ตอนที่ 2

2327 Words
ภัสสรามาก่อนเวลานัดหมาย ซึ่งค่อนข้างเช้าแต่จากจำนวนเงินที่ได้พูดคุยกันไว้ทำให้เจ้าตัวไม่อิดออดอะไรกับเวลาที่อิงครัตน์แจ้งให้ทราบเมื่อวันก่อน เสื้อผ้าถูกจัดเตรียมมาตามที่เจ้าของงานได้แจ้งเอาไว้ แต่ไม่ได้ตาม ที่สั่งเพราะภัสสราเองมีไม่มากนัก ประตูรั้วไม่ได้ปิดล็อกเอาไว้ ภัสสราจึงเปิดเข้าไปภายใน บ้านออกแบบให้อยู่ภายใต้ต้นไม้สูงใหญ่หลายต้นที่บดบังตัวบ้านเกือบมิดชิด คนที่เพิ่งเคยมาหันมองไปรอบๆ ก่อนจะนำของไปวางไว้ที่โต๊ะกลางสนามหญ้า สีเขียวทำให้รู้สึกสดชื่นได้จริง จึงหยุดยืนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ รับออกซิเจนที่ต้นไม้ช่วยสร้างให้เอาไว้เต็มปอด ภาพของหญิงสาวที่เอนตัวนอนหลับตาพริ้มอยู่ที่เก้าอี้พับนอนทำให้คนที่พึงมาถึงยิ้ม บริเวณโดยรอบของตัวบ้านเป็นกระจกทั้งหมด แต่เป็นแบบบานเฟี้ยมที่สามารถเปิดรับบรรยากาศและอากาศภายนอกได้ “บ้านสวยชิบเป๋งเลย หลังเล็กกว่านี้สักหนึ่งส่วนสี่แกคงมีความสุขแล้วนังโต๊ดเอ๊ย” ภัสสรายิ้มๆ เดินย่องๆ เข้าไปใกล้ๆ ชะเง้อดูยังเห็นว่าเจ้าของบ้านยังคงหลับตาพริ้มอยู่ แต่บานเฟี้ยมถูกเปิดออกรับลมและอากาศที่แสน สดชื่น กลิ่นของกาแฟที่ภัสสรากำลังดื่มอยู่ทำให้อิงครัตน์ยิ้มๆ “นัดแปดโมงบ่นกระปอดกระแปดว่าเช้า แต่มาถึงหกโมงครึ่ง” เสียงของคนที่ยังนอนหลับตาพริ้มอยู่ทำเอาภัสสราสะดุ้ง “อรุณสวัสดิ์จ้ะ ป้า ต้องรีบมาหน่อย เพราะถ้าเกิดป้าเปลี่ยนใจหนูคงอดตายแน่นอน” อิงครัตน์ยิ้ม เมื่อได้ยินภัสสราแทนตัวเองว่า หนู “กาแฟหอมดี” อิงครัตน์ลืมตาและทำท่าจะลุกขึ้น “ซื้อมาเผื่อป้าด้วยจ้ะ ไม่ต้องลุกหรอก ถ้าประตูบ้านไม่ได้ล็อกเดี๋ยวหนูเอากาแฟเข้าไปให้ ซื้อมาเผื่อเป็นการสอพลอ” ภัสสรา หัวเราะคิกคัก “เข้ามาเลยเปิดรอเอาไว้ ก่อนจะมางีบพักสายตา” อิงครัตน์บอก “อะไรป้า เพิ่งตื่นแล้วยังจะมางีบอยู่อีก” ภัสสราพูดขึ้น “ตื่นเร็วมาเตรียมงาน เตรียมเสร็จเลยมานอนรอนี่แหละ ขอบใจจ้ะ” อิงครัตน์รับแก้วกาแฟมาถือไว้ “กินได้ไหม ดูเครื่องชงกาแฟของป้าแล้ว ไอ้แก้วนั้นน่ะน่าจะไม่ถูกปากป้า” ภัสสรามองดูไปรอบๆ บ้าน ซึ่งเป็นห้องกว้างๆ โล่งๆ มีโต๊ะกลางตัวใหญ่ แต่มีเก้าอี้หลากหลายแบบจัดวางเอาไว้ แม้ไม่ได้เป็นระเบียบนักแต่โดยรวมแล้วถือว่าดูดี ดูเรียบง่ายคล้ายกับท่าทางของเจ้าบ้านที่นุ่งผ้าถุงและสวมเสื้อยืดสีขาว “ถ้าดูคนจากข้าวของ ดูคนจากภายนอก เธอจะไม่มีโอกาสได้รู้จักตัวตนจริงๆ ของคนๆ นั้นหรอกนะ” อิงครัตน์ยิ้มและเริ่มดื่มกาแฟที่ภัสสรานำ มาฝาก “เปล่าสักหน่อย แต่อย่างป้าน่ะ ไม่รู้ว่าทั้งชีวิตจะได้รู้จักป้าจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ คนที่เราคิดว่ารู้จักดี ไว้เนื้อเชื่อใจ สุดท้ายวันหนึ่งถึงได้มารู้ว่าไม่ ได้รู้จักอะไรเขาเลย” ภัสสราบอก ซึ่งอิงครัตน์พอจะเดาได้ว่าหมายถึงใคร “เราไม่จำเป็นต้องรู้จักใครละเอียดยิบหรอก แค่ทำความรู้จักในแต่ละวันที่ได้พบเจอกัน ได้พูดคุยกันทำช่วงเวลานั้นให้มีความสุขก็พอแล้ว” “คิดเป็นวันๆ ไป แบบนั้นน่ะหรือ” ภัสสราถาม “เมื่อวานผ่านไปแล้ว พรุ่งนี้ยังไม่ถึง ก็มีความสุขกับวันนี้ ถึงแม้จะทุกข์ พรุ่งนี้ความสุขก็อาจจะรออยู่ ว่าปะ” อิงครัตน์ยิ้ม ขณะลุกขึ้นเดินไปหยิบขนมปังที่เตรียมไว้รับประทานกับกาแฟเป็นอาหารเช้านำมาวางไว้ที่โต๊ะกลางตัวใหญ่ ซึ่งบางครั้งใช้ทำงาน และบางครั้งไว้สำหรับรับรองแขกที่มารับประทานอาหารด้วย “สาธุ เทศน์แต่เช้าเลย” ภัสสราหัวเราะเล็กๆ ขณะพนมมือขึ้นท่วมหัวคนที่เพิ่งพูดไปเมื่อสักครู่ถึงกับส่ายหน้า ก่อนกวักมือเรียกให้มานั่งด้วยกัน “ขนมปังอร่อยดีจัง แต่หนูไปขนของเข้ามาก่อนดีกว่า” ภัสสราพูดขึ้นก่อนจะรีบวิ่งออกไปเอาของจากรถยนต์ที่จอดอยู่ด้านนอก “ว่าไงนายป๊อก” ภัสสราแปลกใจ เมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้าดังขึ้นเลยพูดทักทายปลายสายไปก่อน หลังจากเห็นชื่อของคนที่โทรศัพท์เข้ามา “พอดีผมขับรถชนรถจักรยานยนต์ครับ อาจจะไม่ได้เข้าไปช่วยป้าคงต้องไปดูคนถูกชนที่โรงพยาบาล ขอโทษด้วยนะครับ” เปรมหรือป๊อก ซึ่งรับปากเอาไว้ว่าจะมาช่วยเรื่องการถ่ายภาพในวันนี้บอกกับอิงครัตน์ “ไม่เป็นไร ถ้ามีอะไรให้ช่วยป๊อกโทรฯ หาป้านะ” “ขอบคุณครับ ถ้าป้าจะเลื่อนนางแบบแจ้งผมอีกทีนะครับ จะได้เข้าไปช่วย” “นางแบบมารอแล้วคงไม่เลื่อนหรอก ไปจัดการเรื่องของตัวเองให้เรียบร้อย แล้วมาส่งข่าวด้วย” อิงครัตน์ยิ้มให้ภัสสราที่หอบของเข้ามาวางเอาไว้แล้วเดินไปหยิบขนมปังก้อนที่สองมาเคี้ยวตุ้ยๆ เจ้าของบ้านยิ้มๆ มอง ดูสาวสวยที่ทำตัวคุ้นเคย แต่จากลักษณะท่าทางที่ได้เห็นคงสะดวกกับการทำงานด้วยกันมากขึ้น อิงครัตน์คิด “ตกลงขนมปังอร่อยหรือเราหิวกันแน่” อิงครัตน์ถาม ส่วนภัสสรายิ้มอายๆ มองดูขนมปังที่อยู่ในมือ “เรียกเราดีกว่าเธอตั้งเยอะ ส่วนเรื่องขนมปังอร่อยฝุดๆ ค่ะ ซื้อจากที่ไหนล่ะ ป้า” ภัสสราถามและจ้องมองแววตาอ่อนโยนของ คนที่นั่งยิ้มจ้องมองโดยไม่หลบสายตา “ทำเอง ถ้าอร่อย วันไหนอยากกินก็มา ปกติทำติดบ้านเอาไว้” “ถามจริงทำขนมปังเองจริงๆ เหรอ ป้า” ภัสสราแปลกใจ “บอกแล้วไง ดูคนอย่าดูแค่ฉาบฉวย อิ่มหรือยัง” อิงครัตน์ถาม “ยัง แต่ทำงานก่อนก็ได้ทำงานไปกินไปได้ใช่ไหม ป้า” “ทำไมต้องเรียกป้าบ่อยๆ นะ ฉันรู้ว่าฉันน่ะ แก่แล้ว ไม่ต้องมาย้ำ” “น่ารักดีออก แก่ตรงไหน ป้าน่ารักจะตายไป” อิงครัตนยิ้มให้คนที่ยิ้มอายๆ ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นคนเอ่ยชม แต่เดินยิ้มหนีไปล้างมือ “ช่างพูดเหลือเกิ๊น” อิงครัตน์หัวเราะและเริ่มเก็บจานกับแก้วไปล้างทำความสะอาด ก่อนจะกลับออกมาเพื่อพานางแบบไปลอง ชุดที่ตัวเองจัด เตรียมเอาไว้ อิงครัตน์ยิ้มกับคนที่นั่งหน้าบูดระหว่างที่กำลังค่อยๆ แต่งแต้มสีสันให้กับสาวสวย ซึ่งถูกเพิ่มเติมสีเข้าไปที่ใบหน้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น “มีอะไรที่ป้าทำไม่ได้บ้างไหม” ภัสสราถาม “มี” “อะไรที่ป้าทำไม่ได้” ภัสสราขมวดคิ้วจ้องมองรอยยิ้มของคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ขณะที่ช่วยเติมสีสันที่ริมฝีปากเรียวสวย แต่ไอ้เจ้ารอยยิ้มนั้นกำลังตรึงให้จ้องมองโดยไม่ได้สนใจที่จะรอฟังคำตอบ “แต่งงานล่ะมั้ง พร้อมแล้วจ้ะ คุณนางแบบ” อิงครัตน์ยิ้มขณะจ้องมองดูใบหน้าของภัสสราที่หัวเราะเล็กๆ เมื่อได้ยินคำตอบ คนบอกก็ไม่ได้คิดจริงจังอะไรคิดว่าเป็นการพูดล้อเล่นกันมากกว่า “ถามจริง ยังไม่เคยแต่งงานจริงดิ แต่ป้าดูสมัยใหม่อยู่กันเฉยๆ ก็น่าจะได้เนอะ” ภัสสราพูดขึ้นแล้วรีบลุกเดินไปยืนอยู่บริเวณที่ ตัวเองจะต้องเป็นแบบ เพราะจากที่ได้พูดคุย อิงครัตน์อยากถ่ายภาพเป็นบรรยากาศของการทำงาน “มือสวยดีนะ ดูสิ” ภาพที่ถูกถ่ายเอาไว้เห็นเพียงแค่มือกับแขน “ดูผ่านกล้องมันก็สวยสิ ป้า” ภัสสราบอก “ไม่นะดูด้วยตาเปล่าก็สวยอยู่” อิงครัตน์จับมือของภัสสรามาดู “สวยก็สวย” ภัสสรารีบดึงมือกลับ “แอร์เย็นไปไหม มือเราเย็นเจี๊ยบเลย” “ไม่เย็นมากนัก สงสัยจะตื่นเต้นที่ได้เป็นนางแบบ” ภัสสราไม่กล้าสบตาด้วย “งั้นไปเปลี่ยนชุด เดี๋ยวออกไปถ่ายรูปข้างนอกกัน” อิงครัตน์ยิ้มให้ “ถ้าถ่ายแบบเห็นหน้า โอกาสที่จะขายงานได้มีมากกว่าไหม” “ก็มีส่วน” อิงครัตน์เดินไปชงโกโก้ร้อน โดยภัสสราเดินตามมา “หนูเซ็นเอกสารให้ก็ได้ เพราะไปหาข้อมูลมาก็ไม่ได้มีอะไรมากนัก ป้าจ่ายเงินให้หนูเยอะอยู่ หนูควรทำให้งานป้าขายดีด้วย” ภัสสรายิ้มสวยๆ ให้คนที่หันมายิ้มให้พร้อมกับโกโก้ร้อน “ขอบใจจ้ะ งั้นก็ชุดเดิมถ่ายเพิ่มอีกสักนิดหน่อย แน่ใจนะ เรื่องที่จะเซ็นเอกสารยืนยันตัวตนให้” อิงครัตน์ถามย้ำ “แน่ใจจ้ะ ป้า” ภัสสราลากเสียงคำว่าป้าเสียยาว “ดื่มโกโก้ก่อน มือจะได้ไม่เย็นมากนัก ถ้าหนาวก็บอกนะ เดี๋ยวกลับ ไปไม่สบายจะแย่” ภัสสรายิ้มๆ เพราะคำพูดที่คล้ายบ่นนั้น น่าจะเป็นการพูดเพราะความห่วงใยมากกว่า “ขี้บ่นนะ ป้าเนี่ย มือเย็นนิดเดียวก็บ่น” ภัสสราบ่นพึมพำ “ไหนยื่นมาอีกทีสิ เย็นมากขึ้นหรืออุ่นขึ้น หลังดื่มโกโก้” อิงครัตน์ยื่นมือไปตรงหน้าของภัสสราที่มองดูมือเรียวบางแล้วขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง “ไม่เย็นแล้วมั้ง” “วางมาสิจะได้รู้ว่าเย็นไหม” อิงครัตน์พูดดุ ภัสสรารีบวางมือไปที่มือของอิงครัตน์ทันที มือยังคงเย็นเฉียบอยู่ แต่อีกมือหนึ่งที่ ทาบทับมาที่มือของภัสสราและเริ่มถูๆ อย่างแผ่วเบาทำให้ความอบอุ่นแผ่ซ่านไม่ใช่เพียงแค่ที่มือ แต่ดูเหมือนว่ากำลังทำให้ใบหน้าร้อนผ่าวและหัวใจรวนๆ ชอบกล แต่ไม่กล้าที่จะดึงมือกลับ “อุ่นแล้วจ้ะ ป้าจ๋า” ภัสสราพูดแล้วทำยื่นหน้ายื่นตามาใกล้ๆ เพื่อกลบเกลื่อนความเขินอายของตัวเอง “ดื่มให้หมด ถ้าหิวมีผลไม้อยู่ในตู้เย็นทานได้ทุกอย่าง ท้องอิ่มแล้วค่อยกลับมาถ่ายชุดทำงานกันต่อ” อิงครัตน์มองดูภัสสราที่ เดินไปเปิดตู้เย็นทันทีเมื่อได้รับอนุญาต “คนอายุเยอะ ก็เป็นคนอายุเยอะอยู่วันยังค่ำ เอาใจใส่ดูแลทุกคนเลยล่ะสิที่มาเป็นนายแบบนางแบบให้ อยู่กันหลายคนแน่เลยตู้เย็นใหญ่มากแถมของกินแน่นตู้อีกด้วย” ภัสสรายิ้มๆ เมื่อมองไปเห็นของในตู้เย็นที่มีมาก มายต่างกับตู้เย็นที่ห้องพักของตัวเอง “อยู่คนเดียว ซื้อเผื่อเรากับหนุ่มที่มาช่วยงานอีกคน แต่พอดีรายนั้น มีอุบัติเหตุนิดหน่อยเลยไม่ได้มา” อิงครัตน์บอกขณะจัดเตรียมอุปกรณ์และจัดวางข้าวของให้ต่างจากที่เพิ่งถ่ายภาพไปเมื่อสักครู่ “เป็นอะไรมากหรือเปล่า” ภัสสราหันมาถาม “คนอายุไม่เยอะ ก็เป็นคนอายุไม่เยอะอยู่วันยังค่ำ เอาใจใส่คนไม่รู้จักด้วย” อิงครัตน์หัวเราะ คนที่ยืนยิ้มอยู่ก็หัวเราะออกมาเช่นกัน เมื่อได้ยินคำพูดคล้ายๆ กับที่ตัวเองเพิ่งพูดออกไปเมื่อสักครู่ “กวนนะ ป้า” “กวนเท้าหรือ แต่ฉันแก่กว่านะ ห้ามทำร้ายผู้ใหญ่” อิงครัตน์หัวเราะ ภัสสราถอนใจแล้วส่ายหน้า “มื้อกลางวันป้าทานอะไร” ภัสสราถาม “เราล่ะ อยากกินอะไร” “ป้าจะเลี้ยงเหรอ” ภัสสราหัวเราะคิกคัก “ค่าจ้างก็จ่าย ยังต้องเลี้ยงข้าวอีก” “หนูตกงานอยู่ สงสารหนูเถอะนะ ป้านะ” ภัสสราแกล้งพูดอ้อน “อยากกินอะไรก็สั่งมา แล้วแต่เรา” “กะเพราอกไก่ ไข่เจียวไหม หนูทำให้” คนได้ยินยิ้ม เพราะการเดินไปเปิดตู้เย็นใช่ว่าจะไปหาอะไรทาน แต่กลับกลายเป็นว่า เป็นการเดินไปสำรวจ ดูเพื่อจะได้จัดเตรียมอาหารมื้อกลางวัน “กินได้แน่นะ ขี้เกียจไปนอนกินน้ำเกลือที่โรงพยาบาล” “สัญญาว่าจะไม่ทำให้ท้องเสีย แต่ถ้าต้องไปนอนโรงพยาบาล หนูอาสาไปเฝ้าไข้ให้” ภัสสราหัวเราะคิกคัก “ถ้าเราอยากทำก็ได้ ฉันกินง่าย” อิงครัตน์บอก ภัสสรายิ้มแป้นนึกถึงเพื่อนที่บอกเอาไว้ก่อนหน้าว่า ป้าเป็นคนใจดีเห็นท่าจะจริง “งั้นถ่ายชุดทำงานให้เสร็จ ออกไปถ่ายชุดลำลองที่สวนแล้วค่อยมาทำกับข้าวเนอะ ป้า” ภัสสราพูดขึ้น “เรียกป้าเป็นร้อยแล้วมั้ง ตั้งแต่มา” “น่ารักดีออก” ภัสสราหัวเราะแล้วรีบไปนั่งประจำที่เดิม เพื่อเตรียมตัวถ่ายภาพให้เรียบร้อย อิงครัตน์ยิ้ม เพราะหลังจากได้พูดคุยกันมากขึ้น ภัสสราปฏิบัติตามสิ่งที่บอกโดยไม่ถามอะไรมากสักเท่าไรนัก ซึ่งต่างจากที่ถ่ายภาพช่วงแรก แต่จะว่าไปการพูดการถามทำให้อิงครัตน์ได้เปลี่ยนวิธีคิด รวมถึงมุมมองใหม่ๆ หลังถ่ายรูปชุดแรกผ่านไป เมื่อมาเปิดภาพถ่ายดูรู้สึกพอใจในงานที่ได้ถ่ายออกมาต่างจากครั้งก่อนๆ ที่ต้องกดชัดเตอร์เผื่อเอาไว้ เพราะเกรงว่าถึงเวลาต้องแต่งภาพเพื่อส่งงานจะไม่ได้งานตามที่ตั้งใจเอาไว้ “บรรยากาศสบายๆ ทำให้งานออกมาดูดีสินะ” อิงครัตน์รำพึงและยิ้มๆ ให้กับสาวเจ้าที่ยักคิ้วหลิ่วตาล้อ โดยไม่รู้ตัวเลยว่า ถูกถ่ายภาพเอาไว้ อิงครัตน์ยิ้ม เมื่อเห็นภาพความทะเล้นของภัสสราปรากฏอยู่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD