กินข้าวกับครอบครัว

1437 Words
“คุณก็เลิกเอาลูกไปเปรียบเทียบกับลูกคนอื่นๆสักที เพราะคุณเริ่มทำแบบนี้นั่นแหละ ยัยมิวถึงได้แหกคอกแบบนี้” “มันสมควรให้ฉันเปรียบเทียบไหม ลูกเธอแต่ละคนสร้างเรื่องให้ฉันไม่เว้นวัน นี่ถ้าฉันไม่ส่งเจ้าไมค์ไปเมืองนอก ฉันต้องเป็นบ้าตายแน่ๆ” อธิปเอ่ยถึงลูกชายคนโต ที่ส่งให้ดูแลงานที่อยู่ที่อังกฤษ เพราะในอดีตลูกทำตัวเป็นมาเฟีย ไล่ต่อยตีกับชาวบ้านไม่เว้นวัน “ค่ะ ลูกฉันสร้างแต่เรื่องให้คุณไม่เว้นวัน ไม่เหมือนลูกคนอื่นที่คุณเก็บมาเลี้ยง ที่สร้างแต่เรื่องน่าภูมิใจให้คุณ” มาริญาพูดจบก็เดินหนีขึ้นไปห้องนอน ไม่สนใจคนรุ่นลูกที่กำลังเดินเข้าไปหาสามีเธอสักนิด “ทะเลาะกันเพราะหนูอีกแล้วเหรอคะ” กัลยาหน้าเศร้าลงเมื่ิอได้ยินสิ่งที่คนทั้งสองพูดตั้งแต่ต้นจนจบ “มันเป็นแบบนี้มานานแล้ว วันนี้เป็นยังไงบ้างลูก”อธิปถอนหายใจเก็บเรื่องไม่สบายใจเมื่อครู่เอาไว้ เพื่อไม่ให้คนที่ตัวเองรับมาเป็นลูกสาวอีกคนรู้สึกไม่ดี “ก็ปกติค่ะ แด็ดค่ะ กัลอยากลองเข้าทำงานในกระทรวงดู ไม่ได้เหรอค่ะ” กัลยามองหน้าคนที่เธอเรียกว่าพ่อเพื่อรอคำตอบ เธอเคยขอเข้าไปทำงานที่นั่นบ่อยครั้ง แต่ท่านบ่ายเบี่ยงมาตลอด จนเธอต้องไปทำงานเป็นเลขาให้ภิภพ เงินเดือนมันก็เยอะอยู่หรอก แต่งานมันน่าเบื่อ คนก็น่าเบื่อ “ถ้ามีตำแหน่งว่างแล้วแด็ดจะบอกนะ” อธิปตอบด้วยรอยยิ้ม แม้ตอนนี้จะมีตำแหน่งว่างอยู่เยอะ แต่เขาไม่อยากให้คนในครอบครัวเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับงานในนั้น “ค่ะ กัลขอตัวขึ้นข้างบนเลยนะคะ” กัลยาเก็บซ่อนความไม่พอใจไว้ภายใต้รอยยิ้มเหมือนเดิม ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่มีแค่การเป็นอยู่เท่านั้นที่ดีขึ้น แต่ทุกอย่างในชีวิตเธอยังคงเหมือนเดิม ต้องหางานทำเอง ซ้ำยังบอกใครก็ไม่ได้ว่าเป็นลูกของรัฐมนตรี “โอ้ย!” หมอนบนที่นอนถูกฟาดลงเตียงแรงๆ เพื่อระบายความโกรธ แม้จะได้รับความรักจากอธิปเหมือนลูกคนอื่นๆ แต่สิ่งที่ได้กลับไม่เท่าเทียมลูกเมียแต่งเลยสักนิด รถเธอก็ได้คันเก่าๆ หน้าที่การงาน หรือข้าวของเครื่องใช้ เงินทองก็ได้เดือนละไม่กี่บาท มันจะพอใช้อะไรล่ะ กัลยาแอบเดินออกจากห้องเงียบๆ เมื่อเห็นว่าชั้นบนไม่มีใครอยู่ เข้าไปในห้องของอมิตาที่ถูกปิดไว้เฉยๆแต่ไม่ได้ล็อค เพราะมีแม่บ้านคอยเข้าไปทำความสะอาดตลอดทั้งที่ยัยนั่นไม่เคยกลับมาเหยียบที่นี่อีกเลยตั้งแต่เธอเข้ามาอยู่ เลือกหยิบของในห้องออกมาอย่างทุกที แล้วเดินกลับเข้าห้องของตัวเองไป วางกระเป๋าชาแนลรุ่นเก่าเมื่อหกปีก่อนลงข้างเตียง “แกไม่กลับมาแล้ว ฉันขอละกันนะมิว ยังไงฉันก็เป็นพี่แก แบ่งๆกันใช้ จะได้ไม่เสียของ” กัลยายิ้มเยาะ มองข้าวของในห้องที่มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วยรอยยิ้ม ต่อให้ของในห้องหายไปก็ไม่มีใครรู้หรอก เพราะเจ้าของมันไม่อยู่ อีกอย่างของในนั้นก็มีเยอะสุดๆ มีแต่ของแบรนด์เนมด้วย ทิ้งไว้แบบนั้นเสียของแย่ มาริญาที่อยู่ในห้องของลูกสาวอย่างอมิตา ส่ายหน้ากับภาพที่เห็นอย่างทุกที มองกล้องวงจรปิดที่ถ่ายภาพทั้งหมดนั่นไว้ ท่านได้แต่หวังว่าสักวันจะได้ใช้มัน วันไหนที่ความอดทนของท่านหมดลง ท่านจะใช้มันเพื่อปกป้องลูกสาวที่หนีไป Tru Tru ใบหน้าเรียวสวยกับส่วนสูงที่ใกล้เคียงกับลูกสาว มีแววดีใจเมื่อมองหน้าจอโทรศัพท์ที่ส่งเสียงร้อง กดรับสายด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เมื่อลูกสาวตัวแสบโทรมาในเวลาที่กำลังคิดถึงพอดี [ม๊ามา ออกมากินข้าวกับมิวไหมคะ มิวจอดรถเลยหน้าบ้านไปนิดหน่อย ถ้ามามิวจะรอ] “ม๊าจะไปเดี๋ยวนี้เลย” ท่านรีบวางสาย เดินออกจากห้องลูกสาวไปด้วยรอยยิ้ม ไม่คิดจะบอกสามีที่หนีไปนั่งทำงานในห้องนอน เดินออกจากบ้านไปอย่างเร่งรีบ เพราะกลัวลูกสาวจะรอนาน “วันนี้ออกมาเร็วจัง” อมิตาแซวคนที่กำลังขึ้นมานั่งข้างๆ รอยยิ้มของมารดาที่ถอดแบบกันมาส่งมาให้เธอ จนรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายวันก่อนเป็นเพียงแค่ความฝัน “แด็ดอยู่ในห้องทำงาน” “วันนี้ม๊ามาจะกินอะไรอะ มิวไม่กินร้านเดิมนะ เบื่อ” อมิตาขับรถด้วยความเร็วปกติ แม้จะมีแม่บังเกิดเกล้านั่งอยู่ด้วย เธอก็ไม่เคยลดความเร็วลงเลย ส่วนแม่เธอก็คงชินแล้วแหละ เพราะออกมากับเธอบ่อยๆ จากแรกๆที่เคยบ่น ตอนนี้กลับนั่งเงียบ หรือบางทีอาจจะชอบใจด้วยซ้ำที่เธอขับรถเร็ว “มิว เด็กคนนั้นเอาของๆมิวไปอีกแล้วนะ” มันไม่ใช่ครั้งแรกที่กัลยาทำแบบนั้น ช่วงแรกๆที่ท่านรู้ว่าของหาย ท่านเรียกคนในบ้านทั้งหมดมาคุย เพราะไม่มีหลักฐานจึงเอาผิดใครไม่ได้ และความผิดก็เอนเอียงไปทางคนงานในบ้าน ที่คงมีความเดือดร้อนเรื่องเงิน และแอบเอาของๆลูกสาวท่านไปขาย แต่คนงานพวกนั้นอยู่กับท่านมานาน ไม่เคยมีของหายเลยสักครั้ง พอกัลยาย้ายเข้ามาอยู่ ของๆลูกสาวท่านก็เริ่มหาย หายทุกวันจนท่านต้องหากล้องวงจรปิดมาซ่อนไว้ เก็บภาพเป็นหลักฐานไปให้สามีดู ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนขโมยของๆลูกสาวสุดที่รักของท่านไป “แด็ดว่ายังไงละคะ เชื่อยัยนั่นเหมือนเดิม” อมิตาพูดแบบไม่ต้องหันกลับมามองหน้าแม่เลยว่าทำสีหน้าแบบไหนอยู่ เพราะไม่อยากเห็นแม่ของเธอทำสีหน้าเสียใจ เพราะผู้หญิงชื่อกัลยาอีกแล้ว “ม๊ายังไม่ได้บอก แต่แอบซ่อนกล้องไว้ เผื่อต้องใช้สักวัน” บอกไปก็ไม่เชื่อเลยเหนื่อยที่จะบอก สามีเชื่อลูกสาวนอกสมรสมากกว่าภรรยาที่อยู่กินกันมานาน “ถ้ามิวย้ายไปต่างจังหวัดม๊าจะอยู่ได้ไหมเนี้ย” อมิตาวนรถเข้าไปจอดในร้านอาหารที่เคยมากับแม่บ่อยๆ ม๊ามาเธอชอบร้านนี้ นี่ก็นานแล้วที่ไม่ได้มา “ขอโทษนะมิว ที่ม๊าปกป้องลูกไม่ได้เลย” “ม๊าจะขอโทษทำไม มิวตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้เอง แล้วเรื่องวันนั้น เพราะม๊าช่วย มิวถึงได้ออกมาจากบ้านได้ ก่อนที่จะฟาดหน้ายัยนั่นต่อหน้าแด็ด” อมิตาพูดจบก็ลงจากรถ อ้อมไปเปิดประตู แล้วจับมือแม่สุดที่รักเข้าไปในร้าน แม้จะออกจากบ้านไปอยู่คนเดียว แต่ก็ไม่เคยปล่อยให้แม่เหงา วันไหนที่ว่างตรงกัน มักจะชวนกันมาทำกิจกรรมนอกบ้านเสมอ เมื่อก่อนก็จะมากับพวกเฮีย แต่พอเฮียทั้งสามคนถูกพ่อลงดาบ ก็ไม่ค่อยได้มาทำกิจกรรมแบบนี้กันสักเท่าไหร่ เพราะเฮียของเธอถูกย้ายไปอยู่ต่างประเทศกันหมด “มิวทางนี้” อมิตารีบพาแม่เดินไปในทิศทางที่มีคนโบกมือเรียกอย่างรวดเร็ว ร้านอาหารริมแม่น้ำแบบนี้ ได้นั่งกินข้าวริมแม่น้ำสิถึงจะคุ้มค่าให้เสียเวลามา “สวัสดีครับม๊ามา” “มาได้ยังไงลูก” มาริญารับไหว้ลูกนอกสมรสของสามี ที่ท่านรับเข้ามาเป็นลูกตั้งแต่ห้าชวบ นั่งลงบนเก้าอี้ที่เด็กหนุ่มหน้าตาคล้ายสามีกับผู้หญิงคนอื่นเลื่อนให้ด้วยรอยยิ้ม “มิวนัดมาครับ พอบินมาถึงยัยตัวแสบก็นัดออกมาที่นี่ทันที” แม็กซ์ หรืออรุณ พี่ชายคนที่สองของอมิตาพูดด้วยรอยยิ้ม “ยังมีอีกนะคะ”อมิตายิ้มกว้าง กวักมือเรียกผู้ชายอีกสองคนที่กำลังเดินเข้ามาในร้าน คนแรกเป็นผู้ชายผมทองที่ชื่อคามิล ส่วนคนที่สองหน้าตาคล้ายเธอสุดๆ และคล้ายมาม๊าที่นั่งอยู่ด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD