Chapter 5 อาบน้ำ ขัด ถู
จือหยวนปัดป้องเล็กน้อย ปล่อยให้นางได้ตีเขาอย่างที่ต้องการโดยที่เขารู้สึกราวกับว่ากำลังถูกบีบนวดมากกว่าถูกทุบตีเสียด้วยซ้ำไป
“เรี่ยวแรงของสตรีนั้นช่างบอบบางและน่าเอ็นดูยิ่งนัก เจ้าว่าหรือไม่”
กำปั้นน้อยๆ หยุดกึกเมื่อได้ยินคำปรามาสที่ทำให้นางถึงกับหัวร้อน กางเล็บทั้งสิบหมายจะข่วนหน้าของเขาให้อัปลักษณ์ ทว่าเขากลับรวบข้อมือทั้งสองข้างของนางเอาไว้แล้วดันให้นางขึ้นคร่อมนั่งอยู่บนตักของเขาอย่างรวดเร็ว
วงแขนแข็งแกร่งโอบกระหวัดรอบเอวบาง ในขณะที่นางดิ้นรนหลีกหนี แต่กลับกลายเป็นว่ากลางแกนกายของทั้งสองกำลังถูไถกันไปมาจนก่อเกิดประกายไฟแห่งความปรารถนา
ฉานอิงหยุดดิ้นทันที!
สำเหนียกได้ในทันทีว่ายิ่งนางดิ้นยิ่งเป็นการปลุกกำหนัด เพราะเวลานี้นางนั่งคร่อมทับกลางแกนกายของจือหยวนเอาไว้ หมายจะลุกหนีแต่เขากลับยิ่งกอดแน่นราวกับคาดการณ์เอาไว้ก่อนแล้ว
“ดิ้นอีกสิ ข้าชอบ...”
ไม่พูดเปล่าแต่บรรจงจูบลงบนไหล่นวลเนียนได้อย่างหน้าด้านหน้าทน หญิงสาวไม่รู้จะสรรหาคำด่าใดมาต่อว่า จึงได้แต่อ้าปากค้างทำตาถมึงทึง
“เราต่างเกลียดกัน เป็นศัตรูกัน แต่งงานก็เพื่อผลประโยชน์ ดังนั้นเราควรต่างคนต่างอยู่ นี่...ก็นับว่าท่านรังแกข้ามากเกินพอแล้ว ดังนั้นได้โปรดปล่อยข้าเถอะ”
อู่ฉานอิงกัดฟันกรอด ข่มความโกรธแล้วพูดจาประนีประนอมกับอีกฝ่ายอย่างพยายามใจเย็นที่สุดแล้ว ทว่าเขากลับเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยท่าทางกวนโทสะเหลือกำลัง
“หึ...อิงเอ๋อร์ผู้ดื้อรั้น เจ้ามองทุกอย่างผ่านสายตาของตนเองเสมอ”
คำต่อว่าของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวถึงกับนิ่วหน้าไม่พอใจ กระนั้นกลับเก็บความขุ่นเคืองเอาไว้สุดกำลัง
“ก่อนอื่นข้าคงต้องแก้ความเข้าใจผิดของเจ้าเสียใหม่ นั่นก็คือ...ข้าไม่ได้เกลียดเจ้า ข้าไม่เคยคิดเป็นศัตรูกับเจ้า ข้าไม่ได้แต่งงานกับเจ้าเพื่อผลประโยชน์อันใด และที่สำคัญข้าจะอยู่กับเจ้า จะกอดเจ้า หอมเจ้า และจะร่วมอุ่นเตียงกับเจ้า”
คำว่า ‘อุ่นเตียง’ ทำให้ฉานอิงถึงกับเป็นใบ้ไปชั่วขณะ นางรับรู้ได้ว่าที่ใบหน้าของนางร้อนผ่าวหาใช่เพราะน้ำอุ่นที่นางแช่กาย แต่เป็นเพราะความเขินอายที่ไม่อาจควบคุมเอาไว้ได้ต่างหาก
‘บ้าน่า! เราจะหวั่นไหวไม่ได้เป็นอันขาด’
นางเม้มริมฝีปากแล้วสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ซึ่งจังหวะที่นางขยับกายนั้น สะโพกผายก็ยิ่งเบียดชิดท่อนเอ็นอุ่นที่ดุนดันเบียดเสียดร่องชื้นแฉะราวกับอยากจะชำแรกแทรกท่อนเอ็นเข้าไปในเนื้อนุ่มเสียให้ได้
“ไม่จริง! ที่ผ่านมาเจ้าแย่งลูกค้าของโรงเตี๊ยมสายน้ำไปจนหมด เจ้ากลั่นแกล้ง อีกทั้งยังพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตระกูลอู่ปิดกิจการโรงเตี๊ยมซึ่งเป็นคู่แข่งกับเจ้า”
“เจ้าเห็นเป็นเช่นนั้นหรือ”
วูบหนึ่งในสายตาของคนตัวโตเต็มไปด้วยความผิดหวัง ทว่าเพียงเสี้ยวหงส์กระพือปีก สายตาของเขาก็เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์แสนกลดังเดิม
“ใช่!”
“เจ้าไม่คิดหรือว่าที่ลูกค้าของเจ้าลดน้อยลงเป็นเพราะลูกจ้างของเจ้าพูดจาไม่ไพเราะ อาหารออกช้าปล่อยให้ลูกค้ารอ อีกทั้งห้องพักยังเก่าทรุดโทรมเพราะดำเนินกิจการมาหลายสิบปี เหตุใดเจ้าจึงโทษแต่ผู้อื่นโดยไม่มองหาข้อเสียของตนเองเพื่อแก้ไข”
คำตำหนิยืดยาวทำให้หญิงสาวถึงกับนิ่งเงียบ เรื่องลูกจ้างพูดจาไม่ไพเราะนั้นนางได้มาทราบที่หลังจึงว่ากล่าวตักเตือนซึ่งนั่นทำให้ลูกค้าหลายรายปันใจไปหาโรงเตี๊ยมผืนฟ้าที่ตั้งอยู่ข้างกัน
ส่วนอาหารที่ค่อนข้างช้านั้นเป็นเพราะฐานะการเงินของโรงเตี๊ยมสายน้ำที่ฝืดเคืองจึงทำให้สามารถจ้างแม่ครัวได้เพียงคนเดียว มิหนำซ้ำนางยังต้องคอยกระโจนไปเป็นลูกมือให้แม่ครัวอยู่เนืองๆ
แน่นอนว่าเมื่อมีปัญหาด้านการเงิน ก็ตัดเรื่องการซ่อมแซมแต่งเติมโรงเตี๊ยมให้ใหม่และทันสมัยไปได้เลย เพราะตระกูลอู่ขาดสิ่งที่เรียกได้ว่า ‘เงิน’ ที่นางต้องยอมแต่งงานอย่างไร้เกียรตินั่นก็เพราะ ‘เงิน’ มิใช่หรือ
“ข้าขอโทษที่พูดรุนแรงไปสักหน่อย แต่ข้าอยากจะบอกกับเจ้าว่าข้าไม่เคยมองเจ้าเป็นคู่แข่ง ข้ามองเจ้าเป็นภรรยาเป็นแม่ของลูกต่างหากเล่า”
พูดเพียงเท่านั้นมือหนาก็ลูบเลื่อนโลมไล้ลงไปจับที่เอวคอดกิ่วออกแรงบังคับให้เอวและสะโพกของนางขยับเบียดถูไถไปกับท่อนเอ็นที่เบียดชิด
“อะ...อื้อ”
ฉานอิงผวาเฮือกจนห่อไหล่ตัวงอ เมื่อรับรู้ได้ว่าปลายหัวหยักเบียดชิดเมล็ดสวรรค์จนเสียวปลาบมาถึงท้องน้อย นางอยากจะขืนร่างกาย อยากจะผลักไส ทว่าเขากลับยิ่งจับร่างนางให้โยกขยับจนหวิวไหวไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย
น้ำอุ่นในอ่างกระฉอกไหว กระเพื่อมระลอกไปตามจังหวะการขยับเขยื้อนแกนกายของนาง
“อื้อ...”
นางหายใจสะดุดครั้งแล้วครั้งเล่า เม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรงก่อนจะเผลอแลบลิ้นเล็กๆ เลียริมฝีปากที่แห้งผาก
“จูบไหม”
คนตัวโตโน้มใบหน้าไปกระซิบที่ข้างหูราวกับจะปั่นป่วนหัวใจดวงน้อยให้เต้นไม่เป็นจังหวะ นางไม่ได้ตอบ แต่รู้ดีว่าเวลานี้นางต้องการจูบหวานจากเขาเหลือเกิน
แน่นอนว่าจือหยวนรู้...
มือหนาสากข้างหนึ่งจับท้ายทอยแล้วสอดปลายนิ้วเข้าไปยังเรือนผมดำขลับจดเอวที่บัดนี้ปลายผมเปียกชุ่มไปกว่าครึ่ง ก่อนจะประทับจูบลงไปอย่างเนิบช้าหวิวหวาม บรรจงละเลียดบดจูบไปตามริมฝีปากบนและล่างสลับไปมาอย่างหยอกเย้า ก่อนจะสอดลิ้นร้อนเข้าไปควานหารสหอมหวานที่เขาแสนหลงใหล
“หวานจัง”
โจวจือหยวนรำพันแผ่นเบา เขาบดจูบวนเวียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนฉานอิงไม่แน่ใจว่ารสสุราในปากของเขากำลังทำให้นางมึนเมา หรือว่าที่จริงแล้วเป็นนางกำลังเมาจูบของเขากันแน่
“อาห์...”
นางเบียดกายเข้าหา แอ่นอกสร้างชูชันถูไถไปกับแผงอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขา ในขณะที่สะโพกผายยังคงขยับไหวถูไถไปเรื่อยๆ
เสียว...
เสียวจนหน่วงเหนี่ยวไปทั้งสรรพางค์กาย ฉานอิงเริ่มหายใจเหนื่อยหอบ ลมหายใจร้อนแล่นพล่านจนใบหน้าแดงก่ำ นางขยับสะโพกบดเบียดลงบนท่อนเอ็นเร็วขึ้น เร็วขึ้น เร็วขึ้น...
“อะ...อะ...อื้อ อื้อ”
นางครวญเสียงสั่นในขณะที่ชายหนุ่มบีบกระชับสะโพกกลมกลึง บดบี้แล้วจับให้นางเร่งจังหวะกระชั้น ริมฝีปากหนาหยักก้มลงดูดเลียปลายถันชูชันจนนางถึงกับส่ายหน้าไปมาจนเส้นผมสะบัด