เกิดใหม่..ใกล้เธอ
8
คฤหาสน์หรูสไตล์ยุโรปราวกับพระราชวังแถบยุโรปย่อส่วนลงมาหลังใหญ่เด่นสง่าตั้งอยู่ใจกลางของเมืองหลวง
เมื่อเดินพ้นกำแพงของรั้วคฤหาสน์เข้ามาสักหน่อยก็เป็นสวนหย่อมที่ถูกจัดเอาไว้อย่างเป็นระเบียบและสวยงามทุกอย่างถูกออกแบบเป็นสไตล์ยุโรปทั้งหมด
เดินเข้ามาอีกสักหน่อยก็เจอสระน้ำขนาดใหญ่ ริมสระน้ำมีเตียงนอนอาบแดดวางเรียงรายกันอยู่ฝั่งล่ะห้าเตียง อีกมุมเป็นศาลาริมสระสไตล์ยุโรป นับว่าเป็นบ้านและที่พักผ่อนหย่อนใจที่เลิศหรูแบบไม่ต้องออกไปพักผ่อนบ้านพักตากอากาศที่ไหนไกลๆเลย
เรียกว่าทุกอย่างถูกออกแบบและใส่ใจเป็นอย่างดีจากสถาปนิกชื่อดัง และที่นี่ก็คือ "คฤหาสน์ภัสร์สกุล" บ้านของอาจารย์ชานนท์และกวินตานั่นเอง
"ที่นี่ยังดูเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนไปเลยนะ"
ตันหยงยืนกอดอกอยู่ริมสระน้ำ เธอยิ้มออกมาเล็กน้อยนึกถึงภาพในอดีต ที่มีเด็กวัยรุ่นสามคนกำลังวิ่งไล่จับกันอยู่ริมสระน้ำเสียงดังโวกเวกโวยวายอย่างสนุกสนาน
"หยงเคยมาเหรอ?"
"ไม่เคย...."
"ตาก็นึกว่าเคยมา เห็นบอกว่าที่นี่ยังเหมือนเดิม"
"หมายถึงไม่เคยมาในชาตินี้น่ะ"
กวินตาเริ่มเกาหัวยิกๆกับคำพูดแปลกของตันหยงอีกแล้ว จะว่าเธอเริ่มชินก็คงจะใช่ เพราะสงสัยไปก็เท่านั้นพอถามตันหยงก็ไม่เคยตอบอะไรตรงคำถามเลยสักครั้ง
"เข้าไปในบ้านกันเถอะ"
"ตา.."
"หือ ว่ายังไงจ้ะ?"
"ห้องสมุดยังอยู่มั้ย เอ่อ..หมายถึงบ้านของตามีห้องหนังสือมั้ย?"
ตันหยงหมายถึงมุมหนังสือขนาดใหญ่ในบ้าน เพราะมีบางอย่างที่เธอเคยแอบซ่อนเอาไว้ตั้งแต่สมัยก่อนหญิงสาวไม่แน่ใจว่ามันยังอยู่อีกมั้ยเลยถามกวินตาออกมา ถ้าให้เธอเดินอาดๆไปเองมันก็ดูจะกลายเป็นเรื่องแปลกไปอีก ตันหยงไม่อยากจะเฉลยอดีตในชาติภพเดิมให้ใครรู้ เพราะบางทีถ้าเธอพูดไปมันอาจจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากมากขึ้นที่ทำให้ทั้งสองชาติมาเกี่ยวพันกันให้วุ่นวายไปหมด เพราะตอนนี้เธอกลายเป็นอีกคนไปแล้ว
"มีสิ คุณพ่อคุณแม่ไม่เคยเปลี่ยนหรือเคลื่อนย้ายอะไรในบ้านเลย แต่ตาไม่ค่อยได้ไปนั่งเท่าไหร่หรอกนะ เอางี้วันนี้เราไปนั่งเรียนในห้องหนังสือกัน"
"ดีเลย ไปกันเถอะนะ"
ทั้งคู่เดินเข้าไปในบ้าน ที่มีทั้งคุณพ่อคุณแม่ของกวินตานั่งรออยู่ในห้องรับแขกก่อนแล้ว
"มากันแล้วเหรอเด็กๆ"
กวินตาโผเข้าไปในอ้อมกอดคุณนับดาวผู้เป็นแม่ราวกับเป็นเด็กน้อย
"นี่ตันหยงเพื่อนของตาค่ะคุณพ่อคุณแม่"
"มานั่งก่อนสิลูก"
"สวัสดีค่ะ คุณลุงคุณป้า"
"เรียกพ่อกับแม่อย่างที่ยัยตาเรียกเถอะลูก ลูกสาวของแพรวาสินะแพรวาน่ะ เป็นรุ่นน้องสมัยเรียนของพ่อกับแม่เอง ไม่ได้พบกันมาหลายปีมากแล้ว ไม่คิดว่าวันหนึ่งมาเจอลูกสาวที่โตเป็นสาวและสวยขนาดนี้"
"แล้วคุณพ่อคุณแม่หนูสบายดีมั้ย?"
คุณทรงเกียรติบิดาของกวินตาเอ่ยถามขึ้นมาบ้าง
"สบายดีค่ะ แต่ค่อนข้างจะยุ่งกับงานที่โรงพยาบาล"
"ใช่สินะ ทั้งคู่เป็นหมอนี่นา ตอนที่ห่างๆกันก็ตอนที่แพรวาและมานพไปเรียนต่อปริญญาเอกที่เมืองนอกนั่นแหละ แล้วหนูล่ะจ้ะ ทำไมไม่เป็นหมอเหมือนแม่?"
"ไม่ไหวค่ะหยงกลัวเลือด เลยเลือกที่จะเรียนบริหารน่าจะดูง่ายกว่าค่ะ"
ทั้งคู่ยิ้มพยักหน้ารับรู้ให้ตันหยงอย่างรู้สึกเอ็นดู ตันหยงมองท่านด้วยสายตาที่คิดถึง คิดถึงโคตร ๆ เลยว่าก็ว่าได้ แต่นั่นแหละชาตินี้ก็คือชาตินี้เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอย่างชาติก่อนความรู้สึกก็ทำได้เพียงแค่เก็บมันไว้อยู่ข้างใน
"นี่สัมภาษณ์กันจังเลยนะคะ ทำราวกับกำลังคัดเลือกลูกสะใภ้เข้าบ้านแน่ะ"
"ยัยตา!พูดอะไรน่ะลูก"
ตันหยงถึงกับแก้มแดงปลั่งหลบสายตาทุกคน เมื่อโดนยัยเพื่อนจอมแสบพูดออกมาแบบนั้น
"ขอโทษแทนกวินตาด้วยนะลูก เด็กคนนี้ปากไม่มีหูรูด"
"มะ ไม่เป็นอะไรค่ะ"
กวินตาแอบยักคิ้วใส่ตันหยง เพราะรู้ดีว่าตอนนี้ตันหยงนั้นเขินจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว แก้มสองข้างของเธอแดงจนสังเกตุเห็นได้อย่างชัดเจน
"แต่หนูอยากได้หยงเป็นพี่สะใภ้จริงๆนะคะคุณแม่"
กวินตากระซิบบอกผู้เป็นมารดา
"แม่ก็อยาก แต่เราไม่ควรพูดออกมาตรงๆเข้าใจมั้ย?"
คุณนับดาวกระซิบกลับ ตันหยงปรายตามองทั้งคู่อย่างสงสัยว่ากระซิบอะไรแต่ยังคงเก็บอาการคีฟลุคสาวน้อยผู้เรียบร้อยดั่งผ้าพับอยู่
"ไปกันเถอะจ่ะ ไปรอพี่ชานนท์ในห้องหนังสือกัน แม่ให้เด็กเตรียมของว่างจัดที่จัดทางไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวพ่อกับแม่ต้องออกไปข้างนอกตามสบายกันนะหนูตันหยง"
"ค่ะคุณแม่ ขอบคุณค่ะ"
ตันหยงยกมือไหว้คุณลุงคุณป้าในอดีตของเธอ ถ้าเป็นสมัยก่อนเธอคงไม่นั่งพับเพียบเรียบร้อยแบบนี้หรอก เพราะสนิทกับท่านมากออกจะแก่นแก้วออดอ้อนท่านยิ่งกว่าพ่อแม่ของตัวเองซะอีก
"คุณแม่คะ?"
ตันหยงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาหลังจากที่กวินตาล่วงหน้าเข้าไปข้างในห้องหนังสือก่อนแล้ว
"มีอะไรจ้ะ?"
"หนูขอกอดคุณแม่ได้มั้ย?"
"ได้สิ"
ตันหยงโผเข้าสู่อ้อมกอดของคนสูงอายุ น้ำตาเริ่มจะรื้นขอบตาขึ้นมาอีกครั้ง คุณนับดาวหันไปมองผู้เป็นสามีอย่างรู้สึกแปลกใจ แต่ก็เพียงชั่วครู่ เพราะไม่อยากคิดจะอคติอะไร คุณนับดาวลูบหัวของตันหยงเบาๆไม่รู้ทำไมรู้สึกรักและเอ็นดูเด็กสาวคนนี้มาก ราวกับว่ารู้จักกันมาแล้วเนิ่นนาน
ชานนท์เข้ามายืนกอดอกทันเห็นตันหยงกับผู้เป็นมารดากอดกันกลมพอดี ใช่ เขาไม่พอใจกับภาพตรงหน้าแต่ไม่อยากทำตัวเป็นคนไร้มารยาทต่อหน้าผู้เป็นบิดาและมารดา
'คราวนี้จะมาแบบไหนอีก เข้าทางคุณพ่อคุณแม่อย่างงั้นเหรอ เด็กสาวสมัยนี้น่ากลัวชะมัด'
ชานนท์เดินเลี่ยงขึ้นไปชั้นบนห้องส่วนตัว ยังคงนึกถึงเรื่องเมื่อวานและเรื่องที่ภาคินโทรมาเล่าให้ฟัง เขาเลยคิดว่าตันหยงวางแผนเข้ามาในชีวิตของครอบครัวของเขา เพราะเธอดูแปลก คำพูดคำจาของเธอแต่ละคำก็มีนัยยะแอบแฝงตลอด
ในชีวิตของเขาตลอดเวลาที่ผ่านมามีผู้หญิงที่เข้าหาเขาด้วยวิธีต่างๆหลากหลายรูปแบบ และก็คิดว่าผู้หญิงที่ชื่อตันหยงคนนี้ก็เหมือนกัน ไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนเข้ามาเพื่อสิ่งใด แต่ที่ชานนท์รู้แน่ๆ ว่าต้องไม่บริสุทธิ์ใจร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างแน่นอน