หลี่หรงหรงเคาะประตูเพียงครั้งเดียว จางเจี่ยก็เปิดประตูออกมาทันที และเขาก็มีสีหน้าที่ผิดหวังที่ไม่ใช่ต้น
"มองหาแฟนหรอ"
"ต้นมาเหรอ"จางเจี่ยถาม
"เขาฝากกุญแจไว้"หลี่หรงหรงยื่นกุญแจรถให้จางเจี่ย เขาจึงรับไว้
"ไม่จริง ผมไม่เชื่อ"จางเจี่ยเดินออกจากห้องรีบมองไปรอบๆแต่ก็ไม่เห็นแม้เงา
"จะมองอะไรแค่เขาไม่เข้าห้องก็น่าบอกได้แล้วนะว่า เขาเลิกกับจางเจี่ยแล้ว"หลี่หรงหรงยักไหล่เหล่สายตามองจางเจี่ย ในท่าทีเย้ยหยัน
"ทำใจซะ คงคิดได้คบกับจางเจี่ยต่อไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร "หลี่หรงหรงหัวเราะในลำคอด้วยความสะใจ
"ไม่จริง"จางเจี่ยใช้ที่เสียงหนักแน่น แต่เริ่มแผ่วในช่วงท้าย
"ทำไมจะไม่จริง จางเจี่ยก็ลองดูซิถ้าอีกสามวันเขาไม่มาหาจางเจี่ย แสดงว่าเขาคงอยากเลิกกับจางเจี่ย"
เมื่อจางเจี่ยเจอหลี่หรงหรงย้ำ เขาถึงคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนอย่างไม่ได้ตั้งใจ พลางคิดไปว่าต้นคงกลับไปคบกับปรัชญ์เหมือนเดิม เพราะทั้งคู่เคยรักใคร่ต่อกันมาก่อนเขา
"เขาคงคิดได้ล่ะมั้ง ถ้าอยู่กับจางเจี่ยก็แค่มีความสุขในไทย แต่ไม่สามารถไปที่จีนได้ จางเจี่ยก็รู้ดีนี่ ที่นั้นเขายังไม่ยอมรับเรื่องนี้ จางเจี่ยกล้าที่จะเผชิญความจริงเหรอ"หลี่่หรงหรงพยายามสังเกตสีหน้าของจางเจี่ย ซึ่งก็เป็นผลดั่งที่เธอคาดไว้ หลี่หรงหรงจึงใส่ไฟต่อไม่พอแค่นี้
"ถ้าเขาอยู่กับคนไทย คงมีความสุขมากกว่าอยู่กับจางเจี่ย อยู่ด้วยกันทุกวันทุกคืน นอดกอดกันหอมแก้มทุกวัน ส่วนกับจางเจี่ยแค่คุยวีแซท เห็นแต่หน้าไม่ได้สัมผัส"หลี่หรงหรงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆกระซิบข้างหูของจางเจี่ย
"ยอมรับความจริงซะจางเจี่ย"หลี่หรงหรงพูดจบ พร้อมเชิดหน้าหันหลังกลับห้อง โดยมีประกายแห่งความหวังคบกับจางเจี่ยต่อ ถ้าจางเจี่ยเลิกคบกับหนุ่มไทยคนนี้
จางเจี่ยยืนนิ่งคิดสิ่งที่เกิดขึ้น เขาจะทำเช่นไรต่อจากนี้ จางเจี่ยสุดในปัญญาที่จะคิดในเวลาอันสั้น
ต้นกลับมาถึงห้อง ก็เห็นริโอ้กับแทซองนั่งที่เก้าอี้ พร้อมทั้งสายตาสองคู่จ้องมาที่เขา
"ไปหาจางเจี่ยทำไมไม่บอกริโอ้"ริโอ้มีท่าทีไม่พอใจออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัด
"ต้นเห็นนอนหลับกันอยู่เลยไม่กล้าปลุก ต้นขอโทษริโอ้ด้วย"ต้นนั่งลงบนเตียงนอน เพราะเก้าอี้ในห้องมีเพียงสองตัว
"ไม่เป็นไร แล้วเป็นไงบ้าง"ริโอ้มองหน้าต้นอย่างใคร่รู้ เพราะสีหน้าต้นไม่ค่อยสู้ดีนัก
"ต้นเจอแฟนเก่าจางเจี่ยที่หน้าห้อง เขาบอกต้นจะกลับจีนกับเธออีกสองสามวัน"
"พูดแค่นี้่ก็เชื่อ"ริโอ้มีสีหน้าไม่พอใจในความซื่อของต้น
"เมื่อคืนจางเจี่ยก็บอกจะกลับจีนกับต้นเหมือนกัน"ต้นถอนหายใจด้วยความร้าวราน พร้อมใช้สองมือกุมขมับไว้
"เดี๋ยวต้นจะเล่าอะไรให้ฟัง"ต้นจึงพรรณาเรื่องราวของจางเจี่ย ที่หลี่หรงหรงเล่าให้ฟัง มีทั้งความจริงปนเติมแต่ง แต่ต้นไม่สามารถแยกได้ จึงเหมารวมเป็นจริงไปทั้งหมด
"ต้นจะทำอย่างไรต่อไป"ริโอ้แสนปวดใจที่เพื่อนรักต้องทุกข์อีกครา
"ต้นยังไม่รู้ ตอนนี้ต้นขอทำใจสักพักก่อน"
"ริโอ้ว่าต้นต้องไปเจอจางเจี่ยและคุยกันให้รู้เรื่อง อยู่แบบนี้มันไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอกต้น"
"แต่ที่แฟนเก่าต้นบอกก็น่าคิด จะให้ต้นรอความหวัง รอจางเจี่ยเป็นปีๆเพื่อเจอหน้ากันนี่นะ "ต้นคิดว่ามันคงทรมานจิตใจน่าดู และอีกอย่างหนึ่งเขาก็ไม่แน่ใจในตัวจางเจี่ย อาจเผลอหลงใหลได้ปลื้มชายคนใหม่ ก็อาจเป็นไปได้เหมือนกัน
"ถ้าอย่างงั้นแล้วแต่ต้น ริโอ้พร้อมอยู่เคียงข้างต้นเสมอนะ"ริโอ้ก็ยังไม่เห็นด้วยอยู่ดี แต่ไม่อยากขัดใจเพื่อนในช่วงเวลานี้ ถึงแม้เขาจะไม่ชอบจางเจี่ยอยู่พอสมควร แต่ในเมื่อต้นยังรักเขาอยู่ก็ควรจะคุยกัน เพื่อหาทางออกไม่ใช่หนีหลบหน้ากันทั้งสองฝ่าย
"ขอบใจมากนะริโอ้ ไปทำงานเถอะเดี่๋ยวสายฝากบอกพี่กันด้วย ต้นลาหยุดซักสามวัน"
"ได้ เดี๋ยวเราบอกพี่กันให้ อย่าคิดมากนะ ถ้ามีเรื่องอะไรโทรหาริโอ้ได้ทุกเมื่อ"
ริโอ้กับแทซองได้ออกไปจากห้องของต้น ซึ่งเวลานี้เองที่ต้นเริ่มรู้สึกวูบวาบทั่วร่าง ใจร้อนรนดั่งไฟในภูเขา
ต้นจึงล้มลงนอนบนเตียงอย่างอ่อนล้าโรยแรง มือข้างหนึ่งก่ายหน้าผากครุ่นคิดทุกเรื่องราว ส่วนอีกมือวางไว้บนหน้าอกที่ใจเต้นระรัว ลมหายใจเข้าออกสูดลึกจนสุดกำลัง จิตใจของต้นหวั่นกลัวสิ่งรอบข้าง แม้กระทั่งความคิดของตัวเองก็แสนจะหลอนในจิตใจ ช่วงเวลาพียงระยะหนึ่งต้นจึงเผลอไผลหลับสู่ภวังค์ ด้วยความเครียดในสมองและพักผ่อนทางกายไม่เพียงพอ จนเทำให้ต้นหลับไปอย่างง่ายดายเหมือนทารกน้อยที่แรกเกิด
คิมโยฮันนั้นแค่อยู่ภูเก็ตคืนเดียว เขาก็ต้องรีบพับเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทาง เมื่อได้รับข้อความจากแทซองเพื่อนรัก ที่บอกมาในไลน์ว่า ต้นทะเลาะกับจางเจี่ย เขาจึงไม่รีรอที่จะกลับไปที่เชีบงใหม่ในทันที
เมื่อคิมโยฮันก็มาถึงที่เชียงใหม่ เขามุ่งพุ่งตรงไปที่ห้องของต้นในทันที เนื่องจาก รปภ จำหน้าของเขาได้จึงผ่านเข้าไปในตึกได้อย่างง่ายดาย คิมโยฮันรีบขึ้นไปยังห้องของต้น ด้วยหัวใจที่หนักแน่นดั่งภูผา
คิมโยอันได้มาถึงหน้าห้องของต้น เขาเคาะประตูสองถึงสามครั้งแต่ไร้การตอบกลับ คิมโยฮันเริ่มใจวิตกกังวลกลัวต้นตัดรอนชีวิต เขาจึงจับลูกบิดประตู ซึ่งเป็นโชคช่วยที่ประตูไม่ได้ล็อค คิมโยอันจึงถือวิสาสะเปิดเข้าไปด้วยความหวังดี
เพียงประตูเปิดเข้าไปข้างใน สายตาของคิมโยฮันสอดส่ายมองไปยังเตียงนอนทันที ซึ่งก็เป็นดั่งที่เขาคิด ร่างของต้นนอนราบอยู่บนเตียง เขาจึงรีบวิ่งไปดูแม้ระยะทางจะแสนสั้น เมื่อเขาไปถึงยังร่างของต้น
"ต้น ต้น ต้น "คิมโยฮันเรียกชื่อต้นอยู่หลายครั้ง พร้อมเขย่าร่างของต้นด้วยความกลัว ต้นจะทำลายชีวิตตัวเองให้ดับดิ้น
"ต้น ตื่นซิ"ใจคิมโยฮันนั้นหวั่นสั่นกลัว
เนื่องจากคิมโยฮันออกแรง เขย่าร่างของต้นอย่างหนักหน่วง จึงเป็นเหตุให้ต้นกลับสู่ความจริงที่ต้องเผชิญ ต้นค่อยๆลืมตาขึ้นแต่ยังฟ่ามัวจึงลายตา คิดว่าคิมโยฮันเป็นจางเจี่ย
"จางเจี่ยมาหาต้นจริงๆด้วย มันไม่ใช่ความฝัน"ต้นรีบลุกขึ้นนั่งกอดคิมโยฮันทันที
การกอดครั้งนี้ของต้นทำให้คิมโยฮันปวดร้าวใจยิ่งนัก เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ซ้ำ ทำให้คิมโยฮันซอกซ้ำฝืนกลืนอีกครา แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น เขาก็พร้อมยอมรับสวมกอดต่อไม่หวั่นไหว
"จางเจี่ยหายโกรธต้นแล้วใช่มั้ย"ต้นสะอื้นไห้ด้วยใจระรื่น
"ต้น ผมโยฮัน" คิมโยอันฝืนใจเปล่งคำพูดออกมา
ต้นนั้นได้ยินเสียงที่คุ้นเคย และชื่อที่ยังไม่จางหาย เขาจึงรีบผละร่างกายออกในทันที พร้อมมองคนตรงหน้าให้ชัดเจน
"โยฮัน มาได้อย่างไงพึ่งไปภูเก็ตนี่"ต้นปาดน้ำตาที่นองหน้าให้เหือดแห้ง
"ผมได้ข่าวจากแทซองที่ส่งไป ผมร้อนใจจึงรีบมาหาต้น"คิมโยฮันหยิบผ้าเช็ดหน้าของตัวเอง มาเช็ดน้ำตาให้ต้นที่หลงเหลือเพียงน้อยนิด
"ไม่มีอะไรหรอก แทซองคงเข้าใจผิดไปเอง"ต้นพยามแก้ข่าวที่คิมโยอันได้รับ ให้เป็นเรื่องที่ไร้ปัญหา
"แน่ใจเหรอต้น คำพูดของต้นโยฮันได้ยินหมดทุกคำพูด
"คือ"ต้นไร้คำแก้ตัว จีงอ่ำอึ้งนึกสรรหาคำโต้แย้ง
"ต้นไม่ต้องพูดอะไร โยฮันเข้าใจต้นดี และรู้ทุกเรื่องหมดแล้ว"ก่อนมาห้องต้น คิมโยอันได้รับเรื่องราวจากแทซองไม่ตกหล่นสักเรื่อง
"ก็ตามนั้น ต้นไม่รู้จะทำอย่างไรดี"ต้นหันหน้าไปทิศทางอื่น เพื่อกลั้นน้ำตาที่เริ่มจะไหล
"ปล่อยน้ำตาออกมาให้หมดอย่าให้เหลือ"คิมโยฮันโอบกอดต้นเพื่อมอบความอุ่นกาย ปลอบโยนให้คลายเศร้า
ต้นถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาอย่างกับสายน้ำ ที่ไหลรินตกจากที่สูง ความซ้ำใจในครั้งนี้เวลาใกล้เคียงกับครั้งเก่า จึงทำให้ต้นเจ็บปวดใจหลายเท่าจนสุดทน
คิมโยอันนั่งปลอบใจต้นให้คลายเศร้าได้บ้าง เขาครุ่นคิดจะทำสิ่งใดดี ระหว่างแทรกกลางใจของต้นกับจางเจี่ย หรือช่วยแก้เหตุปัญหาที่สองคนนี้ผิดใจกัน ความรู้สึกระหว่างสองการกระทำที่ต่างขั้ว คิมโยฮันกำลังชั่งใจกับความรู้สึกในครั้งนี้ แต่เขายังรู้สึกโกรธจางเจี่ยที่ไม่หนัักแน่น เพียงเหตุการณ์ที่คาดเดาไม่ได้ เขากับเชื่อสิ่งที่ตาเห็นซึ่งมันอาจไม่ใช้อย่างที่เห็นและคิด ถ้าปล่อยให้ต้นคบกับจางเจี่ยต่อไปอีก ต้นอาจจซ้ำใจมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า ในความอ่อนไหวทางอารมณ์ของจางเจี่ย คิมโยฮันจึงยังไม่สามารถจัดการปัญหานี้ให้จบสิ้นได้
ต้นนั้นเมื่อได้รับการปลอบโยนจากคิมโยฮัน ซึ่งได้ผลประมาณนึง จึงทำให้ต้นหลับไปในที่สุด คิมโยฮันนั่งมองต้นช่วงเวลาหลับใหล เขาอยากสัมผัสเรือนร่างของต้น แต่ก็หักห้ามใจไม่ให้ทำ เพราะเขาไม่มีสิทธิ์นี้นอกจากจางเจี่ย ยิ่งมองหน้าต้นมากเท่าไร เขารู้สงสารต้นทวีคูณ จึงเป็นเหตุให้คิมโยฮันคิดได้ในทันใด ว่าต้องทำในสิ่งที่ต้นต้องการและมีความสุข คิมโยฮันลุกขึ้นยืนมองหน้าต้นชั่วครู่ และหันหลังเดินจากไปเพื่อความสุขของต้นต่อจากนี้
จางเจี่ยได้รับโทรศัพท์จากพนักงานในโรงแรมว่าคิมโยฮันมาหา เขาจึงให้คิมโยฮันขึ้นมาที่ห้องแทนลงไป เพราะเขายังไม่พร้อมที่จะพบเจอผู้คนแปลกหน้า และทำใจเรื่องต้นย้งไม่ได้ และอีกอย่างหนึ่งคือจางเจี่ยกำลังดื่มเบียร์แก้ความกลัดกลุ้ม
ไม่นานเท่าไรคิมโยฮันก็มาเคาะประตูห้อง จางเจี่ยจึงเดินไปเปิดประตู เพื่อให้คิมโยฮันเข้ามาภายในห้อง
"เข้ามาข้างในก่อน"จางเจี่ยเอ่ยขึ้น และเดินนำหน้าคิมโยฮันมานั่งที่เก้าอี้
"มีอะไร"จางเจี่ยพูดจบพร้อมกระดกเบียร์ทั้งขวด
คิมโยฮันมองสภาพของจางเจี่ย ที่ดูโทรมลงอย่างมาก เขาแท่บไม่เชื่อสายตาตัวเองจากหนุ่มหล่อ จะกลายสภาพเป็นหนุ่มขึ้เหล้าแฟนทิ้ง ปล่อยตัวจนใครพบเห็นต้องแปลกใจ
"จะมาพูดเรื่องของต้น"คิมโยฮันพยายามใช้เสียงที่นุ่มนวล เพื่อให้จางเจี่ยไม่กังวลใจไปมากกว่านี้ แต่ดูแล้วน่าจะไร้ผลกลับกันจางเจี่ยอารมณ์ขึ้นทันที
"มายุ่งอะไรด้วยไม่เกี่ยวกับคุณ ถ้ามาพูดเรื่องนี้ก็ออกไปได้เลย ไม่ส่งนะ เชิญ" จางเจี่ยชี้นิ้วไปที่ประตูห้อง
คิมโยฮันพยายามอดกลั้นอารมณ์โกรธ เพราะจะเสียเวลาที่มาช่วยให้ทั้งคู่คืนดีกัน
"ผมต้องยุ่ง เพราะผมเป็นเพื่อนต้น"คิมโยฮันเสียงเข้มขึ้นมาอีกหน่อย
"ไม่เชื่อหรอกคิดแค่เพื่อน คุณคิดมากกว่านั้นอย่าหาว่าผมไม่รู้ ถ้าผมผิดใจกับต้นนิดหน่อยรีบกลับมาเชียว"จางเจี่ยหัวเราะเสียงแผ่วเบา
"คุณจะคิดอย่างไรก็เรื่องของคุณ ผมเข้าเรื่องเลยจะได้ไม่เสียเวลา"
"อ่อ จะมาขอต้นจากผมเหรอ ไม่มีทางหรอกผมไม่ให้"จางเจี่ยวางขวดกระแทกจนเสียงดัง
"ต้นรักคนอย่างคุณได้อย่างไง ปัญญาอ่อนสิ้นดี ไร้สติ ไม่มีความคิด"คิมโยฮันโมโหใส่จางเจี่ยแบบไม่ยั้ง
"คุณมีสิทธิ์อะไรมาพูดผมแบบนี้"จางเจี่ยเริ่มโมโหเช่นกัน
"อุตส่าห์หวังดีจะให้คืนดีกัน เสียดายที่ต้นรักคุณมากแต่คุณมัน" คิมโยฮันหยุดพูดทันที ขืนพูดต่ออาจมีเรื่องกับจางเจี่ยได้
"มันอะไร"จางเจี่ยยื่นหน้าเข้าหาคิมโยฮัน
"ช่างมันเถอะ เรื่องของต้นกับปรัชญ์ ผมไมเชื่อ ต้นไม่ใช่คนอย่างนั้น คุณก็น่าจะรู้ดีกว่าผม"
"เหรอ" จางเจี่ยหัวเราะ
"ฝากให้คิดดีดีนะ ถ้าคุณปล่อยต้นไป ผมจะไม่มีวันคืนให้คุณ"
"มีปัญญาหรือเปล่า ต้นเลือกผมไม่ใช่คุณ"
"แต่ถ้าเมาแบบนี้ก็ไม่แน่นะ ต้นอาจเลือกผมมากว่าคุณ ที่ดูไร้อนาคต"
"กล้าดีอย่างไงมาพูดจาแบบนี้กับผม"จางเจี่ยลุกขึ้นยืน
"ไม่ได้กล้าอย่างเดียวผมจะทำจริงด้วย"คิมโยฮันลุกขึ้นยืนทันที
"กลัวตายเลย ทั้งผมและคุณ หวังไปเถอะ ต้นเขาจะกลับไปหาปรัชญ์แฟนเก่าของเขาโน้น"จางเจี่ยพูุดเสียงดัง
"คุณนี่มันแย่มาก เจอคนดีดีแล้วยังไม่รั้งไว้กับปล่อยให้หลุดมือ"คิมโยฮันสุดกลั้นอารมณ์โกรธ
จางเจี่ยฉุกคิดได้ประมาณนึง แต่ด้วยความอคติจึงมองข้ามความจริงข้อนี้ไป