บทที่1
ความเป็นมา
ย้อนไปเมื่อ10ปีก่อน ผมขับรถกลับจากบ้านเพื่อนที่ต่างจังหวัด พายุฝนตกกระหน่ำจนมองทางไม่เห็น จู่ๆก็มีรถพุ่งข้ามเลนมาชนรถของผมจนผมหมดสติไป2วัน ลืมตาตื่นขึ้นมาก็เห็นเด็กสาวมานั่งร้องไห้กอดตุ๊กตาอยู่ข้างเตียง ใบหน้าของเธอมอมแมม เสื้อผ้ามีคราบเลือดติดอยู่ ผมมองซ้ายขวาไม่เจอใครเลยจะเรียกพยาบาลก็ไม่มีเสียง
"หิวน้ำมั้ยคะ"
ผมพยักหน้าก่อนเด็กสาวจะวางตุ๊กตาแล้วเดินไปเทน้ำให้ผม ประหนึ่งว่าเป็นลูกสาวผมอย่างนั้น
"หนูหิวข้าวแล้วค่ะ ไม่ได้กินข้าวมาตั้งแต่เมื่อวาน"
"พ่อแม่ไปไหน ทำไมมานั่งอยู่ห้องพี่"
"พ่อแม่หนูไปอยู่บนฟ้าแล้วค่ะ หนูเลยต้องมาอยู่กับพี่"
"เฮ้ย!!! ไม่ได้แล้วญาติพี่น้องไปไหนหมด"
"ไม่รู้ค่ะ "สาวน้อยก้มหน้าลงในมือยังคงกอดตุ๊กตาไว้แน่น
"ไปตามพยาบาลมาให้พี่หน่อยสิ เดี๋ยวพี่ซื้อขนมให้"
"จริงๆนะคะ" สาวน้อยเงยหน้ายิ้มให้ผมอย่างมีความหวังผมจึงรับปากเธอไปว่าจะซื้อขนมกับชุดสวยๆให้ใหม่
ไม่นานพยาบาลก็เข้ามาพร้อมกับหมอ พอตรวจร่างกายผมเสร็จ ผมเลยสอบถามประวัติของเด็กคนนี้ ตอนนี้เธอนั่งอยู่ข้างตู้เย็น มองผมด้วยสายตาเศร้าก่อนจะเช็ดน้ำตา
"พ่อกับแม่น้องเสียในที่เกิดเหตุค่ะ ตอนรถกู้ภัยมารับคุณได้ยินเสียงเด็กร้องเข้าไปค้นเห็นน้องติดอยู่ด้านในจึงพาน้องขึ้นรถมาพร้อมคุณเลย ตอนนี้เราประกาศตามหาญาติแล้วแต่ยังไม่มีใครติดต่อมาเลย น้องเขาเลยขอมานั่งรอที่ห้องคุณ แต่น้องไม่กวนคุณเลยนะคะ แถมคอยห่มผ้าให้ น้ำเกลือใกล้หมดก็มาเรียกพยาบาล"
"ผมเองก็ยังเรียนอยู่ รับผิดชอบเด็กไม่ได้หรอกครับ"
" เสียดายนะคะ ถ้าคุณออกจากโรงพยาบาลเราอาจจะต้องเอาน้องไปส่งบ้านเด็กกำพร้า จะได้มีคนดูแลน้อง"
"ผมขอให้น้องเขาเจอญาติเร็วๆครับ" พูดจบผมก็จ้องมองเด็กสาวที่กำลังกอดตุ๊กตาจนคุณหมอและพยาบาลออกจากห้องไป
" หมอฉีดยาให้พี่ยังคะ" เธอปีนเก้าอี้ขึ้นมานั่งก่อนจะเอาตุ๊กตาขึ้นมาวางบนเตียงใบหน้ามอมแมมแต่ดวงตาเธอสวยเด็กคนนี้โตไปคงสาวยมาก
" ฉีดแล้วพี่ให้พยาบาลซื้อขนมให้แล้วนะเดี๋ยวคงเอามาให้"
"ขอบคุณค่ะ ^^"
"พอจำญาติพี่น้องได้บ้างมั้ย พี่จะได้ช่วยตามหา"
"ไม่ค่ะ"เธอส่ายหัวก่อนจะก้มหน้าลง
"เอาเถอะ แล้วถ้าพี่ได้ออกจากโรงพยาบาลเราจะต้องไปอยู่ที่อื่นนะ จะมีเพื่อนเยอะเลย"
เธอก้มหน้าไม่ยอมพูดเหมือนว่าจะรู้อยู่แล้วว่าเธอจะต้องไปที่ไหนแต่ผมเห็นก็อดสงสารเธอไม่ได้จริงๆ
"พี่ดูแลเราไม่ได้หรอกนะ พี่ยังไม่พร้อมแถมยังเรียนอยู่ด้วย ถ้ารับเราไปเลี้ยงพี่ตายแน่ๆ"
"พี่ไปส่งหนูที่บ้านได้มั้ยคะหนูอยากกลับบ้านค่ะ"
"จำบ้านได้เหรอ"
"ได้ค่ะ"
"โอเคเดี๋ยวพี่พาไปส่ง ว่าแต่เราชื่ออะไรพี่จะได้เรียกถูก"
" ยี่หวาค่ะ คุณแม่กับคุณยายตั้งให้"
" ชื่อน่ารักดีนะ อายุเท่าไหร่แล้ว"
"เพิ่ง6ขวบค่ะ ไปเป่าเค้กมาแล้วพ่อกับแม่ก็ไปอยู่บนฟ้าเลย"
ผมมองเด็กคนนี้ด้วยความสงสาร ตัวผมเองก็เสียพ่อกับแม่ไปตั้งแต่มัธยม คุณพ่อผมทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขายบ้าน ที่ดิน คอนโด ส่วนแม่ผมทำธุรกิจเกี่ยวกับจิวเวลรี่ พอท่านทั้งสองประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ทุกอย่างผมเลยต้องประคับประคองกับคุณอาเพียงสองคน ผมมีแฟนชื่อเพียงฟ้า เราคบกันตั้งแต่เข้าปี1 จนผมกับเธอเลิกกันตอนไปต่างจังหวัด ผมจับได้ว่าเธอแอบไปมีอะไรกับพี่รหัส ผมตัดสินใจเลิกกับเธอก่อนจะรีบขับรถกลับกรุงเทพฯจนมาประสบอุบัติเหตุนี่แหละ
หลังจากผมฟื้นขึ้นมาก็ติดต่อลูกน้องให้เอาชุด เสื้อผ้าเด็ก ของใช้มาให้ยี่หวาเพราะตอนนี้เธอใส่ชุดนี้มาหลายวัน แถมมอมแมมจนเหมือนเด็กขอทาน หลังจากพยาบาลพาไปอาบน้ำแต่งตัวออกมาจากเด็กมอมแมมก็กลายเป็นเด็กสาวน่ารัก พวงแก้มเป็นสีชมพู ตอนนี้โลกของเธอมีแค่ผมที่เธอไว้ใจและยอมพูดด้วย แม้แต่พยาบาลเธอก็ไม่ยอมเข้าใกล้เพราะเธอบอกว่าคนพวกนี้พาพ่อกับแม่ไปอยู่บ้านฟ้า...
เมื่อรถของผมขับมาจอดบริเวณหน้าบ้านไม้2ชั้น บ้านไม่ใหญ่มากแต่ด้านหลังมีสวนผลไม้ ผมมองยี่หวาที่ยืนยิ้มกระโดดดีใจที่ได้กลับบ้านจนอดยิ้มไม่ได้
"ไปพี่พาไปหาคนที่บ้าน"
ผมเดินเข้ามาก็พบความว่างเปล่ามีเพียงคนสวนที่เป็นผู้ชาย3-4คน ที่เดินมาหาผมกับยี่หวา จนลูกน้องผมเห็นจึงรีบเดินมาคุ้มกัน
" ผมพาน้องยี่หวามาส่งครับ"
"คุณพบกับคุณหวานเสียแล้ว หนูยี่หวาไม่มีญาติพี่น้องหรอกครับ ถ้าจะให้อยู่ที่นี่เดี๋ยวพวกผมช่วยกันดูแลได้"
ผมคิ้วขมวดชนกันก่อนจะเอ่ยถามประวัติของชายฉกรรจ์ที่ยืนถอดเสื้ออยู่
"พวกคุณเป็นอะไรกับเจ้าของบ้าน"
" เป็นคนสวน คุณหวานเป็นเจ้าของสวนข้างหลังทั้งหมดพวกผมเป็นคนดูแล นี่ก็ถึงเวลาจ่ายเงินเดือนแล้วเจ้าของบ้านตายผมก็ต้องมาเอาของไปส่งจะได้เอาเงินมาแบ่งกัน"
"แล้วพ่อของเด็กล่ะ ไม่มีญาติเลยหรือไง"
"มีนะแต่ติดเหล้าติดยา เคยมาขอเงินคุณพบบ่อยๆ ถ้าไม่ให้ก็จะปาข้าวของเข้ามาในบ้านจนต้องแจ้งตำรวจประจำครับ"
"เฮ้ออออ....".
"คุณเพลย์ครับ เอาไงดีครับ" ทอมบอดี้การ์ดของเพลย์เอ่ยถามเขาเองก็สงสารหนูยี่หวาเหมือนกัน
"ยี่หวา....เราจะอยู่ได้ยังไงเนี้ย"
"พวกผมช่วยกันเลี้ยงได้ครับ"
"ไม่ได้! เธอเป็นเด็กผู้หญิง พวกนายดูแลเธอไม่ได้หรอก"
"พี่หนูหิวข้าวค่ะ"ผมจับมือน้อยๆก่อนจะลงไปนั่งคุยกับเธอ
"ยี่หวา เราไปอยู่กับพี่ก่อนโอเคมั้ย เดี๋ยวให้พี่หาที่อยู่ของญาติพี่น้องของเราให้เจอก่อนค่อยว่ากันอีกที"
"แล้วพวกผมต้องออกจากที่นี่ใช่มั้ยครับ" คนงานมองหน้ากันราวกับหมดหวังในชีวิต อยู่ที่นี่มาตั้งแต่รุ่นคุณยายของยี่หวาอายุก็ไม่ใช่น้อยๆหากต้องไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ก็คงยาก
" บิลรายรับรายจ่ายสวนที่นี่อยู่ไหน"
"อยู่ในบ้านครับ คุณลองเข้าไปดูสิ พวกผมไม่เคยเข้าไปยุ่มย่ามข้างใน"
ผมอุ้มยี่หวาเข้ามาในบ้านก่อนจะตรงไปที่โต๊ะทำงาน พ่อของเธอเป็นผู้จัดการธนาคาร มีเอกสารต่างๆจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ สมุดบิลรายรับรายจ่ายของสวนนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยทีเดียว ผมจึงเรียกคนงานทั้ง4คนเข้ามาคุยเพื่อที่จะดำเนินการจัดการกับสวนนี้ต่อไป
" พวกนายอยู่ดูแลสวนที่นี่ต่อเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปเปิดบัญชีให้ยี่หวา เงินเดือนถึงเวลาลูกน้องฉันจะมาจ่าย ส่วนรายได้จากการส่งของก็จัดการเข้าบัญชียี่หวา เธอโตขึ้นจะได้เอาไว้เรียน"
" ขอบคุณนะครับ ที่ช่วยต่อชีวิตให้พวกผม" คนงานยกมือไหว้ท่วมหัว บางคนก็น้ำตาคลอ
"ไม่ต้องไหว้หรอก ทอมเดี๋ยวแกจัดการที่นี่ด้วย ทุกวันส่งของแกก็มาดูแลให้เรียบร้อย"
"ครับคุณเพลย์"
หลังจากรถเคลื่อนตัวออกจากบ้านสวนไม่นานเด็กน้อยก็นอนหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมกอดของผม นี่ผมต้องกลายเป็นพ่อลูกอ่อนแล้วเหรอเนี้ย....