รักษาแผลใจ

2401 Words
่ จางเจี่ยยังไม่สามารถลดอคติในใจที่มีต่อต้นกับปรัชญ์ได้ เขาจึงมองไม่เห็นในข้อนี้ "มันเป็นเรื่องของผมคุณจะมายุ่งอะไรด้วย"จางเจี่ยยังมีสีหน้าที่นิ่งเฉย "ผมก็ไม่อยากยุ่งหรอก ที่มาก็เพราะต้นไม่ใช่คุณ"คิมโยฮันพยายามสงบจิตใจให้แน่นิ่ง "นั่นไงคุณยอมรับมาแล้ว ว่ายังคิดอะไรกับต้นอยู่"จางเจี่ยมองหน้าคิมโยฮันด้วยสายตาที่ไม่ไว้วางใจ "คุณนี่มันพาลจริงๆ แถมเมาอีกด้วยผมไม่อยากคุยกับคุณแล้ว" "ไม่อยากคุยหรือพูดแทงใจดำ ถึงผมจะมีปัญหากับต้น คุณก็ไม่มีสิทธิ์จะมาเป็นห่วงต้นสงสารต้น เพราะยังไม่ได้เลิกกันสักหน่อย" "ตามสบาย"คิมโยฮันพูดได้แค่นี้ เพราะมันเป็นเรื่องจริงที่เขาไม่มีสิทธิ์ข้อนี้ "ฝากบอกต้นด้วยให้มาหาผม ถ้าไม่มาอีกสองวันผมจะกลับจีน"จางเจี่ยยังมีสีหน้าที่นิ่งอยู่ "ทำไมไม่ไปบอกเอง"คิมโยฮันพูดขึ้น "เรื่องของผม คุณไม่ต้องรู้"จางเจี่ยอยากพิสูจน์ใจของต้น เขาต้องการรู้ว่าต้นจะยังรักเขาอยู่มั้ย ถ้าเกิดต้นไม่มาแสดงว่าต้นหมดรักเขาแล้ว จางเจี่ยคิดไปไกลถึงขั้นนั้นทีเดียว "ผมไม่บอกหรอก ดีผมจะได้จีบต้นต่อถ้าเลิกกับคุณ"คิมโยฮันยิ้มเยาะ "คุณนี่มัน ออกไปจากห้องผมเลย"จางเจี่ยชี้มือไปที่ประตูห้อง "ผมไปแน่ แล้วจะไปหาต้นด้วย ปล่อยให้คุณเมาเหล้าอยู่อย่างนี้แหล่ะ"พูดจบคิมโยฮันก็เดินออกไปจากห้อง ในทันที ปล่อยให้จางเจี่ยโกรธจนหน้าแดง ตอนแรกคิมโยฮันกะจะไปหาต้นที่ห้อง แต่ในเมื่อต้นหลับอยู่เขาจึงไม่อยากไปรบกวน และกำลังสองจิตใจว่าจะบอกต้นดีมั้ยว่าจางเจี่ยให้ไปหา เพราะเขาก็อยากจะรักษาแผลใจให้ต้น แต่อีกใจก็ทำร้ายต้นไม่ได้ คิมโยฮันคงทนไม่ไหว ถ้าเห็นต้นต้องปวดใจกับความรักในครั้งนี้ คิมโยฮันยังไม่ติดสินใจว่าจะทำเช่นไร เขาจึงเปลื่ยนความคิดกลับไปที่ห้องเพื่อพักผ่อน ตั้งแต่เขากลับมาจากภูเก็ตก็ไปหาต้นในทันที เขาจึงรู้สึกเพลียพอสมควร ในร้านนวดของกันวันนี้เงียบเหงา ไม่ใช่เพราะไม่มีลูกค้าแต่รู้สึกเศร้าใจเรื่องของต้นกับจางเจี่ย ไม่ว่าจะเป็นกันเจ้าของร้านรู้สึกผิดพอสมควร ที่แนะนำให้ต้นมีแฟนใหม่ ส่วนริโอ้ก็เสียใจที่ไม่สามารถจะช่วยต้นได้ และเพื่อนใหม่อย่างปันก็รู้สึกเห็นใจต้นพอสมควร แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจาก ให้ตัวต้นเป็นคนติดสินใจเองว่าจะเดินหน้าต่อหรือพอแค่นี้ ทั้งปันและริโอ้ได้นัดกันไว้ว่าจะไปหาต้นที่ห้อง และอยู่เป็นเพื่อนต้นในยามที่ทุกข์ใจ สองหนุ่มรอจนค่ำหมดลูกค้ากำลังเตรียมตัวจะออกไป ก็มีลูกวีไอพีมาคนละทางแต่มาพร้อมกันในเวลาที่เหมาะสม "ปันผมมาชวนคุยไปเที่ยว"โมย่าเดินเข้ามาหาปันในระหว่างกำลังจะออกจากร้าน "ริโอ้ แทซองจะมาชวนริโอ้ไปเที่ยวด้วยกัน"แทซองเข้ามาจับมือของริโอ้ ปันหันมาเห็นพอดี แต่ใจของปันตอนนี้กลับรู้สึกเฉยๆไม่ได้หึงหวงน้อยใจอย่างแต่ก่อน "โมย่าคืนนี้ผมคงไปไม่ได้ เพราะเพื่อนผมไม่สบายต้องไปเยื่อมสักหน่อย ขอโทษด้วนะ"ปันก็รู้สึกเสียดายแต่เพื่อนต้องมาก่อน โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ ต้นต้องการกำลังใจมากที่สุุด "ไม่เป็นไรครับ เพื่อนปันก็เหมือนเพื่อนผม เราไปเยื่อมเพื่อนคุณด้วยกันก็ได้ครับ"ปันรู้สึกดีใจที่ได้ยินคำนี้จากปากของโมย่า เขาจึงคิดไปว่าเลือกคนไม่ผิดจริงๆ "ดีจังเลยไปพร้อมกันก็ได้"แทซองยิ้ม "จะไปกันอย่างไงรถมีคันเดียว"แทซองพูด ริโอ้จ้องมองแทซองและอดขำไม่ได้ "เดี่๋ยวเราจะขึ้นรถสี่ล้อแดงไป ริโอ้กับแทซองก็ล่วงหน้าไปก่อนก็ได้ "อยากไปกันสองคนนี่เอง"ริโอ้แซว "ไม่ต้องมาพูดดีเลยริโอ้"ถึงจะไม่ได้มีความรู้สึกดีดีกับริโอ้ก็จริง แต่ความแค้นในเรื่องปากของริโอ้ยังคงอยู่ "ไปแล้วนะ"ริโอ้จูงมือแทซองไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของเขา ส่วนปันกับโมย่าขึ้นรถสี่ล้อแดงหน้าร้านนวดตามไปทีหลัง "แทซองกับริโอ้คู่นี้เขาน่ารักดีนะ"โมย่าทลายความเงียบที่เกิดขึ้่น เพราะเขาไม่ค่อยชอบบรรยากาศเช่นนี้ "ฮือ"ปันพยักหน้า "คู่ของเราจะเป็นแบบนั้นได้มั้ย"โมย่าพยายามสังเกตสีหน้าของปัน "ไม่รู้ซิ"ปันหันหน้าไปทางอื่นด้วยความเขินอาย โมย่าเอื่อมมือไปจับมือของปันแล้วมากุมไว้ หลังจากนั้นยกขึ้นมาหอมที่หลังมือ "บ้า ทำอะไรมันบนรถนะ"ปันรีบดึงมือออก "ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ไม่มีคนอยู่ ถึงมีผมก็ไม่สนนะ คนรักกันมันก็ต้องแสดงออกกันบ้าง"โมย่าดึงมือของปันกลับมาอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้ไม่ได้เอามาหอม แต่กุมไว้บนต้นขาอย่างกลัวจะหลุดหายไปไหน "ใครเขาบอกว่ารัก ยังไม่ได้บอกซักหน่อย"คราวนี้ปันไม่ดึงมือออกปล่อยให้โมย่าจับไว้ดั่งเดิม "ทำไมคุณตอบอย่างใจอย่างครับ ผมว่าคุณก็ต้องรักผมแน่นอน ทำไมไม่บอกมาตรงๆ ถ้าผมไม่รู้ก็นึกว่าคุณไม่รักผม ที่คุณพูดแบบนี้แสดงว่าไม่รักผมใช่มั้ย ถ้าอย่างงั้นผมลงตรงนี้แหล่ะ ไปด้วยกันก็ไม่มีประโโยชน์"โมย่าทำท่ากดกริ่งให้รถหยุด "อย่าพึ่งกด ผมก็รักคุณนะโมย่า"ปันรีบพูดขึ้นในทันที เพราะกลัวเสียโมย่าไป เพราะฝรั่งงานดีแบบนี้หายาก ปันอดเสียดายไม่ได้ ถ้าโมย่าจากไปเพราะความปากแข็งและเล่นตัวเกินงาม "ก็แค่เนี้ย บอกตั้งแต่ทีแรกก็สิ้นเรื่องเล่นตัวอยู่ได้ เดี๋ยวนี้มันต้อง รักก็บอกไม่รักก็บอก"โมย่าดึงร่างของปันมากอดไว้ข้างกาย ปันก็ไม่ขัดขืนสมยอมเพราะกลัวอดได้แฟน ริโอ้กับแทซองมาถึงก่อนโมย่ากับปัน เพราะขับมอเตอร์ไซค์มาเลยค่อนข้างเร็วพอสมควร ส่วนโมย่ากับปันตามมาทีหลัง เมื่อทั้งสี่คนมาถึงก็เห็นปันนอนร้องไห้น้ำตาอาบแก้ม เมื่อต้นเห็นสี่หนุ่มหลายเชื้อชาติมาหาที่ห้อง เขาจึงต้องรีบเช็ดน้ำตาให้แห้งและทำการต้อนรับ หาน้ำมาให้ทั้งสี่ดื่มแก้กระหาย พอต้นทำทุกอย่างเสร็จ ก็เดินไปนั่งบนเตียงนอนต่อ ด้วยสีหน้าที่บอกได้ในทันทีว่า โลกใบนี้กลั่นแกล้งเขา "ต้นใจเย็นๆค่อยๆคิด เมื่อกี้ได้ความคิดดีจากโมย่า มีอะไรควรพูดออกไปตรงๆ ผลที่เกิดมาเป็นอย่างไรเราจะได้รู้และจะได้แก้ไขต่อไป ต้นมัวนั่งอมทุกทข์อยู่อย่างนี้ไม่มีประโยชน์หรอก"ปันมีสีหน้าที่ดูเศร้า ถึงจะพึ่งโดนบอกรักมาก่อนหน้านี้ "ริโอ้เห็นด้วยกับปันนะ ไปคุยกับจางเจี่ยให้รู้เรื่อง แฟนเก่าจางเจี่ยอาจจะพูดไม่จริงก็ได้ อย่าไปเชื่อมากนักเลย เหมือนปรัชญ์ไง ที่พูดให้จางเจี่ยคลางแคลงใจต้นน่ะ"ริโอ้พร้อมสนับสนุนความคิดนี้ และเริ่มรู้สึกว่าปันคิดอะไรที่ซับซ้อนมากขึ้น หลังไปไหนมาไหนกับโมย่าเป็นประจำในระยหลังมานี้ "เรื่องนั้นแค่เรื่องรองแต่เรื่องใหญ่ ที่เขาไม่เชื่อใจต้น"ต้นน้ำตาจะไหลอีกครั้งแต่พยายามกลั้นไว้ เพราะมีคนอยู่เยอะ ริโอ้กับปันพูดหลายอย่าง ให้ไปหาจางเจี่ย แต่ต้นก็ยืนกรานปฏิเสธและตัดสินใจจะเลิกจางเจี่ย เพราะเหตุผลหลายอย่างที่มาในห้วงความคิดคิดของเขา จึงเป็นเหตุผลที่เหมาะที่สุดที่จะร้างลากันไป ก่อนที่จะเจ็บมากไปกว่านี้ทั้งสองฝ่าย "แล้วแต่ต้นนะ ริโอ้แค่พูดแนวความคิดให้ฟัง ถ้าต้นจะเลิกท่าเดียวริโอ้ก็ตามใจต้น พร้อมอยู่เคียงข้างต้นนะ"ริโอ้ถอนหายใจเฮือกใหญ่ในความรั้นของต้น ส่วนปันนั้นก็สุดปัญญา ในการเกลี่ยกล่อมให้คืนดีกับจางเจี่ย ที่ทั้งสองอยากให้ต้นทำความเข้าใจกับจางเจี่ย ก็เพราะเห็นแล้วว่าต้นนั้นรักจางเจี่ยมาก ถ้าผิดหวังซ้ำสองรอบติดกันต้นจะรับไม่ไหว พวกเขาจึงอยากให้ต้นคืนดีกับจางเจี่ย ส่วนอนาคตจะเป็นอย่าไรค่อยว่ากันอีกที ขอให้ปัจจุบันได้มีความสุขสมหวังไปก่อน ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆอย่างน้อยเราก็เคยมีความสุข ทั้งพ้องเพื่อนได้คุยกับต้นร่วมสองชั่วโมงก็ขอตัวกลับ เพราะอยากให้ต้นได้พักผ่อน และอีกอย่างด้วยเวลามันก็เนิ่นนานมาพอสมควร ที่พวกเขามาหาต้น "พวกเรากลับก่อนนะต้น เดี่๋ยววันหลังเราจะมาหาใหม่"ริโอ้ลุกขึ้นยืนก่อนและที่เหลือก็ลุกขึ้นพร้อมกัน แล้วทั้งหมดก็ล่ำลากลับ เมื่อบรรดาเพื่อนและแฟนเพื่อนได้กลับกันหมด ความเหงาก็เริ่มเข้ามาเยือนต้นอีกครา ครั้งนี้น่าจะหนักกว่าปรัชญ์ เพราะปรัชญ์ไม่ได้ดีกับต้นซักเท่าไร ยามเมื่อเขาจากไปต้นจึงมีสองอารมรมณฺ์ ทั้งรักทั้งเกลียดปนเปผสมกันไป แต่กลับจางเจีี่ยไม่ใช่อย่างนั้น จางเจี่ยดีกลับต้นและต้นก็มีความสุขยามอยู่กับจางเจี่ย มากกว่าปรัชญ์หลายเท่า ต้นยังคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไร กับเรื่องของจางเจี่ย ปากของต้นก็บอกว่าจะไม่ไปหา แต่ใจของเขาลอยไปที่โรงแรมจางเจี่ยอาศััยอยู่ เขาครุ่นคิดอย่างหนัก ใจหนึ่งก็อยากเลิกกับจางเจี่ยเพราะดูหลายเหตุการณ์ ที่จะตามมาในอนคต น่าจะยุ่งพอสมควร แต่ก็อดสงสารตัวเองและจางเจี่ยไม่ได้ ที่ต้องจากลาทั้งที่ยังรักกันอยู่ ต้นไม่สามารถตัดสินใจได้เด็ดขาด เขาถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วล้มนอนลงบนเตียงด้วยความกลัดกลุ้ม ใจของต้นคิดถึงจากเจีี่ยมากแค่ไหน ในขณะเดียวกันจางเจี่ยก็ไม่ได้แตกต่างกันซักเท่าไร ในเหตุการณ์รักสะบั้นใจครั้งนี้ก็เช่นกัน จางเจี่ยเริ่มเมาแต่ก็ยังไม่เลิกดื่ม เบียร์ขวดต่อขวดจนสภาพร่างกายย่ำแย่ อย่างเห็นได้ชัดในช่วงระยะเวลาที่ไม่ได้นานเลย ในช่วงเวลาที่กำลังจะลืมทุกข์ เพราะเมาอย่างหนัก จางเจี่ยก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น เขารู้สึกรำคาญเพราะนึกไปว่าเป็นคิมโยฮัน ที่เขาแสนชังเมื่อกลางวันที่ผ่านมา พอเขาไปเปิดประตูก็พบหน้า หลี่หรงหรงที่เขาก็ไม่ค่อยสบอารมณ์เช่นเดียวกัน "อะไรกัน ยังไม่เลิกดื่มเบียร์อีกเหรอจางเจี่ย สภาพดูไม่ได้แล้วนะ"หลี่หรงหรงแสนจะหงุดหงิด และรำคาญนัยน์ลูกตาอย่างมาก "มันเรื่องของผมหรงหรงอย่ามายุ่ง"จางเจี่ยเดินโซซัดโซเซไปยังเตียงพร้อมถือขวดเบียร์ไปด้วย หลี่หรงหรงเดินตามไป และคว้าขวดเบียร์ที่จางเจี่ยกำไวแน่นอย่างกับของล่ำค่าที่หากินยาก หลี่หรงหรงออกแรงพอสมควรถึงกระชากหลุดมาจากมือของจางเจี่ย หลังจากนั้นเธอก็นำไปทิ้งในถังขยะ "หรงหรง ทำอย่างงั้นไม่ได้นะมันเบียร์ของผม"จางเจี่ยจะลุกขึ้น หลีหรงหรงจึงผลักจางเจี่ยจนล้ม ที่หลี่หรหงหรงกล้าผลัก ก็เพราะทราบดี ถ้าจางเจี่ยเมาเรี่ยวแรงจะหายหมด "เลิกดื่มได้แล้ว พรุ่งนี้หรงหรงจะกลับจีน"หลี่หรงหรงคิดดีแล้ว เพราะเขาได้จองตั๋วเครื่องบินไว้สองที่่นั่ง หลี่หรงหรงเห็นสภาพจางเจี่ย ที่ดูแย่ขืนอยู่ต่อ เขาอาจจะเป็นอะไรมากไปกว่านี้ และเหตุผลหนึ่งที่เธอเร่งเวลากลับ เพราะกลัวต้นกับจางเจี่ย จะกลับมาทำความเข้าใจกัน "ผมยังไม่กลับ"จางเจี่ยพูดเสียงริ่มอ่อย เมื่อเขาไม่ได้ดื่มเบียร์ เขาจึงล้มตัวลงนอนบนเตียง "ต้องกลับถ้าไม่กลับเห็นดีกัน เพราะหรงหรงจะบอกทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในทัน ให้พ่อแม่ญาติพี่น้องของจางเจี่ยฟังให้หมด รวมทั้งบรรดาเพื่อนของจางเจี่ย และหรงหรงด้วย กล้ามั้ยจางเจี่ย"หลี่หรงหรงยิ้มเยาะ "หรงหรง เธอมันร้ายมาก ผมไม่น่าเคยไปรักคนอย่างคุณเลย"จางเจี่ยพลิกตัวนอนคว่ำทุบที่เตียงนอนหลายครั้ง "แล้วแต่จางเจี่ยจะคิด หรงหรงไม่สน ถ้าสิ่งที่ต้องการจะแลกด้วยอะไรหรงหรงก็ยอม" หลี่หรงหรงเห็นอาการจางเจี่ยแน่นิ่ง และไม่ยอมพูดจาตอบโต้เธออีก หรงหรงจึงใจคอหวั่นเกรงเกิดเรื่องไม่ดี เธอจึงเดินไปที่ร่างของจางเจี่ย และสิ่งทีเห็นกับได้ยิน คือเสียงลมหายใจของจางเจี่ย หรงหรงจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกในทันที หลังจากนั้นเก็บเสื้อผ้า ข้าวของใช้ซอยของจางเจี่ย ที่เกลื่อนห้องจนดูรกและไม่สะอาดตา เหตุผลหลักที่หรงหรงเก็บของใช้ส่วนตัวของจางเจี่ย ก็เพื่อใส่กระเป๋าเดินทางกลับจีนคืนพรุ่งนี้ ไม่ใช่เพราะทำความสะอาดห้องแต่อย่างใด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD