NaNear Pub
อีกด้านของประเทศไทย ณ ผับหรูใจกลางเมือง
“ว้าว!! วันนี้ลมอะไรหอบท่านอคินผู้ทรงศีลมาที่นี่ได้ครับเนี่ย"
“ก็หมาตัวไหนมันเสือกนัดกูออกมาล่ะ”
ไอ้ซันครับเพื่อนผมเองแล้วก็มันนี่แหละครับที่โทรชวนผมมายังมีหน้ามาถาม ปกติผมไม่ค่อยออกมาเที่ยวกลางคืนเท่าไหร่นักจะมีก็แต่พวกมันนี่แหละที่ชอบชวนผมออกมา
“ก็ทุกทีกูชวนมึงไม่เห็นจะออกมา”
“มันมาก็ดีแล้วมึงจะอะไรอีกไอ้ซัน”
ไอ้หมอแม่งพูดถูกครับผมออกมาเจอมาสังสรรค์กับพวกมันก็ดีแค่ไหนแล้วก้อย่างที่บอกผมไม่ค่อยชอบออกมาดื่มแบบนี้หรอกครับแต่วันนี้เครียดๆก็เลยออกมาและอีกอย่างผับนี้ก็เป็นผับของเพื่อนผู้หญิงอีกคนหนึ่งของพวกผมเธอชื่อนาเนียร์ครับเป็นลูกสาวมาเฟียเป็นเจ้าของผับนี้
อ่อ!! แล้วไอ้หมอคนที่ผมพูดถึงเมื่อกี้มันชื่อไอ้แดนครับมันเป็นหมอส่วนไอ้ห่าซันเห็นมันกวนตีนแบบนี้มันเป็นถึงเจ้าของมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแก๊งค์พวกผมก็จะมีกันอยู่สี่คนครับผู้ชายสามผู้หญิงหนึ่ง
“ออกมาทีหนึ่งนี่ตกสาวๆกูไปหมดไอ้สัส มึงดู”
พอผมนั่งลงที่โซฟาข้างๆไอ้ซันมันก็พูดประโยคนี้ขึ้นมาพร้อมกับพยักเพยิดหน้าไปที่โต๊ะฝั่งตรงข้ามกับพวกผม ก็เห็นว่ามีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งมองมาทางที่พวกผมนั่งอยู่
“ก็มึงมาทุกวันสาวๆที่ผับนี้เขาเบื่อขี้หน้ามึงแล้ว”
“พูดอย่างกะมึงไม่มาบ่อยไอ้หมอ...หมอเหี้ยอะไรเที่ยวผับเที่ยวบาร์”
“หมอก็คนไหมไอ้สัส”
แล้วผมก็ต้องมานั่งฟังไอ้สองตัวนี้มันเถียงกันแบบนี้ทุกทีแหละครับกัดกันอย่างกับหมาประจำแต่เห็นแบบนี้พวกผมสามคนแม่งโคตรรักกันอ่ะก็มีกันอยู่แค่นี้
“สักคนไหมครับท่านมหา”
“มหาพ่อง!”
ขอทีเถอะครับปกติผมก็ไม่ได้พูดจาหยาบคายอะไรแบบนี้แต่พอดีว่านี่เป็นไอ้ซันไงคนที่เกิดมาเพื่อกวนตีนชาวบ้านแล้วตายไปอย่างมันด่าแค่นี้มันยังไม่สะเทือนเลยครับผมไม่รู้ว่าแม่งบริหารมหาวิทยาลัยได้ยังไงเด็กที่จบจากมอมันจะมีคุณภาพอะไรไหมที่มีผู้บริหารแบบนี้
“ซวยทั้งคืนแน่มึงคืนนี้โดนไอ้คินมันด่ามึงก็รู้ว่าไอ้คินแม่งถวายตัวและหัวใจให้คุณหนูเวนิสของมันชนิดที่ว่าชาตินี้ทั้งชาติมันมองผู้หญิงคนไหนไม่ได้อีกแล้ว”
“เขาจะเอามันอยู่รึเปล่าเหอะน้องเวนิสแม่งเกลียดมันอย่างกะขี้”
ป๊าบบ!!!
“เชี้ย! ใครตบหัวกูวะ”
ทันทีที่ไอ้ห่าซันมันพูดประโยคนี้ใส่ผมหัวมันก็โดนฝ่ามือปริศนาตบเข้าให้จนหัวสั่นผมกับไอ้หมอแม่งถึงกับขำลั่น
“กูเอง! คำพูดคำจาหมาไม่แดกแบบนี้ตบปากอีกสักทีน่าจะดี”
“นาเนียร์มึงนี่แม่ง!!”
นาเนียร์ครับคนที่ตบหัวไอ้ซันผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มและก็คงเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ทำแบบนี้กับผู้บริหารระดับสูงอย่างไอ้ซันได้แล้วไอ้ห่านี่แม่งก็ยอมนาเนียร์ตลอกไอ้เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่ออ่ะมัน
“นานๆทีไอ้คินจะออกมา มึงก็แทนทีจะพูดอะไรให้เพื่อนสบายใจ”
“พอแล้วนาเนียร์อย่าไปว่ามันแค่เมื่อกี้เธอตบมันจนหัวสั่นมันก็แทบล้มทั้งยืนแล้ว”
“สมควรโดนไงว่าแต่คินเถอะใกล้จะถึงวันงานแล้วตื่นเต้นไหม”
แล้วนาเนียร์ก็ถามผมถึงเรื่องงานเลี้ยงประกาศเลื่อนขั้นและลุงเวกัสจะประกาศวางมือจากธุรกิจแล้วยกให้ผมมีอำนาจจัดการทุกอย่างและนี่แหละครับที่ผมหนักใจและไม่สบายใจแค่เลื่อนขั้นให้ผมเป็นรองกรรมการผู้จัดการผมก็หนักใจแล้วล่าสุดลุงเวกัสมาบอกว่าจะวางมือและยกทุกอย่างให้ผมจัดการผมเครียดหนักกว่าเดิมอีกเพราะการที่ผมได้อำนาจทุกอย่างจากลุงเวกัสแบบนี้เวนิสต้องโวยวายและเกลียดผมเข้าไส้มากกว่าเดิมแน่ๆ
“อย่าเรียกว่าตื่นเต้นเลยนาเนียร์เรียกว่าหนักใจเลยจะดีกว่า”
“กลัวเวนิสไม่เข้าใจใช่ไหม”
พอนาเนียร์ถามผมแบบนี้ผมก็นิ่งไปครับแล้วก็พยักหน้าใส่นาเนียร์เพื่อนๆผมทุกคนรับรู้ปัญหาระหว่างผมกับเวนิสมาตลอดครับโดยเฉพาะนาเนียร์เพราะเวนิสค่อนข้างสนิทกับนาเนียร์ นาเนียร์มันก็เลยรู้ความรู้สึกของทั้งผมและเวนิส
“เอาจริงๆกูว่าเรื่องนี้ถ้าน้องเวนิสลดทิฐิลงแล้วแยกแยะเรื่องของพ่อแม่ออกอะไรๆมันคงดีกว่านี้”
“เออว่ะ! ไอ้หมอพูดถูกมันเป็นเรื่องในอดีตน้องเวนิสไม่น่าจะต้องมางี่เง่า”
“เงียบไปเลยไอ้ซันเวนิสไม่ได้งี่เง่า”
ผมไม่ชอบให้ใครมาว่าเวนิสแบบนี้ครับที่เวนิสเป็นแบบนี้น้องไม่ได้งี่เง่าครับน้องแค่รับไม่ได้กับเรื่องราวในอดีตก็เท่านั้น
“คราบบบ..ครับผมผิดไปแล้วครับแตะต้องไม่ได้เลย”
“มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบให้ใครพูดถึงเวในทางไม่ดี”
“มึงต้องรักเวนิสขนาดไหนวะไอ้คินมึงถึงได้เทิดทูนน้องมันขนาดนี้”
“รักแค่ไหนกูก็ไม่รู้หรอกกูรู้แค่ต้องทำยังไงก็ได้ให้เวนิสเลิกเกลียดกู”