EP.08
คำพูด สายตาและสีหน้าที่แสดงออกว่ารังเกียจสุดๆ นั่นทำให้ปลายรุ้งเลือกที่จะเลี่ยงออกไป เพราะหากขืนอยู่แบบนี้ หล่อนเองก็อาจจะทนไม่ได้ต่อปากต่อคำกับเขาจริงๆ แน่ แม้หล่อนจะไม่ชอบเรื่องทะเลาะเบาะแว้งหรือเถียงใคร แต่หากเลี่ยงไม่ได้หล่อนก็ต้องทำเพื่อปกป้องตัวเอง
“ฉันขอตัวก่อนนะคะ ยังมีงานต้องทำอีก” คราวนี้จะไม่รอให้เขาพูดและจะไม่ได้สนใจด้วยว่าเขาจะพูดอะไรร้ายๆ ออกมาอีก
ปลายรุ้งเดินตรงไปที่ประตู ก่อนถลากลับเข้ามาเพราะถูกกระชากมืออย่างเร็ว และกลับกลายเป็นว่าหล่อนถูกเขาดันไปจนชิดติดผนังห้อง พร้อมถูกกักเก็บไว้ด้วยท่อนแขนแกร่ง
“ฉันยังพูดไม่จบ เธอไม่มีสิทธิ์เดินหนีฉัน เห็นไหมล่ะ ว่ายังไม่ทันขาดคำ อ่อยได้โล่อีกแล้ว”
“ก็คุณมากระชากฉัน!”
ปลายรุ้งตื่นไปทั้งตัว เพราะถ้าไม่นับความใกล้ชิดยามที่หล่อนช่วยประคองเขาตอนเมา นี่ถือเป็นครั้งแรกที่อยู่ใกล้เขาระยะเผาขนขนาดนี้ ใกล้จนได้กลิ่นลมหายใจเจือกลิ่นมิ้นท์จางๆ
“รับปากมา ว่าเธอจะเลิกอ่อย แต่อย่าสำคัญตัวผิดนะ ฉันไม่ได้หวงเธอ ฉันแค่ห่วงหน้าตาของโรงแรม เดี๋ยวจะคิดว่าเมียผู้บริหารอ่อยไปทั่ว อยากดุ้นจนตัวสั่น”
“คะ! คุณพูดอะไร”
ปลายรุ้งอ้าปากค้างเพราะคาดไม่ถึงว่ายามไม่มีแอลกอฮอล์อยู่ในกระแสเลือด อนวัทย์จะกล้าพูดคำหยาบคายแบบนี้ออกมา นั่นทำให้หล่อนนึกคำพูดประท้วงไม่ถูก แต่หล่อนคงบ้องตื้นจริงอย่างที่เขากล่าวหาให้แม่ของเขาฟังแน่ ถ้ายังจะอึ้งแล้วปล่อยให้เขาพ่นคำหยาบคายได้ตามใจชอบ
“ค่ะ ฉันจำได้ว่าคุณอนวัทย์ไม่เคยคิดว่าฉันเป็นเมีย และฉันยืนยันได้ว่าไม่เคยบอกใครเลยเหมือนกันค่ะ ว่าฉันเป็นอะไรกับผู้บริหารของโรงแรมนี้ ดังนั้นคุณอนวัทย์สบายใจได้”
“อย่ายั่วโมโหฉันนะปลายรุ้ง ถึงฉันจะไม่ป่าวประกาศบอกใครว่าเธอเป็นเมีย แต่ทุกคนในโรงแรมนี้ก็รู้ว่าเธอเป็นเมียฉัน ทุกคนไม่ได้โง่! ยอมให้ใครสนตะพายได้เหมือนเธอนี่ งานแต่งงานก็จัดที่นี่ หรือเธอคิดว่าเมียนอกจากแต่งงานจดทะเบียนสมรสกันแล้ว ยังต้องรวมถึงการสอดใส่ไปด้วย ได้! ถ้าเธอหมายถึงการสอดใส่ ฉันก็จะให้”
“คะ... คุณอนวัทย์ คะ... คุณพูดอะไร คุณจะทำอะไร...”
น้ำเสียงของเขาเหี้ยมอย่างที่หล่อนไม่เคยได้ยินมาก่อน ทั้งสายตาของเขาก็เหมือนจะแผดเผาหล่อนได้ ทว่าเขากลับลากหล่อนตรงดิ่งไปยังอีกฟากหนึ่งของห้องทำงานที่หล่อนเพิ่งรู้ตอนนี้ว่าเป็นห้องลับหลังตู้หนังสือ
“คุณอนวัทย์! คุณจะทำอะไรฉัน! นี่คุณ! ฉันไม่ไปนะ คุณ!”
เพียงก้าวอ้อมตู้หนังสือขนาดใหญ่ก็พบกับห้องชุดสุดหรู ก็คงไม่แปลกเพราะที่นี่คือโรงแรมระดับ 5 ดาวสุดหรูแห่งหนึ่งของเมืองไทย การที่ผู้บริหารจะมีห้องพักผ่อนอยู่ในห้องทำงานก็ไม่แปลก แต่ที่แปลกก็คือเขาลากหล่อนเข้ามา
“ปล่อยฉันนะ! ปล่อย!”
“ไม่ปล่อย จะมาดีดดิ้นอะไรตอนนี้ อยากเป็นเมียฉันจนตัวสั่นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ทั้งเสนอทั้งอ่อยฉันทุกคืนแบบนั้น นี่ไง! ก็จะสนองให้ เธอจะได้รู้ไง ว่าการสอดใส่แล้วเป็นเมีย มันเป็นยังไง”
ปลายรุ้งพยายามรั้งมือให้หลุดจากการเกาะกุมของเขา แต่ยิ่งดิ้นก็เหมือนกับว่าเขาจะบีบแน่นขึ้นจนหล่อนเจ็บ รังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาจากเจ้าของร่างสูงแกร่งตรงหน้าก็ทำให้หล่อนต้องดิ้นรนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะยอมให้เขาพาหล่อนตรงไปยังจุดหมายไม่ได้ เพราะฟังจากน้ำเสียงกับคำพูดหยาบคายของเขาแล้ว ชะตากรรมของหล่อนคงไม่ได้หอมหวานปานน้ำผึ้งแน่
“ปล่อยฉันนะคะคุณอนวัทย์” เมื่อดิ้นรนไม่หลุด หล่อนจึงเปลี่ยนมาอ้อนวอน
“ไง แค่ก้าวเข้ามาก็อ่อนระทวยแล้วเหรอ”
“ไม่ใช่นะคะ ฉันขอร้อง ให้ฉันออกไปเถอะค่ะ”
“อัปค่าตัวงั้นสิ”
“คุณอนวัทย์...”
“ไม่ต้องแอคติ้งอะไรให้มันมากหรอก เพราะมันไม่ทำให้เธอมีค่ามากไปกว่าเงินห้าสิบล้านที่แม่ฉันจ่ายไปให้หรอก อ้อ... ใช่สิ ตั้งห้าสิบล้าน มันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกันหน่อย แม้ว่า...”
ดวงตาคมเข้มที่ตวัดวาบกวาดมองไปทั่วทั้งร่างทำให้ปลายรุ้งใช้ท่อนแขนข้างที่เหลือโอบกอดตัวเอง เพราะเขาทำให้หล่อนหนาวไปถึงหัวใจ โดยเฉพาะสายตาเหยียดหยามนั้น เลือดในกายหล่อนคงกลายเป็นน้ำแข็งไปแล้วถ้าไม่รู้สึกรู้สา
“แม้ว่าเธอ... จะไม่มีค่าเลยก็ตาม แต่ฉันก็ไม่อยากให้ ‘ของ’ ที่ฉันจ่ายเงินซื้อมา ต้องไปแบให้ใครตำฟรีๆ”
“คุณอนวัทย์...”
เสียงที่รอดริมฝีปากออกไปขาดห้วงเพราะปลายรุ้งหาเสียงตัวเองไม่เจอแล้ว ก่อนจะกรีดร้องอีกครั้งเมื่อถูกเขาเหวี่ยงขึ้นไปบนเตียง และมีร่างสูงใหญ่ของเขาทาบทับลงมา
“คุณอนวัทย์! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ปล่อย!”
“ปล่อยแน่ หลังจากที่ฉันสอดใส่สักทีสองที”
ใบหน้าหล่อระบายยิ้มเหี้ยมมองหล่อนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสะใจ “รับประกัน เสร็จ!”
“อะไร... คุณพูดอะไร!”