"อืม...ที่พูดมาก็มีเหตุผลเหมือนกันนะ" คุณหญิงแม่มีท่าทีจะคล้อยตามมากขึ้น
"แม่จะต่อเวลาให้ผมอีกสัก สองสามปีใช่ไหม ?" คามินเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ
"เปล่า ในเมื่อลูกหาเองไม่ได้ แม่ก็จะจัดหาผู้หญิงดี ๆ มาให้ลูกเองไง" ท่านเหยียดยิ้มใส่หน้าลูกชายอย่างรู้ทันแผนการยื้อเวลาทุกอย่าง
"นี่แม่กำลังบังคับผมอยู่นะครับ และผมก็จะไม่ยอมแต่งงานแบบคลุมถุงชนแน่ ๆ" คามินพยายามหาหนทางรอดทันที
แต่ด้วยความที่ครั้งนี้ไม่มีพ่อคอยช่วยเหมือนก่อน ๆ ทำให้เขาถูกแม่ต้อนจนจนมุมได้ในที่สุด
"แม่ไม่ได้บังคับให้ลูกแต่งงานนี่ แม่แค่พาผู้หญิงที่แม่เห็นว่าดีพร้อมมาเสนอให้ แต่ลูกจะเลือกหรือไม่เลือกมันก็สุดแล้วแต่ลูก"
"แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สิ้นปีนี้ลูกต้องแต่งงานกับใครสักคน"
"ไม่อย่างนั้น แม่ก็จะโกนหัวบวชชีไปตลอดชีวิต และลูกก็จะไม่ได้เห็นหน้าแม่อีกตลอดชีวิต" คุณหญิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน และแววตาที่มุ่งมั่น
"โถ่แม่..." คามินคุกเข่านั่งลงตรงหน้าแม่ของเขาพร้อมกับกุมขมับตัวเอง และลากเสียงยาว ๆ อย่างท้อใจ
"ตกลงตามนี้นะจ๊ะลูกรักของแม่" ท่านลูบหัวของลูกชายที่นั่งตรงหน้าเบา ๆ
เสียงฝีเท้าของแม่บ้านคนเก่าคนแก่เดินตรงเข้ามาหาคุณหญิงด้วยท่าทีนอบน้อม
"คุณหญิงคะ คุณหญิงเบญมาถึงแล้วนะคะ"
"ดีเลย งั้นก็รีบตั้งโต๊ะอาหารเลยแล้วกัน"
"คุณหญิงเบญ ?" คามินทวนชื่อเพื่อนสนิทของแม่อย่างไม่ได้คิดอะไร
"ถ้าแม่มีเพื่อนดินเนอร์ด้วยแล้ว... อย่างนั้นผมขอกลับไปเคลียร์งานต่อแล้วกันนะครับ"
"เดี๋ยวสิลูก ! แม่เรียกมินมาก็เพราะจะได้มานั่งกินข้าวเย็นด้วยกันนี่แหละ" ท่านกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
"ไป... ลุกได้แล้วเจ้าคามินไปต้อนรับแขกคนพิเศษด้วยกันกับแม่เลย" ท่านหิ้วปีกลูกชายเดินออกไปยืนต้อนรับเพื่อนสนิทของตัวเองทันที
"หญิงนุช" เสียงหวาน ๆ ของคุณหญิงเบญเอ่ยเรียกเพื่อนสนิทของเธออย่างยิ้มแย้ม ทั้งสองสาวรุ่นใหญ่วิ่งเข้าหากันทันทีที่เจอหน้า
"ดีใจอย่างกับไม่เจอกันนานเป็นปี ๆ ทั้ง ๆ ที่เราเพิ่งจะไปร้องคาราโอเกะด้วยกันเมื่อสองวันก่อน" คุณแม่ของคามินก็กระโดดกอดเพื่อนรักของเธอ พูดหยอกล้อกันไปมาด้วยความสนิทสนม เพราะทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้นเลยทีเดียว เรียกได้ว่าสนิทกันมาก ๆ
"สวัสดีครับแม่เบญ" คามินรีบยกมือไหว้เพื่อนสนิทของแม่ทันทีตามมารยาท
"ไหว้พระเถอะลูก โอ้โหไม่เจอนานโตเป็นหนุ่มใหญ่ขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย" ท่านรับไหว้คามินพร้อมกับมองสำรวจลูกชายของเพื่อนรักไปพลาง ๆ เพราะตามจริงก็เห็นกันมาตั้งแต่เล็ก ๆ แต่พอโตก็แทบไม่เคยได้เห็นหน้าค่าตาอีกเลย
"แป๊บเดียวของเธอเนี่ยเกือบ 20 ปีแล้วนะ" แม่ของคามินหันไปควงแขนเพื่อนและเริ่มพูดคุยกันตามประสาเพื่อนซี้
"หล่อได้พ่อมาเต็ม ๆ เลยนะเนี่ย" คุณหญิงเบญก็เอ่ยชมคามินไม่หยุดเลย เพราะคามินหล่อกว่าที่เธอคาดคิดเอาไว้มาก
"แม่ก็สวยย่ะ" คุณหญิงนงนุชก็พูดสวนขึ้นทันที ก่อนที่ทั้งคู่จะมองหน้ากันและหัวเราะลั่นตามประสาแม่ ๆ อวดลูก
"แล้วไหนล่ะ...ลูกสาวคนสวยของเธอ" คุณหญิงนงนุชมองเข้าไปในรถตู้แต่ก็ไม่เจอใครเลย
"เดี๋ยวสักพักคงจะขับรถตามมาน่ะเธอ" คุณหญิงเบญรีบอธิบาย ซึ่งคนขับรถตู้มาส่งก็โค้งคำนับลาเธอก่อนจะขึ้นรถขับออกไปทันที
"พอดีน้องเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก ก็เลยขออยู่คุยกับคุณย่าที่บ้านสักพัก แต่เดี๋ยวสักพักก็ตามมา
แน่ ๆ แหละ" คุณหญิงเบญหันไปพูดกับคามินและเพื่อนรักสลับไปสลับมา
"เพราะว่าฉันกำชับกับลูกเอาไว้ว่าอย่างไรก็ต้องมารับฉันกลับบ้าน" เธอกระซิบบอกกับเพื่อนตัวเอง
เบา ๆ ทั้งสองคนหันมองหน้ากันอย่างยิ้ม ๆ ก่อนจะโอบเอวกันเดินเข้าไปในบ้านอย่างหน้าตาชื่นมื่น
"ยังไงวันนี้ก็ต้องได้เจอกันให้ได้เลยนะ !" แม่ของคามินหันไปกำชับกับเพื่อนพร้อมกับยิ้มให้กันอย่างมีลับลมคมนัยแปลก ๆ
"ทำไมรู้สึกเหมือนตาขวาจะกระตุกอยู่ตลอดเวลาเลยนะ" คามินพึมพำขึ้นเบา ๆ และมองไปทางสองแม่ ๆ ที่คุยกันกะหนุงกะหนิงแลดูมีลับลมคมในกันแปลก ๆ ชอบกล