5

1479 Words
“แต่ลูกเราก็เข้ากับลูกนายวิชญ์เป็นปี่เป็นขลุ่ยนะคะ นายวิชญ์ไม่แต่งงานแน่ถ้าผู้หญิงคนนั้นเข้ากับลูกตัวเองไม่ได้ เลยมาทำเนียน” นิดาย่นจมูกในแผนการของเพื่อน “จะให้ลูกเราไปเลี้ยงลูกให้มันน่ะสิ” กีรติทำเสียงขึงขัง นิดาหัวเราะสามีเสียงดัง ไม่ค่อยเห็นอารมณ์นี้ของกีรติบ่อยนัก “นิว่านายวิชญ์อาจจะได้ลูกสาวเพิ่มไปอีกคน เอาน่ากี วิชญ์เป็นคนดีคงจะเลี้ยงทั้งลูกเราและลูกตัวเหมือนลูกอีกคน” นิดาพูดติดตลก “ฉวยโอกาสมาก หน็อย... ดันมาหอมแก้มยัยจิ๊ต่อหน้าเรา” กีรติทำเสียงฮึดฮัด “ที่ไหนกันคะ เราไปแอบดูต่างหาก ไม่ใช่ต่อหน้าเราซะหน่อย” นิดาแก้แล้วยิ้มขำสามี “แถมยังแอบย่องเข้าไปในห้องลูกเราอีก” กีรติทำเสียงขึงขัง “ก็หนูวินอนกับลูกเรา พ่อเขาก็เข้าไปดูลูก” “ดึกๆ ดื่นๆ มันไม่เหมาะ” “แล้วแต่ลูกเถอะค่ะกี เราคอยดูก็พอ” “คอยดูอย่างเดียวไม่ได้ นิคนดีของกี คิดแผนหน่อยสิ อยากแกล้งนายวิชญ์นัก ทำเป็นเก๊ก ถ้าบอกเราตรงๆ มันจะตายไหม” “บอกเราน่ะได้ แล้วถ้ายัยจิ๊ไม่เล่นด้วยล่ะ นายวิชญ์คงให้มั่นใจก่อนค่อยบอกเรา” “ตกลงนิเข้าข้างนายวิชญ์เหรอ” “แล้วกีล่ะ อยากได้นายวิชญ์เป็นเขยหรือเปล่า” “หึ! ถ้าหมอนั่นทำให้ยัยจิ๊เสียใจล่ะก็ กีไม่ปล่อยไว้แน่” “นายวิชญ์ไม่ได้เล่นๆ หรอก ดูท่าทีสิ เวลามองลูกเราก็อืม... แทบจะกลืนกิน” นิดาวิจารณ์ตรงๆ “ชีกอใส่ยัยจิ๊หรือเปล่าไม่รู้” “โสดเป็นพ่อหม้ายมานาน ถ้าชอบสาวคนไหนสักคนก็คงชอบไปแล้ว” “ตกลงนิเข้าข้างนายวิชญ์ทั้งขึ้นทั้งล่อง” “เปล่าหรอกค่ะ กำลังคิดแผนการอยู่ แต่ตอนนี้คิดไม่ออกเลยค่ะ” เสียงหวานเซ็กซี่ออดอ้อน “ให้กีช่วยคิดเหรอ” กีรติพลิกร่างขึ้นเหนือร่างภรรยา มองสบตาอย่างร้อนแรง “ถ้าช่วยคิดก็ดีสิคะ สองหัวดีกว่าหัวเดียว” “งั้นกีจะช่วยคิดทั้งคืนเลยดีไหม คิดไปออกกำลังกายไป” นิดาหัวเราะคิกคัก มองสบตาสามีอย่างยั่วเย้า “นิตามใจกีค่ะ” “นิไม่อยากเลี้ยงลูกเล็กๆ อีกสักคนเหรอ” กีรติออดอ้อนภรรยาอยู่ข้างหู ขณะขบเม้มใบหูหอมสะอาดของเธออย่างแสนรัก “ไม่กลัวแพ้ท้องแทนนิเหรอคะกี” คนเอ่ยถามสามีอมยิ้มแก้มปริ กีรติเคยเป็นอย่างไรก็ยังเป็นเช่นนั้น เคยหวานยังไงก็หวานเหมือนเดิม หรือบางทีเธอคิดว่ามากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ แต่เธอก็ไม่เคยนึกลำพองตัวเองและไม่เคยตกอยู่ในความประมาท ในเมื่อสามีรัก เธอจึงตอบแทนเขาด้วยความรักเช่นกัน ความรักของเธอ นอกจากการดูแลเขาอย่างดี เอาอกเอาใจตามที่ภรรยาพึงกระทำไม่ให้ขาดตกบกพร่องแล้ว เธอยังดูแลตัวเอง ไม่ให้เป็นยัยเพิ้ง อ้วนเป็นตุ่ม หรือดูแก่กว่าวัย ถึงแม้เขาจะไม่เคยพูด เพราะความรักที่มีให้กันมันมากกว่ารูปกายภายนอก แต่เธอก็อยากให้เขาภูมิใจที่ได้เดินเคียงข้างเธอไปไหนๆ ก็ไม่อายใคร หลายคนอาจจะคิดว่า ..ถ้าเขารักเราจริงเขาก็ต้องรับสภาพเราได้ แล้วทำไมเราจะต้องให้เขามารับสภาพเราด้วยเล่า เธอคิดไม่เหมือนคนอื่น เธอคิดว่าควรดูแลตัวเองให้ดี ทั้งออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ใช่เรื่องไม่อยากให้สามีอายเวลาพาไปไหนมาไหนหรือให้เขารักเขาหลงเหมือนเดิม เธอคิดเรื่องสุขภาพมากกว่าเป็นอันดับแรก คนเราไม่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนแผละ อ้วน เป็นไขมันอุดตัน สุขภาพก็สมบูรณ์แข็งแรง ทำอะไรก็คล่องแคล่ว นั่นคือเหตุผลอันดับแรกในการดูแลตัวเอง ผลพลอยได้คือสามีที่ชื่นชมเราไปด้วย นิดาเชื่อมั่นในตัวเองตั้งแต่เด็ก ครอบครัวสอนให้เธอได้เรียนรู้ชีวิต ดังนั้นไม่ว่าจะทำอะไรเธอจึงตั้งใจ แต่ไม่ตึงเครียด ทำงานแต่รู้จักหาเวลาพักผ่อน คนบางคนทำแต่งาน เอาแต่ทำงาน ได้เงินมามากขึ้นเรื่อยๆ แต่สุขภาพแย่ลงเรื่อยๆ พอผ่านไปเพิ่งรู้ตัวว่าทำงานหนักเกิน สุขภาพก็ทรุดโทรมล้มป่วย มีเงินก็รักษาสุขภาพไม่ได้ ถ้าไม่หัดรู้จักดูแลรักษาสุขภาพตั้งแต่เนิ่นๆ การรักษาด้วยยาเป็นการรักษาที่ปลายเหตุ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสามีหรือลูก เธอมักจะดูแลเอาใจใส่พวกเขาเสมอๆ ไม่ให้สามีทำงานดึกเกิน ถ้าเขาเครียด เธอก็จะชวนเขาออกมาจากความเครียด หากิจกรรมคลายเครียด เพราะยิ่งเครียด งานก็ยิ่งไม่เดิน บางคนพอเครียดก็หมกมุ่นเอาแต่จะทำให้สำเร็จให้ได้ โดยไม่ดูสังขารตัวเอง ลูกๆ ก็เหมือนกัน นิดาใช้เหตุและผลคุยกัน อยู่กันแบบเพื่อน แบบครอบครัวและไม่เคยยัดเยียดให้ลูกๆ ต้องไปเรียนพิเศษโน่นนั่นนี่มากมายจนไม่ได้พักสมอง เธอและกีรติสอนการบ้านลูกตั้งแต่เด็ก มีบ้างตอนโตที่เห็นลูกมีความสนใจด้านไหน ก็จะส่งไปเรียน เช่นดนตรี กีฬา เธอไม่เคยคาดคั้นต้องให้ลูกเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่เคยวาดหวังอนาคตแทนลูก ลูกชอบอะไรเธอกับสามีก็สนับสนุนและชอบตามไปด้วย คอยมองดูความสำเร็จของพวกเขา มีคนมากมายพูดว่าเด็กเดี๋ยวนี้สอนยากเพราะเกเร จริงๆ เธอคิดว่าไม่ใช่หรอก ความเข้าใจในครอบครัวสำคัญที่สุด จะเด็กรุ่นไหนก็เกเร แต่คนเป็นพ่อแม่ตามทันและมีวิธีรับมืออย่างชาญฉลาดเช่นไรต่างหาก “กลัวอะไร ถ้าแพ้ท้องแทนนิ นิก็จะได้ไม่เหนื่อยยังไง เวลานิท้อง เห็นเหนื่อยๆ กีเป็นห่วง” “ตอนที่ท้องยัยจิ๊ กีดูตลกจะตาย” นิดาเอ่ยถึงเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ตอนนั้นเธอกับกีรติพลาดพลั้งได้เสียกันก่อนวัยอันควร แต่ดีที่ครอบครัวเข้าใจ “ยังไงเหรอ” เขากอดรัด พาเธอมานอนหนุนแขนแทน “เราเหมือนคนแก่คุยเรื่องอดีตเลย” นิดาหัวเราะคิก “บอกมาก่อน กีตลกยังไง” เขาบีบจมูกเล็กๆ ของภรรยา “กีชอบทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมน่ะค่ะ ตั้งแต่นิท้อง ก็คอยหากับข้าวของอร่อยๆ มาให้ แล้วตัวเองกินอะไรไม่ได้เลย ตอนนิเจ็บท้องคลอดก็วิ่งไปวิ่งมา หน้าตาซีดเผือด เหงื่อไหลโชกยังกะตัวเองคลอดเอง” “ก็คนเป็นห่วงนี่นา” เขาพูดอ้อนๆ อยู่ที่ริมหูเล็กๆ มือนิ่มของนิดาเลื่อนลูบไปทั่วหน้าอกแกร่ง “รู้แล้วว่าเป็นห่วง แต่รอเลี้ยงหลานไม่ดีกว่าเหรอ” “ยัยจิ๊นะเหรอ ผมหวงนะ” “วิชญ์เป็นคนดี” “เขาจ้างนิมาเท่าไหร่” สามีหน้าตูม “คบกันมานานแล้ว กีก็รู้ ทำเป็นหวงลูก” “หวงสิ ลูกสาวคนเดียว ถ้านิไม่หาวิธีแกล้งมันนะ กีไม่ยอมนะ มันอยากปากแข็งดีนัก ถ้ามันมาปรึกษาเราแต่แรก จะได้ช่วย หึ!” คุณพ่อจอมหวงแต่อยากได้ลูกเขยชื่อวิชญ์ ทำเสียงขึ้นจมูก จนภรรยาหัวเราะตาม “ตอนนี้ยังคิดไม่ออกน่ะค่ะ” “ลูบจังเลย ลูบแล้วจะคิดออกเหรอ” กีรติพลิกขึ้นนอนทาบทับภรรยาอย่างเอ็นดู “คิดออกสิคะ สมองอาจจะแล่นเลยละค่ะ” เธอลูบมือที่เสื้อนอนของเขา แล้วปลดกระดุมเสื้อของเขาออกทีละเม็ดอย่างใจเย็น สายตายั่วยวนทำให้กีรติหายใจติดขัด ภรรยาของเขาน่ารักเสมอ “ยั่วกีให้ตบะแตกอีกแล้ว” เขามองภรรยาแตะลิ้นลามเลียริมฝีปากอิ่มสวยแล้วก่อเกิดความรู้สึกกระหายอย่างปัจจุบันทันด่วน “กีจะถอดเองหรือให้นิถอดให้” เสียงยั่วของภรรยาทำให้กีรติถึงกับคราง “ถ้านิถอดเอง มันทำให้กีใจเต้นแรง” เขาหมายถึงความตื่นเต้น “แล้วถ้ากีถอดเองล่ะคะ” “มันไม่ลุ้นครับ กีจะดึงออกอย่างไม่สนใจอะไรเลย” “ร้ายกาจ” เธอกัดริมฝีปากยั่วเขา “แต่กีอยากให้นิถอดให้กี” “ได้สิคะ” นิดาพลิกร่างสามีลงด้านล่างก่อนจะจัดการประกบริมฝีปากรุกเขาก่อน กีรตินอนหงายให้ภรรยาซุกไซ้ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาถูกริมฝีปากร้อนสัมผัสอย่างถ้วนทั่ว “น้ำลายนิเต็มหน้ากีแล้ว” “กี ยั่วนิอีกแล้วนะ เดี๋ยวไม่ทำให้เลย” “โอ๋ๆๆ กีแค่ล้อเล่น อย่างอนนะ กีรู้ว่านิทำให้กีครางลั่นห้องได้และน้ำลายของนิก็หวานที่สุด” เขาพูดเอาใจเมื่อได้ยั่วภรรยาได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD