ตอนที่ 5 เธอหรือเขาที่ผิด? 100%

3691 Words
ตอนที่ 5 เธอหรือเขาที่ผิด? “ค่ะ ฝันดีเช่นกันค่ะ”               แก้วกัญญาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า หยดน้ำอุ่นร้อนใสๆ มันไหลกลิ้งอาบแก้มตอนไหน หลังจากวางสายถึงได้เช็ดมันออกไปจากใบหน้า ในใจก็คิดไปว่า งานด่วนของเขาคืองานบนเตียงกับผู้หญิงคนนั้น ทั้งๆ ที่ช่วงหัวค่ำเขาก็เพิ่งขอคบกับเธอ?               จะเอาอย่างไรต่อไปดี... กล้าใช้หัวใจที่มีเดิมพันกับเขางั้นเหรอ?               ถึงคิดว่าจะเดินทางกลับเอง แต่ก็ต้องหยุดความคิดนั้นไว้ เมื่อเดินมาถึงร็อบบี้ของโรงแรมก็เจอร่างหนาคุ้นตารออยู่ แก้วกัญญาจำต้องให้เขามาส่ง และกะว่าจะบอกให้เขาเลิกติดต่อ ทว่าไม่ทันขยับริมฝีปาก มือหนาก็คว้ากระเป๋าในมือไปถือซะงั้น กระทั่งตอนนี้ที่นั่งอยู่บนรถด้วยกัน อรรคณิตพูดคุย เฮฮาเป็นปกติ จนแก้วกัญญาต้องห้ามบ่อยครั้ง พร้อมบอกว่าต้องการพักผ่อน เขาจึงเงียบเสียงลง ทว่ามาได้ถึงครึ่งทางก็ต้องขยับปากบอกเขาด้วยความรำคาญปนเจ็บหยอกในอก “รับสายสิคะ” ก็สมาร์ทโฟนนั่นน่ะ สั่นเสียงดังครืดๆ นานติดต่อกันหลายนาที แต่เจ้าของก็ไม่ยอมรับสาย ให้ตายเถอะ!               อรรคณิตมองเบอร์ที่ขึ้นโชว์หน้าจอ แต่ก็เกรงใจคนนั่งข้างๆ “แต่ว่า” แก้วกัญญามองหน้าเขา แล้วเอ่ยบอกตามความรู้สึกที่ควรจะเป็น ทั้งๆ ที่ข้างในส่วนลึกนั้นเธอไม่ได้ต้องการแบบนี้               “ถ้าคุณติดธุระ คุณไม่ต้องไปส่งฉันก็ได้ค่ะ”               “คือผม” ผู้กองหนุ่มมีธุระสำคัญจริงๆ และเบอร์ที่โทรหานั้นเป็นเบอร์ใหม่ของ ‘คนสำคัญ’ ที่ไม่ได้บันทึกเอาไว้ ซึ่งเขาก็พอรู้ว่าเป็นใคร แต่แก้วกัญญาสิ! กำลังเข้าใจผิดคิดว่าเขาติดพันกับแฟนอยู่ และคงโทรมาตาม...               ครูสาวมองหน้า จ้องตาแล้วเอ่ยบอก               “อย่าทำให้ฉันรู้สึกผิดไปเกินกว่านี้เลยนะคะ เผื่อคนโทรมาเขามีธุระสำคัญจะคุยกับคุณ”                เหมือนพยายามยัดเยียดให้คนกำลังขับรถรับโทรศัพท์ให้ได้ ซึ่งอรรคณิตเองก็อยากจะรับสาย แต่เกรงใจคนนั่งข้างๆ และถ้าเขารับสายโอกาสจะได้กลับมาหาเธออีกครั้งก็ยาก เพราะคิดว่าฝ่ายนั้นคงมีธุระสำคัญถึงได้โทรมากระหน่ำแบบนี้ ผู้กองหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “แล้วคุณจะกลับอย่างไรครับ นี่มันกลางป่านะ มันอันตราย”               “ฉันสบายมากค่ะ” พูดจบส่งยิ้มหวานมอบให้ กลบเกลื่อนความรู้สึกภายในที่ฝังไว้ ซึ่งในคราแรกอรรคณิตเองก็คิดหนัก ก่อนจะตัดสินใจในเวลาต่อมา...               “งั้นผมจอดตรงนี้นะ”               “ค่ะ”               แก้วกัญญาไม่พูดพร่ำทำเพลง เมื่อเขาจอดรถเธอก็ลงมา พร้อมสัมภาระหนึ่งใบใหญ่ๆ ใช่ว่าจะไม่รู้สึกรู้สาใดๆ เพราะอรรคณิตติดตามด้วยความเป็นห่วงตลอดเวลา               เป็นเวลาไม่กี่นาทีรถหรูวิ่งย้อนกลับมาทางเดิม หวังจะทำธุระทว่าต้องเปลี่ยนวิถีการเดินทางอย่างกะทันหัน สมองไม่ได้สั่งแต่ใจทั้งสี่ห้องต่างหากล่ะ ที่สั่งให้เขาหักพวงมาลัย ถอยรถ แล้วย้อนกลับมาหาเธออีกครั้ง คนที่โดนทิ้งไว้กลางทาง...               ส่วนธุระนั้นได้สั่งให้ลูกน้องซึ่งเป็นผู้ช่วยในการทำคดีทำหน้าที่แทนสักพัก พร้อมกับขอลาอย่างเร่งด่วนสามวัน เพื่อไปพบว่าที่พ่อตาที่เชียงใหม่               นับว่าโชคดีเหลือเกิน เมื่อตีรถย้อนกลับมาแล้ว เห็นร่างคุ้นตาเดินอยู่ริมถนน ดีเหลือเกินที่ไม่มีใครฉุดเธอไปทำมิดีมิร้าย อรรคณิตรีบจอดรถแล้วลงมาแย่งกระเป๋าในมือบางไปเก็บไว้ตามเดิม ก่อนจะบอกให้เธอขึ้นรถ ซึ่งในคราแรกครูสาวทำท่าจะปฏิเสธ แต่พอเขาบอกว่าเคลียร์ธุระเรียบร้อยพร้อมหยิบยกเอาเรื่องการถูกฉุดในเส้นทางแห่งนี้มาเล่า เธอก็รีบขึ้นรถโดยเร็ว ใช้เวลาในการเดินทางจากเชียงรายมาเชียงใหม่ร่วมชั่วโมง…   ภายในห้องรับแขกของบ้าน... คนนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้สานอย่างอรรคณิตขนหัวลุกเกรียว เพราะว่าที่พ่อตาไม่ใช่ใครที่ไหนหากแต่เป็นลุงดาบหรือลุงกร กรกฏ นั่นเอง เขาคุ้นเคยมาแต่เด็กเพราะลุงดาบทำงานรับใช้พ่อเขามาเป็นเวลานานจนกระทั่งสิ้นอายุราชการ แล้วทำไมท่านจะไม่รู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร ลูกสาวคนเดียวท่านหวงยิ่งกว่าไข่ในหิน แล้วแบบนี้เขาจะได้คบกับลูกสาวท่านไหม? อยากจะบีบโลกให้มันบิดเบี้ยวไปมากกว่านี้นัก! และตอนนี้รังสีอำมหิตของว่าที่พ่อตาก็แผดแผ่มาซะเขาจะไหม้เกรียม “ลูกสาวผมมีคนเดียวนะผู้กอง อย่ามาคิดเล่นๆ เหมือนผู้หญิงคนอื่น” “ทำไมล่ะครับ” คนถามไม่ย้อนดูพฤติกรรมตนเองเลยว่าเป็นแบบใด ทำไมว่าที่พ่อตาถึงได้พูดแบบนั้น? “ผมไม่อยากเห็นลูกสาวผมนั่งร้องไห้น้ำตาเช็ดหัวเข่า เมื่อรู้ข่าวว่าสามีไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย ใครๆ เขาก็รู้ว่าผู้กองเจ้าชู้” จะไม่เจ้าชู้ได้ไง ก็ตระกูลนี้เจ้าชู้มาตั้งแต่บรรบุรุษ เจ้าชู้มาเป็นทอดๆ นี่ยังไม่นับรวมน้องชายของผู้กองอีกคน ซึ่งนายดาบหลังวัยเกษียณรู้ดี นัยน์ตาคมดุหรี่มองพร้อมเฝ้ารอคำตอบว่าจะเป็นอย่างไร “แต่ผมรักลูกสาวลุงดาบจริงๆ นะครับ” “รักหรือใคร่กันแน่” เพราะคำว่า ‘รัก’ ที่สรรหามาหลอกลวงหวัง ‘ฟัน’ นี่ล่ะเชื่อไม่ได้ ยิ่งลูกสาวเพียงคนเดียวเป็นพวกไม่ทันคนก็ยิ่งเป็นห่วง ถ้ามาตกบ่วงเล่ห์ของหมาป่าอย่างคนตรงหน้ามีหวัง ไม่รอดแหงๆ “รักครับ รักมาก อยากเอามาทำแม่ของลูก” “หึ!” คนผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะแสยะยิ้ม อรรคณิตมองหน้าลุงดาบ แล้วพร่ำอ้อนวอน “ขอผมได้ศึกษาดูใจกับลูกสาวลุงดาบเถอะครับ ผมสัญญาว่าจะดูแลเธอเป็นอย่างดี จะไม่ทำให้เธอเสียน้ำตาผมสัญญา” “คำสัญญาก็แค่ลมปากครับผู้กอง จะเชื่อได้สักเท่าไรกันเชียว” “ถ้าผมทำผิด หรือทำให้ลูกสาวลุงดาบเสียใจ ยิงกระบาลผมได้เลยครับ ผมอนุญาต” คนหวงลูกสาวยิ่งกว่าจงอางหวงไข่ หัวเราะหึๆ แล้วประกาศกร้าว “ดี! จำและรักษาคำพูดของผู้กองเอาไว้ ถ้าพลาดขึ้นมา!!” “ตายสถานเดียว” เสียงเข้มของผู้กองหนุ่มแทรกขึ้นมา แม้จะหวาดเสียวอยู่บ้างก็ตาม  “ใช่! ถึงผมจะเป็นแค่ดาบแต่แม่นปืนนะ ผู้กองน่าจะรู้ดี” ทำไมจะไม่รู้ล่ะ ในเมื่อครูสอนยิงปืนคนแรกคือตำรวจยศดาบตรงหน้า เนื่องจากว่าบิดาของแก้วกัญญาเป็นลูกน้องบิดาตน ตอนเป็นเด็กเขามักจะชวนลุงดาบไปดวลปืนเสมอ เด็กชายตัวน้อยจะยิ้มและชมเปราะเมื่อลุงดาบโชว์ฝีไม้ลายมือให้ดู พร้อมกับอ้อนให้ท่านถ่ายทอดวิชาให้… “ครับ…ผมทราบดี…”            หลังจากรับประทานอาหารมื้อเที่ยง(ที่ได้ทานตอนคล้อยบ่าย) เสร็จเรียบร้อย อรรคณิตก็เข้าห้องเย็นเฉียบอีกครั้ง และคราวนี้ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวแต่รวมถึงหญิงสาวด้วย ซ้ำยังได้ ‘ด่าน’ สำคัญอีกท่านเพิ่มเข้ามา คือ พี่ชายของแก้วกัญญานั้นเอง พ่อหวงลูกสาวมากแค่ไหน พี่ชายก็หวงน้องสาวมากเช่นนั้น เพราะทุกคนในบ้านต่างรัก ห่วง และหวงหญิงสาวเป็นพิเศษ อรรคณิตมองหน้าว่าที่พ่อตาแล้วน้ำลายเหนียวหนืด แม้แต่กลืนน้ำลายลงคอก็เกรงใจจะปริปากเอ่ยถ้อยคำใดๆ ออกมาก็ไม่กล้า ส่วนแก้วกัญญาที่เพ่งมองหลักฐานในมือบิดาแล้วอยากอธิบายความเป็นมาเหลือเกิน แต่เธอยังทำอะไรไม่ได้               “ภาพนี้เป็นไง มาไงครับผู้กอง” ถามว่าที่ลูกเขยเสียงเข้มห้วน เพิ่งพูดกันไปไม่ทันไรมีคดีใหม่เข้ามาอีกแล้ว และบุคคลในภาพทั้งสองไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนส่ง ‘ภาพ’ นั้นมา               เพราะว่าตอนนี้ทั้งอรรคณิตและแก้วกัญญาต่างเซอร์ไพร์สด้วยกันทั้งคู่               “คุณพ่อคะ ภาพนั้น” ครูสาวอยากอธิบาย ทว่าต้องพับเก็บไว้ เมื่อเสียงเข้มทรงพลังตวาดกลับอย่างไม่ใคร่พอใจ               “พ่อถามผู้กอง เราไม่ต้องตอบ” แก้วกัญญาก้มหน้างุด ส่วนอรรคณิตก็ไม่ได้หวั่นเกรงแต่อย่างใด ในเมื่อเขาพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว เพราะผู้หญิงที่ชื่อแก้วกัญญาเขาพร้อมจะดูแลและรับผิดชอบทุกอย่าง เหตุผลใดก็ไม่สามารถอธิบายได้เช่นกัน               “ไปเที่ยวกันครับ ก็ตามภาพนั่นแหละครับ” ตอบอย่างไม่ยี่หระ แก้วกัญญาได้ยินแล้วเกิดความไม่พอใจ เขาน่าจะอธิบายให้ชัดเจนมากกว่านี้                 “คุณ!!!” จะไม่ให้เสียงสูงได้ไง ในเมื่อภาพนั้นเธอเสียหาย เขายืนโอบไหล่ใกล้ชิด และใบหน้าหล่อคมนั่นมันก็อยู่ใกล้ๆ ใบหน้านวลผ่องของเธอ แล้วถ้าเกิดภาพมันเล็ดลอดออกไปสู่สายตาสาธารณชนล่ะ?               นายกรกฏมองสองหนุ่มสาวที่ตอนนี้กำลังชักสีหน้าและสายตาใส่กันอยู่ครู่หนึ่ง จึงตัดสินใจเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง               “ผู้กองจะเอาไงครับ               นอกจากนายกรกฏแล้วทุกคนที่นั่งรวมกันต่างรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ แก้วกัญญามองหน้าชายหนุ่มด้วยหัวใจที่เต้นแรงตึกๆ เพราะอยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะมีวิธีการแก้ปัญหาอย่างไร ในเมื่อเขายังมีใครอีกคนซ่อนเอาไว้               ทว่าคำตอบที่หลุดออกมาจากริมฝีปากหยักของผู้ชายที่รักและหวงความโสดยิ่งชีพนั้น ทำให้ทุกคนในที่นี้ตกใจ!               “ผมพร้อมรับผิดชอบเสมอครับ ลูกผู้ชายกล้าทำ กล้ารับ”               “คุณณพ!” แก้วกัญญาตวาดเรียกชื่อเสียงดัง ไม่เข้าใจผู้ชายอย่างเขาเหมือนกันว่าทำไมไม่อธิบายทุกอย่างให้มันรู้เรื่อง และเคลียร์ๆ ทั้งสองฝ่าย ดีกว่าการมายืดอกรับผิดชอบเพียงเพราะภาพถ่ายแผ่นเดียว               และไม่ใช่แต่แก้วกัญญา หากว่าพี่ชายอย่างกันต์นกรก็ไม่ใคร่พอใจ                 “ผมไม่ยอมให้ยัยแก้วแต่งงานกับไอ้ตำรวจเจ้าชู้นี่เด็ดขาด!”               นางนาถกัญญาที่เงียบอยู่นานได้ยินลูกชายคนโตพูดแล้ว ย่นจมูกใส่ ก่อนจะเอ่ยเหน็บออกมา “น้องเราโตแล้วนะตากันต์ ไม่มีแฟนน่ะเรื่องแปลก! แล้วก่อนจะว่าใครเจ้าชู้น่ะ กรุณาย้อนดูตัวเองหน่อยเถอะ” ก็เมื่อสองวันก่อน ลูกสะใภ้ยังโทรมาร่ำๆ ให้ฟังว่าสามีชอบออกไปกินข้าวนอกบ้าน ดึกๆ ค่อยกลับเข้ามา และยังมีผู้หญิงโทรหาอีก เดี๋ยวเสร็จธุระจากตรงนี้เถอะ จะได้อบรมพ่อคนเจ้าชู้ไม่หยุด อีกยาว! “แต่คุณแม่ครับ” นอกจากไม่อยากให้น้องสาวมีแฟนแล้ว กันต์นกรยังไม่ชอบว่าที่น้องเขย ข้อหาเจ้าชู้เกินเหตุ เพราะเขาก็พอรู้กิตติศัพท์มาบ้าง เนื่องจากสายงานค่อนข้างใกล้เคียงกัน ทว่านางนาถกัญญาหาได้สนใจ “ไม่ต้องพูดมาก เงียบไปเลย” ปรามลูกชายเสร็จเรียบร้อย เสียงห้วนกร้าวผู้เป็นสามีดังแทรกขึ้น! “แต่ผมไม่ยอม ถ้าจะคบแบบจริงใจต้องทำอะไรที่มันไว้ใจได้” “อย่างไรครับ” อรรคณิตโพล่งถาม ซึ่งเป็นการดีสำหรับทุกคนที่นั่งรวมอยู่ในนี้ด้วย เพราะต่างพากันอยากรู้สุดๆ “หมั้น” คำประกาศิตนั้นราวกับฟ้าผ่าลงกลางหน้า! ทุกคนที่นั่งรวมกันต่างอุทานออกมาอย่างพร้อมเพรียง! “หมั้น!!!” แก้วกัญญาตั้งสติได้ก่อนใครเพื่อนรีบแย้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ทุกอย่างเลยเถิดไปเกินกว่านี้ “ไม่นะคะคุณพ่อ ไปเที่ยวครั้งนั้นเราไม่ได้เกินเลยกันนะคะ” ข้อนี้เชื่อ เพราะตนกับภรรยาเลี้ยงลูกสาวเพียงคนเดียวมากับมือ รู้ดีว่าแก้วกัญญาเป็นอย่างไร หญิงสาวไม่มีทางชิงสุกก่อนห่ามแน่นอน แต่ภาพถ่ายใบนั้นกอรปกับอาชีพที่ลูกสาวเขาทำอยู่ล่ะ? “มันเสียหายต่อเรานะลูก ยิ่งหนูเป็นถึงครู หนูควรเป็นตัวอย่างที่ดี ทำให้ทุกอย่างให้มันถูกต้องตามหลักประเพณีไม่ใช่เหรอ?” แก้วกัญญาฉุกคิดตาม ในขณะเดียวกันอรรคณิตก็ค่อนข้างเป็นห่วง กลัวว่าภาพเหล่านี้จะมีผลต่อการประกอบอาชีพของเธอ เขาจึงตัดสินใจเอ่ยแสดงความคิดเห็นด้วยความเต็มใจ “ผมเห็นด้วยกับพ่อคุณนะครับ ครูแก้ว” “แต่ผมไม่เห็นด้วย” นางนาถกัญญาได้ยินเสียงแทรกของลูกชายแล้วหันขวับพร้อมกับแย้งอย่างทันที ไม่รู้ว่ามันจะหวงน้องไปถึงไหน แค่นี้ก็แก่แล้วนะเออ! เกินนี้ไปคงไม่มีใครเอาแล้ว คานทองเงางามก็ลอยเข้ามาใกล้ทุกวัน โชคดีขนาดไหนที่ยังมีผู้ชาย ‘ตาถึง’ เข้ามาสนใจ “แต่แม่เห็นด้วย! มีใครจะกล้าขัดไหม! ขอฤกษ์สะดวกเลยนะคะผู้กอง” ชิงบอกออกไป ซึ่งโดนใจอีกคนเอามากๆ “ยินดีอย่างยิ่งครับ เดี๋ยวผมโทรบอกคุณพ่อ คุณแม่ครับ พอดีท่านไปเยี่ยมญาติที่ต่างประเทศ แต่ไม่เกิน 3 วัน ผมจะพาท่านมาทำการหมั้นลูกสาวของลุงดาบและคุณป้าครับ” “แต่งได้เร็ววันเท่าไรยิ่งดีค่ะ” “คุณ! / คุณแม่!!” นอกจากแก้วกัญญา นายกรกฏผู้เป็นพ่อก็ตกใจไม่แพ้กัน ไม่คิดว่าภรรยาที่รักจะใจร้อนเพียงนี้ ครูสาวมองหน้าว่าที่คู่หมั้น(ซึ่งเลื่อนขั้นเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา) “แต่แก้วว่าเรื่องนี้มันต้องใช้เวลานะคะ จะปุ๊บปั๊บแบบนี้ไม่ได้” “ไม่ปุ๊บปั๊บ แล้วแม่จะมีโอกาสได้อุ้มหลานไหมล่ะ” เจอคำถามย้อนกลับแบบนี้ แก้วกัญญาก็ยากที่จะปฏิเสธ “ใช่ครับ” อรรคณิตเสริมท้ายและแอบชมว่าที่แม่ยายซึ่งพูดได้ตรงใจเขาสุดๆ ก่อนจะเอ่ยบอกกับบุพการีทั้ง สองของครูสาว “เดี๋ยวเย็นนี้ผมโทรบอกคุณพ่อ คุณแม่นะครับ ” “จ้ะ” เจ้าของใบหน้าสวยหวานพิมพ์เดียวกันกับแก้วกัญญาขานรับ พร้อมกับยิ้มจนตาหยี ก็เธอดีใจนี่นา ดีใจที่ลูกสาวเพียงคนจะขายออกสักที หลังจากไม่มีชายใดได้แวะเวียนเข้ามาหา ตลอดระยะเวลาร่วมยี่สิบห้าปี ส่วนคนหวงลูกสาวยิ่งกว่าจงอางหวงไข่น่ะนะ นั่งหน้าบอกบุญไม่รับ ส่วนคนหวงน้องเกินเหตุก็ได้แต่บ่นพึมพำทว่าทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อคนใหญ่สุดในบ้านตกปากรับคำไปแล้ว ส่วนแก้วกัญญาก็ขัดไม่ได้ หญิงสาวจึงปล่อยเลยตามเลย เพราะอย่างไรแล้ว คนเราต้องแต่งงาน ส่วน ‘คู่ชีวิต’ นั้นจะดีหรือเลวก็แล้วแต่บุญพาวาสนาแต่ง เธอเชื่อเช่นนั้น เธอเชื่อว่าคนทำดีมาตลอดชีวิต ต้องได้รับผลตอบแทนที่ดี เธอเชื่อ... “คุณงอนผมเหรอ” คนตัวใหญ่เอ่ยถามเมื่ออยู่กันตามลำพัง หลังจากขออนุญาตว่าที่พ่อตาพาแก้วกัญญาออกมาเดินเล่นอยู่สวนสาธารณะใกล้ๆ เพื่อพูดคุยถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แก้วกัญญาไม่เชื่อเลยว่า เวลาแค่ปุ๊บปั๊บความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาจะเปลี่ยนไปเร็วขนาดนี้และยังเคลือบแคลงอยู่ว่าเขาจะเอาอย่างไร เพราะเมื่อคืนพ่อคุณนั่งดินเนอร์กับผู้หญิงคนหนึ่ง ตอนเธอโทรหาก็ได้ยินเสียงหวานเซ็กซี่ของผู้หญิงดังเข้ามากระทบโสตประสาท และเธอเสียน้ำตาไปแล้วเรียบร้อย พอมาวันนี้ก็พูดเรื่องหมั้นหมายซะเป็นทางการ ตกปากรับคำกับพ่อแม่ของเธอเรียบร้อย ให้ตายเถอะ! นี่เหรอผู้ชาย?... บอกเลยว่าไม่เข้าใจจริงๆ เขาคิดอะไร? แล้วเธอล่ะจะทำยังไง? “ไม่ได้งอน แต่ฉันคิดว่ามันเร็วไป” ครูสาวตอบ “ไม่เร็วหรอกครับ หมั้นไว้ ดูใจสักพักแล้วก็แต่ง จะได้มีลูกทันใช้ไง แม่คุณยังบอกเลยว่าอยากอุ้มหลาน” บอกอยากอุ้มหลาน แต่ไม่ถามคนที่จะอุ้มท้องสักคำ ว่าต้องการแบบนั้นไหม? “คุณจริงจังขนาดนั้นเลยหรือคะ” บอกตรงๆ เลยว่าเธอยังไม่ไว้ใจผู้ชายคนนี้นัก! ก็เขามันเพลย์บอยตัวพ่อนี่นา! อรรคณิตจ้องนัยน์ตาคู่งามผ่านกรอบแว่นนั้นเข้าไป มองสบตาอยู่สักพักแล้วจึงยกขยับปากหยักเร้าใจเอื้อนเอ่ย “ไม่จริงจังผมจะยอมหมั้นกับคุณหรือครับ ถึงผมจะแรดไปทั่ว มั่วไม่เลือกหน้า แต่ว่าผมหวงความโสดนะครับ ถ้าไม่ใช่แม่ของลูกจริงๆ ผมไม่ยอมตกลงอะไรง่ายๆ หรอก” กล่าวออกไปจากข้างในส่วนลึกจริงๆ หญิงสาวหรี่ตามองแล้วยื่นคำถามหยั่งเชิงลงไป “แน่ใจนะคะ ไม่ใช่ว่าหมั้นกันแล้วฉันต้องมานั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่า” ใครจะชอบกันเล่าแต่งแล้วหย่า ถ้าจะแต่งหย่า ไม่ต้องแต่งจะดีกว่า บอกตรงๆ เลยว่าตอนนี้เธอเป็นกังวลไปซะทุกอย่าง อรรคณิตมองตาแล้วเอ่ยเสียงทุ้ม “แน่ใจสิครับ” แม้ได้ยินคำยืนยันจากปากคนตัวใหญ่แล้ว ทว่า... “แต่ฉันไม่ไว้ใจคุณอยู่ดีค่ะ เสือย่อมเป็นเสือวันยังค่ำ” “แล้วคุณจะให้ผมทำยังไงล่ะฮึ! ถึงจะไว้ใจ” ผู้ชายคนนี้กำลังหว่านล้อมเธอด้วยคำพูดและสายตาใช่ไหม? เท่านั้นยังไม่พอพ่อคุณขยับกายใหญ่บึกบึนเข้ามาใกล้ๆ ให้ตายเถอะ! ใจเต้นแรงโคตรๆ แก้มนี่แดงเถือกหมดแล้วววว^^ หญิงสาวพยายามดึงสติให้กลับคืนมาอยู่กับเนื้อกับตัว สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วขยับกลีบปากนุ่มสีแดงระเรื่อเอ่ยบอก “ทำอย่างไรก็ได้ ที่ไม่ให้บรรดาเมียทั้งหลายของคุณมาถล่มฉันค่ะ” แค่นี้เหรอที่แม่คุณต้องการ แล้วคิดหนักซะจนหน้าดำคร่ำเครียด! “เรื่องแค่นี้ไม่ใช่ปัญหาครับ คุณไว้ใจผมได้” ก็หลังจากขอคบกับเธอน่ะ เขาได้บอกเลิก ‘คู่ขา’ คนล่าสุดไปแล้ว ได้ยินเช่นนั้นหญิงสาวย่นจมูกแล้วส่งค้อนวงงามให้ ก่อนจะค่อนแขวะเบาๆ “ไว้ใจใครง่ายๆ ก็ไม่ใช่ฉันสิคะ” นี่ล่ะคือเธอ คนที่เขาอยากจับมาทำแม่ของลูก มีอะไรที่แปลกและประหลาดหลายๆ อย่าง ต่างจากผู้หญิงทั่วๆไป และต่างจากผู้หญิงหลายคนที่เขาเคยรู้จัก อรรคณิตมองกลีบปากเล็กกระจับที่ขยับขึ้นลงด้วยความมันเขี้ยว ขณะเดียวกันก็นึกขำ ไม่รู้ว่าแม่คุณจะอะไรนักหนา เขารู้หรอกนะ ว่าการจะหยุดอยู่ที่ใครคนหนึ่งแล้วควรทำอย่างไร “คิดเล็ก คิดน้อย คิดไปเรื่อย คิดเยอะแบบนี้เดี๋ยวก็แก่กว่าเดิมหรอกครับ” ยิ้มขำพลางกลั้นหัวเราะจนหน้าแดง ก็หน้าแม่คุณตอนนี้สิ ตลกเป็นบ้า! ไม่รู้จะจริงจังไปไหน! “นี่! คุณว่าฉันแก่เหรอคะ” ไม่รู้หรือไงว่าผู้หญิงโดนกล่าวหาว่า ‘อ้วน’ และ ‘แก่’ นี่มันปัญหาโลกแตกเชียวนะ คนบ้า!! “ไม่มั้งครับ ฮ่าๆ” “คุณณพ!” นอกจากทำหน้ายุ่ง แม่คุณยังทิ้งสายตาขุ่นค้อนให้ “เลิกทำหน้างอได้แล้วน่า” มือหนายื่นมายีศีรษะทุยสวยได้รูปอย่างมันเขี้ยว ขณะเดียวกันครูสาวตวัดสายตามองอย่างแง่งอนตามประสา แต่ก็ไม่ได้อะไรมากมาย ผ่านไปหลายอึดใจ แก้วกัญญาถึงได้เอ่ยกับคนตัวใหญ่ด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเป็นกังวล ซึ่งหญิงสาวก็ไม่เคยพูดกับใครในเรื่องนี้ แต่ชายหนุ่มคือคนที่จะมาเป็นสามีในอนาคต ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ พูดเลยดีกว่า จะได้ไม่ค้างคาใจ “คุณณพคะ บางทีฉันอาจจะไม่ดีอย่างที่คุณคิดนะ” ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ลุ้นจนตัวโก่งว่าเขาจะตอบกลับมาอย่างไร แต่แล้วคำตอบที่ได้... “ผมไม่สนครับ ผมรู้แต่ว่าตอนนี้คุณคือผู้หญิงที่ผมเลือก เลือกมาเป็นคู่ชีวิต และเลือกมาเป็นแม่ของลูกผม” ถึงจะโล่งใจไปหนึ่งเปลาะ แต่ก็ยังไม่หายกังวลอยู่ดี ซึ่งมันเป็นข้อเสียที่เธอมี มักกังวลนั่นนี่สารพัด! “แต่ว่าฉันยัง...” “ไม่มีคำปฏิเสธใดๆ ทั้งนั้น ผมพร้อมจะเป็นปัจจุบันของคุณ ที่ผ่านมาไม่ว่าคุณจะเจออะไร จะเจ็บช้ำจากใครผมไม่สนใจ ผมจะเป็นคนลบภาพเหล่านั้นเอง เชื่อผม ไว้ใจผมนะครับ” มือหนาเลื่อนมากุมมือบางแล้วบีบเบาๆ เรียกความมั่นใจ นัยน์ตาของสองหนุ่มสาวเชื่อมประสานกัน ความอุ่นวาบเกาะกินทุกซอกอณูเนื้อหัวใจ “ค่ะ ฉันจะพยายาม” “พูดง่ายๆ แบบนี้แหละดี เดี๋ยวเลี้ยงหนม” มือหนาเลื่อนมายีศีรษะทุยสวย ส่วนคนรู้ตัวว่าโดนแขวะก็ได้แต่โต้ตอบเสียงดัง   “ฉันไม่ใช่คนเห็นแก่กินขนาดนั้นนะคะ” เห็นค้อนงามๆ ปากยื่นๆ นี่มันเขี้ยวมากๆ คนอะไรเห็นแล้ว น่าฟัด เอ๊ย! น่ารักโคตรๆ “เอาน่า เดี๋ยวผมพาไปเดินถนนคนเดิน แล้วจะเลี้ยง อยากกินไรบอกมา ป๋าจะได้จัดให้!” ด้วยความหมั่นไส้ครูสาวจึงสัพยอกกลับคืนเบาๆ “คงทำบ่อยสิท่า ชิ!” กิริยาอาการที่แสดงออกมาอรรคณิตเห็นแล้วถึงกับคิดขำๆ ในใจ... นี่ยังไม่แต่งงานแม่คุณยังหึงขนาดนี้! ถ้าแต่งงานกันไปจะขนาดไหน แต่ช่างเหอะ เพราะเขาเองก็ต้องการให้ว่าที่เมีย ‘หึงและหวง’ จะได้ดูเป็นคนสำคัญ...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD