หลังจากขับรถออกจากบริษัทที่ภิภพทำงานอยู่ อมิตาก็รีบโทรไปนัดหนึ่งนภา ให้ออกมาเจอกันที่คาเฟ่ใกล้ๆบริษัทภิรมณ์ณรงค์ เข้าไปนั่งรอพร้อมกับสั่งเมนูที่เหมาะกับคนท้อง รอไม่นานหนึ่งนภาก็เดินเข้ามาพร้อมกับผู้ชายที่เป็นสามี
“ตั้งแต่มีเมียนี่แทบจะไม่เห็นพี่ศิไปไหนมาไหนคนเดียวเลยนะคะ” อมิตาแซวคนหน้าตายที่นั่งลงข้างๆหนึ่งนภา
เขาคงไม่พอใจแหละที่เธอนัดหนึ่งนภาที่กำลังท้องออกมาแบบนี้ และเรื่องที่เธอเอายาปลุกเซ็กส์ให้หนึ่งนภาเป็นของขวัญแต่งงานด้วย แต่นั่นถือว่าได้ผลเกินคาดไม่ใช่รึไง น่าจะขอบคุณเธอด้วยซ้ำ ที่ช่วยเขากับหนึ่งนภาตั้งสองครั้งสองครา ถ้าวันนั้นเธอไม่ช่วย มีเหรอทั้งสองคนจะได้แต่งงานกัน
“มีเมียแล้วก็ต้องไปกับเมียสิ”
“คุณมิวนัดหนึ่งออกมามีอะไรให้หนึ่งช่วยเหรอคะ”
“บ้า! ฉันจะให้เธอมาช่วยเรื่องอะไร อย่ามาหาเรื่องให้ฉันโดนด่านะหนึ่ง ฉันมายินดีต่างหาก”
อมิตามองไปที่หน้าท้องของหนึ่งนภา เธอท้องกี่เดือนแล้วทำไมท้องถึงดูปกติขนาดนั้น
“เรื่อง?”
“ก็เรื่องท้องไงคะ พี่ศินี่เปิดโอกาศให้หนึ่งได้พูดบ้าง อย่าแย่งคนอื่นพูดได้ไหม” อมิตามองคนหวงเมียตาขวาง บอกให้ยัยหนึ่งมาคนเดียว เพราะขี้เกียจเถียงกับพี่ศิ ทำไมถึงยังตามมาด้วยก็ไม่รู้ ไหนบอกว่าช่วงนี้งานเยอะขึ้น แต่เท่าที่เธอเห็น เขาเหมือนคนว่างงานที่ตามหวงเมียมากกว่า
“รู้แล้วเหรอ ยังไม่ได้บอกใครเลยนะเนี้ย” ศิวะยิ้มให้รุ่นน้องของตัวเอง เลือกที่จะปล่อยผ่านคำพูดค่อนขอดของเธอไปก็เมียเขาพูดน้อยและพูดช้ามาก เขาพูดแทนน่าจะเร็วกว่า
“อือ วันนี้เข้าไปบริษัทนู้นมา”
“มีปัญหา?”
“ก็นิดหน่อย” บ่อยครั้งที่เธอเลือกให้บริการที่ปรึกษาอย่างศิวะในหลายๆเรื่อง ทั้งเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจ และเรื่องของหัวใจ ถึงจะค่อนขอดกันไปมา แต่ศิวะก็เอ็นดูเธอมาก
“เล่าให้ฟังหน่อยสิ หน้าตาดูแย่มาก เห็นแล้วสมเพช”
อมิตาเล่าเรื่องเมื่อคืนให้ศิวะกับหนึ่งนภาฟังจนหมด รวมทั้งผลที่ตามมาด้วย ศิวะกับหนึ่งนภาได้แต่นั่งฟังเงียบๆ รู้สึกสงสารเธอนิดๆ ที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ แล้วยังถูกพ่อแท้ๆปิดกั้นโอกาศอะไรหลายๆอย่างในชีวิตอีกด้วย
“แล้วคุณมิวจะทำยังไงต่อคะ” หนึ่งนภาที่นั่งฟังเงียบๆ ถามด้วยความเห็นใจ เธอกับอมิตาต่างกันราวฟ้ากับเหว เพราะเธอเป็นลูกกำพร้า ส่วนอมิตามีพ่อแม่ครบและรวยล้นฟ้า แต่กลับมีบางอย่างที่คล้ายกันอยู่ คือไม่มีเพื่อน
“ฉันจดบริษัทใหม่แล้ว ถึงพ่อจะสั่งปิดบริษัทนั้นไปเพื่อบีบให้ฉันจนมุมฉันก็ไม่เดือดร้อน แล้วที่มานี่ก็แค่จะมาบอกเธอ ว่าฉันอาจจะไม่ค่อยได้มาเจอเพราะคงย้ายไปอยู่ที่นู้นถาวร”
อมิตายิ้มกว้าง เธอไม่ได้เดือดร้อนอะไรหรอก กับสิ่งที่พ่อเธอทำอยู่ตอนนี้เพื่อบีบเธอให้กลับไปอยู่ในกรอบ และที่มาหายัยหนึ่ง ก็เพราะเธอรู้สึกว่ายัยนี่เป็นเพื่อนที่ดี แม้จะอายุห่างกันเกือบสองปี แต่ก็คุยกันถูกคอ ถ้าไปแบบไม่ร่ำลา เดี๋ยวยัยนี่จะเป็นห่วง
“ชอบหนีปัญหาตลอด” ศิวะพูดพลางถอนหายใจ ตั้งแต่ที่เธอจบความสัมพันธ์กับภิภพ อมิตาเปลี่ยนไปมาก จากที่เคยวิ่งชนทุกอย่างตามใจตัวเอง กลับเอาแต่วิ่งหนีอยู่ตลอดจนเขาหงุดหงิดแทน
“บางอย่างมันก็พุ่งชนตรงๆไม่ได้ไง”
“มีอะไรให้ช่วยก็บอก”
“ไม่มีหรอก พี่ศิช่วยมิวมาเยอะแล้ว นี่ยัยจืด ถ้าคลอดแล้วต้องโทรบอกฉันนะ” อมิตาหยิบเช็คเงินสดยื่นให้หนึ่งนภา แม้จะได้สายตาดุๆจากศิวะ เธอก็ยังพยักหน้าให้หนึ่งนภารับมันไว้
“เผื่อวันไหนพี่ศิใจร้ายก็ใช้เงินนี่หนีไปหาฉัน ฉันส่งที่อยู่ให้ในไลน์นะ ดูแลตัวเองดีๆล่ะ”
อมิตาพูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปกอดหนึ่งนภาเบาๆ เดินไปจ่ายเงิน จากนั้นก็ขับรถเข้าไปบริษัทต่อ เพื่อประชุมกับพนักงาน
การประชุมที่จัดขึ้นอย่างกะทันหัน หลังจากบริษัทของเธอถูกพ่อสั่งปิดทันทีจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอเมื่อคืน การประชุมเต็มไปด้วยความตึงเครียด เพราะพนักงานหลายคนไม่พอใจกับการที่ถูกเลิกจ้างอย่างกระทันหัน
อมิตาต้องเสียเงินส่วนตัวไปหลายล้าน เพราะต้องชดเชยเงินให้กับพนักงานที่ไม่สามารถเดินทางไปทำงานต่างจังหวัดกับเธอได้ กว่าจะคุยกันลงตัวก็กินเวลานาน จนเกือบจะหมดวัน
“สรุปว่าจะมีคนตามมิวไปแค่นี้นะ ส่วนคนที่เหลือ มิวจะให้เลขาโอนเงินให้สิ้นเดือนพร้อมเงินชดเชยนะคะ มิวขอโทษทุกคนอีกครั้ง ที่ทำให้เรื่องทั้งหมดเป็นแบบนี้” อมิตาก้มหัวขอโทษทุกคนอีกครั้ง ก่อนจะเดินนำเลขาออกไปจากห้อง เพราะประชุมทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว
พ่อเธอใช้อำนาจในทางไม่ชอบสั่งปิดบริษัทของเธอทันที เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ตั้งใจจะบีบเธอให้กลับเข้าไปอยู่ในบ้าน บีบเธอให้อยู่ในกรอบเหมือนพี่คนอื่นๆ ด้วยวิธีการที่เธอไม่ชอบ
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะยอมทำทุกอย่างตามที่พ่อกับแม่พูด แต่เธอเริ่มไม่ฟังคำของท่านทั้งสอง แล้วใช้ชีวิตตามใจตัวเอง ตั้งแต่พ่อรับผู้หญิงชื่อกัลยาเข้ามาเป็นลูกอีกคน แม้เมื่อก่อนเธอจะถูกคนทั้งบ้านตามใจมาตลอดเพราะเป็นลูกคนเล็ก แต่พอกัลยาเข้ามา การตามใจก็เริ่มเปลี่ยนเป็นบังคับ ตีกรอบ กดดัน และวางอำนาจ
“เธอเดินทางไปก่อนนะฉัตร ขาดเหลืออะไรบอกฉันได้เลย” อมิตาพูดกับเลขาที่เดินตามเข้ามาช่วยเก็บเอกสารในห้องทำงาน เธอเตรียมทุกอย่างเผื่อไว้แล้ว เพราะพ่อไม่ค่อยชอบใจนักที่เธอเปิดบริษัท sextoy และคอยหาเรื่องมาบีบให้เธอเลิกทำบริษัทนี้อยู่บ่อยๆ
“ค่ะคุณมิว”
ฉัตรฉายรับคำสั่ง เก็บของที่เหลือต่อ ก่อนจะแยกย้ายกันไป เธอต้องเดินทางไปก่อน ส่วนคุณมิวจะตามไปทีหลัง หลังจากที่จัดการธุระทางนี้เสร็จ
สามวันต่อมา บ้านหลังใหญ่ของท่านอธิป
แม้จะจัดการเรื่องผู้ชายคนนั้นเสร็จแล้ว และยังสั่งปิดบริษัทที่ลูกสาวบริหารอยู่ทันที แต่ไม่มีทีท่าว่าลูกสาวตัวดีจะยอมกลับเข้าบ้านอย่างที่ท่านอธิปหวังไว้เลยสักนิด ซ้ำยังย้ายออกจากคอนโดแบบไม่บอกไม่กล่าว ตอนนี้ก็ติดต่อไม่ได้วันที่สามแล้ว
“เพราะคุณบีบลูกทุกทาง ลูกถึงได้หนีไปแบบนี้” มาริญามองสามีด้วยสายตาผิดหวัง ขณะนั่งคุยกันอยู่ในห้องรับแขก อธิปไม่เคยใจร้ายกับลูกแบบนี้ เขาเคยมีเหตุผลมากกว่านี้ แต่ตอนนี้เธอไม่เห็นเหตุผลอะไรที่สามีทำกับลูกขนาดนี้เลย
“อย่ามาโทษผมเลยน่า เพราะคุณเลี้ยงลูกแบบตามใจ ยัยมิวถึงได้นิสัยเสียแบบนี้ ไม่รู้จักเอาพวกพี่ๆเป็นแบบอย่าง” อธิปอดที่จะเปรียบเทียบลูกคนเล็กกับลูกคนอื่นๆไม่ได้ ลูกเขาไม่เคยมีใครดื้อเท่าอมิตาเลย แต่ถึงอย่างนั้นท่านก็ยังรักเธอมากกว่าลูกคนอื่นๆ
เพราะเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว ถึงได้หวงดังไข่ในหิน แต่นางหงส์ที่เริ่มออกจากไข่บินได้ตัวตัวเอง กลับไม่เคยเหลียวแลพ่อกับแม่ที่เฝ้าฝูมฟักมาเลย เอาแต่ใช้ชีวิตเพียงลำพัง ซ้ำยังไม่ระวังตัวจนเกิดเรื่องไม่ดีกับตัวเองอีก