“ปล่อยนะ ปล่อย” ร่างเล็กดิ้นรนหนีจากพันธนาการที่น่ารังเกียจ ถึงเธอจะดูเป็นคนแรงๆทั้งคำพูดและการแต่งตัว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะง่ายกับทุกคน และเธอก็รู้สึกรังเกียจมาก ถ้าผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่คนที่เธอรักมาแตะเนื้อต้องตัวแนบชิดแบบนี้
“คุณรู้ไหมว่าคุณสวยมาก ผิวคุณตอนนี้แดงก่ำน่ามองกว่าผิวปกติอีก แล้วอาการแบบนี้ กลัวหรือตื่นเต้นครับ” รอยยิ้มเหยียดหยันขัดกับคำพูดหวานหู ก้มลงพูดชิดลำคอระหง จมูกซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่น พร้อมกับกดริมฝีปากดูดลงไปแรงๆที่ลาดไหล่ขาวเนียน
“ดิ้นทำไม ในเมื่อคุณก็รู้สึกดี” เสียงหัวเราะขบขันส่งไปให้คนที่ดิ้นหนีสุดแรง รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีแรงหนี ยังพยายามจะทำอะไรที่มันเปล่าประโยชน์
“ได้โปรดปล่อยเถอะนะ” อมิตาขอร้องด้วยสายตาอ้อนวอน แม้จะรู้สึกวาบวามกับสิ่งที่ชายแปลกหน้าทำ แต่เธอไม่ต้องการแบบนี้ ไม่ต้องการให้ผู้ชายคนไหนมาทำร่องรอยบนตัวเธอทั้งนั้น
“อืม อยากจะปล่อยนะ แต่สีหน้าเมื่อกี้น่ารักจนอดใจไม่ไหวเลย”
ใบหน้าคลอน้ำตา ต่างจากใบหน้าที่ดูถือตัวของเธอ ถูกใจเขาเป็นอย่างมาก ผู้หญิงที่ดูพยศอย่างหนัก พออยู่ใต้ร่างกลับอ่อนปวกเปียก มือใหญ่ลงมือกระชากขอบชุดเดรสสีแดงรัดรูปแบบคอวีจากด้านบน จนมันขาดลงมาถึงกลางหน้าท้องขาวเนียน
ยิ่งเธอดิ้นรนขัดขืนและกรีดร้องเขายิ่งสนุก ถอดเนคไทที่ใส่อยู่ออกมาพันธนาการมือที่ยกมาทุบเขาไว้เหนือหัวของเธอ ก่อนจะทำตามใจตัวเองต่อ
“กรี๊ด! ออกไป ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
“จะร้องให้ใครช่วย ผมรู้ว่าคุณอยู่ที่นี่คนเดียว ตอนนี้เราอยู่ในห้องแล้วด้วย คอนโดหรูแบบนี้ดีเนอะ เก็บเสียงในห้องได้เป็นอย่างดีเลย ต่อให้ร้องดังแค่ไหนก็ไม่มีคนได้ยินหรอกครับ เก็บเสียงไว้ร้องครางตอนผมพาขึ้นสวรรค์ดีกว่า”
มือใหญ่ยกขึ้นบีบปากเล็กไว้แน่นขณะพูด เพื่อปิดเสียงร้องขอความช่วยเหลือน่ารำคาญของเธอ ทั้งที่ร่างกายเธอดูตอบสนองสัมผัสเขาแท้ๆ ทำไมต้องมาทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย
“อ่อย อั้นไอเออะ อออ้อง” ร่างเล็กสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว หยดน้ำตาไหลรินเป็นทาง สมองคิดหาทางออกจนปวดหนึบ ในขณะที่ร่างกายเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ
หน้าอกขนาดใหญ่ของเธอ ถูกบีบเคล้นอย่างแรงตามแรงอารมณ์ มือหนาอีกข้างยังคงปิดปากเล็กไว้แน่น เพื่อไม่ให้เธอส่งเสียงอะไรอีก ริมฝีปากก็ขมเม้มไปทั่วผิวกายที่โผล่พ้นชุดขาดหวิ่น
“อ่า ออกไอ อ่า อือ” ริมฝีปากเล็กถูกปิดกั้นโดยริมฝีปากที่เคยอ้อยอิ่งอยู่ตรงซอกคอ อมิตาเม้มปากไว้แน่น เพื่อไม่ให้ลิ้นน่ารังเกียจรุกล้ำเข้ามา ยิ่งเม้มแน่นเท่าไหร่ยิ่งรู้สึกเหมือนจะหมดสติ เพราะเธอกลั้นหายใจใช้แรงเรี่ยวทั้งหมดที่มี ต่อต้านสัมผัสที่กำลังรุกล้ำริมฝีปากเธออยู่
‘เฮีย หนูจะหมดแรงแล้วนะ ช่วยด้วย ช่วยด้วย’ เสียงกรีดร้องในใจ โหยหาเพียงชื่อเดียว ไม่รู้ทำไมต้องคิดถึงคนที่ไม่มีวันจะมาช่วยเราด้วย
ดวงตาคู่สวยปิดลงช้าๆ เมื่อยอมรับความจริงที่ว่า เธอไม่สามารถหนีไปได้อีกแล้ว ปิดกั้นสติตัวเองลงพร้อมกับกั้นลมหายใจ ถ้าต้องถูกไอ้นั่นของคนอื่นทิ่มแทงร่างกายที่เธอหวงแหน เธอยอมตายตอนนี้เลยดีกว่า
พลั่ก! ผวัะ! ผวัะ
ร่างสูงกระเด็ดไปตามแรงถีบจากเท้าปริศนา กำลังจะพลิกตัวกลับไปดู ก็ถูกหมัดซัดเข้าใบหน้าอย่างแรงสองที กำลังจะลุกขึ้นสู้ก็ต้องรีบลนลานหนีออกจากห้อง เมื่อเจอสายตาดุดันตรงหน้า ที่เหมือนจะฆ่าเขาให้ตายอยู่ในนี้
“อย่าคิดว่ามึงจะรอด!”
ภิภพกัดฟันแน่นจนเส้นเลือดข้างขมับขึ้นริ้ว เขาจำหน้ามันได้ดี เพราะมันเป็นคนเดียวกับที่คุยกับเธอตอนที่อยู่ห้าง เขาตามไปตอนนี้ไม่ได้เพราะมีคนที่สำคัญกว่านั้นนอนแน่นิ่งอยู่บนโซฟา แต่ไม่คิดจะปล่อยไอ้คนที่ลนลานหนี มีชีวิตรอดพ้นจากสิ่งที่ทำวันนี้แน่
“มิว! มิว!”
มือหนาประคองใบหน้าซีดเซียวไว้เบาๆ สำรวจร่างกายเธอทุกส่วนพร้อมกับกัดฟันแน่นขึ้น ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเขาไม่ตามเธอมา เรื่องวันนี้จะจบลงแบบไหน
อมิตาเป็นคนระมัดระวังตัวเรื่องผู้ชายพอสมควร นั่นเป็นสิ่งที่เขารับรู้ได้ตอนที่เธอเอาตัวมาผูกติดอยู่กับเขาตลอดสองปี ช่วงนั้นเธอไม่เคยให้เบอร์ใครเลย แทบจะไม่เคยให้ผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่เขาเฉียดเข้าใกล้ด้วยซ้ำ แต่ไม่คิดว่าวันนี้เธอจะกล้าให้ที่อยู่คอนโดกับผู้ชายคนอื่นไป
ภิภพอุ้มร่างที่หมดสติเข้าไปในห้องนอน วางเธอลงช้าๆ แก้มัดให้เธอเป็นอิสระ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ กลับออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวชุบน้ำ เช็ดหน้าเช็ดตาให้เธอก่อนเป็นอันดับแรก
เขาไม่เคยต้องมาทำอะไรแบบนี้ ไม่ได้รู้สึกชอบใจกับสิ่งที่ทำเลย ยิ่งเห็นรอยพวกนั้นตามลำคอยิ่งไม่ชอบใจ มือหนาถูตามรอยแดงหวังจะให้มันหายไป แต่ยิ่งถูดูเหมือนมันจะยิ่งแดงขึ้นกว่าเดิม
“แม่ง!” ภิภพปล่อยมือออกจากผ้า เสยผมตัวเองแรงๆเพื่อเรียกสติ ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วนี่นา ทำไมต้องรู้สึกแบบนี้ด้วย รู้สึกโกรธ โมโห เห็นใจ สงสาร อยู่กับเธอแล้วเขาเหมือนจะเป็นบ้าตลอดเวลา
Tru Tru Tru
ภิภพเดินออกไปหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเธอ จัดการปิดเสียงดังน่ารำคาญของมันแล้วโยนทิ้งไปบนโซฟา ทิ้งตัวเองลงไปบนโซฟาพลางหลับตาแน่น เพื่อปิดกั้นสติของตัวเองออกจากเรื่องของเธอ
เขาควรออกไปตอนนี้ ถ้าไม่ไปเขาจะไม่สามารถออกไปได้อีก จะไม่สามารถหนีจากความรู้สึกที่มีต่อเธอได้ เขาต้องรีบออกไปเดี๋ยวนี้
‘เฮีย วันเกิดปีนี้ขออะะไรที่พิเศษๆหน่อยได้ไหม’
‘….’
‘น่านะ แค่ปีละครั้งเอง วันเกิดเฮียหนูยังสั่งทำพิเศษให้เลย เอาสร้อยรูปดาวนะเฮีย ใช้ทองคำขาวทำ ถ้าเป็นดาวคู่เดือนด้วยยิ่งดี’
‘ทำไมต้องดาว ไม่มีเดือนไม่ได้รึไง แล้วทองคำขาวมันแพงไม่รู้เหรอ’
‘เหอะน่า แค่ชอบเฉยๆ สร้อยเส้นไม่กี่บาทเอง เงินเดือนเลขาก็ซื้อได้น่า’
‘ไม่รับปากหรอก อย่าคาดหวังเลย’
ภิภพหยิบสร้อยทองคำขาวที่มีจี้รูปดาวกับจี้กลมๆที่เหมือนกับเดือนขึ้นมาดู สร้อยที่เขาเป็นเดินทางไปที่ร้านขายเครื่องประดับเพื่อสั่งทำมันขึ้นมา
ไม่รู้ว่าเขามีดีตรงไหนเธอถึงได้ยึดติดขนาดนี้ พูดดีด้วยเหรอก็ไม่เคยทำเลยสักครั้ง ถ้าเธอไม่วางแผนต่างๆนานามีหรือเขาจะยอมทำดีด้วย ทำร้ายหัวใจเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เธอก็ยังไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด ทุกๆอย่างที่เคยอยู่ในห้องนี้ มีแต่ของที่เขาชอบทั้งนั้น ไม่รู้เธอสรรหามาจากไหน และไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ยอมเก็บไปทิ้ง
ภิภพเก็บสร้อยใส่กระเป๋าเหมือนเดิม มันไม่ได้ขาดแต่เขายังไม่อยากคืนเธอตอนนี้ ตัดสินใจเดินกลับเข้าไปในห้องนอน เพื่อดูว่าอาการเธอดีขึ้นหรือยัง ถ้าดีขึ้นแล้วเขาจะได้กลับซะที กลัวเหลือเกินถ้าต้องอยู่กันตามลำพัง เขาไม่กลัวเธอ แต่กลัวใจตัวเองนี่แหละ ที่มันหวั่นไหวกับเรื่องของเธอทุกครั้ง ตั้งแต่วันที่ตัดสินใจบอกลาเธอ