หลังแยกจากสองหนุ่มต่างเชื้อชาติ ต้นก็เข้ามาภายในห้องของเขา ที่ไม่ใหญ่มากนัก มีเพียงพัดลมที่ทำให้คลายร้อนแค่นั้น
ต้นนั่งลงบนเตียง ที่มีเพียงหมอนหนุนและหมอนข้าง แต่ก่อนมีหมอนหนุนสองอัน พอปรัชญ์แฟนหนุ่มได้หนีจากไป ต้นจึงนำไปเก็บไว้ในตู้อย่างมิดชิด
สายตาของต้นสอดส่ายทั่วห้อง และหยุดมองรูปของปรัชญ์แฟนหนุ่มที่เขายังไม่ได้เก็บ เพราะยังอยากเห็นใบหน้าของแฟนหนุ่มอยู่ ต้นจ้องมองดูอยู่ไม่นาน หลังจากนั้นจึงเดินไปนำรูปแฟนหนุ่ม ใส่ไว้ในลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้ง
ต้นทั้งรักทั้งเกลียดปรัชญ์ในระดับเดียวกัน รักมากจนยอมใช้หนี้ก้อนโตแทน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้นแท่บหมดตัว ซึ่งเป็นจังหวะเดียว ที่โดนปลดจากร้านอาหารฝรั่ง เนื่องจากเศรษฐกิจฝืดเคืองรายได้ไม่เข้าเป้า
ต้นจึงเป็นหนึ่งตัวเลือก ที่โดนขอร้องให้ออกจากงาน จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้นหันมาเป็นหมอนวด เพราะได้เงินดีและได้ทุกวัน
ส่วนปรัชญ์แฟนหนุ่มนั้น พอรู้ว่าต้นหมดตัว จึงหนีจากไปอย่างไม่บอกลาสักคำ จนทำให้ต้นนั้นสุดซ้ำใจอย่างหนัก แต่ต้นก็ใจแข็งตัดใจไม่ตามหา ต้นล้มตัวลงนอนคิดถึงอดีตที่แสนหวานกับปรัชญ์แฟนหนุ่ม ครั้งแรกที่เจอกันในร้านอาหารกึ่งผับ ซึ่งต้นกับริโอ้ชอบไปนั่งซิลๆกัน ในระหว่างที่หัวเราะต่อกระซิบ จิกตามองผู้ชายเป็นอาหาร ซึ่งก็สมหวังดังใจเลย
"หวัดีครับ นั่งด้วยคนได้มั้ย"
ต้นกับริโอ้มองตาก็รู้ใจจึงพยักหน้า ด้วยที่ปรัชญ์หล่อคมเข้ม หุ่นดีสูงมีกล้าม
"ยินดีที่รู้จักครับ"ปรัชญ์ยื่นแก้ว เพื่อแสดงความสัมพันธ์ไมตรี
ต้นกับริโอ้ก็พร้อมใจชนแก้ว ด้วยความยินดี เพราะไม่สามารถปฏิเสธหนุ่มงานดีได้
"ผมชื่อปรัชญ์ครับ แล้วชื่ออะไรกันบ้างครับ"
"ผมชื่อต้น ส่วนเพื่อนเราชื่อริโอ้"ต้นเป็นฝ่ายแนะนำ
"ริโอ้ เป็นอะไรกับมาริโอ้หรือเปล่า"
"เป็นซิ เป็นแฟนคลับ"ริโอ้หัวเราะ
"ช่างมั่นเนาะ"ต้นแซว
ทั้งสามคุยกันถูกคอจนร้านปิดก็ยังไม่กลับ ไปนั่งเล่นแถวสะพานเหล็ก ข้ามแม่น้ำปิงยันสว่างถึงแยกย้ายกันกลับ
หลังจากนั้นสามสี่วัน ต้นได้เจอปรัชญ์อีกครั้งในฐานะเพื่อนร่วมงาน ที่ร้านอาหารฝรั่งในตำแหน่งพนักงานเสิร์ฟเหมือนกัน จึงทำให้ทั้งคู่สนิทสนมแนบแน่นขึ้นมาอีก
ต้นนอนคิดถึงความความหลังครั้งเก่าต่อ จนถึงช่วงห้วงเวลาที่ปรัชญ์บอกรัก
"วันนั้นทั้งต้นและปรัชญ์นอนบนเตียงตัวนี้ จู่ๆปรัชญ์แฟนหนุ่ม ก็บอกคำพูดที่ต้นฟังแล้วเคลิ้มฝันหวาน
"ปรัชญ์รักต้นนะ "ปรัชญ์จ้องมองต้นด้วยสายตาอันหวานฉ่ำ
"แล้วต้นรักปรัชญ์มั้ย"
ต้นอ่ำอึ้งสงวนท่าทีอ้อยอิ่งนิดนึง เพราะรู้สึกเขินอายที่ถูกบอกรักครั้งแรก
"ต้นก็รักปรัชญ์นะ "บอกเสร็จก้มหน้าหลบสายตาปรัชญ์
พอสิ้นคำรักของต้น ปรัชญ์เริ่มโอบกอดต้นไว้ในวงแขน แล้วโน้มร่างลงบนที่นอนอย่างช้าๆ บรรจงพรหมจูบทั่วใบหน้า ส่วนมือยังประครองร่างของต้นไว้ เพราะจะได้ถนัดกับการมอบความรักให้ต้นอย่างสุดซึ่ง
ต้นขยี้ที่นอนเมื่อหลุดจากความสุขในอดีต เพราะความชังเข้ามาแทนที่ เขาจึงไม่สามารถคิดต่อไปได้
เช้าวันใหม่ต้นมาทำงานแต่เช้าดั่งเช่นเดิม และต้องพบกับความประหลาดใจ เมื่อเห็นคิมโยฮันที่มานั่งรอ ตั้งแต่ร้านยังไม่ทันเปิด
"มาแต่เช้าเลยนะ " ต้นทักคิมโยฮัน
"มารอต้นตั้งนานแล้ว พาไปนวดเลยนะ แต่เปลื่ยนจากนวดไทย เป็นนวดน้ำมันหนึ่งชั่วโมง" กันนายจ้างกล่าวขึ้น
"ครับ" ต้นหันมายิ้มให้คิมโยฮัน
ต้นได้พาคิมโยฮันมาที่ห้องนวด และหยิบกางเกงในกระดาษพร้อมผ้าเช็ดตัว ตะกร้าวางสิ่งของ เมื่อจัดวางเรียบร้อยแล้ว ต้นจึงออกไปรออยู่ข้างนอกห้องนวด
ต้นยืนรอกะระยะเวลา ให้คิมโยฮันเปลื่ยนเสื้อผ้าเสร็จเขาจึงจะเข้าไป
เมื่อถึงเวลาที่กะไว้คร่าวๆ ต้นจึงเปิดผ้าม่านที่ทำแทนประตูห้องเข้าไป และสิ่งที่เห็นคือคิมโยฮันนอนคว่ำรอการนวด
ต้นจึงนำผ้าเช็ดตัวผืนน้อยปกปิดบริเวณสะโพก และเดินไปที่ปลายเตียงนวด พร้อมใช้มือคลึงนวดฝ่าเท้าไล่ไปข้อพับ หลังจากนั้นชะโลมน้ำมันลงบนฝ่ามือ แล้วเริ่มนวดรีดบริเวณ เท้า ขา ไปจนถึงต้นขาซ้ายขวา
คิมโยฮันได้สัมผัสฝ่ามือที่อ่อนนุ่มของต้น เขาถึงกับมีความสุข เพลิดเพลินเคลิ้มสบายตัว ที่แสนจะตึงและเมื่อยมาเนิ่นนาน
ยิ่งต้นไล่นวดขึ้นมาจนสุดต้นขา จากแรงรีดเส้นอย่างชำนาญ สร้างความสบายกายลามไปถึงความรู้สึก
เมื่อสิ้นสุดการนวดร่างกายครึ่งร่าง จึงต่อด้วยแผ่นหลังที่ขาวเนียน ต้นถึงกับมองด้วยความอิจฉา
"จะขาวอะไรขนาดนั้น"ต้นแอบคิดในใจ
ชั่วเวลาไม่นานคิมโยฮันเกิดความง่วงนอน เขาจึงหลับตาเผลอหลับไปพักใหญ่ ตื่นรู้สึกตัวอีกครั้งเพราะต้นสะกิดให้พลิกตัวนอนหงาย
เมื่อคิมโยฮันพลิกร่าง จึงเผยเห็นมัดกล้ามอย่างเด่นชัด จนต้นต้องเบี่ยงสายตาไปทางอื่น ถึงจะรู้สึกหวั่นไหวกับมัดกล้าม แต่ต้นก็ไม่ตื่นตระหนก จึงบรรจงนวดอยู่เช่นเดิม ลูบไล้รีดเส้นจากขอบเอวขึ้นไปจนถึงแผ่นอก ฉีกมือออกวนรอบเนินอก ย้อนกลับมาที่เดิมตรงบริเวณขอบเอว
ในขณะเดียวกันนั้น คิมโยฮันเริ่มง่วงอีกครั้ง เขาจึงหลับตาและหลับลงในที่สุด ต้นก็ยังทำการนวดต่อทุกท่าไม่ขาด
ถึงแม้บางครั้งจะสะดุดกับกล้ามแขนเป็นมัด ที่ต้นเริ่มนวดต่อจากร่างกายส่วนบนด้านหน้า ต้นวางแขนรีดเส้นจนเสร็จทั้งสองข้าง ต่อด้วยนวดศีรษะและคลึงใบหน้า จบทุกกระบวนท่าเสร็จสิ้น ต้นจำเป็นต้องปลุกคิมโยฮันลุกขึ้นมา
"เสร็จแล้วครับ"ต้นบอกกล่าว
คิมโยฮันเบิกตาขึ้นนั่งอย่างงงๆ พร้อมมองตาต้นแบบมึนๆ
"นวดทีไรผมหลับตลอดเลย"คิมโยฮันเสียดายความรู้สึกที่ผ่อนคลาย
"ธรรมดา หลายคนก็เป็นแบบนี้"ต้นย้ำให้คิมโยฮันรู้สึกดี
"ผมไม่อยากหลับเลย"คิมโยฮันเสียงออดอ้อน
"ทำไมไม่อยากหลับ"ต้นถามด้วยความสงสัย
"ผมอยากดูหน้าต้นตลอดเวลานวด"คิมโยฮันทำตาละห้อย
"เดี๋ยวต้นออกไปรอข้างนอกก่อนนะ" ต้นไม่อยากตอบกลับคำหวานของคิมโยฮัน ต้นจึงรีบเปิดผ้าม่านออกไปนอกห้อง เพื่อให้คิมโยฮันได้เปลื่ยนเสื้อผ้า
เมื่อต้นเดินออกมาก็เจอกับจางเจี่ยที่นั่งเม้าท์มอยกับริโอ้อยากออกรสชาติ โดยมีปันเพื่อนใหม่ของต้นที่แสนดีนั่งฟังอย่างสงบ แต่ต้นไม่เห็นสามหนุ่มสามหน่อที่เหลือ ซึ่งต้นก็ไม่แปลกใจอะไร เพราะอาจได้งานแล้วก็เป็นได้
"ต้น ผมรอคุณตั้งนาน เมื่อคืนเจอกันก็ไม่ค่อยได้คุยกับต้นเลย "จางเจี่ยรีบลุกขึ้นไปหาต้นแล้วเล่าความในใจ ปล่อยให้ริโอ้กับปันอ้าปากค้าง กับคำพูดเมื่อคืนอีกแล้ว
โดยเฉพาะริโอ้ก็เห็นอยู่ว่านวดที่วัดจนดึกดื่น แล้วจะไปคุยกันตอนไหน
"พูดเยอะจัง"ต้นพูดภาษาไทย
"อะไร"จางเจี่ยฟังไม่เข้าใจ พลันคิดไปต้นนินทราเขา ซึ่งก็คิดถูกซะด้วย
"เปล่า"ต้นตัดบททันที
"ต้นพาลูกค้าไปนวดเลย เดี๋ยวพี่จัดการเองลูกค้าของต้นที่อยู่ในห้องน่ะ"กันเจ้าของร้านตะโกนมาจากหลังเคาท์เตอร์
"ไป๊"ต้นเรียกจางเจี่ยและพาไป ที่ห้องนวดน้ำมันอีกห้องหนึ่ง
พอต้นกับจางเจี่ยเข้าห้องนวด คิมโยฮันก็ออกมาพอดี แล้วก็เดินมาจนถึงหน้าร้าน มองหาต้นจนหมุนรอบตัว
"ต้นไปไหน"คิมโยฮันถามริโอ้ที่มองเขาอยู่
"พาลูกค้าไปนวด"ริโอ้ยิ้มให้คิมโยฮัน แต่ไม่ได้เห็นรอยยิ้มตอบสนองกลับ
"อ่อ"หลังจากนั้นก็เดินไปจ่ายเงิน และเขารู้ได้ทันทีว่าลูกค้าคนนั้นน่าจะเป็นจางเจี่ย ที่เจอเมื่อคืนวาน คิมโยฮันรู้สึกกังวลใจกับหนุ่มจีนคู่แข่ง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากลงสนามแข่งรัก
ต้นพาจางเจี่ยมาที่ห้องนวด ส่งกางเกงในกระดาษ พร้อมผ้าเช็ดตัว หลังจากนั้นต้นก็ออกไปรอนอกห้องตามเดิมปล่อยให้จางเจี่ยเปลื่ยนเสื้อผ้า ภายในห้องคนเดียว
จางเจี่ยถอดเสื้อกางเกงออกจนหมด และเอากางเกงในกระดาษใส่ในทันที พร้อมเรียกต้นให้เข้ามาภายในห้อง โดยไม่ต้องรอให้ต้นเข้ามาเอง
"ต้น เรียบร้อยแล้ว"
"โอเค"ต้นขานรับเปิดผ้าม่านเข้ามา และสิ่งที่เห็นคือจางเจี่ยใส่กางเกงในกระดาษตัวเดียวยืนรออยู่ อย่างไม่เขินอายแม้แต่น้อย
ต้นมองรูปร่างจางเจี่ยแก็รู้สึกชอบ เพราะมีความคล้ายปรัชญ์แฟนเก่า ที่หุ่นจะลีนๆหน่อยแต่มีกล้ามพอสวย ต่างกันแค่ที่ปรัชญ์ผิวจะเข้มกว่า
"ขึ้นไปนอนคว่ำบนเตียง"ต้นสั่ง
"เดี๋ยวขึ้นก็ได้คุยกันก่อน"จางเจี่ยเอ่ยขึ้น
"เดี๋ยวเวลาไม่พอนะ"ต้นรู้สึกว่าจางเจี๋ยเริ่มเรื่องเยอะ
"ตั้งสองชั่วโมงคุยหนึ่งขั่วโมง นวดอีกชั่วโมงก็ยังได้"
"ไม่ได้ที่ร้านมีกฎห้ามคุย"ต้นเริ่มจะคุ่นเคือง
"ก็ได้ เดี๋ยวคืนนี้ไปหาที่ห้องนะ จะได้คุยกันทั้งคืน"จางเจี่ยยิ้มแล้วขึ้นไปนอนบนเตียงนวดในทันที
ส่วนต้นนั้นไม่รู้จะทำอย่างไงกับจางเจี่ย ที่ชอบพูดไปเรื่อย แต่ไม่นานเขาก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไป เพราะต้องเริ่มทำงาน เขาจึงไม่รอช้าเริ่มปฏิบัติงานตามขั้นตอน แบบเดียวกับคิมโยฮันทุกอย่าง แต่ที่ผิดกันกับคิมโยฮันจะนิ่ง ส่วนจางเจี่ยยุกยิกตลอดเวลา ยิ่งช่วงนวดไล่ขึ้นสูงเรื่อยๆ นี่ยิ่งไม่นอนนิ่งขยับตัวไปมา
ส่วนสาเหตุนั้น ก็มาจากจางเจี๋ยยังไม่เคยนวดน้ำมันกับผู้ชาย เขาเคยนวดแต่กับผู้หญิง
มาครั้งนี้ที่แรกในไทย ที่เขาเลือกหมอนวดผู้ชาย ความรู้สึกของจางเจี่ยเลยสองจิตสองใจ ชอบกับไม่ชอบบอกไม่ถูก
บางครั้งก็รู้สึกดี เขาไม่เข้าใจที่มีความคิดแบบนี้ แต่เแล้วจางเจี่ยก็ต้องสลัดความคิดนั้นทิ้งไป
"เป็นอะไร"ต้นถามเมื่อเห็นจางเจี่ยขยับร่างกายตลอดเวลา
"เปล่านวดเลย"จางเจี่ยปฏิเสธ และใช้ความอดกลั้นไม่ให้ขยับตัวเพราะจักกะจึ้
ช่วงแรกจางเจี่ยก็เกร็งประหม่า พอนานๆเข้าเกิดความเคยชิน กลับกันเขารู้สึกสบายตัว ยิ่งนวดบริเวณแผ่นหลัง จางเจี่ยยิ่งรู้สึกดีขึ้นมาทันที มันคลายความตึงของหลัง ถูกเส้นถูกจุดไปหมด จนจางเจี่ยเคลิ้ม
ยิ่งพอเปลื่ยนท่าที่ต้องนอนหงาย จางเจี๋ยกับอิดออดแกล้งหลับ เพราะเขาไม่อยากพลิกนอนหงายเพราะมีความอายขึ้นมาทันที ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังชินชาท้าสายตาต้น
"จางเจี่ยตื่นได้แล้ว นอนหงายเลย"ต้นเรียก
"หรอ ฮือ เอ่อ ก็ได้"จางเจี่ยจึงรีบพลิกร่างนอนหงาย พลิกเสร็จรีบนำผ้าเช็ดตัวมาปิดเองในทันที
ต้นทำเป็นนิ่งเเฉย เพราะไม่ได้สนใจอะไร เขาก็ทำการนวดตามปกติ เพียงแต่นวดให้หนักขึ้น
เพื่อทำให้จางเจี่ยรู้สึกเจ็บขึ้นนิดหน่อย แต่ผิดคาดยิ่งรีดเส้นจากขอบเอวขึ้นไปจนถึงแผ่นอก จางเจี่ยกับรู้สึกเฉยๆแถมจักกะจี้นิดหน่อย พร้อมหัวเราะอมยิ้มสลับกันไป
ต้นงงงวยกับพฤติกรรมของจางเจี่ย จึงทำหน้านิ่งๆ ตั้งใจนวดต่อไป ต้นจึงเพิ่มแรงกดให้หนักขึ้น
ซึ่งจางเจี่ยก็ชอบแบบนวดหนักๆ จึงทำให้เขาได้ผ่อนคลายยิ่งขึ้น ในระหว่างนวดนั้นจางเจี่ยเริ่มมองต้นไม่วางสายตา
มองพินิจดูหน้าตาที่น่ารักมากกว่าหล่อ ตัวเล็กแต่ไม่ผอมจนเกินไป ซึ่งแตกต่างจากจางเจี่ยที่สูง รูปร่างดีมีกล้ามแบบนักกีฬา
"ต้นรู้มั้ย ต้นเป็นผู้ชายที่น่ารักมาก"จางเจี่ยเผลอพูดออกไป แล้วพลันคิดได้ว่า พูดไปได้ไงเขาแค่ต้องการเพื่อนคลายเหงา จะมาชมเพื่อนชายว่าน่ารัก มันแลดูแปลกๆ
จางเจี่ยเลยเงียบและหลับตา เพื่อจะได้ไม่เห็นหน้าต้นแต่ก็ต้องลืมตาขึ้น เพราะอยากลองรักกับผู้ชายสักครั้ง
เช่นเดียวกับต้นที่เผลอยิ้มออกมา หลังจากจางเจี่ยหลับตาลงแล้วลืมตาขึ้นอีก เหมือนคนฝันร้ายแล้วตกใจตื่น ถึงบางครั้งจะรู้สึกรำคาญบ้าง แต่ก็ไม่เคยโกรธอย่างจริงจัง
ตอนจางเจี่ยหลับตา ต้นเพ่งพินิจหน้าตาออกตี๋ ของจางเจี่ย แต่ก็ไม่ได้ออกแนวน่ารัก มีความคมบ้าง ยิ่งต้นมองนานเท่าไร เขาเริ่มใจคอไม่ดี เลยสลัดความคิดนั้นทิ้งไป บรรจงนวดต่อเพื่อให้เสร็จสิ้น ตามเวลาที่กำหนด ซึ่งก็ใช้เวลาสองชั่วโมงจึงจบคอร์สนวดน้ำมัน ที่จางเจี่ยซื้อไว้
"เสร็จแล้วครับ"ต้นยิ้มให้จางเจี่ย
"ไวจังเลย อยากนวดอีกทั้งวัน"จางเจี๋ยพูดขึ้น เพราะในระหว่างแกล้งหลับตา แต่ไม่ได้หลับจริงๆ เขาครุ่นคิด เรื่องความรู้สึกต่อต้นเป็นแบบไหน ถึงจะคิดไม่เต็มร้อย แต่ใจที่ให้ต้นนี่เกินร้อยแน่ เขาจึงตัดสินใจลองทำตามใจตัวเองซักครั้ง เพื่อที่จะได้เจอความต้องการของตัวเองที่แท้จริง
"ไปเปลื่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว"เดี๋ยวต้นออกไปรอหน้าร้านนะ"
"ก็ได้"จางเจี่ยลงจากเตียง ส่วนต้นเปิดม่านออกนอกห้องไป
พอต้นเดินมาถึงก็เจอริโอ้ นั่งเม้าท์มอยกับคิมโยฮัน ดูคุยกันอยากออกรสชาต เพราะริโอ้เป็นคนคุยสนุกยิ้มเริงร่า ส่วนคิมโยฮันก็ดูผ่อนคลายไปเยอะ สีหน้าไม่เคร่งครึมเหมือนแต่ก่อน
"ต้น โยฮันเขารอต้นไปกินข้าวตอนกลางวัน"ริโอ้บอกเพื่อนทันทีที่เห็นเดินออกมา
"ฮือ"ต้นไม่รู้จะพูดอะไร
"ไปกินข้าวกลางวันกับผมนะต้น"คิมโยฮันเว้าวอนด้วยสายตาพร้อมคำพูด
ต้นถึงกับนิ่งคิดไม่ออก จะตอบไปอย่างไรดี ไม่นานนักเสียงคุ้นๆ ก็ดังมาจากด้านหลัง
"ต้นไม่ไปหรอก มีนัดกับผมแล้ว"จางเจี่ยตะโกนออกมา พร้อมเร่งเดินให้ถึงโดยเร็ว
"จริงเหรอต้นจะไปกับจางเจี่ย"คิมโยฮันมีสีหน้าวิตก
"เอ่อ"ต้นยืนนิ่ง เพราะไม่ได้นัดกับจางเจี่ย และยังไม่ได้ตัดสินใจจะไปกับคิมโยฮัน
จะไปกับคิมโยฮันก็กลัวจางเจี่ยเสียความรู้สึก จะไปกลับจางเจี่ยก็เกรงใจคิมโยฮันที่ชวนก่อน ต้นจึงมองคิมโยฮันทีจางเจี่ยที แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
ต้นจึงครุ่นคิดหาทางแก้ไข โดนมีริโอ้เอาใจช่วย ช่วงที่กำลังคิดหาทางออกอยู่นั้น เสียงสวรรค์ก็ดังขึ้นมาในทันทีนั่นคือเสียงของกันเจ้าของร้านที่ดังขึ้น
"กฏที่ร้านห้ามพนักงานออกไปกับลูกค้า ในระหว่างเวลางาน ถึงจะเป็นช่วงกินข้าวกลางวันก็เถอะ"เสียงเข้มๆ ของกันดังขึ้น
"ใช่ เราไปไม่ได้ขอโทษด้วย"ต้นตีหน้าเศร้า รับไม้ต่อทันที
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวตอนเย็นผมมารับไปกินข้าวกัน"คิมโยฮันชิงพูดก่อน
"เดี๋ยวเราไปหาที่ห้องนะ เรารู้จักห้องต้นแล้ว เดี๋ยวไลน์หาอยู่ห้องเบอร์อะไร"จางเจี่ยเกทับทันที
คำนี้ของจางเจี่ยกระแทกใจ คิมโยฮันยิ่งนัก แต่เขาก็คิดต่อไปว่าถ้าจางเจี่ยไปได้ เขาก็จะตามไปด้วย
กันเจ้าของร้านเห็นไม่ได้การ จึงคิดหาวิธีทางเอาตัวรอดให้ต้น
"ต้น พี่รู้สึกปวดหลัง มานวดให้พี่หน่อยนะ ขอโทษด้วยนะลูกค้า"กันตีหน้าเศร้ากับสองหนุ่ม
"ริโอ้ ฝากเทคแคร์ลูกค้าด้วย"กันสั่งพร้อมขยิบตา
เมื่อพูดจบกันก็พยักหน้าให้ต้นตามมา ส่วนต้นก็หันหน้าไปยิ้มให้ทั้งสองหนุ่ม หลังจากนั้นรีบเดินตามกันเข้าไปข้างใน ปล่อยให้ริโอ้อยู่กับหนุ่มทั้งสองตามลำพัง
"เสน่หแรงนะเรา"กันแซวเมื่อต้นเดินตามมาถึง
"แรงแบบนี้ไม่ไหวหรอกครับ หัวจะปวด"
"ไหวซิ มีหนุ่มมาให้เลือกตั้งสองคน แถมงานดีไม่แพ้กันเลย"กันมองหน้าต้น
"ต้นก็ลองดูใจทั้งสองไปก่อน เพราะเรายังไม่ได้ชอบใครเป็นพิเศษ เปิดใจลองดูนะ"
"ครับ" เพราะต้นก็รู้สึกดีๆกับทั้งสอง แต่ก็ยังไม่แน่ใจตัวเองว่าเอนเอียงไปทางไหน
ต้นหันหลังไปมองสองหนุ่มที่กำลังจะออกจากร้าน โดยมีริโอ้โบกมือส่ง เมื่อทั้งสองเดินไปจนลับตา ต้นจึงหันมามองกันแล้วถอนหายใจ โดยมีกันยืนอมยิ้มด้วยความเอ็นดู