา ธนินเผลอมองใบหน้างามตรงหน้าอย่างคนที่ตกอยู่ในภวังค์พร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนของเขาที่เผลอยิ้มออกมา

"ไม่เคยมาสิงคโปร์เหรอ?"

มินดาหันมายิ้มให้อาธนินพร้อมกับส่ายหน้าไปมา

"อย่าว่าแต่สิงคโปร์เลยค่ะ อยากไปเกาหลี ญี่ปุ่น คุณพ่อก็ไม่อนุญาตถ้าแม่ยังอยู่มินดาคงจะได้ไปเหมือนกับคนอื่นๆ เขาบ้าง"

มินดาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าหมองเมื่อนึกถึงผู้เป็นมารดาของเธอสายตานั้นเปล่งประกายความเศร้าออกมาแทนที่รอยยิ้มสดใสเมื่อสักครู่ จนธนินรู้สึกได้ว่ามินดาไม่มีความสุขนักเมื่อเอ่ยถึงครอบครัวตัวเอง วงแขนแข็งแรงของเขาเข้าไปโอบกอดกระชับร่างเพรียวเอาไว้ทันทีอย่างหักห้ามใจไม่ได้เมื่อเห็นแบบนั้นปลายจมูกของธนินแตะไปบนหน้าผากมนเบาๆ

"ต่อไปนี้อยากไปไหนอาจะพาไป"

ธนินอดที่จะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลอย่างปลอบโยนไม่ได้ความอ่อนโยนนั้นเผื่อแผ่เข้ามาถึงในหัวใจของมินดา ดอกรักที่อยู่ในใจตอนนี้กำลังผลิบานอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อได้น้ำแห่งความเป็นห่วงเป็นใยจากอาธนินรดลงมามินดารู้สึกชุ่มฉ่ำและอบอุ่นใจอย่างประหลาดความรู้สึกนี้แผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูบนร่างกายของหญิงสาว

"ค่ะ"

เธอยิ้มตอบให้ผู้เป็นสามีอย่างอ่อนหวานพร้อมๆกับโอบกอดตอบกลับบ้าง มินดาพิงอิงแอบไปที่อ้อมอกแกร่งอบอุ่นของอาธนินภาพตอนนี้ดั่งกับว่าคู่รักที่มาฮันนีมูนดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ก็ไม่ปาน สายตาของทั้งคู่ทอดมองออกไปที่ทัศนียภาพของเมืองที่มีแสงไฟระยิบระยับสวยงามยามค่ำคืนอย่างมีความสุข

เมื่อเวลาผ่านไปสักพักใหญ่กับความดื่มด่ำชมวิวของเมืองจนพอใจ

"กลับห้องกันเถอะ"

อาธนินก็เอ่ยชวนกลับเพราะอากาศที่เริ่มหนาวขึ้น มินดาพยักหน้าตอบตกลง อาธนินจูงมือของเธอเดินออกมาจากจุดชมวิวเพื่อกลับห้องพักสุดหรูของเขา

เมื่อเดินมาถึงห้องก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปในห้องพักมีลูกน้องคนสนิทของอาธนินเข้ามากะทันหัน ชายหนุ่มคนนี้อายุราวๆ30ปีรูปร่างสูงโปร่งหน้าตาหล่อตี๋ของเขานั้นดูก็รู้ว่าเป็นคนเชื้อสายจีนเขาเดินเข้ามาหาอาธนินด้วยความเหนื่อยหอบเหมือนกับว่าจะวิ่งตามมาทั้งแต่แรก

"มีอะไรชาลี?"

ธนินเอ่ยถามขึ้นอย่างแปลกใจที่ลูกน้องของตนมาหาถึงห้องพักส่วนตัว ปกติแล้วธนินไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามยามอยู่กับผู้หญิงของเขา

"ผมจะมาแจ้งนายว่างานพรุ่งนี้หนึ่งทุ่มครับ"

"เรื่องแค่นี้โทรมาบอกชั้นก็ได้"

"ผมติดต่อนายไม่ได้ครับ"

"อ้อ..ชั้นลืมโทรศัพท์เอาไว้ในห้องน่ะ...ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็กลับไปพักผ่อนเถอะ"

"ครับนาย"

ชาลีโค้งตัวทำความเคารพให้ผู้เป็นเจ้านายนิดหน่อย ก่อนจะเดินออกไป ธนินเปิดประตูเข้าห้องพักหรูพร้อมกับจูงมือของมินดาเดินเข้าไปด้วย

"เมื่อกี้ลูกน้องของอาที่ทำงานอยู่ที่สิงคโปร์น่ะ"

อาธนินรีบบอกให้มินดารู้เพราะกลัวเธอจะตกใจ อยู่ที่นี่ธนินไม่ต่างกับคนที่มีอิทธิพลคนหนึ่งในแวดวงของธุรกิจจึงต้องมีลูกน้องบอดี้การ์ดที่เลี้ยงดูไว้เยอะหน่อย

"อาธนินเคยอยู่ที่นี่เหรอคะ?"

"อืม...บริษัทของเราอยู่ที่นี่ด้วย..ต่อไปก็คงต้องมาด้วยกันบ่อยๆ..ดื่มอะไรมั้ยไวน์รึเปล่า?"

กล่าวพรางเดินไปตรงมุมของมินิบาร์ทริกเพื่อหยิบเครื่องดื่มออกมา

"ไม่ค่ะ..มินดาไม่ดื่ม"

"ต้องหัดไว้นะ..ต่อไปต้องเข้าสังคม"

พูดพรางหยิบขวดไวน์แล้วเทใส่แก้วไวน์มาสองแก้วยื่นให้มินดาแก้วหนึ่ง มินดารับมาแล้วนั่งลงไปบนโซฟาหรู อาธนินก็ตามมานั่งข้างๆเธอด้วย

"ลองสิ"

มินดารับมาแล้วจิบเข้าปากไปนิดหน่อย รสชาดของมันก็ไม่เลวเท่าไหร่ เธอเรียนรู้เกี่ยวกับมารยาทในการจิบไวน์เวลาเข้าสังคมในงานเลี้ยงหรูมาบ้างแล้ว

เรื่องแบบนี้บิดาของเธอไม่พลาดที่จะหาคนมาสั่งสอนมารยาทในการเข้าสังคมอยู่เสมอเพราะกลัวมินดาจะไปทำขายหน้าที่ไหนแล้วทำให้ตนต้องขายหน้าในสังคม

แต่เธอเพิ่งจะลองกินจริงจังครั้งแรกก็ครั้งนี้เท่านั้น จิบไปจิบมาแก้มของมินดาเริ่มร้อนผ่าวด้วยฤทธิ์ของไวน์ทำให้คนไม่เคยกินอย่างเธอเมาง่ายดาย

"มินดาว่ามินดาเริ่มมึนแล้วค่ะคุณอา"

สายตาคมปราบของธนินจับจ้องมองมาที่ใบหน้าหวานหยดของมินดาที่ตอนนี้แดงก่ำเพราะเริ่มเมา ทำให้เธอดูเซ็กซี่น่ามองไปอีกแบบ ธนินตวัดร่างบางของมินดาเข้ามาแนบชิดสายตาวาววับมีประกายบางอย่างของเขาจ้องมินดาราวกับจะกลืนกินเขาไป

"มาทำหน้าที่ของเธอดีมั้ย?"

เสียงอ่อนนุ่มนั้นเอ่ยออกมาจนมินดาได้กลิ่นไวน์จากริมฝีปากของเขาที่อยู่ใกล้กันจนจะแนบชิดกันอยู่แล้ว

"หน้าที่อะไรคะ?"

"เมียไง"

อาธนินยิ้มใส่ตาของมินดาพร้อมกับกวาดสายตาหวานซึ้งสำรวจไปทุกกระเบียดนิ้วบนใบหน้ามินดาแล้วมาหยุดมองที่ริมฝีปากอิ่มเนิ่นนาน

ความเมาทำให้มินดาคล้อยตามไปกับอารมณ์บางอย่างแขนเรียวเผลอคล้องคอของอาธนินโน้มเข้ามาหาเธอ

ริมฝีปากหยักนั้นประกบลงมาและค่อยๆจูบอย่างเร่าร้อนสายตาของทั้งคู่ประสานกันบ่งบอกให้รู้ถึงความปรารถนาอันร้อนแรง