“ทำไมผมต้องปล่อย” เขาเปล่งเสียงห้าวที่เต็มไปด้วยโทสะและความยียวน
“ก็ไหนบอกว่าเราเลิกกันแล้วไม่ใช่เหรอคะ ดังนั้นคุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำแบบนี้กับดาอีก” เธอบอกอย่างเจ็บปวด แต่เขาคงไม่รับรู้
“แบบไหนเหรอที่ผมไม่มีสิทธิ์”
ก็ทั้งการทำร้ายร่างกาย และจิตใจเธอนี่ไงที่ต่อไปเขาจะไม่มีโอกาสได้ทำร้ายมันอีกแล้ว
“หยุดนะวิชญ์” แขนทั้งสองข้างถูกมือหนารวบกำจนเจ็บ แต่ใบหน้าคมและจมูกของเขากำลังค่อยๆ ก้มลงต่ำจนจะชิดใบหน้าเธออยู่แล้ว
“อีกสักครั้งสองครั้งคงไม่ทำให้สึกหรอนักหรอกนิลณดา มากกว่านี้ผมก็ทำได้ และจะทำด้วย” เขาฉุดกระชากเธอไปที่เตียง “แล้วผมจะทำให้ดู...”
“ปล่อยนะ วิชญ์” และเช่นเคยที่เสื้อผ้าของเธอถูกดึงทึ้งจนดังแควก ถึงเขาไม่เคยทะนุถนอมทั้งตัวและใจของเธอ แต่ตอนนี้เธอจะยอมเขาเหมือนทุกทีไม่ได้
“ไม่ !” รณรวิชญ์ว่าเสียงกร้าว ก่อนจะขึ้นคร่อมกดทับร่างบอบบางไว้ มืออีกข้างกดข้อมือเล็กให้แนบกับที่นอนนุ่ม ส่วนอีกข้างจัดการกระชากชุดบางสีชมพูแสนหวานส่วนที่เหลือจนมันขาดรุ่งริ่ง และไม่สามารถขวางกั้นความสวยงามเนื้อแท้ของเมียเขาเอาไว้ได้
“เกลียดดามากขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
ร่างบางเริ่มสะอื้นจนตัวโยน เมื่อไม่กี่นาทีก่อนเขายังประกาศปาวๆ ว่าจะหย่ากับเธอ ไล่เธอไปหาผู้ชายคนอื่น แต่ตอนนี้เขากำลังจะร่วมรักกับเธอเหมือนที่แล้วมา เหมือนว่าเรายังเป็นเหมือนเดิม
... เหมือนเดิมที่เธอรักเขา แต่เขาแค่อยากเอาชนะใครบางคนโดยการใช้เธอเป็นเครื่องมือเท่านั้นเอง
“ผมต้องถามคุณมากกว่า ว่ารักมันขนาดนี้เลยเหรอ” เขาทั้งรักทั้งชังนิลณดา ทั้งที่เธอเป็นเมียเขาถูกต้องทุกอย่าง แต่กลับร้องไห้เวลาที่เขาแตะเนื้อต้องตัว นี่ถ้าเป็นผู้ชายที่ชื่อปริญญ์ เธอคงจะแสนยินดีปรีดา
“คุณไม่เคยเชื่อดา ต่อให้ดาจะพูดสักกี่ครั้งว่าคนที่ดารักไม่ใช่โต คุณก็ไม่เคยคิดจะเชื่อ แล้วจะมาถามทำไม”
“เพราะดาโกหก ผมรู้ว่าดาไม่เคยลืมมันได้” เขากดจูบหนักหน่วงลงบนกลีบปากแสนหวาน แต่ก็สัมผัสได้ถึงสองแก้มระเรื่อที่มีแต่หยาดน้ำตาด้วย
“รวิชญ์หยุด ดาเจ็บ” เธอร้องขอความเห็นใจ เมื่อเขาไม่หยุดรุกรานร่างกายเธอด้วยโทสะ มากกว่าความเสน่หา
“ไม่... ผมไม่หยุด ดาต้องจำไว้ ยิ่งผมเจ็บมากเท่าไร คุณกับมันต้องเจ็บมากกว่าผมเป็นร้อยเท่า พันเท่า” สองมือหนาบีบเค้นทรวงสาวอย่างเอาแต่ใจ ยิ่งความเครียดเขม็งเกิดรอยแดงไปทั่ว เขายิ่งยากเกินจะหยุดยั้งความคิดฝ่ายต่ำให้หยุดลงได้
“อยากแล้วสิ แข็งสู้มือผมเชียว” เขาใช้หัวแม่มือบีบบี้สิ่งนี้อย่างต้องการจะหยอกล้อ ยิ่งเห็นร่างเมียสาวสะท้านดีดดิ้นด้วยความกระสัน เขายิ่งละเลงนิ้วลงไปให้เร็วกว่าเดิม
“อื้อ... พอแล้ววิชญ์ ดาจะทนไม่ไหวแล้วนะ”
“ผมทำให้ดาทรมานด้วยความสุขสมได้ขนาดนี้ ถ้าเป็นไอ้โตผมก็ไม่แน่ใจว่ามันจะเก่งเท่าผมหรือเปล่า”
ว่ากายบอบช้ำเกินทน แต่หัวใจนี้ต่างหากที่แสบร้อนยิ่งกว่า มีคำถามผุดเข้ามาในหัวว่า... แล้วเธอเกลียดเขาได้ลงไหม
คำตอบที่ได้ก็คือ ไม่ว่าจะวันนี้หรือวันไหน เขาก็คือคนเดียวที่เธอจะรัก...
“มองผม แล้วบอกว่าดาต้องการผมคนเดียว”
“ให้ดาบอกแบบนั้น ในขณะที่คุณไม่เคยต้องการดาเลยน่ะหรือคะ” เสียงร้องแหบโหย สะท้อนอาการสะอื้นและอารมณ์หวามไหว
แม้จะเจ็บปวดทรมานกับความจริงที่กระแทกอยู่ในหัวใจ แต่นิลณดาก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเนื้อตัวของเธอที่ถูกกระตุ้น ลูบไล้แทบจะทุกตารางนิ้วจากเจ้าของร่างสูงที่คร่อมทับอยู่ ทำให้เธอเริ่มตัวอ่อนและคล้อยตามเขาไร้แรงที่จะขัดขืนไปโดยปริยาย
“ฮึ เป็นผมเหรอที่ไม่ต้องการดา ไม่ใช่ดาเลยงั้นสิที่เอาแค่คิดถึงคนอื่นเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน”
เขาแย่งหญิงสาวมาจากอดีตเพื่อนรักอย่างปริญญ์ เขายอมเสียเพื่อนไปตลอดกาลเพื่อให้ได้นิลณดามาครอบครอง แต่หลายปีที่อยู่กินด้วยกันมาเขาสัมผัสได้ว่าเธอไม่เคยมีความสุข เธอเอาแต่คิดถึงมัน !
“แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะอย่างน้อยดาก็ทำให้ผมตื่นได้เสมอ”
หญิงสาวหดเกร็งหน้าท้องโดยอัตโนมัติเมื่อสามีจงใจกดส่วนที่แข็งและขยายตัวในกางเกงยีนตัวใหญ่และเสียดสีท่อนขานั้นกับส่วนบอบบางกลางร่างของเธอ
“วิชญ์อย่า ดาเจ็บ”
อันที่จริงเธอไม่ได้เจ็บและไม่กลัวเจ็บด้วย... แต่ที่ร้องขอรณรวิชญ์ก็เพื่อบางคนต่างหาก
“ผมยังไม่ได้ทำอะไรดาเลยนี่ จะเจ็บได้ยังไง หรือว่าดาจะหวงตัวไว้ให้ใคร”
“คนบ้า หยุดหาเรื่องดาสักที อุ๊ย...”
เธอบอกให้เขาหยุดหาเรื่อง แต่ทันทีที่พูดจบลำนิ้วแข็งแกร่งและยาวเรียวขนาดผู้หญิงยังอายของเขาก็ทะลวงเข้ามาในตัวเธอจนสุด และเพราะไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้เธอสะท้านจนตัวงอ และกระตุกเสร็จสมภายในเวลาอันรวดเร็ว
“กรี๊ดดดดดดดดด”
“เมียผมจุดติดง่ายเสมอ” เขาเอ่ยชมพร้อมก้มลงกระแทกริมฝีปากลงไปบดเคล้ากับภรรยาสาวทันที และครั้งนี้มันไม่ได้รุนแรงจาบจ้วง ล่วงเกินเหมือนอย่างทีแรกอีกแล้ว จะมีก็แต่ความต้องการ โหยหา อ่อนหวานเท่านั้น ที่เขามอบให้นิลณดา และเธอก็ตอบสนองเขาอย่างน่ารักเหมือนทุกที
... แม้จะบอกคนเป็นร้อยเป็นล้านว่าเขาไม่ต้องการเธอ พร้อมจะยกเธอให้ใคร แต่ในความเป็นจริงไม่มีทางซะละ ใครจะเอาดวงใจของเขาไปต้องข้ามศพเขาไปซะก่อน !
มือเล็กยกขึ้นลูบใบหน้าคมสัน ตรึงเขาไว้ให้ได้สบตากัน หากคำพูดไม่สามารถทำให้เขาเชื่อใจได้ เธอก็หวังว่าความจริงใจของเธอที่สะท้อนออกมาจากหน้าต่างของหัวใจที่เรียกว่าดวงตา จะทำให้รณรวิชญ์เห็นถึงความรักของเธอ
“วิชญ์คะ วันนี้อย่ารุนแรงกับดานักนะคะ ดาขอร้อง”
ในจังหวะที่ความแข็งขึงจดจ่อเตรียมหลอมรวมเราสองคนให้เป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง เธอก็อ้อนวอนเขาอย่างสิ้นอายเพราะแสนเป็นห่วงอีกหนึ่งชีวิตที่อยู่ในตัวเธอด้วย
“แต่ผมอยากได้แบบถึงใจ”
“อ๊ะ...”
หญิงสาวใช้มือยันหน้าท้องแข็งเป็นลอนห้ามเอาไว้ก่อนที่สามีจะกระแทกตัวลงมาอย่างที่เขาชอบทำ แต่ถึงอย่างนั้นความใหญ่โตส่วนแรกก็ยังฝ่าด่านความคับแน่นเข้ามาได้และค้างคาหมิ่นเหม่อยู่
“อื้ม อย่าห้าม ผมทรมาน” ใช่เพียงเขาคนเดียวที่เสียดเสียวกับความต้องการ เขาเห็นหน้าคนใต้ร่างอยู่หรอกว่านิลณดาเองก็ปวดร้าวทรมานจนใบหน้าแดงซ่านและบิดเบ้น้อยๆ
“หะ... ให้ดาทำเองดีกว่านะคะ”
เธอแทบหวีดร้องเมื่อยังพูดไม่จบประโยคดีสามีหนุ่มก็แทบจะเหวี่ยงตัวเธอขึ้นด้านบนและเป็นฝ่ายลงมานอนราบที่เตียงแทน แต่เพราะความซ่านกระสันที่ยังเชื่อมต่อจากกันและมันก็เข้ามาในตัวเธอลึกกว่าเดิม ทำให้หญิงสาวต้องซู้ดปากราวต้องของเผ็ดร้อน
“รีบเข้าสิดา เดี๋ยวผมก็ทนไม่ไหวเพราะคุณบีบจนผมกำลังจะขาดใจตายอยู่แล้ว ถ้าผมแตกขึ้นมาจริงๆ ดานั่นแหละจะลำบาก”
“อย่างวิชญ์เนี่ยนะคะจะหนีดาไปก่อน” เธอเถียงกลับอย่างนึกหมั่นไส้ รู้อยู่หรอกว่าอาการเร่งเร้าของเขาก็เป็นแค่มารยาเท่านั้น ไม่เคยมีครั้งไหนซะละที่รณวิชญ์จะแตกดับด้วยความเร็วต่ำกว่าชั่วโมง
“ว่าได้เหรอ วันนี้ผมเพิ่งจะได้รักดา ถ้ายกสอง สาม สี่ก็ว่าไปอย่าง”
“คนบ้านี่ ! วะ... ว้าย”
ตอนที่เธอทุบเขา รณรวิชญ์ก็อาศัยจังหวะนั้นกระทั้นบั้นเอวขึ้น จนสอดเสียบแนบแน่นกับความฉ่ำของเมียสาวได้สำเร็จ และแทบไม่ต้องให้สั่งซ้ำ นิลณดาก็เริ่มขยับอย่างรู้งาน...