EP.06
อนวัทย์กดโทรศัพท์ออกไปหาเลขาหน้าห้องด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวสุดๆ แต่ก็ต้องทำก่อนที่แม่จะเดินไปถึง
“คุณฝ้าย จัดการหาแผนกทำงานให้คุณปลายรุ้งด้วย เอาที่เหมาะกับเขา ให้เขาเลือกเองก็ได้”
พูดแล้วก็ได้แต่ถอนใจ หวังว่ายายนั่นจะไม่เลือกแผนกอะไรที่ต้องเกี่ยวพันกันกับเขานะ เพราะแค่เห็นหน้าตานิ่งๆ เฉยๆ ที่บ้านก็เซ็งเต็มทีแล้ว เขาไม่อยากได้รับมลพิษทางสายตาที่โรงแรมอีก
เกือบ 1 สัปดาห์แล้วที่ปลายรุ้งมาช่วยทำงานที่โรงแรมแต่อนวัทย์ก็ไม่เคยสอบถามว่าปลายรุ้งทำงานแผนกอะไร และปลายรุ้งเองก็ไม่ได้บอกเขาเช่นกัน ยามอยู่บ้านก็ได้เห็นแค่ด้านหลังไวๆ เพราะเมื่อเขาเข้าบ้าน หล่อนก็ขึ้นห้องหรือไม่ก็เดินเลี่ยงไปอีกทาง ซึ่งเขาเองก็พอใจที่เป็นแบบนั้น ส่วนที่โรงแรมหล่อนขับรถมาทำงานเองไม่ได้มาพร้อมกันกับเขา วงโคจรในแต่ละวันระหว่างเขากับปลายรุ้งก็เลยแทบไม่ได้เห็นกันเลยแต่วันนี้มันเลี่ยงไม่ได้
เจ้าของร่างอรชรแต่งกายด้วยชุดไทยสีชมพูกลีบบัวคล้ายกับเครื่องแบบของพนักงานแผนกห้องอาหารของโรงแรม แต่จะแตกต่างกันที่สี เพราะพนักงานแผนกอาหารจะใส่ชุดไทยสีฟ้า ระดับหัวหน้างานก็จะเป็นสีน้ำเงินเข้ม แต่ปลายรุ้งกลับใส่สีชมพู ซึ่งเขาไม่เคยเห็นว่าจะมีพนักงานแผนกไหนใส่มาก่อน ทว่ากิจกรรมที่ปลายรุ้งกำลังทำก็เรียกความสนใจได้มากกว่าจะสงสัยในสีของชุด
ปลายรุ้งกำลังสำรวจภาชนะใส่อาหารของโรงที่ประกอบไปด้วยถ้วยจานชามซึ่งจัดเรียงไว้สำหรับให้แขกได้หยิบใช้ในมุมของบุฟเฟ่ต์พลางจดอะไรยุกยิกในสมุดเล่มเล็กที่หล่อนถือติดมือไปทุกที่ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะถามอะไรผู้ชายคนหนึ่งที่เดินตรงไปที่หล่อนก็ทำให้อนวัทย์ชะงักเพราะท่าทางแบบนั้นมันคือสนใจ
“ทำไมยายนั่น เอ่อ... ปลายรุ้งถึงมาทำงานที่นี่”
“อ๋อ... คุณรุ้งเธอว่าเธอถนัดด้านอาหารน่ะค่ะ ฝ้ายก็เลยพาเธอมาที่แผนกนี้ แล้วเธอก็ชอบ นี่ทำมาได้อาทิตย์หนึ่งแล้วนะคะ”
“ชอบนี่... หมายถึงชอบทำอาหารเหรอ”
“ชอบทุกอย่างค่ะ คุณรุ้งเธอชอบจัดดอกไม้ ชอบตกแต่งอาหาร พนักงานในแผนกก็ชอบคุณรุ้งกันทุกคนเลยนะคะ บอกว่าคุณรุ้งเป็นกันเองไม่ถือตัวเลยค่ะ”
อนวัทย์ถามแต่สายตายังคงมองปลายรุ้งกับผู้ชายคนนั้นที่พูดคุยกันกะหนุงกะหนิง
“ชอบวาดรูปเหรอครับ”
เสียงทุ้มปนสุภาพของผู้ชายที่ยืนอยู่ไม่ไกลทำให้ปลายรุ้งต้องละสายตาจากภาพวาดในสมุดเล่มจิ๋วและช้อนขึ้นมองเขา
“ค่ะ”
ปลายรุ้งตอบพลางมองสำรวจชายหนุ่มผิวขาวหน้าตาดีตรงหน้า ดูแล้วเขาน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับอนวัทย์และแน่นอนว่าเขาต้องเป็นลูกค้าของโรงแรม ไม่อย่างนั้นคงเข้ามาใช้ในโซนอาหารไม่ได้ และเขาก็ไม่ได้มีท่าทีคุกคามแต่ดูจะสนอกสนใจในสิ่งที่หล่อนทำ ปลายรุ้งจึงยิ้มและพูดคุยกับเขาเสมือนว่าหล่อนเป็นพนักงานต้อนรับของโรงแรม เพราะตอนนี้หล่อนสวมเครื่องแบบของโรงแรมอยู่แล้ว แม้ว่าจะตัดเย็บมาเพื่อหล่อนเพียงคนเดียวก็ตาม
“ผมก็ชอบวาดรูปนะครับ ยิ่งเป็นสไตล์แบบมินิมอลบนจานชามถ้วยแบบนี้ ผมยิ่งชอบมากเลย นี่นามบัตรผมครับ”
ปลายรุ้งรับนามบัตรและอ่านชื่อ “ขอบคุณค่ะ คุณคราม”
ชื่อของเขาที่ปรากฏบนนามบัตร สถานที่ทำงานกับตำแหน่งก็บ่งบอกว่าเขาเป็นเจ้าของโรงงานผลิตเซรามิกแหล่งใหญ่ของลำปาง หล่อนยิ้มให้กับเขาเพียงนิด เชื่อแล้วว่ากฎแห่งแรงดึงดูดมีจริง คนที่มีความชอบอะไรเหมือนๆ กัน ก็จะถูกดึงดูดมาให้พบเจอกันได้ง่าย
“ผมชอบงานที่คุณ... เอ่อ…”
“รุ้งค่ะ ปลายรุ้ง”
“ครับ ผมชอบงานที่คุณปลายรุ้งวาดนะครับ”
เขามองภาพวาดที่หล่อนสเกตไว้ในสมุด “ไม่ทราบว่าคุณรุ้งสนใจจะวาดภาพบนชุดเซรามิกบ้างไหมครับ ผมกำลังหานักวาดต้นแบบอยู่ ตอนนี้ผมมีชุดจานชามที่จะส่งขายไปต่างประเทศ ผมอยากจะได้นักวาดสไตล์มินิมอลที่ให้อารมณ์นุ่มนวล อ่อนหวาน และจับต้องได้จริง แบบงานของคุณรุ้งเลยครับ”
“สนใจค่ะ สนใจมากด้วย แต่ตอนนี้รุ้งคงไปทำให้ไม่ได้ ต้องทำงานให้ที่โรงแรมก่อนน่ะค่ะ”
“งานที่โรงแรม...”
เขาที่มองภาพวาดของหล่อน ก่อนจะมองไปยังจุดต่างๆ ในห้องอาหารทำให้ปลายรุ้งยิ้มน้อยๆ เพราะรู้ว่าเขากำลังคาดเดาว่าหล่อนทำงานในแผนกอะไร ทำไมถึงมายืนวาดภาพเล่นอยู่ตรงนี้
“อ้อ... รุ้งกำลังออกแบบลวดลายบนภาชนะใส่อาหารคอลเลกชันใหม่ของโรงแรมในปีหน้าน่ะค่ะ”
“โอว... คุณรุ้งเป็นนักวาดภาพเซรามิกเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ แต่ปกติรุ้งก็ทำงานกระจุกกระจิกของตัวเอง เพิ่งได้มารับงานใหญ่แบบนี้ครั้งแรกเหมือนกันค่ะ”
“โห... ดีจังเลยครับ แล้วอย่างนี้ถ้างานของโรงแรมเสร็จแล้ว คุณรุ้งพอจะรับงานของผมได้ไหมครับ”
“ก็ต้องดูอีกทีหนึ่งค่ะ รุ้งยังไม่แน่ใจว่างานจะต่อเนื่องไหม แต่ถ้าเป็นฟรีแลนซ์ รุ้งก็พอจะทำให้ได้ค่ะ แต่คงต้องใช้เวลาสักหน่อย”
“ได้เลยครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอช่องทางติดต่อได้ไหมครับ เฟส ไลน์ เมล อะไรก็ได้ หรือถ้าจะกรุณาให้เบอร์โทรผม”
ปลายรุ้งยิ้มอย่างสุภาพก่อนจะจดข้อมูลช่องทางติดต่อของหล่อนและยื่นให้เขา