ความในใจnc18

3939 Words
ในห้วงเวลามีเพียงสองคน ต้นและจางเจี่ยโบยบิน ปล่อยกายใจ ให้ปลิดปลิวไปกับสายลม สองหนุ่มขับมอเตอร์ไซค์ลัดเลาะไปทั่วเมือง หาจุดเหมาะที่สานความสัมพันธ์ จางเจี่ยและต้นจึงแวะไนท์พลาซ่า เพื่อเดินชมหาสิ่งบันเทิงใจ เดินดูอยู่หลายร้านซ้ายขวาแวะหยิบจับมาขึ้นดู พอใจก็ซื้อมายังไม่ถูกใจก่อนจากไปก็ขอโทษแม่ค้า ครั้นผ่านร้านเครื่องเงินสองหนุ่มต่างเชื้อชาติ ต้องหยุดชะงักในทันที "ฮู้ สร้อยเส้นนี้สวยจัง"ต้นอุทาน พร้อมจับมาดู เป็นลายเกลียวคลื่นพันเกี่ยวกัน มีจี้เป็นรูปกระต่ายซึ่งเป็นปีเกิดของต้น" "อยากได้มั้ยเดี๋ยวผมซื้อให้"จางเจี่ยเหลือบสายตาดูต้น ที่มองสร้อยเส้นนั้นไม่วางตา พลิกกลับไปมาแล้วอมยิ้ม "ป้า เอาเส้นนี้ เท่าไรครับ"ต้นถามพร้อมเตรียมเงินในกระเป๋าออกมาจ๋าย "999บาทค่ะ "ไม่ต้องเดี๋ยวผมจ่ายเองครับ"จางเจี่ยห้ามต้นไว้ และควักเงินแบงก์พันออกมาให้แม่ค้า "เดี๋ยวผมใส่ให้ครับ"จางเจี่ยยื่นมือขอสร้อยจากต้น แต่ต้นไม้ให้ เพราะเห็นแม่ค้ายืนมองต้นเลยรู้สึกเขิน "ไว้ใส่ที่ห้อง" "ทำไม่ใส่ที่นี่ไม่ได้" "หิวแล้วไปหาอะไรอร่อยๆกินกันดีกว่า"ต้นรีบตัดบทและจับมือจางเจี่ยเดินหนีหาย จนลับสายตาแม่ค้าสร้อยเงิน สองหนุ่มเดินชมสินค้าที่มีให้เลือกหลากหลาย จนจางเจี่ยตาลาย ต้นจึงพาหยุดพักกินข้าวซอยในโซนอาหาร ที่มีอาหารพื้นเมืองหลากชนิดให้ลิ้มลอง เมื่อสองหนุ่มอิ่มท้องสบายใจจึงเริ่มท้อ เพราะต้องเดินอีกไกลจึงตกลงกันเดินเลี้ยวไปยังที่เดิม เพื่อกลับห้องไปพักผ่อน จางเจี่ยจึงเริ่มวางแผนสานสัมพันธ์รัก "ผมปวดขามากเลย"จางเจี่ยใช้มารยาจีนใส่ต้น ต้นจึงต้องรีบพาจางเจี่ยกลับโรงแรม เพื่อนวดให้คลายปวด ส่วน ริโอ้กับปันเดินทางมายังบาร์โฮสต์ ที่ดูธรรมดาบริเวณภายนอก "จะเข้าดีหรอ "ปันมีสีหน้ากังวลใจ เพราะพึ่งเคยมาครั้งแรก "มาแล้วก็ต้องเข้าไปซิ เหงาไม่ใช่หรอ พามาคลายเหงาแล้วไง" "เหงาแล้วเสียเงินนี่มันคุ้มมั้ย" "เอาน่าลองก่อน มากับริโอ้ไม่ต้องกลัว"ริโอ้รีบจับมือปันแล้วเดินเข้าไปข้างในทันที "ไม่ต้องจับมือก็ได้ เดี๋ยวเขาหาว่าเป็นแฟนกัน" "เหอะน่า" พอเข้ามาถึงในร้าน ก็มีหนุ่มวัยกลางคนน่าตาดูดี แต่งตัวภูมิฐานเข้ามาต้อนรับ "หวัดดีครับคุณน้อง เชิญทางนี้ หนุ่มวัยกลางคนพาปันและริโอ้มายังโต๊ะที่เหลืออยู่แต่ไกลหน่อย เพราะมาช้าจนร้านคนเกือบเต็ม "นี่ครับเมนูสั่งเครื่องดื่มก่อน" ริโอ้กับปันเปิดดูเมนูเครื่องดื่มและปรึกษากัน ก่อนสั่งเครื่องดื่ม แล้วบอกหนุ่มวัยกลางคน "ที่นี่ก็เลือกเด็กมานั่งด้วยได้เลยนะครับ เดี๋ยวสักพักจะออกมาโชว์ตัว อุ้ยมาพอดีเลย" ริโอ้ดูหนุ่มเพลินจนตาลาย ที่ถูกใจริโอ้ก็มีบอร์ 8 หน้าตาเกาหลีมาก หุ่นไม่หนามากกำลังดี ริโอ้เลยเล็งไว้ ปันนั้นเล็งเบอร์ 6หนุ่มลูกครึ่ง ซึ่งใกล้เคียงสเปคของปันแถมหุ่นบึกหล่อเข้ม คล้ายโมย่าลูกค้าที่ปันนวดเมื่อตอนกลางวัน "ตัดสินใจกันได้หรือยังครับ"คนเชียร์แขกกำลังจะนำเสนอ เพราะสังเกตดูปันกับริโอ้แล้วเห็นเริ่มสนใจ "เบอร์ 8ก็หล่อ หน้าตาอินเทรนต์ เกาหลีชัดๆ เรียนมหาลัยปี3 " คนเชียร์ยิ้มให้ริโอ้ "ก็ได้ เอาเบอร์8" คนเชียร์แขกกวักมือเรียก "คุณน้องสนใจเบอร์ไหน"คราวนี้หันมามองปัน "เบอร์6 "ริโอ้พูดขึ้นแทนทันที ส่วนปันอมยิ้ม คนเชียร์แขกเลยเรียกน้องเบอร์ 6 ลงมาหาปัน แต่เดินตามมาทีหลัง เบอร์ 8 "คนนี้ชื่อน้องเบียร์ คุณน้องชื่ออะไรครับ" " ริโอ้" "น้องเบียร์อยู่คุยกับคุณน้องริโอ้นะ"น้องเบียร์นั่งลงข้างๆริโอ้แล้วยิ้มให้ ดูแล้ววัยใกล้เคียงกัน "ส่วนคนนี้น้องบูม เอ๊ะคุณน้องชื่อะไรนะ" "ปันครับ" "น้องบูมดูแลคุณน้องปันดีๆนะ" "เดี๋ยวพี่ไปก่อน เบียร์ บูม เทคแคร์ ลูกค้าให้ดีนะ"พูดจบส่งยิ้มให้ แล้วเดินไปต้อนรับลูกค้าท่านอื่นต่อ ริโอ้เบิกตามองหนุ่มบาร์โฮสต์ ที่แสนจะดูดีทุกมิติ จึงอดใจไม่ไหว อยากพูดคุยให้รู้จักกันมากกว่านี้ จึงเริ่มพูดขึ้นก่อน "เราวัยใกล้กันเรียกชื่อเฉยๆก็ได้"ริโอ้มองเบียร์ด้วยสายตาหวานฉ่ำ " ริโอ้ใครตั้งให้ชื่อเพราะจัง"เบียร์ถาม "เพื่อนตั้งให้ครับ" "แล้วเบียร์มาทำงานที่นี่นานหรือยัง" "สองเดือนครับ" "ไม่นานเท่าไรนี่" "ก็ไม่นานครับ ชนแก้วครับ" "ชน"ริโอ้แอบคิดชนบ่อยๆนี่หมดตัวแน่ แต่ก็ยอมจะได้ผ่อนคลายจิตใจ อีกฟากฝั่ง บูม หนุ่มบาร์โฮสต์สังเกตปันนั่งนิ่งเงียบ จึงเริ่มชวนคุยก่อน "ชื่อปันใช่มั้ยครับ"บูมถาม "ฮือ" "เคยมาเที่ยวที่นี่มั้ยครับ" "ไม่" "มีอะไรอยากระบายมั้ย ผมรับฟังทุกเรื่องนะครับ" "เคร" "ก่อนระบาย ชนแก้วกันก่อน"ปันยกแก้วชน แล้วหันหน้าไปทางอื่นด้วยไม่กล้ามองตาบูม "ขี้อายนิดๆ รู้มั้ยน่ารัก"บูมส่งตาหวานไม่ยั้ง "เหรอ" " วันนี้ปันทำงานเหนื่อยมั้ย" "เหนื่อย" "ต้องพักบ้างนะ เป็นห่วงรู้มั้ย" "รู้" บูมรู้สึกจะตันคำพูดที่จะคุยกับปัน แต่ก็พยามยามหาเรื่องราวต่างๆมาคุยด้วยไม่หยุด จนปันรู้สึกคลายความเกร็งไปพอสมควร กลับมาที่ฝากฝั่งริโอ้ "เบียร์เรียนที่ไหน"ริโอ้ถาม "มหาลัยเอกชนปี3" "ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยไม่เหนื่อยหรอ" "เหนื่อยครับ แต่ก็ต้อง .."ริโอพูดแทรกทันที "แบ่งเวลาอย่างไง" "ก็" "เรียนคณะอะไร" "บริหารธุระ"ยังไม่จบ กิจ ริโอ้ถามต่อ "เรียนยากมั้ย" "ไม่ยากครับ" ช่วงแรกคุยเป็นทางการพอสมควร พอจูนติดคุยถูกคอเลยระบายความใจใจให้ฟังกันบ้าง เป็นเหมือนเพื่อนรู้ใจนับปี ร้านปิดแต่สองหนุ่มไม่อยากกลับ ติดใจหนุ่มบาร์โฮสต์เสน่หแรง "วันหลังมาอีกนะครับ "เบียร์ร่ำลาริโอ้ "ครับกลับมาแน่นอน" ใจจริงริโอ้ไม่อยากมาแล้ว หมดเป็นหมื่นจับได้แค่แขน "วันหลังกลับมาอีกนะคะรับ"บูมล่ำลาปัน จริงๆใจปันอยากพากลับห้องคืนนี้ เมื่อล่ำลาหนุ่มบาร์โฮสต์เสร็จ "มาอีกมั้ยพรุ่งนี้"ริโอ้กอดคอปัน แล้วพูดใกล้ๆซอกคอ "ปีละครั้งพอ แค่คุยหมดเป็นหมื่น นวดเป็นร้อยชั่วโมง"ปันหันหน้ามาปากแทบชิดสนิทกัน "ยี้ ไปห่างๆเลย"ปันผลักร่างริโอ้ออกห่าง "หวงตัวด้วย"ริโอ้หยิกแก้ม "ไม่ได้หวง ไม่ชอบ"ปันมองค้อน "ที่เมื่อกี้ไม่ห่างบูมเลยนะ แท่บจะเป็นเนื้อเดียวกัน" "ธรรมดากำไรนิดหน่อย" "ร้ายนะ" "ไม่ต้องพูดมาก กลับห้อง"ปันเดินไปที่รถ "ห้องใคร"ริโอ้ถาม "ห้องใครห้องมัน" "โอเค เดี๋ยวเราไปส่งปันก่อน" "ขอบใจนะ" ปันจึงรีบซ้อนท้ายรถทันที โดยมีริโอ้กำลังจะสตาร์ทเครื่องรถออกไป ปันรู้สึกมึนๆเลยกอดเอวริโอ้ ด้วยกลัวตกรถเพราะริโอ้ขับรถค่อนข้างไว จางเจี่ยผู้แกล้งเจ็บขานอนรออยู่บนเตียง คิดเมื่อไรหนอต้นจะมานวด มัวนั่งเหม่ออยู่ได้ ใจของเขาร้อนรนดังไฟสุ่ม "ต้น เมื่อไรจะมานวดขาให้ผม ปวดมากเลย" "โอเค" "ตรงไหน" "น่อง ต้นขา ครับ" " แบบนี้ต้องเหยียบ" "สบายมาก เหยียบเลย" ต้นแปลกใจนิดหนึ่ง แต่ก็พอเข้าใจได้ เพราะจางเจี่ยนวดหนักพอสมควร "เอาแล้วนะ นอนคว่ำก่อนเลย" จางเจี่ยนอนคว่ำอย่างว่าง่าย ต้นเริ่มที่เท้าก่อน ไล่เหยียบมาที่น่องจนถึงต้นขา "ต้นตัวเบามากเลย"ต้นแค่ใช้ขาข้างเดียวเหยียบ อีกข้างหนึ่งจะต้องประครองตัวไม่ให้ล้ม จางเจี่ยจึงรู้สึกว่าตัวเบา "หายปวดมั้ย"ต้นถาม "้เยื่อมดีขึ้นเยอะเลย"ถึงจางเจี่ยจะไม่รู้สึกเจ็บ แต่ก็รู้สึกสบายที่เส้นยึดตึงคลายลง ต้นเปลื่ยนไปเหยียบขาอีกข้างหนึ่ง จางเจี่ยก็รู้สึกเช่นเดิม ไม่เจ็บแต่สบายขาหายปวดเมื่อย ต้นจึงพอทันทีและนั่งลงข้างๆจางเจี่ย "ต้นก็ปวดขาเหมือนกัน เหยียบให้ต้นได้มั้ย"ในส่วนของต้นนั้นปวดจริง "ก็ได้ นอนคว่ำเลยเดี๋ยวจะเหยียบให้" จางเจี่ยลุกนั่งแล้วยืนเตรียมพร้อม ต้นจึงล้มตัวลงนอนคว่ำรอการโดนเหยียบ "เหยียบที่เท้าก่อนนะซักหนึ่งนาที" "โอเค" จางเจี่ยขึ้นเหยียบที่เท้าซักหนึ่งนาที "แล้วเหยียบที่น่องต่อเบาๆนะ" "ครับ" จางเจี่ยเปลื่ยนจากเท้ามาที่น่องทันที ด้วยความไม่รู้ใช้แรงแค่ไหนจึงจะพอดี เขาเหยียบในความคิดที่ว่าไม่น่าแรง แต่นั้นเป็นเพียงแค่ความคิดของจางเจี๋ย แต่สำหรับต้นนั้นเจ็บจนต้องร้องออกมา "โอ๊ย อ่าย เจ็บ เจ็บ เจ็บ"ต้นจึงดึงขาหนี ช่วงเวลาที่ต้นดึงขาหนี จึงทำให้จางเจี่ยเสียหลัก ล้มทับต้นในขณะนอนคว่ำอยู่ "โอ๊ย ต้นหายใจไม่ออก "ต้นรู้สึกแน่นหน้าอก หายใจลำบาก "ขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ"จางเจี่ยรีบพลิกร่างนอนหงาย ทั้งที่ยังอยากอยู่ท่าเดิม เพราะมันเป็นสัมผัสที่เขาชอบ แต่สำหรับต้นเจ็บจนจุกแน่นหน้าอกจนหายใจหอบเหนื่อย จางเจี่ยรีบลุกขึ้นมาลูบคลำที่น่องของต้น ส่วนต้นยังนอนคว่ำด้วยความปวด ส่วนแน่นหน้าอกจุกนั้นหายแล้ว หลังจากจางเจี่ยพลิกร่างออก "เจ็บมากมั้ย" ต้นพลิกร่างนอนหงาย มองหน้าจางเจี่ย "เจ็บซิ" "ผมขอโทษ "จางเจี่ยรู้สึกผิด ต้นพยุงร่างเพื่อนั่ง ส่วนจางเจี่ยก็ช่วยประะครอง "ไมเป็นไรหรอก"จางเจี่ยไม่เคยเหยียบเลยกะน้ำหนักไม่ถูก"ต้นยิ้ม "้เดี่ยวผมใข้มือนวดให้ ผมจำได้ท่าที่ต้นทำให้ผม" "มันดึกแล้วต้นจะกลับห้อง เอาไว้วันหลัง จางเจี่ยติดต้นไว้นะอย่าลืม"ต้นพยายามขยับร่างไปที่ขอบเตียงเพื่อลงจากเตียง แต่ก็เจ็บที่น่องจึงนั่งลงต่อ "ไหวมั้ยต้น"จางเจี่ยถาม "ไม่ไหวนอนนี่ก่อน พรุ่งนี้ค่อยกลับ นั่นผลพลอยได้ของจางเจี่ย เขาเลยยิ้มแต่ก็รู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนิดนึง ต้นนั้นก็อยากกลับ แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ต้นก็ไม่ปฏิเสธ แต่ก็แอบกลัวมีอะไรเกินเลย "ก็ได้" ต้นจึงขยับร่างเขยิบไปกลางเตียงแล้วนอนนอนหงาย จางเจี่ยจึงล้มตัวลงนอนตามต้นและตะแครงหันหน้ามาทางต้น ใจเขาเริ่มเต้นไร้จังหวะ รัวไม่หยุด เมื่อเห็นใบหน้าที่เรียวงามของต้น จางเจี่ยจึงขยับศีรษะ เข้ามาใกล้ใบหน้าของต้น ส่วนมือที่อยู่ข้างลำตัวโอบร่างของต้นไว้แน่น ส่วนใบหน้าเมื่อขยับเข้าใกล้ขึ้น ริมฝีปากแท่บชนแก้ม จางเจี่ยจึงไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอย ริมฝีปากจางเจี่ยเข้าชิดแก้มน้อยๆพร้อม พรหมจูบทั่วบริเวณใบหน้า เขายกศีรษะขึ้นบรรจงจุมพิตริมฝีปากของต้น ต้นนอนนิ่งแต่ใจไม่เคยนิ่ง ระรัวไม่เป็นจังหวะ "ผมทำมากกว่านี้ได้มั้ย"จางเจี่ยอยากลองทำตามความฝัน "ทำเป็นเหรอ"ต้นอมยิ้มและพร้อมเดินทางรักไปกับจางเจี่ย "ลองดูก่อน"จางเจี่ยไม่มั่นใจ ต้นดูท่าทีจางเจี่ยหยุดชะงัก ต้นจึงพลิกร่างมองหน้าจางเจี๋ย รู้ได้ทันทีไร้เดียงสาต้นจึงจัดแจงเสร็จสรรพไม่ให้เสียเวลา ต้นลุกขึ้นนั่งดึงกางเกงออกจนสุดปลายเท้า เข้าแทรกกลางระหว่างขาทั้งสอง จ้องมองมังกรน้อยที่ยังไร้พิษสง ต้นใช้มือประครองเขย่าเล่นอย่างมันมือ "จะทำอะไร"จางเจี่ยรู้สึกวาบวูบ ใจเต้นระรัว "ทำไม่เป็นก็อยู่เฉยๆ"ต้นใช้เสียงที่เข้ม มังกรน้อยของจางเจี่ยเริ่มขยับ ขยายผงาดจนคับมือ ต้นขยับมือรูดขึ้นลงเป็นจังหวะช้าๆ พอมังกรน้อยโตเต็มที ต้นจึงก้มลงใช้ริมฝีปากครอบไว้ ตวัดไล้เลียจนทั่วดูดอมดมกลิ่นจนชื่นใจ จางเจี่ยไม่เคยรับสัมผัสนี้แบบนี้มาก่อน เขารู้สึกตื่นเต้นตื่นตาประหลาดใจ เป็นความสุขที่ได้รับอย่างกระสันต์ยาก จางเจี่ยหลับตาพริ้มเผยอปากเล็กน้อย ด้วยความเสียวมังกรคู่กาย เขาหายใจถี่ระรัวจนเผลอครางออกมา ต้นมอบความสุขในรสสวาทให้จางเจี่ยจนสุดฝีมือ ซึ่งจางเจี่ยก็ชอบมากในรสชาติแปลกใหม่ ที่ไม่เคยได้รับจากหญิงอื่น เป็นครั้งแรกที่โดนกระทำเช่นนี้ มันเป็นความรู้สึกยากจะอธิบายเป็นคำพูด เพียงต้นปล่อยเจ้ามังกรออกจากริมฝีปาก จางเจี่ยรู้สึกใจหายที่จะไม่ได้รับสัมผัสนี้ "อย่าพึ่งเลิกทำได้มั้ย"จางเจี่ยพชงกศีรษะขึ้นมามองหน้าจางเจี่ย "ทำไม"ต้นแกล้งถาม "ผมชอบมากเลย"จางเจี่ยยิ้มแบบเขินอาย "ไม่ต้องพูดนอนเฉยๆแค่นั้นพอ"ต้นจัดการถอดเสื้อของตัวเองออก เผยเห็นนมชมพูที่จางเจี่ยเคยเห็น เขาอยากขย้ำจนหนำใจ แต่อดใจไว้ก่อนดูว่าต้นจะทำอะไร "ถอดเสื้อซิ"ต้นสั่งจางเจี่ย จางเจี่ยไม่รอช้าลุกขึ้นนั่งถอดเสื้อในทันที เผยเห็นมัดกล้ามที่สวยงาม ต้นมองพร้อมกลืนน้ำลาย จางเจี่ยนั่งนิ่งดูว่าต้นจะทำอะไรต่อจากนี้ ต้นคร่อมร่างจางเจี่ยขณะนั่งอยู่ จับเจ้ามังกรให้แทรกผ่านประตูรัก ต้นค่อยๆขยับร่างลงทีละนิด เพื่อให้เจ้ามังกรยักษ์เข้าสู่ประตูสวาท ไม่นานนักก็ถึงจุดหมายปลายทางที่ต้นต้องการ และเขาก็หยุดนิ่งอยู่ซักพัก จางเจี่ยประหลาดใจที่มังกรยักษ์ เข้าสู่ภายในกายของต้น เขาเห็นสีหน้าต้นก็รู้ทันทีว่าเจ็บ แต่เขาก็ปล่อยผ่านเพราะอารมณ์รักเขามีมากกว่า เป็นครั้งแรกที่เขาได้ใช้มังกรคู่กายในทางผ่านนี้ นมชมพูอยู่ตรงหน้าจางเจี่ย เขาเห็นแล้วอยากดื่มกิน ถึงมันจะน้อยนิดเท่าเม็ดถั่ว เขาก็อยากลองสัมผัสให้ดูดดื่ม จางเจี่ยใช้ริมฝีปากประกบขบเบาๆ ส่วนอีกข้างหนึ่งใช้มือขย้ำบีบคลึง จนต้นรู้สึกซ่านในอารมณ์ เขาจึงขยับร่างขึ้นลงอย่างช้าๆ ถึงจะรู้สึกเจ็บในช่วงแรก เพียงไม่กี่ครั้งก็จางหาย กลายเป็นความสุขในรสรักมาแทน เพียงต้นขยับร่าง จางเจี่ยถึงหยุดทำทุกอย่าง เพราะรสรักในครั้งนี้มันแสนสุขกระสันต์อย่างที่สุด ยิ่งต้นขยับเร่งความเร็วเขายิ่งสุขทวีคูณ ต้นนั้นผลักร่างจางเจี่ยให้นอนหงาย เพื่อเขาจะบรรเลงเพลงรักให้ถึงใจจางเจี่ย จางเจี่ยล้มตัวลงนอนแผ่หรา กางแขนออกอ้าขากว้างรองรับน้ำหนักตัวที่ต้นถาโถม เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นลั่นห้อง ต้นโยกขึ้นลงเริ่มไม่เป็นจังหวะ เขาจึงหยุดเปลื่ยนท่าไม่ให้เจ้ามังกรหลุดหาย ต้นสลับหันหลังกลับเผยแผ่นหลังให้จางเจี่ย ส่วนด้านหน้าอยู่ปลายเท้าของจางเจี่ย เมื่อต้นขยับจนได้ที่ เขาจึงโยกสะโพกต่อไม่รอช้า จางเจี่ยนอนครางเพราะความสะท้านซ่านภายในกาย ยิ่งต้นขยับขึ้นลงเร็วเท่าไร จางเจี่ยยิ่งเพิ่มความซ่านในอารมณ์มากขึ้น ต้นรู้สึกเหนื่อยจึงหยุด เพื่อให้จางเจี่ยเริ่มปฏิบัติรสรักต่อจากเขา "ทำต่อเลย"ต้นสั่ง "ทำไง"จางเจี่ยสงสัย และเสียดายที่ต้นหยุดภาระกิจรัก "ลุกขึ้นนั่ง"ต้นสั่ง จางเจี่ยพยุงร่างลุกขึ้นนั่งทันที ตามคำสั่งของต้นเพราะเขาเริ่มติดใจรสสวาทในท่านี้ "ขยับตัวตามต้นเลยนะ"ต้นค่อยๆขยับร่างเยื้องตัวไปข้างหน้า แต่จางเจี่ยไม่ได้ขยับตามเจ้ามังกรจึงหลุดออกมา จางเจี่ยอดเสียดายไม่ได้ แต่ก็ทำอะไรไม่ถูก เมื่อต้นอยู่ในท่าพร้อมรับศึก เขาจึงออกคำสั่งอีกครั้ง "ทำต่อเลยที่เดิม" เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมชาติจางเจี่ยก็พอรู้บ้าง เมื่อต้นนำทางมาสมควร จางเจี่ยจึงลุกขึ้นซันเข้าจับเจ้ามังกรแทรกเข้าไปภายในแบบเร่งรีบ "ค่อยๆหน่อย"ต้นสะดุ้ง จางเจี่ยไม่พูดอะไรมากความ เพราะเขารับรู้แล้วว่าต้องทำอะไร เขาขยับสะโพกโหมแรงที่มีใส่ไม่ยั้ง "เบาๆหน่อย ต้น เจ็บ"ต้นส่งเสียงออกมาเพราะจางเจี่ยไม่ปราณี "ขอโทษครับ"จางเจี่ยลดระดับความเร็วและแรง แต่ความสุขสันต์กลับเพิ่มขึ้นอย่างเท่าตัว เขาไม่เบาและไม่รอช้าๆอีกต่อไป จึงใส่ไม่ยั้งเพื่อถึงให้จุดหมายโดยเร็ว ต้นนั้นแท่บหายใจไม่ทันทั้งเจ็บและสุขสมในคราเดียว ยิ่งจางเจี่ยเร่งเครื่องเขายิ่งใกล้ถึงที่หมายเหมือนกัน ชั่วอึดใจต้นก็ปล่อยอารมณ์สุขสันต์ออกมาทั่วพื้นเตียงนอน จางเจี่ยตกใจมันเป็นไปได้อย่างไร แต่เขาก็ไม่มีเวลาคิด เพราะอยากรู้รสรักแบบนั้นบ้าง เขาจึงกระแทกสุดแรงไม่กี่ครั้งเจ้ามังกรก็พ่นน้ำออกมาไม่ขาดสาย จางเจี่ยเงยหน้าหลับตาพริ้มด้วยความสุขสมอารมณ์หมาย เช้าวันใหม่มาเยือนอย่างรวดเร็ว สองร่างหนุ่มกอดกันกลม เสียงหายใจลดใบหน้าซึ่งกัน ปันเริ่มรู้สึกอึดอั้นจึงลืมตา เขาตกใจสุดขีดจึงเปล่งเสียงออกมา ริโอ้ที่นอนข้างกายในท่ากอดปัน ถึงกับสะดุ้งลุกขึ้นพรวดนั่งในทันที "เป็นบ้าอะไรร้องซะเสียงดัง"ริโอ้มีสีหน้าตกใจ "เมื่อคืนริโอ้ทำอะไรเรา"ปันจ้องมองริโอ้แล้วหายใจถี่ขึ้น "ไม่ได้ทำนอนเฉยๆ"ริโอ้พูด "ถ้าไม่ได้ทำแล้วกอดเราทำไม"ปันมองค้อน "แม่เนื้อทองกอดนิดกอดหน่อยก็ไม่ได้หรือไง จะห่วงไว้ให้ใคร ที่เมื่อคืนให้ไอ้บูมกอดสั่นระริกๆเลย" ปันปาหมอนใส่ริโอ้ทันที "มันไม่เหมือนกัน อันนั้นแค่กอด แต่นี้นี้" "ยี้อะไร ริโอ้น่ารังเกียจมากหรือไง" "ก็ไม่น่ารังกียจอะไรหรอก"ปันเริ่มพูดเสียงอ่อย "ไม่ได้รังเกียจแล้วแคร์ทำไม" ริโอ้เห็นปันสับสนจึงอดขำไม่ได้ "มีสติหน่อยซิลองสำรวจตัวเองดูก่อน เพราะริโอ้แน่ใจว่าไม่ได้ทำไรเกินเลย เพราะไม่ได้เมาอะไรมากมาย ปันจึงสำรวจตัวเอง และพบว่าตัวเองยังอยู่ในชุดเมื่อคืน และไม่รู้สึกเจ็บส่วนไหนของร่างกาย และคิดย้อนไปจำได้ลางๆว่าง่วงนอนและเมามาก ริโอ้จึงพยุงร่างพามาที่เตียงแล้วล้มพับทับกัน ด้วยความเพลีย เมาง่วงเลยผล่อยพร้อมกัน ปันหันไปมองหน้าริโอ้ไม่เต็มตา เพราะรู้สึกอายที่คิดไปเองโดยลืมย้อนเวลาคิดให้ลึก "หลงตัวเองน่ารักตายล่ะ"ริโอ้เสียงเข้ม ปันโมโหจึงหยิบหมอนอีกใบตีใส่ ริโอ้รีบรับแย่งดึงสุดแรงจนร่างปันเซมาซบอก ริโอ้จึงกอดรัดแน่น ปันพยามยามดิ้นจนหลุด แล้วจะใช้มือตีไปที่อก ริโอ้จับมือไว้ได้ ปันยังไม่ได้ใช้อีกมือตี ริโอ้จึงจับมือไว้ได้อีกข้าง มือทั้งสองคนสองข้าง ต่างยื้อยึดฉุดกระชากจึงทำให้ร่างปันล้มลงริโอ้ล้มทับตาม ริโอ้จึงฉวยโอกาสนี้ พรหมจูบทั่วใบหน้าจนหนำใจ จนปันเริ่มนิ่งริโอ้จึงหยุด แล้วรีบลุกขึ้นพรวดลงจากเตียง เดินเข้าห้องน้ำอย่างสบายอารมณ์ ส่วนปันนอนอึ้ง โกรธ แต่แอบยิ้มเล็กๆ มองตามปันที่เดินเข้าห้องน้ำไป อีกฝากฝั่งเหลือเพียงต้นนอนคนเดียวหลับสนิท ส่วนจางเจี่ยออกไปข้างนอกแต่เช้าตรู่ เพื่อหาอาหารของกินและยาทานวด เอามาให้ต้นสุดที่รักได้กินและทารักษาแก้อาการปวด ต้นสะดุ้งตื่นแล้วรีบมองเวลา ซึ่งก็กินเวลาสายมากจนต้องรีบลุกลงจากเตียง แต่ก็ยังเจ็บมากอยู่ ต้นก้มลงมองที่น่องผิวเนื้อซ้ำเขียวระบม ต้นจงนั่งลงบนเตียงอีกครั้ง แต่กลับรู้สึกเจ็บบางส่วนนิดๆ เลยแอบคิดผิดหรือถูกที่ยอมใจกายให้จางเจี่ย ในขณะที่ต้นกำลังคิดอะไรเพลินๆ จางเจี่ยก็เข้ามาพอดี "ตื่นพอดีเลย จางเจี่ยซื้อของกินมาเยอะเลย มียาทานวด แปรงสีฟัน ยาสีฟัน เอาไว้ให้ต้น" "ขอบใจนะ"ต้นยิ้มและให้อภัยเรื่องเมื่อคืนที่ทำให้เจ็บตัวสองครั้ง "ต้นซื้อกางเกงใหม่มาให้ต้น มีเสื้อด้วย ที่ตลาดประตูเชียงใหม่มีขาย ผมเลยซื้อมาให้ต้น" "ซื้อมาทำไมเยอะแยะ เดี๋ยวก็กลับแล้ว" "จะรีบกลับไปไหน" "ทำงานซิ" "ไม่ทำได้มั้ย อยากให้อยู่กับผมนานๆ " "ไม่ทำงานแล้วจะเอาเงินที่ไหนใช้" "เดี๋ยวผมเอาให้ใช้"จางเจี่ยมีสีหน้าที่จริงจัง "ถ้าจางเจี่ยกลับประเทศจีนล่ะ"ต้นเริ่มคิดเขาจะอยู่ได้อย่างไร เช่นกันกับจางเจี่ย จะทำอย่างไรกับต้นถ้าเขากลับประเทศจีน "หรือว่าจางเจี่ยจะเอาต้นกลับด้วย"ต้นลองเชิงดูสีหน้าของจางเจี่ย "เอ่อ"จางเจี่ยพูดไม่ออก "เดี๋ยวต้นเข้าไปอาบน้ำนะ"ต้นตัดบทเห็นจางเจี่ยอ้ำอึ้ง ต้นจึงเดินช้าๆเพราะเจ็บหลายส่วน "เดี๋ยวผมพาไป"จางเจี่ยเข้าไปประคอง "เจ็บมากมั้ย"จางเจี่ยถามอีกครั้ง "ก็เจ็บแต่ไม่เท่าเมื่อคืน พรุ่งนี้ก็น่าจะหายแล้ว " "ดีจัง จะได้ทำต่อ"จางเจี่ยยิ้มแล้วคิดไปไกล "ไม่เอาแล้ว"ต้นคิดว่าเรื่องเหยียบน่อง เลยบอกไปเช่นนั้น "ฮ่า จางเจี่ยขอโทษพึ่งเคยครั้งแรก"จางเจี่ยรู้สึกผิดแถมติดใจในรสชาตแปลกใหม่ ถึงจะขลุกขลักไปบ้างแต่ก็ดีที่เดียว "ทีหลังก็เหยียบเบาๆหน่อย"ต้นย้ำ "เอ่อ ครับ "จางเจี่ยดีใจที่ไม่ใช่เรื่องที่คิด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD